จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 414
บทที่ 414: ภารกิจของนักฆ่า
"ฮะฮะ ไม่รู้สิ" ลูหลี่ไม่เห็นด้วยกับคำที่สแควรูทสามบอกพร้อมกับยิ้มออกมา "ถ้านายคิดจริงๆว่าคนอย่างเธอจะสนใจคนอย่างฉัน นายคงจะต้องบ้าไปแล้วแน่"
"ลูหลี่" สแควร์รูทสามกล่าวออกมาอย่างจริงจังว่า "นายไม่ควรที่จะขัดใจนักธุรกิจนะ"
"หยุดคิดถึงเรื่องนี้ได้แล้ว ฉันจะส่งสูตรให้นายในเร็วๆนี้ หาคนที่เชื่อใจได้ก็พอ หลังจากที่คนๆนั้นได้ได้เรียนรู้สูตรแล้ว เขาจะไม่ได้มีโอกาสพักหรือไปเคลียร์ดันเจี้ยนสักพัก"
โครงสร้างของสมาคมกฏแห่งดาบยังไม่สมบูรณ์นัก ซึ่งผู้เล่นมืออาชีพที่อยู่ในสมาคมส่วนหนึ่งก็ยันไม่ได้เซ็นสัญญากัน
ผู้เล่นมืออาชีพที่ไม่ได้ลงนามเซ็นสัญญา ก็จะไม่ได้รับเควสหลักของสมาคม
ในช่วงเวลาที่โพชั่นเลือดระดับสูงยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายกัน การให้สูตรผสมนี้กับคนที่เชื่อใจได้มาก ก็เป็นหนทางที่ดีที่สุด
นอกจากนี้แล้ว หลังจากที่พวกเขาได้เรียนรู้สูตรโพชั่นแล้ว พวกเขาก็จะสามารถนำโพชั่นเลือดระดับสูงให้กับทีมระดับสูงที่ต้องการพวกมันได้
"ผ่อนคลายน่า ฉันรู้จักผู้เล่นที่มีทักษะอาชีพพวกนี้เยอะพอสมควร ฉันจะรับพวกเขาเข้าสมาคมเอง "สแควรูทสามเป็นส่วนหนึ่งของวงการเกมมาแล้วหลายปี ดังนั้นแล้ว เขาจึงรู้จักกับผู้คนมากมาย
ลูหลี่รู้สึกโล่งใจขณะที่เขาเก็บสูตรไว้ในกระเป๋าของเขา
ในตอนนี้เอง เขาก็คิดได้ว่ากุ้งมังกรพวกนั้นคงจะยอมแพ้เกี่ยวกับการไล่ตามตัวเขาแล้ว
เขาจึงได้ค่อยๆลงไปในน้ำและมองหากล่องสมบัติอีกครั้ง
คราวนี้ต้องใช้เวลาเพิ่มอีกนิดหน่อย ลูหลี่ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะหากล่องสมบัติที่ปกคลุมไปด้วสาหร่าย ถ้าเขาไม่ได้มองไปทั่วๆอย่างรอบคอบ เขาคงจะไม่พบกับมันอย่างแน่นอน
เขาไม่รู้เลยว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น ลูหลี่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมอีกครั้งว่ามีมอนเตอร์ไหม ก่อนที่จะเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ๆเพื่อเปิดมัน
บ้าเอ้ย อุปกรณ์อีกแล้ว
เทพเจ้าแห่งกล่องสมบัติต้องเกลียดเขาแน่ๆเลย
กล่องสมบัติระดับเงินมักจะดรอบอุปกรณ์ระดับเงิน หรืออีกอย่างหนึ่ง มันก็จะดรอบอุปกรณ์พิเศษหรือไอเท็มระดับสูง ซึ่งล้วนแล้วแต่มีค่าเทียบเท่ากับอุปกรณ์ระดับเงิน
ลูหลี่ดึงเสื้อคลุมพ่อมดออกมาและโยนเข้าไปใส่ในกระเป๋าของเขา ก่อนที่จะค้นหาในกล่องสมบัติต่อ คราวนี้ เขารู้สึกว่ามือของเขากำลังคลำบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างออกไป มันเป็นสร้อยคอจริงๆ
เมื่อลูหลี่ได้มองลูกปัดสีฟ้ามันวาว เขาก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่งหลังจากได้รับสิ่งที่เขาต้องการแล้ว เขาก็ไม่ได้ออกไปจากทะเลสาบแห่งนี้ในทันที เขายังคงสำรวจไปทั่วทั้งทะเลสาบ เผื่อว่ายังมีกล่องสมบัติเหลืออยู่
หลังจากกลับมาที่ทะเลทางใต้แล้ว ลูหลี่ก็ได้ส่งสูตรผสมให้กับสแควรูทสามและไปยังโรงเตี๊ยมพร้อมกับสร้อยคอ
ธุรกิจโรงเตี๊ยมไม่ได้ดีเท่ากับครั้งสุดท้ายที่ลูหลี่มาที่นี่ ในตอนนี้มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น บางคนก็กำลังนินทาและบางคนก็กำลังอ่านหนังสือที่ลูหลี่ไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่
คนที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ส่วนสาเหตุที่คนอายุน้อยๆมักไม่พบอยู่ที่นี้ คงเป็นเพราะว่ากลัวที่จะหลงทาง
เจ้าของร้านกำลังนอนอยู่บนเคาน์เตอร์ เสียงกรนของเขาดังไปทั่วห้อง
พนักงานเสิร์ฟสาวเองก็ยังคงนั่งเบื่อที่เคาน์เตอร์ขณะที่เคาะเหรียญที่อยู่ในมือของเธอเอง ท่าทางของเธอค่อนข้างดูหมองมัว แต่ลูหลี่ก็แทบจะสังเกตุเห็นมันเลย
ขณะที่ลูหลี่เข้ามาขางใน เธอก็เก็บเหรียญไว้
"เฮ้เอลฟ์ ท่านต้องการดื่มอะไรงั้นเหรอ?"พนักงานเสิร์ฟทักทายลูหลี่ราวกับว่าเธอไม่รู้จักเขาและส่งแก้วน้ำให้เขาก่อนที่เขาจะได้พูดซะอีก
จุดที่ลูหลี่เลือกนั่งนั่นค่อนข้างที่จะไกลกว่าคนอื่น เขาสั่งไวน์และกระดกมันพร้อมกับพูดว่า "อีกแก้ว ขอบคุณ"
"ดูเหมือนท่านจะชอบไวน์จริงๆ ท่านชื้อให้ข้าด้วยหนึ่งแก้วได้ไหม?"พนักงานเสิร์ฟสาวถามด้วยรอยยิ้ม
"ด้วยความยินดีเลย"เห็นได้ชัดเลยว่าลูหลี่ไม่ปฏิเสธ
พนักงานเสิร์ฟก็ได้นำแก้วมาสองแก้ว เธอให้มันกับลูหลี่แก้วหนึ่งและของเธอเองแก้วหนึ่ง
"นี่คือคำขอบคุณสำหรับครั้งก่อน ข้าได้พบกับสิ่งเล็กๆนี้และข้าก็ไม่ได้ใช้มัน ข้าหวังว่าคุณจะชอบมัน "ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาเอาสร้อยคอออกมาและวางไว้บนโต๊ะ
พนักงานเสิร์ฟสาวไม่ได้สนใจมันในตอนแรก แต่เริ่มให้ความสนใจกับมัน เมื่อสังเกตเห็นความแวววาวของสร้อยคอ
เมื่อเธอเห็นระดับของไอเท็ม มันจึงเป็นที่ชัดเจนเลยว่าเธอชอบของขวัญชิ้นนี้ "เนื่องจากมันไม่มีประโยชน์สำหรับท่าน ข้าก็จะรับไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไม่ต้องจ่ายเงินสำหรับแก้วไวน์สามแก้วนี้หรอกนะ"
"ข้าดีใจที่เจ้าชอบมัน ถ้าข้ากลับไปที่นั่นอีกครั้ง ข้าจะไปดูมันอีกที เผื่อว่ามีมันอีก"
ลูหลี่ไม่ต้องกังวลเลยว่าเธอจะไม่ชอบเขาอีก ในความเป็นจริงแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและพนักงานเสิร์ฟสาวก็ค่อนข้างดีพอสมควรเลยทีเดียว
ไม่อย่างนั้น พนักงานเสิร์ฟสาวคงจะไม่ช่วยเขาสู้กับมอนเตอร์
ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีกมากนัก เธอแค่ถามเขาว่าเขาได้สร้อยคอมาจากไหน ลูหลี่ก็ตอบตามความจริงไป แต่ไม่ได้บอกเรื่องที่เขาจงใจไปที่นั่นเพื่อที่จะหาไอเท็มชิ้นนี้ให้กับเธอ
หลังจากกินไวน์เสร็จแล้ว แขกคนใหม่ก็ได้เข้ามายังโรงเตี๊ยมและพนักงานเสิร์ฟสาวก็ได้ลุกขึ้นจากไป
ลูหลี่ลอกกระดาษออกจากก้นแก้วและออกไปจากโรงเตี๊ยม หลังจากที่จ่ายเงินค่าเครื่องดื่มของเขาไปแล้ว
ภารกิจ: ลอบสังหาร
เป้าหมาย:รวบรวมสัญลักษณ์ซินดิเคท 10 ชิ้น
รายละเอียด: ซินดิเคทเป็นองค์กรโจรชั้นสูงผู้ชั่วร้าย พวกขุนนางชั่วพวกนี้สามารถพบเจอได้ทั่วทุกอาณาจักร จากข่าวล่าสุดที่ได้รับมา กลุ่มสมาชิกซินดิเคชันกำลังรวมตัวกันอยู่ในซากปรักหักพังของปราสาทดันโฮลที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทาเรนมิล รวบรวมสัญลักษณ์ซินดิเคทอย่างน้อย 10 ชิ้นจากพวกมัน
สมาชิกขององค์กรซินดิเคทต้องตาย!
ความต้องการของเควส: สำเร็จในทันที จำนวนผู้เข้าร่วมด้วยต้องไม่เกินสามคน
การส่งเควส: ผู้ประสานงานของคุณ
รางวัลเควส: ค่าประสบการณ์ ชื่อเสียง อุปกรณ์
โชคดีที่เขาไม่ได้ถูกขอให้ลอบสังหารพวกขุนนางนักฆ่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่แข็งแกร่งก็ตาม แต่พวกเขามักจะมีผู้พิทักษ์อันแสนองอาจปกป้องพวกเขาอยู่
ลูหลี่รู้สึกราวกับว่า เควสนี้เกี่ยวข้องกับของขวัญที่เขามอบให้กับพนักงานเสิร์ฟสาว
แน่นอนว่าภารกิจนี้ไม่มีทางที่จะทำได้อย่างง่ายดาย สมาชิกซินดิเคทเป็นมอนเตอร์ระดับ 35 ซึ่งหมายความว่า พวกมันมีระดับที่สูงกว่าเขาถึงสี่ระดับ ซึ่งมันจะลดผลของการล่องหนของเขาลงด้วย
หากต้องต่อสู้กับมันแล้ว ทักษะเชปช็อตของลูหลี่เป็นเพียงโอกาสเดียวของเขา
โชคดีที่เขาสามารถหาคนมาช่วยได้ แต่เขาสามารถหามาเพิ่มได้แค่สองคน ว่าแต่เขาจะเอาใครมาดีล่ะ?
ถ้าเขาพามูนไลท์และมาสเรนมา มันจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากมาก เพราะพวกเขาไม่มีทักษะเชปช็อตเหมือนเขา
ในเวลานี้เอง เสียงเครื่องสื่อสารของเขาก็ได้ดังขึ้นมา
สแควรูทสามงั้นเหรอ? เขาพบกับใครสักคนที่ไว้ใจให้เรียนรู้ทักษะแล้วใช่ไหม?
แต่สิ่งที่เขาคิดกลับไม่ใช่เลยสักนิด มันเป็นสายจากนักธุรกิจสาวแฟรี่น้ำ
"ฉันได้บอกกับพเนจรให้ส่งกลยุทธไปให้เธอแล้ว" ลูหลี่เป็นคนกล่าวก่อน เพราะเขารู้สึกกลัวแฟรี่น้ำเล็กน้อย
แฟรี่น้ำค่อนข้างที่จะเป็นคนดี เธอช่วยเขาโดยการให้เขายืมอุปกรณ์ของเธอ เพื่อที่จะเอาชนะสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ เธอมีทั้งความใจกว้างและความสวยงาม ... ดังนั้นแล้ว มันจึงเป็นเรื่องยากที่ลูหลี่จะปฏิเสธเธอตลอดเวลาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนที่พวกเขาได้เป็นพันธมิตรกันแล้ว
"ฉันโทรหานาย เพราะมีบางอย่างที่ฉันอยากจะถามนาย ซึ่งนายก็น่าจะรู้" แฟรี่น้ำก็เงียบสักครู่ ก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า "แต่ก็ขอบคุณสำหรับกลยุทธ์นี้ เราได้เคลียร์ดันเจี้ยนไปแล้ว ฉันมีคำขอร้องอยู่อย่างหนึ่ง"
"โอ้ อะไรงั้นเหรอ?"ลูหลี่รู้สึกหงุดหงิดพเนจรเล็กน้อย เขาไม่ได้บอกพเนจรงั้นเหรอว่า อย่าให้มันกับเธอเร็วเกินไป?
เขาอาจจะเป็นอัมพาตเมื่อวิ่งเข้าไปหาเธอ ซึ่งสอดคล้องกับทัศนคติปกติของเขาต่อสตรี
กลุ่มระดับสูงของสมาคมกฏแห่งดาบนั้นต้องดิ้นรนเป็นอย่างมากในการเคลียร์ดันเจี้ยน ส่วนทีมของแฟรี่น้ำนั้นเป็นทีมที่สองที่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนทั้งหมดได้สำเร็จ ในสถานการณ์ที่พวกเขาทั้งคู่มีข้อมูลเท่ากัน ทีมระดับสูงของสมาคมดิสซี่คอสแน่นอนว่าจะต้องแข็งแกร่งเหนือกว่าทีมระดับสูงของสมาคมกฏแห่งดาบ