จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 424
บทที่ 424: เปลี่ยนฝ่ายอย่างอิสระ
เมเปิ้ลอันน่าจดจำที่กำลังซ่อนตัวอยู่ก็รู้สึกอิจฉามากเลยทีเดียว เขาไม่สามารถที่จะทนโจมตีใส่'มอนเตอร์ตัวเล็ก'นี้ได้ต่อไปอีกแล้ว เพราะมอนเตอร์ที่พวกลูหลี่ฆ่าไปโดยใช้เวลาสามชั่วโมงครึ่ง สามารถให้ค่าประสบการณ์เท่ากับที่เขาฟาร์มไปทั้งวัน
เขาจึงใช้ทักษะสายฟ้าน้ำแข็งใส่ราชาโมร็อค
ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นน้อยนิดมาก แต่ด้วยบัพที่ช่วยไม่สนค่าป้องกัน ความเสียหายที่เขาสร้างขึ้นจึงมีมากกว่าสองหลัก
ราชาโมร็อค มี HP มากกว่า 500,000 หน่วย ซึ่งมากกว่าบอสในดันเจี้ยนถึง 3 เท่า แล้วด้วยเผ่าพันธุ์ของเขาอีก เขาจึงมีกลิ่นอายที่แตกต่างจาก NPC คนอื่นๆ นอกจากนี้แล้ว เขายังมีแม้แต่อาวุธสำรองที่สามารถใช้จัดการกับเมเปิ้ลอันน่าจดจำได้
เมเปิ้ลอันน่าจดจำคิดว่าจุดที่เขาอยู่นั้นปลอดภัย ดังนั้นแล้ว เขาจึงไม่ได้กังวลว่าตัวเองจะตกเป็นเป้าหมายเลย
หอกได้ปรากฏขึ้นมาบนมือของราชาโมร็อกและถูกขว้างไปหาเขาด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า เมื่อเห็นความรุนแรงของหอกนั้น ลูหลี่ก็รู้ถึงชะตากรรมของเมเปิ้ลอันน่าจดจำแล้ว
อย่างไรก็ตาม ดรูอิดได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหลังศพของเขาเพื่อใช้ชุบชีวิตในทันที
คนนี้ช่างฉลาดแกมโกงนัก เขาให้ดรูอิดคอยอยู่ข้างหลังเขาตลอดเวลา เพื่อที่จะสามารถชุบชีวิตเขาได้ ยามที่เขาต้องการ
แต่โชคร้ายสำหรับเขานัก ในขณะที่เขากำลังลังเลใจว่าจะเรียกกำลังเสริมมาไหม ราชาโมร็อคก็ได้ขว้างหอกใส่เขาอีกครั้ง
เมเปิ้ลอันน่าจดจำตายไปอีกรอบ แต่ดรูอิดก็ไม่ได้หนีไปไหน ทันใดนั้นเอง หอกอีกเล่มก็ได้พุ่งเข้าไปที่ทรวงอกของเขา
ลูหลี่และแฟรี่น้ำที่ลังเลใจ ก็ได้รับคำตอบแล้ว ในตอนนี้ การที่จะต่อสู้กับมอนเตอร์ที่ระดับ 40 มันไม่ใช่เรื่องเลย
ซึ่งในตอนนี้ ผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์คนอื่นๆก็ได้ถูกกำจัดโดยลูหลี่และแฟรี่น้ำไปแล้ว
"หนีกันเถอะ นี้มันอันตรายเกินไป" ลูหลี่ที่มักจะเกลียดความเสี่ยงที่มีผลต่อชีวิต ก็ได้แต่บอกให้ถอยกลับไป
"แล้วเกี่ยวกับเควสล่ะ? เราจะทำมันสำเร็จหรือเปล่า?"แฟรี่น้ำถาม
"ใครจะรู้กันล่ะ? ถ้าหอคอยไม่ถูกทำลาย เธอก็จะทำภารกิจสำเร็จ ไม่อย่างนั้น มันก็ล้มเหลว เธออาจจะสูญเสียค่าชื่อเสียงไปบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยทีเดียว " ซึ่งลูหลี่เองก็คิดว่าโอกาสที่ฝ่ายพันธมิตรจะชนะนั้นแทบจะไม่มีอยู่เลย
แฟรี่น้ำพยักหน้าและออกจากสนามรบไปพร้อมกับลูหลี่
มันอันตรายเกินไปที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า ดังนั้นแล้ว พวกเขาจึงทำได้เพียงถอยออกมา พวกเขาทั้งสองคนได้ออกไปจากด่านหน้าอย่างเงียบๆ
"เดี๋ยวก่อน เราลองไปหาอิทาเนียดันเถอะ ดูยามที่ด่านหน้าไว้ดีๆด้วย ถ้ายังมีคนอยู่ อย่าผลีผลามเด็ดขาด "ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาบอกกับแฟรี่น้ำให้แยกกัน
"สบายใจน๊า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฉันนะ" แฟรี่น้ำยิ้มขณะที่เธอกวัดแกว่งกริชของเธอ
พวกเขามองผ่านห้องขังไปสองครั้ง ในที่สุดลูหลี่ก็พบกับอิทาเนียที่กำลังถูกขังอยู่คุกใต้ดินชั้นล่างและเขาจึงได้ส่งข้อความหาแฟรี่น้ำ
"ทำไมถึงไม่มียามล่ะ?"แฟรี่น้ำถาม
"กำลังของฝ่ายพันธมิตรไม่เพียงพอ ส่วนอิทาเนียก็ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นแล้ว จึงไม่มีใครคอยเฝ้าเธอ ยกเว้นว่ายามที่เฝ้าจะเป็นโจร "ลูหลี่กล่าวอย่างเงียบๆ
"แล้วยังไงต่อ?"แฟรี่น้ำขมวดคิ้ว เธอไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ต่อจากนี้จะทำยังไง
"ฉันจะลองดู เธอคอยระวังข้างนอกให้ที "ลูหลี่กล่าว
"ลูหลี่ นายไม่ควรที่จะทำให้เรื่องมันยุ่งนะ" แฟรี่น้ำเตือน เพราะเธอรู้ดีถึงสิ่งที่จะตามมา หากลูหลี่ทำผิดพลาด
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้มีเมตตาอะไร แต่เพราะความเสี่ยงที่จะสูญเสียมันมากเกินไปต่างหาก
สำหรับสมาคมลำดับสองอย่างสมาคมดิสซี่คอสแล้ว หากบอสฝ่ายพันธมิตรทั้งสองตัวมีเรื่องกับพวกเธอ พวกเธอคงจะมีปัญหาเยอะแยะตามมาอย่างแน่นอน
ลูหลี่ถอนหายใจขณะที่ตระหนักได้ว่า คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดเผยความลับของเขา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว เพราะทุกคนรู้เรื่องนี้กันดี
เขาหยิบเอาดวงตาแห่งคำหลอกหลวงออกมา ก่อนที่จะกลายร่างเป็นอันเดด!
เขาสามารถกลายร่างเป็นเผ่าอื่นในฝ่ายเผ่าพันธุ์ได้ แต่เพื่อที่จะรักษาความลับอย่างอื่นไว้ เขาจึงต้องกลายร่างเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทุกคนรู้ว่าเขาสามารถกลายร่างได้
ลูหลี่ได้ใช้ร่างนี้เพื่อลอบสังหารซอวโรวเลส หลังจากที่มีการถกเถียงกันพักหนึ่ง ทุกๆคนจึงคิดว่าลูหลี่จะต้องมีไอเท็มบางอย่าง
ด้วยดวงตาแห่งคำหลอกหลวง ลูหลี่จึงสามารถสลับฝ่ายได้ ซึ่งการที่เขาจะสามารถถูกจับได้นั้น คนๆนั้นจะต้องเป็นคนที่ทรงพลังมากจริงๆ
"นายทำได้ยังไงกัน…?"แฟรี่น้ำรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นไปได้ แต่เธอไม่เคยเห็นใกล้ขนาดนี้มาก่อน ซึ่งเธอเองก็ยังไม่เคยเห็นไอเท็มที่สามารถทำให้ผู้เล่นเปลี่ยนฝ่ายและรูปลักษณ์ได้เลย
"ฉันไม่ขายมันหรอกนะ" ลูหลี่กล่าว เพื่อที่จะไม่ให้เธอขอชื้อมัน
"ชิ ฉันเกลียดนาย" แฟรี่น้ำกระทืบเท้าด้วยความเจ็บแสบและคอยเฝ้าระวังตามคำสั่งของลูหลี่
"สัตว์ที่แสนน่าเกลียด"
ลูหลี่เดินเข้าไปในห้องและพบเข้ากับอิทาเนียที่กำลังถูกล่ามด้วยโซ่ เอลฟ์เลือดสาวคนนี้มีรอยย่นที่จมูกของเธอและมันทำให้เธอดูน่าเกลียดมากเวลาเธอพูดออกมา
สำหรับเอลฟ์ชั้นสูงผู้ยิ่งยโสแล้ว อันเดตคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เพราะว่าพวกมันน่าเกลียด
"สวัสดี ท่านอิทาเนีย"ลูหลี่เปิดเผยตัวเองและทักทายเธอด้วยเสียงแหบพร่าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอันเดด
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครที่พุ่งเข้ามาโจมตี มันจึงเป็นเรื่องที่ชัดเจนว่าไม่มียามสักคนในคุกใต้ดินแห่งนี้เลย
"เจ้ารู้จักข้าหรือ? ใครส่งให้เจ้ามา? ราคาโมร็อคหรือขุนนางเมืองลมวายุ?"อิทาเนียดูเหมือนว่าจะไม่สุขใจเลยที่เธอกำลังจะรอด นอกจากนี้แล้ว ลูหลี่ยังรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังในน้ำเสียงของเธอ
"ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เราไม่มีเวลามาก ให้ข้าช่วยท่านเถอะ "ไม่มีอุปกรณ์ล็อคใดๆที่สามารถหยุดทักษะปลดล็อคระดับ 3 ของลูหลี่ได้
อิทานีถูกทรมาน จนมันทำให้ร่างกายของเธอมีบาดแผลและแขนของเธอก็หัก แค่ปราดตามองไปที่เธอ ก็รู้ได้เลยว่าเธอไม่มีแม้แต่แรงที่จะใช้สู้
"ใครอยู่ข้างนอกกัน?"อิทาเนียถามลูหลี่ หลังจากที่ได้ยินเขาพูดออกมา
เธอยังคงไม่ชอบลูหลี่ที่เป็นกระดูกเลย แต่ทัศนคติของเธอดีขึ้นเล็กน้อย คงเป็นเพราะลูหลี่ช่วยเธอ โดยที่ไม่ได้ถามถึงรางวัลหรือลาภยศเลย
"ราชาโมร็อค หัวหน้าดาริลและจ่าสิบเอกลูคัสกำลังสู้กันอยู่ตอนนี้ ถ้างั้นแล้ว ท่านอยากจะไปหาพวกเขางั้นเหรอ?" ลูหลี่ถาม
"เขาเป็นคนป่าเถื่อนที่แสนสกปรก มีทางอื่นหรือเปล่า? "อิทาเนียดูเหมือนว่าจะเกลียดราชาโมร็อคที่เป็นยักษ์ ซึ่งทำให้ลูหลี่เกิดความสงสัยขึ้น
อิทาเนียเป็นชื่อที่ฟังดูคุ้นมาก แต่เขากลับจำไม่ได้เลย
การปลดล็อคต้องทำไปตามขั้นตอนเท่านั้น เขาจึงไม่สามารถที่จะลัดขั้นตอนไปได้แล้ว แต่รูปลักษณ์นี้มีเวลาจำกัด และเขาก็ไม่รู้ว่า หากเขาเผยร่างที่แท้จริงต่อหน้าเธอ เขาจะยังคงมีชิวตรอดอยู่ไหม นอกจากนี้แล้ว เขาคงจะไม่ได้รับรางวัลด้วย
"มากับข้า ยามที่เหลือออกไปสู้หมดแล้ว เราสามารถออกไปได้โดยข้ามฝั่งแม่น้ำไป "
ตั้งแต่ที่ได้เดินทางกันมา ลูหลี่นั้นจดจำพื้นที่และคิดแผนหลบหนีไว้แล้ว เพราะเขาไม่อยากถูกจับได้ ว่าเขานั้นทรยศต่อฝ่ายของตัวเอง
ภายใต้คำแนะนำของแฟรี่น้ำ ลูหลี่จึงได้นำเอลฟ์เลือดไปยังด่านหน้าโดยพยายามหลีกเลี่ยงยาม ซึ่งในที่สุด พวกเขาก็ได้มาถึงแม่น้ำ
มีลูกศรธนูจำนวนหนึ่งที่พุ่งลงมาจากหอคอยธนู แต่พลธนูก็ไม่ได้มีเวลามามองที่พวกเขาเลยสักนิด
พวกเขาไม่รู้เลยว่า มีคนทรยศอยู่ในหมู่พวกเขาและนักโทษของพวกเขาก็ถูกพาตัวไปแล้ว