ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 422
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 424

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 423


บทที่ 423: การต่อสู้กันระหว่าง NPC

"โอ้ ฉันผิดเองแหละ" ในที่สุด แฟรี่น้ำก็ตระหนักได้ว่าเธอกำลังจะล้ำเส้นของลูหลี่ไป

เธอและลูหลี่ไม่ได้สนิทกัน ถึงพวกเขาจะมีการแลกเปลี่ยนกันหลายอย่าง แต่นั้นก็เป็นแค่การแลกเปลี่ยนโดยใช้การที่สมาคมของพวกเขาทั้งคู่เป็นพันธมิตรกัน ซึ่งนั้นทำให้พวกเขาไม่ได้เป็นเพื่อนกันจริงๆ

"ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกนะ" ลูหลี่ที่ไม่สนใจก็ได้อธิบายต่อไปว่า "หน่วยทหารป้องกันด่านหน้าเป็นของพวกเทเรสมอล ผู้นำของพวกเขาคือ ไจน่า แม้ว่าไจน่าจะเกลียดฝ่ายพันธมิตร จนถึงกับให้ฝ่ายเผ่าพันธุ์ฆ่าพ่อของเธอ นายพลเพามัวร์ แต่เธอก็ยังคงเป็นคนที่อันตรายที่สุดในเกมรุ่งอรุณอยู่ดี" [สำหรับเรื่องนี้แล้วนะครับ ไจน่าเป็นลูกสาวของนายพลเพามัวร์ แต่เพราะย้ายเมืองมาแล้วเป็นพันธมิตรกับฝ่ายเผ่าพันธุ์อยู่ จู่ๆพ่อก็มาจะทำร้ายพันธมิตรของตน ไจน่าที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยให้ข้อเสนอกับเรกซาร์ที่เป็นออร์คในฝ่ายเผ่าพันธุ์ว่า จะฆ่าพ่อตนก็ได้ แต่อย่าทำร้ายประชาชนของตนอะไรประมาณนี้]

เมื่อการแพร่กระจายของโรคระบาดเกิดขึ้น ไจน่าก็ได้ติดตามอาจารย์แอนโทนิดัสไปยังดินแดนโรคระบาดทางตะวันออก

พวกเขาได้พบกับโพรเฟส ซึ่งเขาได้ขอให้แอนโทนิดัสนำผู้คนจากลอร์ดเดเรียนเดินทางไปยังตะวันตกหรือก็คือคาลิมดอร์ แอนโทนิดัสคือว่าโพรเฟสนั้นเป็นคนบ้า แต่ไจน่าสามารถสัมผัสได้ถึงเวทย์มนต์ที่มหาศาลภายใต้ตัวของเขา

เหตุการณ์หลังจากนั้นซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ถ้าจะให้อธิบายออกมาอย่างง่ายๆคือ คำพยากรณ์ของโพรเฟสเริ่มเป็นจริงเรื่อยๆ จากสิ่งหนึ่งไปยังสิ่งหนึ่ง

เจ้าชายอาทัสได้ทรยศ ลอร์ดเดเรียนได้กลายเป็นซากปรักหักพังและอาณาจักรต่างๆก็ได้ถูกรุกรานโดยโรคระบาด

ไจน่าเชื่อว่าสิ่งที่โปรเฟสพยากรณ์นั้นถูกและเธอก็พยายามที่จะตามหาเขา

ชื่อของโปรเฟสก็คือ เมดีฟ ลูกชายของเอกวิน เขาเป็นคนเดียวกับที่สอนลูหลี่ถึงการกลายร่างเป็นอีกา นอกจากแม่ของเขาแล้ว เขาก็เป็นนักเวทย์เพียงคนเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งรุ่งอรุณ

เมดีฟได้สนับสนุนให้ไจน่าพาผู้คนข้ามทะเลไปทางใต้เพื่อเข้าไปยังคาลิมดอร์

ไจน่าได้ฟังคำแนะนำของเขาพร้อมกับรวบรวมคนที่เหลือรอดจากลอร์ดเดเรียนและนักเวทย์คิรินทอร์ไปด้วย แต่ที่นั่นกลับมีออร์คอยู่ด้วย และพวกเขาก็ต้องปะทะกับมัน ซึ่งด้วยความที่มีเมดีฟเป็นผู้ไกล่เกลี่ย เธอและเชฟ ซาร์แห่งฝ่ายเผ่าพันธุ์จึงได้กลายเป็นพันธมิตรกัน

ไม่นานหลังจากนั้นเอง เมืองเทเรมอสก็ได้ถูกสร้างขึ้นมา เมืองแห่งนี้ใหญ่กว่าแอสทาน่าและก็ถูกสร้างขึ้นมาเป็นอย่างดี

ต่อมา ไจน่า ซาร์ มัลฟูเรียน ไทแรนด้าได้เข้าร่วมการสู้รบที่ภูเขาไฮจอว์กับอาคิมอน ในที่สุด พวกเขาก็สามารถเอาชนะอาคิมอน ที่เป็นผู้นำของฝ่ายจักรวรรดิแห่งเพลิงได้

ไจน่าและอาทัสเคยเป็นคู่รักกัน ส่วนเชฟ ซาร์เองก็เคารพและชื่นชมเธอในขณะที่เมดีฟก็ได้ยืนอยู่เคียงข้างกับฝ่ายเธอด้วย

ในสภาผู้พิพากษาที่ถูกก่อตั้งโดยนักเวทย์คิรินทอ ไจน่ามีตำแหน่งที่สูงส่งมาก เธอเหมือนกับเป็นพละกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของนักเวทย์ฝ่ายพันธมิตร

หากพวกเขาทำให้คนแบบนี้ขุ่นเคือง ไม่ใช่แค่พวกเขาจะไม่สามารถเล่นได้เท่านั้น แต่พวกเขาจะมีปัญหาในทุกๆที่ที่พวกเขาได้ไป

นอกจากนี้แล้ว ลูหลี่และแฟรี่น้ำไม่ใช่ผู้เล่นธรรมดาๆ มีผู้เล่นนับหมื่นคนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา ดังนั้นแล้ว หากพวกเขาทำให้ไจน่าไม่พอใจ ผลกระทบที่ตามมาจะต้องหนักหนาสาหัสแน่

"แล้วตอนนี้อะไรล่ะ?"แฟรี่น้ำถามกลับไปด้วยความไม่เต็มใจ แต่เธอก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างได้แล้ว

"สู้ต่อไปสิ เธอไม่มีปัญหากับการฆ่าผู้เล่นต่างฝ่าย ใช่มั้ย?"ลูหลี่กล่าวออกมา เพื่อที่จะทำให้บรรยากาศในตอนนี้ดีขึ้น

แฟรี่น้ำกรอกตาของเธอและใช้เชปช็อตใส่โจรที่กำลังจะพยายามขโมยอะไรบางอย่าง

การฆ่าผู้เล่นในสนามรบแห่งนี้คุ้มค่าจริงๆ ไม่เพียงพวกเขาจะได้รับค่าเกียรติยศ แต่พวกเขาก็ยังได้รับอุปกรณ์อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้มีมือใหม่อยู่เลย อุปกรณ์ที่ดรอบลงมาจึงมีมูลค่ามากเลยทีเดียว

ลูหลี่ แฟรี่น้ำและเมเปิ้ลอันน่าจดจำเป็นผู้เล่นสตาร์กันทั้งหมด ด้วยการร่วมมือกันของผู้เล่นฝ่ายพันธมิตร พวกเขาจึงสามารถฆ่าผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์ได้เป็นโหล ช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งนั้นมาก จนไม่ต้องกังวลอะไรเลย

หลังจากที่ฆ่าผู้เล่นทั้งหมดไปแล้ว พวกเขาก็เริ่มจัดการกับส่วนที่เหลือ

ลูหลี่วิ่งเข้าไปข้างหลังออร์คระดับหัวหน้าและใช้ซุ่มโจมตี จากนั้นก็ใช้เชปช็อตเพื่อเก็บค่าคอมโบและสตัน ต่อจากนั้นเขาก็ใช้ แทงหลัง

ค่าความเสียหายที่มากกว่า 100 เล็กน้อย ได้ปรากฏขึ้นบนศรีษะของออร์ค

หัวหน้าออร์คระดับ 40 เป็นอะไรที่แตกต่างกับผู้เล่นในตอนนี้มาก เมื่อลูหลี่ถูกโจมตีหนึ่งครั้ง แสงสีแดงก็ได้สว่างขึ้นมาพร้อมกับเลข -678 ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขา เลือดหนึ่งในสามของเขาหายไปแทบจะในทันที

ส่วนพ่อมดที่อยู่ถัดไปจากเขาก็ไม่ได้มี HP มากนัก หลังจากที่พ่อมดโดนโจมตีแล้ว เขาก็กลายเป็นแสงสีขาวในทันที พวกออร์คที่โจมตีเขาเสร็จแล้ว ก็ได้หันมามองที่ลูหลี่

ความรู้สึกของลูหลี่บอกว่ามันเริ่มอันตรายแล้ว เขาจึงต้องใช้ทักษะของรองเท้าเทเลพอร์ตออกไป

เขาไม่สามารถดวลกับมันหนึ่งต่อหนึ่งได้เลย แล้วถ้ามีสองตัวอีก เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

เมื่อออร์คสองตัวสูญเสียเป้าหมายที่จะโจมตี มันจึงเลือกเป้าหมายฝ่ายพันธมิตรที่อยู่ใกล้ๆแทน ผู้เล่นคนหนึ่งที่ไม่ได้รีบวิ่งหนีไปก็กลายเป็นแซนวิดโดยพวกมันอย่างรวดเร็ว

ออร์คพวกนี้อยู่ภายใต้การนำของราชาม็อค โมร็อค เขามีส่วนร่วมในการรบครั้งนี้ในฐานะตัวแทนของเร็กซาร์ ซึ่งทำให้เขามีอำนาจในการเป็นผู้นำเหนือเผ่าๆนี้

แม้ว่าเร็กซาร์จะเป็นลูกผสมระหว่างออร์คและยักษ์ แต่เขาก็ยังเป็นพันธมิตรกับซาร์ เขาได้ร่วมมือกับปีศาจสอดแนมร็อคฮานและนักเดินทางแพนดาเรน เฉิน เพื่อปกป้องออร์กิมมาร์จากการโจมตีของ นายพลแดเลี่ยน เพามัวร์

ในการต่อสู้ครั้งนั้น เขาได้รับคำสั่งให้เป็นผู้บัญชาการของทัพ

ถ้าด่านหน้าที่พวกเขากำจังปกป้องอยู่ถูกโจมตีโดยเร็กซาร์ ลูหลี่จะหนีออกไปให้ไกลที่สุด

เร๊กซาร์และหมีสีน้ำตาลอันเป็นที่รักของเขา มิชา ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นสามารถต่อสู้ได้ในตอนนี้ของเกม พวกเขาทั้งหมดจะตาย ไม่ว่าจะมีกี่คนก็ตาม

"รวมผู้บาดเจ็บไว้ อย่าไปลึกเกินไป" ลูหลี่กล่าวเตือน

"ค่าประสบการณ์นี้มากเกินไปแล้ว!"แฟรี่น้ำอุทานออกมาด้วยความรู้สึกพอใจ

"ถ้าเป็นงั้น เราจะไม่ฆ่ามอนเตอร์โคลนกันอีกงั้นเหรอ?"ลูหลี่ไม่เห็นด้วยเลยกับการฟาร์มที่ด่านหน้าป้องกันนี้ ด้วยระดับความแตกต่างที่มากจนเกินไป รางวัลต่างๆที่ได้รับมาจึงโดนจำกัด

หลังจากต่อสู้กันมานานกว่าครึ่งชั่วโมง จำนวนของผู้เล่นทั้งสองฝ่ายก็ลดลงไปมาก

ในเวลานั้นเอง ราชาโมร็อคก็ได้ก้าวไปข้างหน้า เขายืนอยู่ที่ด้านหน้าของด่านหน้าและกระแทกดาบของเขาอย่างรุนแรงไปที่รั้ว เศษไม้ปลิวไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เพราะรั้วไม้ทั้งหมดถูกทำลายในทันที

จากนั้นเอง จ่าสิบเอกลูคัสก็ได้ยกดาบใหญ่ของเขาขึ้นและพยายามทรงตัวเอง

ราชาโมร็อคได้เข้าไปหาลูคัสโดยเดินไปแค่สามก้าวและทุบเขา ลูหลี่สามารถมองเห็นถึงความแตกต่างของความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว เมื่อจ่าสิบเอกลูคัสได้ถูกส่งให้ลอยไปชนเข้ากับหอคอย

แม้ว่าเขาจะแพ้ในการต่อสู้โดยตรง แต่ลูคัสก็ยังไม่ตาย ซึ่งหัวหน้าดาริลก็เป็นคนที่รับช่วงต่อ เขากำลังแบกดาบขนาดใหญ่และถือมันเพื่อที่จะใช้มันจัดการกับศัตรูของเขา

"ปล่อยตัวอิทาเนียซะ เจ้าพวกมนุษย์ไร้ยางอาย"ราชาโมร็อคกล่าวเสียงดังสนั่นลั่น

"เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ในหมู่บ้านของเราและเราต้องจับกุมตัวเธอไว้!"หัวหน้าดาริลปฏิเสธที่จะมอบตัวคืนให้ไป นอกจากยักษ์พวกนี้จะมีพลังที่แข็งแกร่งแล้ว ทักษะการต่อสู้ก็ยังมากจนน่าเหลือเชื่อด้วย

อย่างไรก็ตาม พวกมันยังมีจุดอ่อนในการต่อสู้อยู่

"นี่เป็นเรื่องที่ถูกใส่ร้าย!"ราชาโมร็อคดูเหมือนรู้ว่าพูดต่อไปคงจะไม่มีประโยชน์อะไรเ เขาเลยเข้าไปต่อสู้หัวหน้าดาริลโดยตรง

ชัยชนะค่อยๆเอียงไปทางยักษ์เรื่อยๆ เพราะยักษ์พวกนี้ถูกฝึกให้เป็นนักรบตั้งแต่เกิด

ในเวลานั้นเอง ลูคัสได้กลับไปที่สนามรบอีกครั้ง เพื่อต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับหัวหน้าของเขา ด้วยการต่อสู้กับราชาโมร็อค ในขณะที่การปะทะกันได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ผู้คนที่ล้มตายก็ได้มากขึ้นเรื่อยๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด