จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 437
บทที่ 437: การต่อสู้ที่เหลืออยู่
"ตอนนี้ ข้ามีข่าวดีและข่าวร้ายบางอย่าง เจ้าอยากได้ยินเรื่องใดก่อน"เด็กสาวได้หยุดร่ายเวทย์มนต์ไป หลังจากที่เธอใช้เวลาไปกว่าครึ่งวัน ดูเหมือนว่า การทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับกาลเวลาดูจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย
"แค่บอกมาเลย" ลูหลี่ไม่ได้มีอารมณ์ที่จะเล่นอะไรเลย
"อืม ข่าวดีก็คือ ประวัติแห่งดาโรว์เชียได้เปลี่ยนแปลงไปในระดับหนึ่งด้วยเวทย์มนต์ของข้า ถ้าจะให้พูดก็คือ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว "เด็กสาวมังกรเกาหัวของเธอและพูดต่อ" แต่ข่าวร้ายก็คือ มีผู้รอดชีวิตบางส่วนจากสงครามที่เหลืออยู่ เจ้าจะต้องไปขออนุญาติพวกเขา ก่อนที่ข้าจะดำเนินการต่อได้ "
"พวกเขาคือใครกัน?"ลูหลี่ถาม
"ข้าจะไปรู้ได้ยังไง? มีแค่แหวนแต่งงานเท่านั้นที่เป็นเบาะแส บางทีเจ้าก็ลองไปถามพาเมล่าหรือไม่ก็ป้าของเธอดู "
โครมี่ไม่มีอะไรที่ช่วยได้เลย เธอนั้นรู้แค่เรื่องในอดีตจากไอเท็มเท่านั้น
ลูหลี่นั้นไปหามาร์ลีนก่อนเป็นที่แรก แต่เขากลับไม่พบเธอเลย
สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้คือ การไปพบกับสาวน้อยที่แสนน่าสงสารอีกครั้ง
เมื่อพาเมล่าเห็นลูหลี่ ใบหน้าของเธอก็ดูสดสใสขึ้น "พี่ชาย พี่กลับมาแล้ว! หนูคิดว่าพี่จะทิ้งหนูไว้ข้างหลัง เหมือนกับที่พ่อหนูทำซะแล้ว "
ภารกิจบ้านี้ทำให้เขาเศร้ามาก
ลูหลี่ได้บอกกับเธออย่างรวดเร็วว่า ที่เขามาที่นี้ เพื่อที่จะถามพาเมล่าว่า ยังจำได้ไหมว่ามีใครบ้างที่เธอรู้จัก
พาเมล่าเอียงศีรษะและคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดออกมาว่า "โอ้ใช่แล้ว บางครั้งในตอนกลางคืน หนูก็จะได้ยินเสียงร้องไห้ของลุงคาร์ลิน ดูเหมือนว่าเสียงจะมาจากตะวันออกอันไกลโพ้น หนูหวังว่าลุงคงจะไม่ได้ร้องไห้เพื่อหนูหรอกนะ พี่ชายค่ะ พี่ไปหาลุงและบอกว่าหนูสบายดีได้หรือเปล่า? นอกจากนี้แล้ว ช่วยบอกเขาด้วย ว่าหนูรอเขาอยู่ที่นี่และรอฟังเรื่องเล่าของเขาอยู่นะ เรื่องกระต่ายและแยมเป็นเรื่องที่สนุกมากจริงๆ!"
ตะวันออก ... คาร์ลิน...
ลูหลี่นั้นจำได้ว่ามีคนๆหนึ่งในโบสถ์แสงแห่งความหวังที่มีชื่อว่า คาร์ลิน อยู่
ใช่มันต้องเป็นเขาแน่ๆ คาร์ลิน เร็ดแพท
"พี่ชาย พี่จะกลับมาเร็วๆไหม?"พาเมล่าต้องการคว้าเสื้อของลูหลี่ แต่เธอก็ทำไม่ได้และมือของเธอก็ได้ผ่านกางเกงของลูหลี่ไป
"ข้าจะกลับมาเร็วๆแน่" ลูหลี่พยักหน้า เขายังแอบตัดสินใจอยู่ด้วยว่า ถ้าหากเขาทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ เขาจะแวะมาที่นี้บ่อยๆ
แม้ว่าการเดินทางไปจะยากลำบาก แต่ลูหลี่ก็ได้มาถึงโบสถ์แสงแห่งความหวัง
"อาคันตุกะจากดินแดนที่แสนห่างไกล มีอะไรที่ข้าพอจะช่วยท่านได้ไหม?"ทหารยามได้กล่าวทักทายลูหลี่ขณะที่เขาเดินไปข้างหน้า
"ข้ามาหาคาร์ลิน ข้านำข่าวเกี่ยวกับบ้านเกิดของเขามาด้วย "ลูหลี่กล่าวทักทายกลับไปพร้อมกับพูดสิ่งที่เขาต้องการ
"โอ้ คาร์ลิน ชายผู้แสนน่าสงสาร ข้าจะพาท่านไปพบกับเขาเอง "
ทหารยามคนนี้ได้นำลูหลี่ไปหาคาร์ลิน ซึ่งทหารยามคนนี้เป็นถึงหนึ่งในสมาชิกของรุ่งอรุณสีเงิน
ลูหลี่เริ่มอธิบายถึงสิ่งต่างๆ พอถึงช่วงที่เขาได้พูดถึงพาเมล่าเท่านั้นเอง
"เจ้าพบกับพาเมล่างั้นเหรอ? เธอยังมีชีวิตอยู่ไหม?"คาร์ลินตะโกนออกมา เขานั้นเกือบจะตายระหว่างสงครามในดาโรว์เชีย และแม้ว่าเขาจะได้รับบาดแผลสาหัส แต่เขาก็โชคดีที่ไม่ได้ติดเชื้อ
ไม่กี่วันหลังจากสงครามได้จบลง องค์กรรุ่งอรุณสีเงินก็ได้พบเข้ากับ คาร์ลิน เร็ดแพทที่กระหายน้ำ เหนื่อยและเป็นไข้ เขาได้ทรุดตัวลงอยู่ใกล้ๆกับด่านหน้าครอสโรส พาลาดิได้รักษาอาการบาดเจ็บของเขาและพาไปยังโบสถ์แสงแห่งความหวัง
คงจะต้องขอบคุณความเห็นอกเห็นใจของรุ่งอรุณสีเงิน จน คาร์ลิน เร็ดแพทจึงได้เข้าร่วมกับรุ่งอรุณสีเงินและได้เข้าไปต่อสู้กับพวกโรคระบาด ...
สำหรับพาเมล่าแล้ว ไม่มีใครคิดเลยว่า เด็กสาวตัวน้อยคนนี้จะยังคงมีชีวิตอยู่
เพราะด้วยความโศกเศร้าอันแสนมากมายของเขา คาร์ลินจึงไม่เคยที่จะกลับไปยังบ้านเกิดของเขาเลย เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกอ่อนแอ เขาก็จะปลดปล่อยมันออกมาด้วยการฆ่าพวกมอนเตอร์และในยามที่เขาอยู่คนเดียว เขาก็จะร้องไห้ออกมา
"เธอตายไปแล้ว แต่วิญญาณของเธอยังคงอยู่ที่นั้น เธอ ... "ลูหลี่ได้อธิบายถึงสถานการณ์ของเธอด้วยความลำบาก
ทุกครั้งที่เขาเล่าเรื่องราวของพาเมล่า มันก็เหมือนกับการที่เขากำลังถูกทรมานอยู่ มันเหมือนกับเชือกที่คอยรัดหัวใจของเขา ตลอดเวลาที่เขาเล่าเรื่องนี้
"สวรรค์ โอ้ พาเมล่า ทำไมวิญญาณของเธอถึงยังคงต้องทุกข์ทรมานบนโลกนี้อีก? เธอยังคงเด็กอยู่ ข้าหวังว่าข้าจะเป็นคนที่ตายแทนด้วยซ้ำ ทำไมคนที่ตายถึงไม่ใช่ข้ากัน!?"อารมณ์ของคาร์ลินได้ระเบิดขึ้นในขณะที่เขาทุบพื้น พาลาดินสองคนที่ได้เห็นเขาก็ได้เข้ามาช่วยยกเขาคนละข้าง
เมื่อมองเห็นดวงตาที่แดงขึ้นเรื่อยๆของชายผู้แสนอ่อนเพลียคนนี้ ลูหลี่ก็ได้แต่ถอนหายใจ "ตอนนี้ข้ากำลังพยายามที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของเธอ ด้วยความหวังว่าเธอจะได้พบกับพ่อของเธออีกครั้ง"
"นั้นมันเป็นไปไม่ได้ โจเซฟตายไปแล้วและได้กลายเป็นสัตว์ประหลาด เขาขอให้ข้าฆ่าเขา แต่ข้ากลับไม่สามารถทำมันได้ ข้าคงไม่มีหน้าที่จะไปพบกับเขา ... "คาร์ลินคุกเข่าลงกับพื้นและแทบจะไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย
"อ่านหนังสือเล่มนี้ดู" ลูหลี่กล่าวในขณะที่ส่งมอบประวัติของดาโรว์เชียให้กับเขา
คาร์ลินมองไปที่หนังสือเล่มนี้เป็นเวลานาน ก่อนที่จะขยี้ตาของเขาและมองหน้าของลูหลี่พร้อมกับกล่าวออกมาว่า "พูดออกมาเลย น้องชาย เจ้าต้องการที่จะให้ข้าทำอะไร?"
"ข้าต้องการที่จะเดินทางข้ามกาลเวลาและบางทีอาจจะไปเปลี่ยนชะตากรรมบางอย่างของใครหลายๆคน ท่านคาร์ลิน ข้าจำเป็นที่จะต้องได้รับการอนุญาติจากท่านเสียก่อน และข้ายังต้องการโบราณวัตถุด้วย ท่านช่วยบอกเบาะแสเกี่ยวกับมันได้หรือเปล่า?"ลูหลี่ถาม
"แน่นอน ข้าไม่มีปัญหาอะไรเลย งั้นข้าไปพร้อมกับเจ้าเลยดีไหม?"คาร์ลิน เร็ดแพทต้องการช่วยในทันที เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องการเดินทางข้ามกาลเวลา
"คาร์ลินมันอันตรายเกินไป" เพื่อนพาลาดินคนหนึ่งของเขาได้กล่าวออกมา
"เขาเป็นแค่โจรระดับ 32 เท่านั้น เขาจะเดินทางไปไกลได้แค่ไหนกัน?"พาลาดินอีกคนก็กล่าวออกมา เพราะเขาไม่อยากให้คนของเขาเข้าไปเสี่ยง
"ข้าเชื่อในตัวเขา" คาร์ลินกล่าวอย่างหนักแน่น "ทั้งเขาและข้ามีหัวใจแห่งความเมตตาอยู่ ขอให้แสงสว่างอยู่กับเรา!"
เขาปฏิเสธพาลาดินทั้งสองไป จากนั้น คาร์ลินและลูหลี่ก็ได้เดินทางไปด้วยกัน พาลาดินคาร์ลินคอยยืนอยู่ข้างหน้าลูหลี่และฆ่ามอนเตอร์ทุกๆตัวที่ขวางทางพวกเขา
"เราจะไปหาโบราณวัตถุที่ไหนงั้นเหรอ?"ลูหลี่กล่าวพร้อมกับช่วยโจมตีสัตว์ประหลาดด้วยกริชจากอีกทางด้านหนึ่ง
"หนังสือเล่มนี้ได้บอกเล่าถึง เดฟ คราวฟอส หลังจากที่เขาได้เสียสละตัวของเขาไปแล้ว ครูเซเดอร์สีแดงก็ได้วางสัญลักษณ์ของเขาไว้ที่ ใจกลางของหุบเขาเตาไฟ พวกเขาเป็นกลุ่มของนักรบคลั่ง เราอาจจะไม่มีโอกาสได้คุยกันด้วยซ้ำ "คาร์ลินไม่คิดที่จะไปเอาสัญลักษณ์นั้นและพูดต่อว่า"นอกจากเดฟ คราวฟอสแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังกล่าวถึงพี่ชายของข้า โจเซฟ เร็ดแพท หลังจากที่เขาได้เปลี่ยนฝั่งไป โล่ของเขาที่พังก็ถูกโยนทิ้งไป มันถูกโยนทิ้งไว้ใกล้ๆกับการอน เราควรที่จะไปเอามันกัน"
การอน...
ถ้าเขาเข้าใจไม่ผิด การอนเป็นที่รวมตัวกันของ 'สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน' พวกเป็นมอนเตอร์ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นมาจากซากศพของมอนเตอร์รวมๆกัน ถ้าลูหลี่ได้พบเข้ากับหนึ่งในพวกมัน เขาคงจะได้แต่หนี เพราะไม่มีทางที่ผู้เล่นระดับ 32 ของเขาจะต่อกรกับพวกมันได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับคาร์ลิน เร็ดแพทนั้นแตกต่างออกไป
หลังจากที่เขาได้ผ่านประสบการณ์นองเลือดมามากมาย คาร์ลินก็ได้กลายเป็นพาลาดินอันแสนทรงพลังมากๆในองค์กรรุ่งอรุณสีเงิน
เมื่อลูหลี่ได้ยกย่องเขา ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของตระกูลเร็ดแพทก็ได้เงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ถ้าโจเซฟ น้องชายของข้ายังคงมีชีวิตอยู่ แน่นอนว่าเขาจะต้องกลายเป็นพาลาดินที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนแห่งนี้"
โล่ที่ผุพังนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นโล่ที่คอยปกป้องโจเซฟในสนามรบ ด้วยไอเท็มชิ้นนี้ มันก็จะกลายเป็นสื่อกลางเพื่อที่การเดินทางข้ามเวลาของพวกเขาจะสำเร็จ
นอกจากนี้แล้ว ยังมีศรีษะของฮอคัสและดาบของพาลาดินอันเดตด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คงจะต้องขอบคุณคาร์ลิน ถ้าไม่ใช่เพราะเขา คงไม่มีทางที่ลูหลี่จะได้รับไอเท็มพวกนี้มา
โบราณวัตถุชิ้นนี้ได้ถูกวิญญาณสิงสถิตอยู่ ดังนั้นแล้ว แสงศักดิ์สิทธิ์ของคาร์ลินจึงเป็นประโยชน์มาก
วิญญาณได้ถูกไล่ออกไปในทันทีด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ การกระทำของคาร์ลินเด็ดขาดมากในขณะที่ร่างของเขาดูเหมือนจะมีแสงปกคลุมไปทั่วตัวอย่างสมบูรณ์