จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 438
บทที่ 438: ดาโรว์เชีย อย่าพึ่งทิ้งความหวังไปสิ!
หลังจากเก็บโบราณวัตถุแล้ว ลูหลี่ก็ได้พาคาร์ลินไปยังซากปรักหักพังแห่งแอนโดฮอล
ระหว่างทางผ่านไปยังดาโรว์เชีย ลูหลี่ก็ได้ถามเขาว่า เขาอยากที่จะไปพบกับพาเมล่าหรือเปล่า
คาร์ลินที่เป็นคนที่ฆ่ามอนเตอร์ทั้งๆที่ๆไม่ได้กระพริบตาเลย กลับส่ายหัวด้วยความขลาดเขลา
"ข้าไม่มีหน้าไปพบเธอหรอก นอกเสียจากว่า ข้าจะพาพ่อของเธอกลับมาได้ ... "
เมื่อพวกเขาได้เดินมาถึงซากบ้านในแอนโดลฮอล ลูหลี่ก็มองเห็นโครมี่จากระยะไกล
ร่างของมังกรทองแดงกำลังนั่งอยู่บนหลังคาและจ้องมองไปที่บนท้องฟ้า ท้องฟ้านั้นมืดมิดพร้อมกับด้วยหยาดฝนที่ตกลงมา สายตาของมังกรนั้นดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัดเลย
ลูหลี่พาคาร์ลินไปหาเธอพร้อมกับคำนับ
เมื่อเห็นพวกเขาแล้ว อารมณ์ของเธอก็ได้กลับมาสนุกสนานอีกครั้ง ราวกับว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นก่อนหน้านี้คือการเสแสร้ง
"ใช่แล้ว ไอเท็มนี้จะสามารถร่ายทักษะที่ทรงพลังได้ มันน่าจะเพียงพอสำหรับการส่งไปยังดาโรว์เชียในอดีตแล้ว"โครมี่กล่าว หลังจากที่ตรวจสอบโบราณวัตถุที่ลูหลี่ให้เธอมา" เด็กน้อย อีกไม่นานเจ้าก็จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ข้ามกาลเวลาที่ยากจะลืมแล้ว เจ้าพร้อมหรือเปล่า?"
"พร้อมแน่นอน" ลูหลี่และคาร์ลินกล่าวพร้อมกัน
"เกาะแน่นๆนะ เด็กน้อย" โครมี่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง "เจ้าจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าเจ้ากำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ นี่เป็นสงครามที่น่าเศร้ามาก อย่างแรกเลย เจ้าจะต้องรอดให้ได้ แต่เจ้าจะต้องทำงานสองอย่างให้สำเร็จด้วย ราชาแห่งกูลจะต้องตายและเดฟจะต้องมีชีวิตรอด ตระกูลเร็ดแพทจะอยู่รอดต่อไป จนกว่าเขาจะติดเชื้อ เมื่อเขาติดเชื้อแล้ว เจ้าจะต้องจัดการเขาและชำละล้างวิญญาณของเขา "
"ข้าจะเป็นคนที่ติดเชื้อแทนเขาเอง" คาร์ลินกล่าวเสียงดัง "พาเมล่ายังคงรอเขาอยู่ โอ้ ท่านนักท่องกาลเวลาที่น่าเคารพ ข้ายินดีที่จะจ่ายอะไรก็ตามเพื่อแลกกับมัน"
"จงเอาโบราณวัตถุไปไว้ที่ศูนย์กลางของดาโรว์เชีย วิญญาณของชาวดาโรว์เชียจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งและเวลาจะไหลย้อนกลับไป ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ข้าก็คงจะไม่ทราบ "
เด็กสาวตัวน้อยได้พาลูหลี่และคาร์ลินออกไปจากแอนโดฮอล เพื่อไปที่ดาโรว์เชีย
พวกเขาได้มาถึงดาโรว์เชียในช่วงเย็นของวัน ลูหลี่ได้ทำการตรวจสอบอุปกรณ์ของเขาอีกครั้งหนึ่ง ในกระเป๋าของเขามียาพิษเคลือบอาวุธและโพชั่น ส่วนคาร์ลินเองก็เหลือบไปมองที่ดาบพาลาดินของตนด้วย
ทันใดนั้นเอง ลูหลี่ก็รู้สึกเสียใจที่พาคนๆนี้มาด้วย เขามีลางสังหรณ์ว่า พาลาดินคนนี้คงจะไม่ได้กลับมาจากการท่องเวลาครั้งนี้แน่
โครมี่ได้วางโบราณวัตถุไว้ที่ใจกลางของดาโรว์เชีย ลูหลี่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโดยรอบในทันทีที่เกิดควันแสงสีม่วงไปห่อหุ้มไอเท็ม วิญญาณที่สามารถมองเห็นได้เคลื่อนที่ไปมาและประสบการณ์ที่ไม่สามารถลืมได้ก็กำลังจะเกิดขึ้น...
จากหนึ่งดวงไปยังอีกหนึ่งดวง วิญญาณแต่ละดวงได้กลับกลายเป็นร่างมนุษย์ที่ดูแตกต่างกันไป
ริมฝีปากของคาร์ลินเริ่มสั่น ดูเหมือนว่าเขาจะได้เห็นกับเพื่อนร่วมรบหลายคนที่เคยต่อสู้ข้างกันมา โจเซฟที่เป็นน้องชายของเขาก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
ก่อนที่พวกเขาจะมีเวลาที่ไปพูดอะไร หมอกสงครามก็ได้ปกคลุมเหนือดาโรว์เชียแล้ว
ทันใดนั้นเอง ผู้พิทักษ์แห่งดาโรว์เชียก็ได้ตะโกนออกมาว่า "นักรบแห่งดาโรว์เชีย จงยกอาวุธของพวกเจ้าขึ้นมาซะ! ภัยพิบัติแห่งโรคระบาดกำลังจะมาถึงแล้ว!"
ลูหลี่มองเห็นทหารติดอาวุธจำนวนมากกำลังวิ่งไปที่หน้าเมืองในขณะที่ฝูงโรคระบาดเริ่มโจมตีแล้ว การต่อสู้ในดาโรว์เชียได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง!
เมื่อต้องเผชิญกับมอนเตอร์ระดับ 35 และสูงกว่านั้นแล้ว ลูหลี่กลับไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลย
ไฟแค้นได้เผาไหม้หัวใจของเขาไปแล้ว ไม่มีอะไรในโลกเกมที่เขาเกลียดไปมากกว่านี้แล้ว แม้แต่เด็กเขาก็จะไม่ละเว้น
เจ้าพวกโรคระบาดบ้าเอ้ย พวกมันจะต้องชดใช้กับสิ่งที่มันทำ!
ในตอนแรกการต่อสู้ก็ไม่ได้ยากอะไรนัก แต่เมื่อฝูงโรคระบาดได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทหารของดาโรว์เชียเองก็เริ่มลำบากขึ้น
ในเวลานั้นเอง ก็ได้มีเสียงดังก้องไปทั่วดาโรว์เชีย
"ดาโรว์เชีย อย่าพึ่งทิ้งความหวังไปสิ! เราจะต้องไม่แพ้!"
นั้นคือพาลาดินหัตถ์สีเงิน! ในที่สุด พวกเขาก็ได้มาถึงที่นี่แล้ว!
เมื่อกลุ่มพาลาดินที่นำโดยเดฟมาถึง ฝูงโรคระบาดก็ได้หยุดกะทันหัน แสงแห่งความหวังได้มาถึงแนวป้องกันแล้ว ซึ่งมันเหมือนกับการฟื้นฟูความหวังของทุกคนที่อยู่ที่นี้เลยทีเดียว
ระหว่างนี้เอง น้ำตาของคาร์ลินก็ได้ไหลออกมาขณะที่เขาก็ได้ตะโกนออกมาว่า "ดาโรว์เชียจะต้องไม่ทิ้งความหวัง!"
ลูหลี่เปิดปากและตะโกนออกไปด้วย
ดาโรว์เชียจะต้องไม่แพ้!
พวกเขาได้ตะโกนคำพวกนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ว่าโชคชะตาจะถูกกำหนดไว้แล้ว แต่คำนี้ก็จะคอยย้ำเตือนพวกเขาอยู่เสมอ
ในขณะนั้นเอง ลูหลี่ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเควสเลย เขาในตอนนี้เป็นเหมือนกับสมาชิกคนหนึ่งในดาโรว์เชีย ต่อสู้เยี่ยงนักรบ เพื่อปกป้องบ้าน ผู้หญิงและเด็กที่อยู่ในเมืองเบื้องหลังของเขา เขาไม่ได้คิดถึงพาเมล่าเลย
จากนั้นเอง ผู้ปล้นสะดมฮอกัสก็ได้ตะโกนออกมาว่า "เดฟ! ฉายแสงจากหัวใจของแกออกมาสิว่ะ ข้าจะได้ฉีกกระฉากมันออกเป็นเสี่ยงๆ!
ในที่สุด ราชาแห่งเหล่ากูลก็ได้ปรากฏตัวออกมาแล้วงั้นเหรอ?
ลูหลี่และคาร์ลินมองหน้ากันพร้อมกับรับรู้ได้แล้วว่า ช่วงเวลาสำคัญแห่งการต่อสู้ได้มาถึงแล้ว
ในตอนที่ฮอกัสได้เข้าร่วมการต่อสู้ กองกำลังของโรคระบาดก็ได้เริ่มรุกหนักขึ้น ทหารแห่งโรคระบาดได้ห้อมล้อมโจมตีใส่พาลาดินทั่วทุกทิศทุกทาง คงอีกไม่นานนัก ที่กองกำลังของเดฟจะพ่ายแพ้
ยังไม่ชัดเจนว่าเจตนาของเขาคืออะไร แต่เดฟก็ได้รวบรวมกองกำลังจำนวนหนึ่งและพุ่งไปที่ฮอกัสเพื่อที่จะฆ่าเขา
นี่คือพาลาดินที่แท้จริง กล้าหาญและไร้ซึ่งความกลัว!
ลูหลี่มองเดฟและฮอกัสต่อสู้กันจากระยะไกล แต่ด้วยทะเลโครงกระดูกที่ขวางทางอยู่ข้างหน้า มันจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่ทำแบบนั้น เพราะไม่ว่าพวกเขาจะพยายามต่อสู้ไปมากแค่ไหน เหล่าอันเดตก็จะคอยมาเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปตลอด
เขาพึ่งจะเป็นแค่โจรระดับ 32 เท่านั้นเอง!
ประสบการณ์ของคาร์ลินในอดีตค่อนที่จะข้างคล้ายคลึงกับเขาเลย แม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายแค่ไหนก็ตาม แต่แสงของเขายังคงส่องสว่างอยู่ อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนโรคระบาดที่มากมายขนาดนี้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการกับมันทั้งหมด
"ฉันคงจะต้องใช้มันสินะ" ลูหลี่กัดฟันของเขาขณะที่โยนวัตถุสีดำออกไป ซึ่งมันก็ระเบิดไปรอบๆพื้นที่ทั้งหมด
ระเบิดไอวี่ฟูล!
ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหาย 2000 หน่วยเท่านั้น แต่มันยังสร้างความเสียหายพิเศษแก่อันเดตอีกด้วย แค่เพียงระเบิดสองลูกก็ได้ทำให้พื้นที่รอบๆสะอาดขึ้นทันตาเห็น
มีแขนขานับไม่ถ้วนถูกกระเด็นกระดอนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง!
เมื่อทางสะดวกแล้ว ลูหลี่และคาร์ลินจึงสามารถมุ่งต่อไปข้างหน้าได้
ในเวลาแค่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ลูหลี่ก็ได้ใช้เงินไปเป็นจำนวนมาก
ไม้ดวงดาว เป็นวัสดุที่หาได้ยากมากและเชน วันเซนเองก็ไม่สามารถหามันได้อีกแล้ว ซึ่งลูหลี่เหลือพวกมันในกระเป๋าแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น
และระเบิดที่เหลืออยู่ก็ได้ถูกเอามาใช้ในที่นี้แล้ว
เขาได้แต่หวังว่ามันจะคุ้มค่าในขณะที่เขาพุ่งเข้าไปหาฮอกัส ราชาแห่งเหล่ากูล ในการเผชิญหน้ากับบอสระดับ 45 เขาได้กวัดแกว่งกริชสะเก็ดมลพิษโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว
ไม่นานหลังจากนั้นเอง พาลาดินคาร์ลิน พระเจ้าพาลาดินแห่งหัตถ์สีเงินก็ได้มาอยู่ข้างหน้าฮอกัสแล้ว