จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 408
บทที่ 408: คู่รัก (3)
"หยุดสร้างความเสียหายใส่ไวท์มีนได้แล้ว ซากุระ โจมตีไปที่มอแกรนแทนเลย ทุกๆคนให้ความสำคัญกับ HP ของบอสด้วย ต้องดูให้แน่ใจว่าอย่าให้เลือดของไวท์มีนนั้นต่ำกว่ามอแกรน ไม่อย่างนั้นเขาจะเข้าสู่สถานะคลั่ง
มีเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่จะทำให้บอสเข้าสู่สถานะคลั่ง ดังนั้น เพื่อที่จะสามารถต่อสู้ได้อย่างปลอดภัย ลูหลี่จึงต้องเผยความลับบางส่วนของกลุยทธที่มีอยู่ในอนาคตออกมา
ทีมของพวกเขาสร้างความเสียหายได้ต่ำและฮีลเลอร์ของพวกเขาก็ตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตัวของฮาชิจังเอง เธอทั้งต้องโจมตีและต้องสร้างความเสียหายไปพร้อมๆกัน ดรูอิดประเภทนี้มักจะต่อสู้ได้นาน แต่จะไม่สามารถฮีลได้ดีเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่า พเนจรนั้นมีเทคนิคที่ดีพอสมควร เขาคงจะตายไปนานแล้ว
"ซากุระ วางโทเทมฟื้นฟูมานาและใช้กระหายเลือดในตอนที่มันไม่มีคูลดาวน์"
ในขณะที่ลูหลี่สร้างความเสียหายใส่ไวท์มีนด้วยตัวเขาเอง เขาก็ยังใช้เวลานี้ในการแนะนำคนอื่น
"มันหมดระยะเวลาคูลดาวน์แล้ว นายต้องการที่จะให้ฉันใช้มันตอนนี้เลยไหม?"ซากุระวางเสาโทเทมมานาระหว่างฮาชิจังและมาสเรน เพื่อที่จะให้พวกเธอทั้งคู่สามารถฟื้นฟูมานาได้
"กลับมาโจมตีไวท์มีนเลย และเมื่อฉันนับสาม ให้ใช้ทักษะกระหายเลือด ทุกๆคนใช้ทุกๆทักษะของพวกเนายเลย ส่วนมาสเรนเองก็อย่าลืมที่จะใช้เงาปีศาจด้วย หากมันพร้อมใช้แล้ว "
สมองของลูหลี่นั้นไม่ใช่เครื่องคิดเลข ดังนั้นแล้ว มันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาเลยที่จะรู้ถึงสถานการณ์ของคนอื่นๆอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การต่อสู้ที่รวดเร็วเช่นนี้
ด้วยทักษะกระหายเลือด มันทำให้บอสสองคนมีเลือดต่ำกว่า 50% แทบบจะในทันที
"ระวังตัวด้วย ให้ร้องออกมานะ หากพวกนายคนไหนถูกควบคุม"
ลูหลี่ได้คำนวณเวลาและแน่ใจแล้วว่า พวกเขากำลังจะมาถึงช่วงเวลาที่วิกฤตอีกครั้ง
"ถูกควบคุมที่นายพูดถึงนั้นมันหมายความว่าอะไรงั้นเหรอ?"ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เขาพูดเลยสักคน
"ประมาณว่า นายถูกใครบางคนควบคุมการกระทำของตัวนายเอง อย่างเช่น โจมตีเพื่อนร่วมทีมหรือรักษาบอส "ลูหลี่อธิบายอย่างอดทน เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังเป็นพี่เลี้ยงเด็ก
"ความฝัน ความฝัน! เธอกำลังพยายามที่จะฆ่าฉันงั้นเหรอ?!"ฮาชิจังร้องออกมา
"ฉัน... ฉัน... ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ต้องการที่จะโจมตีเธอเลยนะ "
ความฝันที่เหลืออยู่ถูกควบคุมและลูกธนูของเธอก็ได้มุ่งเป้าไปที่ฮาชิจัง นอกจากนี้แล้ว สัตว์เลี้ยงของเธอก็ยังไล่ตามฮาชิจังไปติดๆ
"ฮาชิจัง วิ่งไปข้างหน้าความฝันที่เหลืออยู่ ทำให้สัตว์เลี้ยงของเธอใกล้กับตัวเธอด้วย ดอกไม้ แช่แข็งพวกเธอซะ "ลูหลี่สั่ง
ทักษะของไวท์มีนเป็นที่รู้จักในชื่อ ครอบงำความคิด และสามารถควบคุมผู้เล่นได้สิบวินาที
ฟรอสโนวา ของดอกไม้อ้างว้างเองก็สามารถแช่แข็งคนได้เป็นเวลา 8 วินาที ดังนั้นแล้ว มันจึงเป็นการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมาก
อย่างไรก็ตาม ความฝันที่เหลืออยู่ก็ยังสามารถยิงธนูได้อีก เธอมีชุดอุปกรณ์ที่ดีมาก ดังนั้นแล้ว การโจมตีทั้งหมดของเธอจึงสร้างความเสียหายได้สูงมาก ทุกๆคนจึงได้ออกจากระยะยิงของเธออย่างรวดเร็ว
"ระวังทักษะการอุทิศที่อยู่บนพื้นล่ะ ดื่มโพชั่นของพวกนายเลย ในตอนที่ทักษะอุทิศของบอสติดคูลดาวน์ และไม่ต้องรอฮีลเลอร์รักษา พวกนายไม่เห็นเหรอว่า มานาฮีลเลอร์ของพวกเรากำลังจะหมดลงแล้ว? อย่าพึ่งใช้ทักษะลดความเสียหายตอนนี้ ดอกไม้ โล่ของนาย ... ไม่เป็นไร นายใช้มันแล้ว ถ้างั้นแล้วก็อย่าลืมเก็บทักษะตู้เย็นไว้ด้วย ในเวลาที่บอสทั้งคู่ใช้ทักษะอัลติเมทของพวกเขา"
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างให้อยู่ในการควบคุม หัวหน้าปาร์ตี้ที่ดีจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องปรับตัวให้ได้ในทุกๆสถานการณ์
เทคนิคและกลยุทธจะไม่มีประโยชน์เลยเมื่อต้องเจอกับอัลติเมทของบอสสองคนนี้ สิ่งเดียวที่สามารถทำได้คือใช้ทักษะลดความเสียหาย
บอสทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกันในขณะที่คลื่นไฟพุ่งมาจากทางด้านซ้ายและทางด้านขวาของพวกเขาก็เป็นคลื่นน้ำ ผู้เล่นทุกๆคนที่ถูกทักษะนี้ ล้วนแล้วแต่ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง
"ใช้ทักษะลดความเสียหาย!"
ลูหลี่ใช้ทักษะก้าววายุของเขาเอง และหลังจากที่เขาอมตะไปชั่วครู่หนึ่ง เขาก็ได้เปิดใช้เอฟเฟคโล่ที่อยู่บนเสื้อคลุมของเขาและความเสียหายทั้งหมดก็หายไป
ดอกไม้อ้างว้างทำตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ของลูหลี่ และใช้ทักษะตู้เย็น ในขณะที่คนอื่นๆเองก็ใช้ทักษะลดความเสียหายของตัวเอง เพื่อที่จะเอาตัวรอด ซึ่งทักษะผสมของบอสทั้งสองคนที่ใช้ออกมานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นี้จึงเป็นจุดที่ทำให้ทีมส่วนใหญ่นั้นถูกกวาดล้างกัน
เนื่องจากทุกคนนั้นยุ่งอยู่กับการเอาตัวรอดอยู่ ไวท์มีนจึงมีโอกาสในการรักษามอแกรน
ทักษะรักษาของเธอฟื้นฟู HP 10,000 จุดให้แก่เขา
หนึ่งหมื่นจุดนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนัก แต่พวกเขาต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในการจัดการกับบอส สิ่งที่วิกฤตกว่านั้นคือ การรักษานั้นทำให้ไวท์มีนนั้นมีเลือดต่ำกว่ามอแกรน
บ้าคลั่ง!
มอแกรนเห็นว่าภรรยาของเขาได้รับความเสียหายมากกว่าตัวของเขาเอง ดังนั้นแล้ว เขาจึงได้บ้าคลั่ง
"****!"ลูหลี่รู้สึกหมดหนทาง
พวกเขาได้พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อควบคุมเลือดของบอส ใครมันจะไปรู้กันว่าปัญหาแบบนี้จะเกิดขึ้น?
ไม่มีอะไรที่จะต้องไปโทษพเนจรและซากุระที่ไม่ใช้ทักษะขัดจังหวะเลย พวกเขาในตอนนี้ต้องหาทางแก้ปัญหานี้กันก่อน หรือไม่อย่างนั้นทั้งทีมก็แค่ถูกกวาดล้างแค่นั้น
"ซีบรีส ใช้ทักษะลดความเสียหายของนายที่มี ลากมอแกรนให้เขาหันหลังให้กับพวกเรา อาชีพโจมตีระยะใกล้ถอยหลังไปเล็กน้อย อาชีพโจมตีระยะไกลโจมตีเขาได้เลย "ลูหลี่นั้นหยุดโจมตีนานแล้ว ไม่อย่างนั้นแล้วเขาคงจะหาเรื่องตาย หากเขายังคงสร้างความเสียหายให้แก่ไวท์มีนต่อ
ตั้งแต่จุดนี้เป็นต้นไป ยังคงมีอีกหลายๆด่านที่ต้องเจอในอนาคต สิ่งที่พวกเขากำลังเจออยู่ในตอนนี้ เป็นแค่แบบพื้นฐานเท่านั้น
ถ้าพวกเขาถูกกวาดล้างอีกครั้งและอีกครั้ง ฝีมือของพวกเขาก็จะพัฒนาไปยิ่งขึ้น ซึ่งหากพวกเขาโชคดีพอ พวกเขาก็จะสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้
อย่างไรก็ตาม ลูหลี่ไม่ต้องการที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนซ้ำเป็นครั้งที่สาม เพราะเขามีคู่มือการเคลียร์ดันเจี้ยนที่ดีที่สุดและเขาก็เป็นทีมที่เก่งที่สุดในเกมขณะนี้ ความพ่ายแพ้ของพวกเขาในตอนนี้ยังไม่ได้แน่นอนเลยสักหน่อย
ไม่เพียงแต่ความเสียหายที่มอแกรนสร้างนั้นจะมากขึ้น หลังจากที่เขาบ้าคลั่ง แต่การโจมตีของเขายังติดเอฟเฟคฟัน ซึ่งนั้นทำให้ศัตรูที่อยู่ใกล้ๆได้รับความเสียหายด้วย สัตว์เลี้ยงของความฝันที่เหลืออยู่ตายในทันที เพราะว่าเธอไม่อาจที่จะเรียกมันกลับมาได้ทันเวลา
นี่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของคู่มือเลยทีเดียว ถ้าอาชีพต่อสู้ระยะใกล้ไม่ถอยออกมา ฮีลเลอร์คงจะต้องรับภาระหนักอึ้งเพิ่มกว่านี้แน่
มีอาชีพโจมตีระยะไกลแค่สามคนเท่านั้น ความฝันที่เหลืออยู่ ดอกไม้อ้างว้าง และลูกชิ้นงา ทั้งสามคนได้สร้างความเสียหายใส่มอแกรนช่วยกัน ในขณะที่มาสเรนและฮาชิจังก็ช่วยรักษาอาเซอร์ซีบรีส ส่วนไวท์มีนเอง พเนจรก็ลากเธอไปรอบๆ ในขณะที่ลูหลี่และซากรุะวิ่งไปข้างหลังเธอ เพื่อที่จะขัดจังหวะเวทมนตร์ที่เธอกำลังจะร่าย
พวกเขาไม่ได้สูญเสียสมาชิกเลย และตราบเท่าที่แท๊งค์หลักและฮีลเลอร์สามารถทนบอสที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ได้ พวกเขาก็จะผ่านด่านนี้ไปได้
เมื่อ HP ของมอแกรนลดลงต่ำกว่าไวท์มีน การบ้าคลั่งของเขาก็ได้สิ้นสุดลง
นี่ช่างเป็นด่านที่น่ากลัวน่าดู แต่ทีมสิบคนของพวกเขาก็ผ่านมันไปได้
"ต่อจากนี้ เก็บทักษะลดความเสียหายของพวกนายไว้ด้วย ใครก็ตามที่ไม่มีทักษะลดความเสียหาย หลังจากสามสิบวินาที ให้ออกจากห้องโถงเลย "ลูหลี่สั่ง
หลังจากที่ทุกคนได้คำนวณคูลดาวน์ของพวกเขาแล้ว ลูกชิ้นงา ซากุระและความฝันที่เหลืออยู่ก็ได้หันหัวกลับไปและวิ่ง
นี้ไม่ได้เป็นวิธีที่ดีเลยในการหลีกเลี่ยงทักษะของบอส การวิ่งหนีไปของพวกเขานั้นจะเป็นการลดความเสียหายที่สร้างขึ้นกับบอส เมื่อพวกเขาได้สูญเสียคนสร้างความเสียหายไปส่วนหนึ่งแล้ว เลือดของบอสที่เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นปัญหาจริงๆ
แน่นอนพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก หากไม่มีทักษะลดความเสียหาย ก็ไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะสามารถเอาตัวรอดจากทักษะอัลติเมทของบอสไปได้
ทักษะอัลติเมทได้ถูกใช้ออกมา แต่ทุกๆคนก็เอาตัวรอดได้ด้วยทักษะลดความเสียหายของพวกเขาเอง อย่างไรก็ตาม บอสทั้งสองนั้นฟื้นฟูเลือดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตัวมอแกรนเอง
"ทุกๆคน โจมตีไปที่มอแกรน" ลูหลี่กล่าวในขณะที่เขามุ่งโจมตีไปที่พาลาดิน และเริ่มสร้างความเสียหายอย่างมาก นอกจากนี้แล้ว เขายังหันศรีษะกลับมาเพื่อดูไวท์มีน ด้วยความกลัวที่ว่าเธอจะใช้ทักษะรักษาหรือชุบชีวิตแบบกลุ่ม
"มานาของฉันใกล้จะหมดแล้ว!"มาสเรนตะโกนออกมาด้วยความกังวล
"อยู่เฉยๆไว้ ไม่ต้องกังวล ถ้าเธอไม่มีมานา ก็แค่ดื่มโพชั่น ซากุระวางมานาโทเทมในตอนที่เธอมีมันได้เลย แล้วอีกนานแค่ไหนที่ทักษะเงาปีศาจจะหมดคูลดาวน์?"ลูหลี่แทบจะไม่ได้มีเวลาที่จะเช็ดเหงื่อที่อยู่บนใบหน้าของเขาเลย เขาเงยหน้าขึ้นและดื่มโพชั่นเลือดระดับกลาง
หากพวกเขามีโพชั่นระดับสูง พวกเขาคงจะไม่ได้ลำบากขนาดนี้
"เงาปีศาจยังมีระยะเวลาคูลดาวน์อีกหนึ่งนาที ส่วนโพชั่นก็สองนาที ฉันจำเวลาได้ไม่ค่อยแม่นยำนัก "แถบมานาของมาสเรนนั้นแทบจะหมดเกลี้ยงแล้ว ดังนั้นแล้ว เธอจึงทำได้เพียงแค่ใช้ทักษะรักษาที่ใช้มานาน้อยๆ
มาสเรนเพิ่มระดับเงาปีศาจอยู่ที่ระดับ 5 แล้ว ดังนั้น คูลดาวน์จาก 5 นาทีจึงลดลงมาเหลือ 200 วินาที
"พเนจรยื้อไว้ที ฮาชิจังรักษาซีบรีส ซีบรีส นายมีทักษะลดความเสียหายหรือยัง?"ลูหลี่นั้นได้ตรวจสอบสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ เขาเริ่มไม่แน่ใจอีกต่อไปแล้ว
"ฉันยังคงมีทักษะลดความเสียหายเหลืออยู่ หนึ่งทักษะกับอีกหนึ่งเอฟเฟคของอุปกรณ์"
อาเซอร์ซีบรีสไม่จำเป็นที่จะต้องตรวจหน้าต่างทักษะหรือหน้าต่างอุปกรณ์ของเขาเลย เพราะเขานั้นนับเวลาคูลดาวน์ตลอดเวลา
"เอาล่ะ ยื้อไว้จนกว่าทักษะเงาปีศาจของมาสเรนจะไม่มีคูลดาวน์ ทุกๆคน ดื่มโพชั่นและใช้ทักษะทุกอย่างเท่าที่มีเลย เราจะต้องเอาชนะมันให้ได้"