จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 443
บทที่ 443: พาลาดินไร้หัว
เจ้าของบ้านเช่าสาวได้ชื้ออาหารจะภัตรคารหรูกลับบ้านมาด้วย ดังนั้นแล้ว ลูหลี่และน้องสาวของเขาจึงได้ใช้เวลาร่วมกับพวกเธอ
ด้วยเหตุนี้ ลูหลี่จึงได้เข้าเกมมาช้ากว่าปกติ
พระอาทิตย์ในเกมตอนนี้อยู่บนท้องฟ้าแล้ว และฟักทองเรืองแสงก็ได้ถูกแขวนไปตามที่ต่างๆ นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีคนสวมใส่ชุดต่างๆตระเวนไปทั่วเมืองและบรรยากาศของเมืองตอนนี้ก็ดูรื่นเริงเป็นอย่างมาก
ตามคำอธิบายของกิจกรรมในช่วงวันฮาโลวีนแล้ว ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้และสามารถสร้างหรือหาชุดฮาโลวีนมาสวมใส่กันได้
แน่นอน เมื่อเทศกาลนี้ได้จบลง ชุดพวกนั้นจะหายไป
คนส่วนใหญ่จะสวมใส่ชุดฟักทองกัน ซึ่งมันดูโง่ไปเล็กน้อย แต่มันก็ดูน่ารักดี
ซึ่งในพื้นที่โล่งๆในแอสทาน่า มีทีมระดับสูงจากสมาคมกฏแห่งดาบนับร้อยคนที่กำลังเตรียมพร้อมที่จะทำอะไรบางอย่างอยู่ พวกเขาดึงดูดความสนใจจากคนอื่นเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นเรื่องยากมากในเกม ที่จะมีการรวมตัวของคนในเกมเกิดขึ้น
สมาชิกของสมาคมกฏแห่งดาบไม่ได้สนใจที่ผู้เล่นคนอื่นๆกระซิบกระซาบหรือชี้มาทางพวกเขาเลย
นี้คือสมาคมที่ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันถ้วยเงาเชียวนะ การที่ได้เข้ามาสมาคมนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ในตอนนี้ สมาคมกฏแห่งดาบเป็นสมาคมที่มีระดับ 15 และก็มีสมาชิกกว่าหนึ่งหมื่นสองพันคน นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังมีสมาชิกที่สมัครเข้ามาแต่ละวันไม่ต่ำกว่าสามพันคน ซึ่งคนที่ได้เข้ามาจริงๆนั้นไม่ได้มากไปกว่าสามสิบคนเลย
ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่สมาคมที่พึ่งจะสร้างขึ้นมาใหม่จะสามารถก้าวไปเป็นสมาคมระดับท็อปๆได้
หากปราศจากรากฐานที่มั่นคงแล้ว การที่สมาคมจะสามารถอยู่ได้นานนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
"คุณลุง หลอกหรือเลี้ยง! เลี้ยงเถอะนะ! เลี้ยงเถอะนะ!"กลุ่มเด็กๆได้วิ่งมาหาเขาจากด้านข้างของถนนและส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวรอบๆตัวของลูหลี่
ทำไมเด็กพวกนี้คิดว่าเขาเป็นเป้าหมายที่ง่ายหรือไง?
ถึงแม้เขาจะคิดยังงั้นก็ตาม แต่เขาก็ยังคงให้ลูกกวาดกับเหล่าเด็กๆอยู่ดี
วันนี้เป็นวันของพวกเด็กๆ คุณคงจะไม่ปฏิเสธเหล่าเด็กๆหรอกใช่ไหม ถึงแม้ว่าลูกกวาดมันจะมีราคาถึง 10 เหรียญทองแดงก็ตาม
ซึ่งลูกกวาดนั้นเป็นระบบใหม่ที่พึ่งจะถูกเพิ่มเข้ามาในวันนี้
หากคุณเปิดใช้งานระบบนี้กับเป้าหมายที่คุณเลือก คุณจะสามารถมอบลูกกวาดให้กับพวกเขาได้ ซึ่งมันจำกัดการให้ลูกกวาดต่อเป้าหมายหนึ่งคนด้วย
ขณะที่เขาแจกลูกกวาดไปตามทาง ลูหลี่ก็ได้มาถึงจุดรวมตัวของคนในสมาคมเขาแล้ว
ในระหว่างทาง ก็ได้มีเด็กบางคนที่ให้ลูกกวาดคืนเขาด้วย ดังนั้นแล้ว ในตอนนี้เขาจะมีลูกกวาดประมาณโหลหนึ่งในกระเป๋าของเขา
"เรารออยู่นะ ทำไมนายถึงใช้เวลานานอย่างนี้เนี้ย?"สแควร์รูทสามได้รวมคนมาแล้ว แต่เจ้านายของเขายังมาไม่ถึงเลย ดังนั้นแล้ว มันจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าอึดอัดสำหรับเขา
"พวกนายกำลังทำอะไรกัน?"ลูหลี่รู้สึกตกใจมาก หลังจากที่ได้ยินพวกเขาร้องตะโกนคำๆหนึ่งออกมา
"สมาคมกฏแห่งดาบ!"
"สมาคมกฏแห่งดาบ!"
"สมาคมกฏแห่งดาบ!"
คนนับร้อยคนกำลังตะโกนคำๆเดียวกันไปเรื่อยๆ มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละสายตาไปได้เลย
เป็นโชคดี ที่พวกเขารวมตัวกันอยู่ในพื้นที่โล่งๆ ไม่อย่างนั้นแล้ว ทุกๆคนที่อยู่ในเมืองคงจับจ้องมาที่พวกเขาอย่างแน่นอน
มันเป็นการกระทำที่ดูเหมือนเด็กมาก แต่ลูหลี่ก็อยากที่จะทำแบบนั้นด้วย เขากำกำปั้นของตัวเขาเองไว้และทุบกับหน้าตัวเอง ก่อนที่เขาจะตะโกนออกมาว่า "สมาคมกฏแห่งดาบ!"
ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนเริ่มตะโกนออกมาก่อน แต่สมาชิกของสมาคมเริ่มที่จะตะโกนดังขึ้นไปเรื่อยๆ
"ลูหลี่! ลูหลี่! ราชาแห่งการเคลียร์ครั้งแรก!"
"แชมเปี้ยน! แชมเปี้ยน!"
นี้เป็นเหมือนกับวันที่แสนจะรุ่มร้อน ภายใต้สายตาของเหล่าภูติผีวิญญาณในวันฮาโลวีน สมาคมกฏแห่งดาบได้แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่น
"ไปกันเถอะ"
ลูหลี่โบกมือของเขาเพื่อส่งสัญญาณบอกว่ากิจกรรมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ดันเจี้ยนอารามสีแดงในตอนนี้ ได้กลับกลายเป็นโลกของพาลาดินไร้หัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พาลาดินไร้หัวเป็นสมาชิกของหัตถ์แห่งเงิน และเคยเป็นวีรบุรุษของเหล่าพาลาดิน แต่ช่างน่าเสียดาย ที่เขาถูกคำสาปและตกลงเข้าไปสู่ด้านมืด
บางคนบอกว่า มันเป็นความปรารถนาของเขาเอง ที่จะเข้าสู่ด้านมืด เพราะความรู้สึกของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความโกรธแค้นต่อโลกใบนี้
พาลาดินไร้หัวได้สูญเสียความคิดของเขาไป ในขณะที่เดินไปทั่วอารามสีแดง เขาคิดว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่และคนอื่นๆนอกเหนือไปจากตัวเขาได้ตายไปแล้ว ซึ่งคนที่ตายพวกนั้น ย่อมจะต้องถูกชำระล้างด้วยไฟของเขา
เขาไม่ได้ภักดีต่อแสงศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปแล้ว และม้าวิญญาณแห่งสนามรบที่เขาขี่มา มันก็มีเปลวเพลิงสีเขียวด้วย
"นี่เป็นกิจกรรมแรกของสมาคมเรา ฉันไม่ได้คาดหวังให้ทุกคนต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ฉันหวังว่าทุกคนจะสามารถยึดมั่นในกฏข้อหนึ่งให้ได้ นั่นก็คือ ทำตามที่ฉันสั่ง!"หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในดันเจี้ยนแล้ว ลูหลี่ก็เริ่มที่จะพูดกับทีมทั้งร้อยคน
สิ่งที่ตามมาคือการตอบสนองที่แสนจะยุ่งเหยิง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากนั้น เขาก็เริ่มที่จะจัดทีมแต่ละทีม มีทั้งหมดสิบทีมและเขาก็ได้มอบหมายเลขให้แต่ละทีม ทุกๆคนจะต้องจำทีมของตัวเองให้ได้และคอยเฝ้ามองคนอื่นๆในทีมด้วย
แท๊งค์หลักก็คืออาเซอร์ซีบรีส ส่วนแท๊งค์รองก็คือ มิตรภาพระดับโลก พระเจ้าแห่งโชคชะตาและพเนจร
ทีมแบบนี้แท๊งค์แค่สีคนก็เพียงพอแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ อาเซอร์ซีบรีสนั้นเป็นแท๊งค์ที่แข็งแกร่งที่สุด ในฐานะที่เขาเป็นแท๊งค์หมายเลขหนึ่งในเกมรุ่งอรุณ เขาจึงมักจะไม่ตายไปง่ายๆ ส่วนแท๊งค์รองอีกสามคนก็มีหน้าที่ในการดึงมอนเตอร์ตัวอื่นๆและจะมารับหน้าแทน หากอาเซอร์ซีบรีสตายไป
ส่วนฮีลเลอร์หลักคือ ความมืดที่เป็นพาลาดินฮีลเลอร์ ฮีลเลอร์พาลาดินสามารถรักษาได้ดีกว่าอาชีพสายอื่นๆ เธอมีหน้าที่แค่การรักษาอาเซอร์ซีบรีสเท่านั้น การรักษาคนอื่นๆนั้นไม่ใช่หน้าที่ของเธอเลย
ส่วนดริฟไลท์ไนท์และมาสเรนก็ทำหน้าที่เป็นฮีลเลอร์หลักเหมือนกัน พวกเธอมีหน้าที่ในการคอยรักษาทีมที่ทำหน้าที่บุก ส่วนฮีลเลอร์คนอื่นๆก็มีหน้าที่รักษาทีมของตัวเองเท่านั้น
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ลูหลี่จึงได้หาคนมาคอยจัดการกับคำสาปและเวทย์มนต์ดีบัพด้วย
หากคำสาปได้เข้าไปโดนแท๊งค์ของพวกเขาเข้า มันจำเป็นที่จะต้องลบล้างคำสาปนั้นออกทันที ส่วนเวทย์มนต์ดีบัพจะสร้างความเสียหายได้สูงเป็นอย่างมาก ลูหลี่จึงต้องหาคนคอยไปจัดการกับมัน ไม่อย่างนั้นแล้ว พวกเขาจะสูญเสียสมาชิกไปเป็นจำนวนมากแน่
ซึ่งเผื่อว่าจะมีคนในทีมระดับสูงของสมาคมเขาสงสัย ลูหลี่จึงได้ทำการกระจายคนไปรอบๆเพื่อจัดการกับดีบัพด้วย
อย่างไรก็ตาม พาลาดินไร้หัวไม่ได้รู้วิธีใช้ดีบัพหรอกนะ [มันใช้แบบสุ่มๆ]
ลูหลี่ได้เดินไปยังใจแท่นบูชาใจกลางของสุสาน หลังจากนั้นเอง ควันและไฟก็ได้พวยพุ่งขึ้นมาในทันที
"ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดจากการสูญเสียตัวของตัวเองไป แต่ในที่สุด ข้าก็ได้เข้าใจถึงความมืดที่ซ่อนอยู่ในวิญญาณของข้าแล้ว.. "หลังจากที่เสียงหัวเราะที่ดูชั่วร้ายได้ดังขึ้นมา เงาขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นมาจากแท่นบูชา ซึ่งนั้นก็คือ พาลาดินที่กำลังขี่ม้าวิญญาณแห่งสนามรบอยู่
เขาถืออาวุธยาวที่เต็มไปด้วยม่านหมอกและมันยังมีเสียงกรีดร้องจากคนตายดังออกมาด้วย
ผู้เล่นไม่สามารถที่จะมองเห็นใบหน้าของเขาได้เลย เพราะเขาคือพาลาดินไร้หัว มีเพียงควันสีดำเท่านั้นที่เปรียบเสมือนกับสมองของเขา และดวงตาไฟที่กำลังส่องสว่างสองดวงภายใต้หมวกเหล็ก
มันเป็นบอสวันฮาโลวีนที่น่ากลัวเสียจริง
"เริ่มจาก ผู้เล่นโจมตีระยะใกล้ เตรียมตัวให้พร้อม ให้รอจนกว่าบอสมุ่งเป้าไปที่แท๊งค์หลักก่อน หลังจากนั้นค่อยใช้ทักษะของพวกนายโจมตีไปที่บอส ห้ามใช้ทักษะแบบกลุ่มเด็ดขาด ใครที่ทำพลาดจะต้องถูกเตะออกไปข้างนอก เพราะยังมีคนอีกมากที่ต้องการที่จะเข้ามาในดันเจี้ยนนี้"
ลูหลี่ไม่ได้อธิบายถึงกลยุทธ์อะไรเลย เขาแค่บอกให้อาเซอร์ซีบรีสเขาไปยั่วยุบอสก็เท่านั้นเอง