ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 454
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 456

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 455


บทที่ 455: ผู้คนและบ้าน

สุดท้ายก็คือเมืองหลักของเหล่าไนท์เอลฟ์ ซึ่งที่นั่นก็คือสถานที่ๆลูหลี่นั้นได้เลือกที่จะตั้งถิ่นฐาน

แม้ว่าเมืองหลักของเอลฟ์จะไม่ได้มีคนเยอะเท่ากับเมืองลมวายุ แต่เมืองดานาซซัสก็ค่อนข้างที่จะสงบและนั้นก็ทำให้ใครหลายๆคนอยากอยู่เมืองนี้ไปตราบชั่วชีวิต

ซึ่งตามคำอธิบายแล้ว เมืองดานาซซัสตั้งอยู่ที่ปลายของต้นเทลดาซซิล ในบางคำอธิบายก็มีการบอกว่าเมืองนั้นเป็นตัวของต้นไม้เอง ซึ่งที่ด้านล่างของต้นไม้ก็มีหมู่บ้านรัทเธอรันตั้งอยู่ด้วย และมันก็เป็นจุดเชื่อมระหว่างเมืองกับโลกภายนอก

"เทลดาซซิล" มาจากภาษาของเอลฟ์และมีความหมายว่า "มงกุฎแห่งโลก"

ต้นเทลดาซซิลนั้นตั้งอยู่บนเกาะที่ถูกยกขึ้นมาจากผืนทะเลโดยเวทย์มนต์อันแสนทรงพลังของดรูอิด

มันเป็นเกาะเล็กๆที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีม่วงตลอดเวลาและเกาะแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ไกลมากๆ เอลฟ์ที่แสนยิ่งยโสล้วนแล้วแต่อาศัยอยู่ที่นี้กัน และพวกเขาก็ได้สืบทอดอารยธรรมโบราณอันแสนลึกลับไปต่อๆไป

เมืองนี้มีขนาดใหญ่กว่าหุบเขาสีเทามาก ซึ่งการที่จะไปทางใต้จากทางเหนือของเมืองถึงกับจำเป็นที่จะต้องใช้แท่นเทเลพอร์ตเลยทีเดียว

ซึ่งไม่นานนัก ลูหลี่ก็ได้มายังเมืองใหม่นี้พร้อมกับน้องสาวของเขา

แน่นอนว่าการชื้อบ้านในเกมจะต้องไม่แพงกว่าในชีวิตจริงอยู่แล้ว โดยปกติแล้ว มันจะมีราคาแค่หนึ่งแสนเท่านั้น และก็จะไม่มากไปกว่านั้นแล้ว ซึ่งด้วยราคาประมาณนี้ก็สามารถชื้อได้ถึงคฤหาสน์เลยทีเดียว

แต่เพียงเพราะแค่ว่าเขาเป็นคนแรกที่ชื้อ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้ส่วนลดหรอกนะ บริษัทเกมไม่ได้ใจดีขนาดนั้น

ลูหลี่ในตอนนี้กำลังกังวลอยู่ว่าเขาควรที่จะชื้อเกาะที่ทางใต้ดีหรือเปล่า

เมืองดานาซซัส ถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ได้แก่ เหนือ ใต้ ตะวันออกและตะวันตก

คุณสามารถซื้อบ้านได้ในทุกๆส่วนของเมืองและบ้านในแต่ละหลังก็มีเสน่ห์ของมันเอง ซึ่งเผ่าพันธุ์อื่นๆของฝ่ายพันธมิตรนั้นก็สามารถที่จะมาอาศัยอยู่ในที่นี้ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะผู้เล่นดรูอิด เพราะว่าผู้เล่นดรูอิดนั้นมีแต่คนที่ชอบธรรมชาติของเมืองดานาซซัสกันทั้งนั้น

ในแผ่นดินที่แสนจะเงียบสงบแบบนี้ พลังของธรรมชาติล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผู้คนนั้นแสวงหา

เมืองดานาซซัสนี้ตั้งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ นอกจากนี้แล้ว ยังมีทะเลสาบและเกาะด้วย ซึ่งนั้นก็ทำให้เห็นแล้วว่ามันกว้างใหญ่แค่ไหน

ทะเลสาบของเมืองนี้ได้ถูกตั้งชื่อโดยไนท์เอลฟ์ว่า แอลม่อน

แสงสีเงินที่สะท้อนอยู่ในทะเลสาบแอลม่อนดูเหมือนกับเกล็ดหิมะเลยทีเดียว น้ำในทะเลสาบใสมาก แต่มันก็ลึกมากจนไม่เห็นถึงส่วนล่างของทะเลสาบเลย

ซึ่งบนชายฝั่งของทะเลสาบก็มีสะพานที่ดูสวยงามตั้งอยู่ด้วย หากมองจากระยะไกลแล้ว มันดูเหมือนกับมีดอกไม้คริสตัลอยู่ข้างใต้สะพาน

ทะเลสาบแอลม่อนเป็นแหล่งน้ำที่ใหญ่ที่สุดและเส้นทางน้ำก็ได้แผ่ขยายไปทั่วตัวของเมือง มีหลายร้อยเกาะที่อยู่รอบทะเลสาบ แต่มีเพียงเกาะเดียวเท่านั้นที่ผู้เล่นสามารถชื้อได้

เกาะนี้ดูสวยงามมาก มันไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ แต่มันก็มีต้นเมเปิ้ลอยู่เยอะจนกลายเป็นป่าเล็กๆเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้ว ยังมีสระน้ำที่แสนสวยงามด้วย ซึ่งภายใต้ต้นเมเปิ้ลต้นที่ใหญ่ที่สุดในเกาะ ก็มีบ้านเล็กๆหลังหนึ่งตั้งอยู่ มันเป็นบ้านหลังสีขาวที่มีหลังคาสีฟ้า และยังมีบ่อมูนเวลตั้งอยู่บนเกาะด้วย

แม้ว่าจะมีสะพานเล็กๆเชื่อมไปถึงเกาะอีกฝั่งหนึ่ง แต่ว่าถ้าไม่ได้เป็นเจ้าของของพื้นที่นี้ คุณก็จะไม่สามารถข้ามมันไปได้

ในชีวิตก่อนหน้านี้ ลูหลี่ทำได้เพียงแค่มองจากระยะไกลและถ่ายภาพให้ลูซินดูเท่านั้น เด็กสาวตัวน้อยชอบมันมาก แม้ว่าเธอจะยังป่วยอยู่และภาพๆนั้นก็ตั้งอยู่ข้างๆกับเตียงของเธอด้วย

ในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อน้องสาวของเขาได้มากนัก แต่ในชีวิตปัจจุบันนี้ เขาสามารถชื้อได้แม้กระทั่งเกาะ

ห้องโถงหลักสำหรับการชื้อที่นั้นตั้งอยู่ในทางเหนือของเมือง ซึ่งที่นั้นก็ไม่ได้มีผู้เล่นมากเท่าไหร่นัก

"สวัสดี มีอะไรให้ข้าช่วยท่านไหม?"ทหารรักษาการณ์สองนายได้หยุดพี่น้องลูหลี่ที่กำลังจะเข้าไป ก่อนที่จะถามออกมา

"ข้าต้องการที่จะชื้อที่พัก" ลูหลี่ได้พูดขึ้นมาในขณะที่เขาแสดงสัญลักษณ์ของนักบวชแห่งดวงจันทร์ที่อยู่บนไหล่ของเขา

ดรูอิดและเหล่านักบวชมีเรื่องขัดแย้งกันในอุดมการณ์ของตัวพวกเขาเอง ซึ่งผู้นำคนปัจจุบันของวงกลมเซนาเรียสคือ อาร์คดรูอิด เฟรนเดอ สเตร็ทแฮม เขานั้นเป็นลูกศิษย์ของมัลฟูเรียนและก็ไม่ได้ไปเข้าร่วมกับหัวหน้าของนักบวชไทแรนด์

"ตามทางเดินนั้นไปและเจ้าจะเห็นกระท่อมของดรา โชคดีเพื่อนฝูง"ทหารรักษาการณ์ได้บอกทางกับลูหลี่ไป

ดรา นั้นเป็นหญิงสาวเผ่าเอลฟ์ หลังจากที่ลูหลี่ได้อธิบายถึงจุดประสงค์ที่เขาได้มาที่นี้แล้ว เธอก็ได้ชี้ไปที่ชั้นหนังสือและกล่าวออกมาว่า "นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ ท่านสามารถเลือกสิ่งที่ท่านต้องการได้เลย แต่อย่าทำให้ข้าเสียเวลามากไปนะ "

"ข้าต้องการที่จะซื้อเกาะบนทะเลสาบ" ลูหลี่ไม่ได้หยิบหนังสือขึ้นมาซักเล่มเลย เขากลับกล่าวออกมาในทันที

ดรารู้สึกประหลาดใจมาก เธอไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดหนังสือหาเลยว่าเกาะนั้นมีชื่อว่าอะไร เพราะมีเพียงแค่เกาะๆเดียวเท่านั้นที่จะสามารถชื้อได้และมันก็มีชื่อว่า เกาะใบไม้แดง

ถึงแม้ว่าเกาะนี้มันจะตั้งอยู่ใกล้กับอารามและสวนของเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ แต่การที่จะไปพบเข้ากับเกาะนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก

แต่เดิมทีแล้ว บริษัทเกมตั้งใจให้เกาะๆนี้เป็นไข่อีสเตอร์ของเมืองหลัก

ลองจินตนาการดูว่า ถ้าคุณเดินไปรอบๆดานาซัสและจู่ๆก็เดินไปพบกับเกาะนี้เขา เกาะที่มีเมเปิ้ลใบสีแดง บ้านต้นไม้และหญ้าที่ดูมีชีวิตชีวาจนคล้ายกับมรกต ใครต่อใครที่พบมันก็คงจะคิดแค่ว่านี้มันเป็นสถานที่ๆงดงามเพียงเท่านั้น

มันยากที่จะจินตนาการมากเลยว่า สถานที่แรกในดานาซัสสามารถชื้อได้คือที่นี่!

ดราเป็นเพียง NPC และระบบก็ได้ให้สติปัญญาเป็นของเธอเอง แต่ลูหลี่ก็ไม่ได้ทำผิดกฏอะไรเลย

"เกาะแห่งนี้สามารถชื้อได้ แต่ท่านจะต้องมี ... " ดราหยุดพูดชั่วครู่ ก่อนที่จะพูดต่อว่า "8000 เหรียญทอง ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการที่จะชื้อพื้นที่นี้?"

เนื่องจากเกมพึ่งจะเปิดได้แค่สองเดือนเท่านั้น และนี้ก็เป็นวันแรกที่เมืองหลักดานาซัสได้เปิดให้ผู้เล่นได้เข้ามา

ด้วยเศรษฐกิจปัจจุบันภายในเกมนี้ เงิน 8000 เหรียญทองนับว่ามากมายเหลือคณานับ ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่มีทางที่จะสามารถใช้เงินชื้อเกาะนี้ได้เลย

"แปดพันงั้นเหรอ?"การที่ลูหลี่ตอบสนองแบบนี้ ไม่ใช่ว่ามันแพงไปมากสำหรับเขา เขาแค่อยากรู้เฉยๆว่าเกาะนี้มันมีราคาแค่นี้จริงงั้นเหรอ เพราะในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขามันไม่ได้มีราคาต่ำขนาดนี้

เกาะแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ในเมืองดานาซัสได้ถูกค้นพบ หลังจากเวลาผ่านไปกว่าเดือนครึ่ง คนแรกที่ซื้อมันไปใช้เงินถึง 15,000 เหรียญทองและทำลายสถิติการชื้ออสังหาริมทรัพย์ในเกมรุ่งอรุณไป

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เสียเงินเปล่า หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งเดือน เขาขายบ้านไปและได้เหรียญทองถึง 25,000 เหรียญ ซึ่งนั้นทำให้เขาได้รับกำไรไปถึง 10,000 เหรียญทอง

หลังจากสองปีผ่านไป เกาะแห่งนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักกันในฐานะคฤหาสน์อันดับหนึ่งในเมืองดานาซัส ซึ่งมันก็ได้ถูกขายไปอีกครั้ง คนที่เป็นเจ้าของคนต่อมาคือบอสตัวจริงที่คอยบงการสมาคมสวรรค์ชั้นเจ็ดอย่างลับๆ ผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า กัว เดชู เขามีชื่อเหมือนกับเจ้าชายในชีวิตจริง และได้ใช้เงินไปถึง 45 ล้านดอลลาร์เพื่อชื้อเกาะแห่งนี้ไป

ลูหลี่ไม่คิดที่จะขายมันหรอก เพราะที่เขาชื้อมา ก็เพื่อทดแทนในสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้ในชีวิตก่อนหน้านี้เท่านั้น

เขาคิดว่ามันจะมีราคาอยู่ที่ 15,000 เหรียญทอง ดังนั้นแล้ว เขาจึงได้แลกเงินจากสมาคมมาเป็นจำนวนมากเลย

เขาไม่คิดเลยว่าระบบจะขายให้เขาแค่ 8,000 เหรียญทองเท่านั้น นั้นมันมีค่าแค่ 800,000 ดอลลาร์เองนะ

อีกสองปี เกาะแห่งนี้ก็จะมีมูลค่าถึง 45 ล้านดอลลาร์

แน่นอนว่าลูหลี่ไม่มีทางที่จะไม่ชื้อ เขาเซ็นเอกสารอย่างรวดเร็วและชื่อของเจ้าของเกาะใบไม้แดงก็ได้เป็นของคู่พี่น้องลูหลี่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด