จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 436
บทที่ 436: ใครเป็นคนฆ่ากัน?
"ขอโทษที ข้าติดอยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้ว นักผจญภัยคืออะไรงั้นเหรอ? ข้ากินมันได้หรือเปล่า?"โครมี่เงยหน้าขึ้นขณะที่เธอกระพริบตาอย่างบริสุทธิ์ใจไปที่ลูหลี่
"ท่านไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ผู้ท่องกาลเวลาที่น่านับถือ ข้าได้มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากท่าน "
ลูหลี่ไม่ได้พูดอะไรให้มากความเลยกับมังกรทองแดงแสนน่ารัก เขารู้อยู่แล้วว่า โครมี่จะทำตัวน่ารักแบบนี้
เขาได้เรียกเธอว่า ผู้พิทักษ์กาลเวลา โครมี่และชื่อแบบอื่นๆ เขารู้ว่าเธอคือใคร แต่เธอก็ยังคงทำเหมือนกับตัวเองนั้นทึ่มอยู่
"โอเค ไทแรนด์เป็นยังไงบ้างล่ะ?"โครมี่นั้นเกลียดคนแบบเขามากที่สุดเลย
"ขออภัยด้วย ข้าไม่เคยพบกับมาสเตอร์ไทแรนด์เลย" ลูหลี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา เมื่อเจอคำถามแบบนี้แล้ว การทำเป็นรู้ดี คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุด
"โอ้ ข้าคิดถึงขายาวๆของไทแรนด์จังเลย" เด็กสาวพูดขณะที่เธอกระโดดขึ้นไปจากจุดที่เธอยืนอยู่ "เอาล่ะ เจ้าเลิกพูดไร้สาระและรอดูว่าโครมี่แสนยิ่งใหญ่จะช่วยอะไรเจ้าได้ ข้าเห็นว่าเจ้ากระตือรือร้นที่อยากจะให้ข้าช่วยเหลือเกินหรอกนะ"
ลูหลี่ไม่สนใจประโยคสุดท้ายที่เธอพูดออกมาและอธิบายสถานการณ์ของเขา
"เธอไม่รู้ว่าเธอตายไปแล้วงั้นเหรอ?"ในขณะที่โครมี่ได้ฟังเรื่องราวลูหลี่ เธอก็ได้นั่งลงและเลิกทำตัวน่ารักแล้ว
ผู้พิทักษ์แห่งกาลเวลาได้เห็นหลายสิ่งในชีวิตของเธอเอง แต่เรื่องของพาเมล่ากลับทำให้เธอตกใจ
"มันคือเรื่องจริง มาสเตอร์โครมี่ นอกจากนี้แล้ว แม้ว่าพาเมล่าจะตายไป เธอก็ยังคงรอคอยการกลับมาของพี่สาวและพ่อของเธออยู่ "ลูหลี่ยืนยันขณะที่เขาส่งแหวนของโจเซฟไปให้กับมังกรทองแดงแสนทรงพลังและมองไปที่เธอด้วยความหวัง"ท่านสามารถช่วยเธอได้หรือเปล่า?""
"นี่คืออะไรกัน แหวนแต่งงานงั้นเหรอ? ให้ข้าดูสิ ... แหวนนี้ถูกสวมใส่โดยนักรบผู้กล้าหาญ นี่คือพ่อของพาเมล่าสินะ แต่ดวงวิญญาณของเขากลับแปดเปื้อนเสียแล้ว "เด็กสาวตัวน้อยพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
"นี่คือเหตุผลที่ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่าน" ลูหลี่กล่าว
"เจ้าต้องการที่จะย้อนเวลากลับไปช่วยเขางั้นสินะ?"โครมี่ถาม
"ถ้ามันจำเป็น" ลูหลี่กล่าว "ข้าจะพยายามอย่างถึงที่สุด เพื่อเปลี่ยนแปลงเวลาที่กำลังจะดำเนินไป"
"เปลี่ยนมันทั้งหมดเลยงั้นเหรอ? เจ้าไม่รู้เลยงั้นเหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องในอดีต หากเจ้ากล้าเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ?"
"ตอนนี้ข้าก็รู้เกี่ยวกับมันแล้ว ข้าจึงจะต้องทำอะไรสักอย่าง" ลูหลี่ไม่ได้มีความสามารถในการพูดอะไรเลย แต่ความตั้งใจของเขานั้นคือของจริง
ในตอนนั้นเอง ภาพๆหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาหลอกหลอนในหัวของลูหลี่ ...
ภายใต้ท้องฟ้าสีแดงเลือดและในซากปรักหักพัง มีร่างเล็กๆร่างหนึ่งกำลังยืนอยู่คนเดียว เธอกอดตุ๊กตาของเธอและมองออกไปไกลสุดสายตา
พ่อของเธอจะกลับมาและเราก็จะมีความสุขอีกครั้ง พวกเขาแค่มาช้านิดหน่อยเอง ...
ด้วยการที่เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์การในการเกิดใหม่ ลูหลี่จึงมีประสบการณ์ต่างๆในอดีตและชีวิตใหม่นี้ก็ได้มอบความหวังให้แก่เขา อย่างไรก็ตาม ความหวังที่มาพร้อมกับชีวิตครั้งใหม่ ไม่ได้ลบรอยแผลที่เคยเกิดขึ้นในอดีต มันยังคงฝังรากลึกลงไปในจิตใจของเขา มันคอยเตือนเขาอยู่เสมอว่า ที่ชีวิตเขาเปลี่ยนไปได้ ทั้งหมดก็เพราะการเกิดใหม่นี้
ในทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เคยเกิดขึ้นมานับตั้งแต่ที่เขาเกิดใหม่นั้น ลูหลี่ได้รับอะไรมามากมาย แต่เขาก็สูญเสียสิ่งที่เคยเป็นอยู่ด้วย
เขาได้รับการเคลียร์ครั้งแรกหลายครั้งในดันเจี้ยน จนมันกระตุ้นให้เขาฟาร์มจะเป็นจะตายและยังทำให้เขาพยายามที่จะเป็นแชมป์ในการแข่งขันด้วย ...
เมื่อผ่านความยากลำบากและได้รับชัยชนะมา ลูหลี่ก็พบว่าตัวเองเริ่มไม่รู้สึกอะไรและเย็นชาขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะหาเงิน
ส่วนพาเมล่าเองก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย แค่เธอเหมือนกับน้องสาวของเขาในอดีต ซึ่งนั้นก็เหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของเขาเลย
"เจ้าคงมีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดแน่" โครมี่พึมพำ "ข้ายอมรับก็ได้ แต่ถ้าเราช่วยโจเซฟ เร็ดแพท เราจะต้องเข้าใจอดีตของเขาก่อน ในซากปรักหักพังของเมืองแอนโดลฮอล มีหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า 'ประวัติแห่งดาโรว์เชีย' มันจะช่วยบอกเราถึงบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญได้ นำหนังสือเล่มนี้มาให้ข้า และเราจะได้เข้าใจถึงชะตากรรมของโจเซฟ จากนั้นแล้ว ถ้าเราโชคดีพอ ... เราก็สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้!"
ลูหลี่พยักหน้าและกลับไปยังซากปรักหักพังของแอนโดลฮอล ซึ่งเต็มไปด้วยฝูงมอนเตอร์
ที่นี่มันอันตรายมากและลูหลี่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์พร้อมด้วยทักษะอันแข็งแกร่งของเขา เพื่อที่จะหลบซ่อนจากพวกมัน เพราะเขายังคงมีระดับที่ต่ำอยู่
มีนักกวีบางคนในเกมรุ่งอรุณ ที่พยายามจะเก็บรวบรวมสิ่งต่างๆในอดีตรวมถึงเรื่องเล่าในตำนานมากมาย มาบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
ซึ่งในกระท่อมที่ยังคงดูดีอยู่ มันคงจะเป็นที่ๆนักกวีอาศัยอยู่
มีงานของนักกวีกองอยู่เต็มโต๊ะ ลูหลี่พยายามหาอย่างอดทน จนเขาพบเข้ากับสิ่งที่เขาต้องการหา
บทแรกของหนังสือที่เขาพบคือ ประวัติแห่งดาโรว์เชีย ลูหลี่รีบพลิกกระดาษอ่านในทันที
ส่วนบทที่สองคือ สงครามแห่งดาโรว์เชีย บทนี้มีความระเอียดมากๆและอาจจะเป็นประสบการณ์ตรงของนักกวีคนนี้เลย
สงครามแห่งดาโรว์เชีย เกิดขึ้นระหว่างสงครามกลางครั้งที่สอง ในเวลานั้น เหล่าโรคระบาดกำลังแผ่ขยายไปทั่วดินแดนลอร์ดเดเรียน และทหารที่อาสามาก็ได้ถูกนำโดยโจเซฟ เร็ดแพท เพื่อสู้กับเหล่าโรคระบาด
เมื่อสงครามได้สิ้นสุดลง การติดต่อจากดาโรว์เชียก็ได้ขาดหายไปจากกองกำลังหลัก
มีการกล่าวกันว่า สงครามที่แสนรุนแรงนี้เป็นแค่การพูดเกินจริงเท่านั้น เพราะสงครามนี้มันน่าสลดใจมากกว่า
ในเวลานั้น พาลาดินหัตถ์แห่งเงินได้เข้ามาช่วยพวกเขา เพราะผู้นำของพาลาดินคือ เดฟ คราวฟอส เป็นคนที่เคยอยู่อาศัยในดาโรว์เชีย เขาได้พาลูกศิษย์ของเขามาด้วย เพื่อต่อกรกับกองกำลังของฮอกัส
เมื่อฮอกัสได้เข้าร่วมการต่อสู้ เดฟ คราวฟอสก็ได้มุ่งหน้ามาทันที การต่อสู้ของพวกเขากินเวลานานมาก และในที่สุดเขาก็ได้รับชัยชนะ แต่เขาบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตไม่นานหลังจากที่เอาชนะราชาแห่งกูลได้
ในขณะที่การต่อสู้นั้นเกิดขึ้น โจเซฟก็ได้นำกองทหารอาสาต่อสู้อย่างกล้าหาญ
ในการต่อสู้ พาลาดินอันเดตได้ลอบโจมตีโจเซฟ มันได้ใช้เวทมนตร์แห่งความมืดเพื่อฉีกกระฉากโจเซฟและทำให้จิตวิญญาณของเขากลายเป็นเงาปีศาจ
โจเซฟได้ตายลงไปและได้กระจายโรคระบาดไปทั่วทหารแห่งดาโรว์เชีย ทหารที่ติดเชื้อเองก็ได้โจมตีเพื่อนพ้องและเข้าโจมตีใส่ผู้คนทุกคน
กองกำลังอันเดตที่เหลือและโจเซฟก็ได้ออกไปจากดาโรว์เชีย หลังจากที่มันได้พังทลายกลายเป็นซากแล้ว
นี่คือประสบการณ์และการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของ โจเซฟ เร็ดแพท
ลูหลี่ได้นำหนังสือเล่มนี้กลับไปให้กับโครมี่
โครมี่มองไปที่มันและพยักหน้า ขณะที่เธอกล่าวว่า "ใช่แล้ว นี้ต้องเป็นเขาแน่ มันค่อนข้างเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าเสียจริง ถ้ามันเป็นไปได้ เราจำเป็นต้องช่วยเขาจริงๆใช่มั้ย? ข้าขอตรวจสอบรายละเอียดของประวัตินี้ก่อนนะ มันจำเป็นที่จะต้องใช้เวทย์มนต์บางอย่าง ... "
ขณะที่เขามองดูเด็กสาวกำลังร่ายเวทย์มนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ความคิดของลูหลี่ก็ได้ล่องลอยไป
เขาจำได้ว่า ในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้ พวกอันเดตได้ออกมาจากดาโรว์เชียและฆ่าผู้คนที่หลบซ่อนอยู่ในบ้าน ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ใครฆ่าพาเมล่ากัน?
เธอคงไม่รู้แน่ว่าคนที่มายังบ้านของเธอต้องการที่จะทำอะไรกัน
บางทีเธออาจจะพูดด้วยเสียงอันแสนอ่อนโยนว่า "คุณลุงต้องการเล่นซ่อนหากับพาเมล่างั้นเหรอ?"