จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 402
บทที่ 402: การฝึกทั้งปาร์ตี้
"ไม่มีความลับอะไรที่ซ่อนจากข้าไปได้ ชีวิตอันไร้ค่าของพวกเจ้าจงถูกเผามอดไหม้ซะ "
เมื่อคำพูดที่ฟังดูคุ้นเคยออกจากปากของบอส พวกเขาทั้งหมดต่างก็พยายามมุ่งความสนใจไปที่มันอย่างเต็มที่
ในตอนนั้นเอง แสงไฟก็ได้ปรากฏขึ้นในขณะที่มีคนห้าคนกำลังติดไฟอยู่
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป พวกเขาได้เปลี่ยนตำแหน่งกันแล้ว ซึ่งดีบัพที่ทั้งสามคนนั้นโดนก็ได้หายไปในทันที
"มาสลบดีบัพ ลูกชิ้น พเนจรลบดีบัพ มูนไลท์"ลูหลี่สั่ง
ทั้งมาสเรนและพเนจรก็ได้ใช้ทักษะใส่คนทั้งสอง เมื่อลูหลี่สั่งออกมา
ในคราวนี้ HP ของลูกชิ้นงาและพเนจรแทบจะหมดหลอดแล้ว แต่ไม่มีใครสักคนที่ตายเลย นั้นหมายความว่า กลยุทธ์ที่ลูหลี่ปรับเปลี่ยนนั้นเริ่มมีผลแล้ว
ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการตอบสนองที่ต้องรวดเร็วพอสมควร การทำสำเร็จแค่หนึ่งครั้ง นั้นไม่ได้พิสูจน์อะไรมากนัก
ลูหลี่ไม่ได้รีบร้อนอะไรนัก ดังนั้นแล้ว เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก เมื่อพวกเขาถูกกวาดล้างเป็นครั้งที่สอง
แม้ว่าลูหลี่จะไม่ได้พูดอะไร แต่ทุกๆคนก็ไม่ได้รู้สึกดีนัก เพราะทุกคนต่างก็รู้สึกว่าต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
ระยะเวลาบัพของลำแสงสีแดงหมดลงแล้ว และลูหลี่ก็ได้ออกไปจากดันเจี้ยนพร้อมกับจัดการพาลาดินสีแดง เพื่อที่จะเอาลำแสงสีแดงมา บัพของลำแสงสีแดงนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้และลูหลี่คงจะต้องออกมาเอาอีก ก่อนที่พวกเขานั้นจะทำเควสสำเร็จ
ในขณะที่เขากำลังจะทำแบบนั้นเอง แฟรี่น้ำก็ติดต่อเขาอีกครั้ง เพื่อถามเกี่ยวกับกลยุทธคลังแสง ลูหลี่ปฏิเสธข้อเสนอของเธอแทบจะในทันที
"นี่เป็นเพียงแค่การผูกปมเล็กๆน่า" ลูหลี่คิดในใจของเขาในขณะที่พวกเขาถูกกวาดล้างเป็นรอบที่สาม มันคงจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ เขาอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ไม่ใช่ว่าพวกเขานั้นไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะได้ แต่เป็นเพราะมีผู้เล่นที่อ่อนแอบางคนเท่านั้น เวลาในการตอบสนองและการประสานงาน ... นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้จากการเกิดใหม่หรือแค่คิด ทักษะพวกนี้จำเป็นที่จะต้องฝึกฝนอย่างช้าๆ
โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ถูกกวาดล้างโดยเปล่าประโยชน์ ลูหลี่นั้นมองเห็นความหวังอย่างมาก เมื่อทุกๆคนเริ่มทำได้ดีขึ้น
ในท้ายที่สุด พวกเขาก็เริ่มรอบที่สี่
"วันนี้เราไม่มีเวลาเหลือแล้ว เราจะจัดการกับวิเชสเป็นครั้งสุดท้าย และถ้าเราทำพลาด เราค่อยมาต่อในวันพรุ่งนี้ พักผ่อนให้สบายละหลังจากที่ออกจากระบบไป อย่าใส่ใจอะไรเรื่องนี้มากนักเลย "ลูหลี่กล่าวอธิบายอย่างใจเย็น ก่อนที่เขาจะเริ่มต่อสู้ จากนั้นเอง เขาก็ได้เพิ่มกำลังใจให้กับทีมของเขาโดยการพูดว่า "สมาคมอื่นๆยังคงติดอยู่ใต้ขวานของเฮโรดอยู่เลย"
"ใช่ๆ ถ้าเราถูกกวาดล้างแบบนี้ สมาคมอื่นๆก็คงจะแย่ยิ่งกว่านี้"
แม้แต่พเนจรเองก็ยังเลิกที่จะดูถูกคนอื่นๆ มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก ที่จะได้ยินเขาให้กำลังใจคนอื่นๆ
แต่หากลองคิดเกี่ยวกับมันดู กลุ่มทหารรับจ้างซินซินไม่ได้เจอเรื่องแบบนี้เป็นเวลานานแล้ว
แตกต่างจากสมาคมอื่นๆมาก พวกเขานั้นเคลียร์ดันเจี้ยน โดยที่ไม่โดนกวาดล้างเกินสิบครั้งเลย
จากที่รู้มาในอดีตของลูหลี่ ดันเจี้ยนที่ใช้เวลาในการเคลียร์นานที่สุดคือ นัคซามัส
ในตอนนั้น ถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองของสมาคมเปียเรสซิตี้ และสมาคมอื่นๆก็ยังไม่แม้แต่จะไปถึงบอสตัวสุดท้ายเลย
ด้วยเหตุนี้แล้ว สมาคมเปียเรสซิตี้จึงมีชื่อเสียงอยู่มากมายเลยทีเดียว
แต่น่าเสียดายที่ไม่กี่วันหลังจากที่ได้รับการเคลียร์ครั้งแรก กลยุทธ์ของพวกเขาในการเคลียร์ดันเจี้ยนได้รั่วไหลออกไป เห็นได้ชัดเลยว่า สมาชิกระดับสูงของสมาคมมีหนอนบ่อนไส้
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกลยุทธ์อยู่ก็ตาม ทุกๆคนก็ไม่สามารถที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนกันได้หมด มันเป็นแบบนั้น จนกระทั่งบริษัทเกมได้ปรับระดับความยาก สูงสุดและฝันร้าย นั้นจึงทำให้สมาคมธรรมดาๆมีโอกาสกับเขาบ้าง
ทีมของลูหลี่ได้ถูกกวาดล้างเป็นรอบที่สามแล้ว และรอบนี้เขาก็ไม่ได้ห่วงอะไรเลย
ซึ่งในตอนนี้ลูหลี่ก็กำลังคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนสมาชิกหลักสองคนและสมาชิกของทีมระดับสูงสองคน หนึ่งในนั้นก็คือ ลิงอ้วนและคนที่สองก็คือ นูโอยู ซึ่งพวกเขาเป็นนักเวทย์ไฟที่มีค่าต้านทานไฟเป็นจำนวนมาก ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ การเคลียร์ดันเจี้ยนจะง่ายขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม หากมองจากมุมมองที่แตกต่างแล้ว ถ้าเขาไม่สามารถพาสมาชิกจริงๆเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ได้ มันก็จะเป็นแค่การแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น
มันเป็นสิ่งที่ดีที่จะใช้วิเชสในการลับคมลูกทีมของเขา
ความพยายามนี้ไม่ได้หนักเกินไปเลยสำหรับสมาชิกทีมของเขา ซึ่งลูหลี่เองก็ได้กล่าวว่าพวกเขาสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนในวันพรุ่งนี้ได้ ถ้าพวกเขาต้องการ ถึงแม้ว่าสมาคมอื่นๆจะตามพวกเขาทัน แต่พวกนั้นก็คงจะติดอยู่ที่เดียวกับพวกเขาอย่างแน่นอน
พวกเขาทนได้ถึงคลื่นไฟระลอกที่เจ็ด โดยที่ไม่เสียสมาชิกเลยสักคนเดียว ลูหลี่เช็ดเหงื่อจากหน้าผากของเขาอย่างนิ่งเฉย
นี่อาจจะเป็นรอบที่พวกเขาสามารถผ่านก็เป็นไปได้
เขาไม่ได้พูดอะไรเพื่อเพิ่มแรงกดดันเลย และแค่เล่นอย่างระมัดระวังก็พอ ส่วนคนอื่นๆก็ตระหนักและทำตามที่ลูหลี่ทำ
เมื่อระลอกที่สิบมาถึง ดอกไม้อ้างว้างไม่ได้ถูกลบดีบัพเร็วพอและเขาก็ตายไป ซึ่งบอสเองก็ยังคงยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขา
"ฮาชิจัง ชุบชีวิตดอกไม้ เราจะเอาชนะบอสกัน "ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"อะไรนะ? เราจะเอาชนะมันได้งั้นเหรอ?"
"อ๊า! เราจะทำได้งั้นเหรอ? เราจะทำสำเร็จจริงๆนะเหรอ?"
ปฏิกิริยาของความฝันที่เหลืออยู่และฮาชิจังดูจะเล่นใหญ่ไปหน่อย พวกเธอนั้นมีสมาธิอย่างเต็มที่จนถึงตอนนี้ และเมื่อพวกเธอได้ยินว่ากำลังจะเอาชนะบอสได้ พวกเธอก็ร้องตะโกนออกมา
ลูหลี่ลูบหัวของฮาชิจังและพูดว่า "อย่าตื่นเต้นเกินไปและรีบชุบชีวิตดอกไม้อ้างว้างเร็วๆสิ เลือดของบอสยังคงเหลือ 10% อยู่"
เมื่อฮาชิจังได้แกว่งแขนเพื่อร่ายทักษะ ทั้งทีมก็ได้กลับมาครบและได้ต่อสู้อีกครั้ง
วิเชสในตอนนี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อพวกเขาเลย ถึงแม้ว่าความเสียหายที่เขาสร้างนั้นจะมาก แต่พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเอฟเฟคพื้นที่อีกต่อไปแล้ว ด้วยการรักษาของมาสเรน ทีมของพวกเขาจึงสามารถจัดการกับมันได้อย่างรวดเร็ว
ค่า EXP ของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากสมาชิกสองคนของพวกเขาได้มีระดับ 30 แล้ว
"ฉันได้รับคะแนนทักษะล่ะ!"ความฝันที่เหลืออยู่ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น เธอทั้งร้องไห้และหัวเราะออกมาในเวลาเดียวกัน
"ความฝันเธอเก่งที่สุดเลย!"ฮาชิจังก็ตะโกนออกมาด้วยขณะที่วิ่งเข้าไปกอดเธอ
"บอสอีกสองตัวที่เหลือจะยากมากกว่านี้ไหม?"พเนจรเดินตามลูหลี่มาและนั่งลงกับพื้นโดยที่ไม่สนใจเลือดที่อยู่ตามพื้นเลย
ลูหลี่ไม่ได้พูดอะไร เขาเกรงว่าจะทำให้ใครบางคนกลัวขึ้นมา
ทุกๆคนนั้นรู้สึกเหนื่อยจริงๆ พวกเขาต่อสู้กับวิเชสเพียงแค่ 4 ครั้ง แต่มันหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าฟาร์มในป่าเสียอีก
"วัยรุ่นนี้มีความกระตือรือร้นเสียจริง ย้อนไปในวัยของฉันเองก็ ... "อาเซอร์ซีบรีสพิงไหล่ของพเนจรขณะที่มองไปที่เด็กสาวทั้งสองกระโดดไปมา มันทำให้เขาระลึกไปถึงเรื่องราวในอดีต
"ไปให้พ้น ให้ฉันอยู่คนเดียว"
คำพูดของพเนจรเป็นอะไรที่ไม่สามารถให้อภัยได้เลย แต่เขาก็ไม่ได้ผลักอะไรเขาออกไป
"ความฝัน ไปลูทไอเท็มจากศพสิ เราทุกคนจะต้องออกจากระบบและไปพักผ่อนกัน เธอไม่เหนื่อยงั้นเหรอ"มาสเรนเตือนสาวน้อยติ๊งต๊อง ถึงผลงานที่พวกเขาทำได้
แม้ว่านี่ไม่ใช่บอสตัวสุดท้าย แต่นี่ก็ยังคงเป็นอารามสีแดง ดังนั้นแล้ว มันจึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่รางวัลของมันจะแย่มาก
"กางเกงระดับทองที่ทำให้สัตว์เลี้ยงตีติดคริติคอล นอกจากนี้ยังลดความเสียหายด้วย มันเป็นของหนู! มันเป็นของหนู!"
ไอเท็มชิ้นแรกที่ลูทมาได้เป็นของความฝันที่เหลืออยู่ ดังนั้นแล้ว เธอจึงมีความสุขมาก
"เช็ดน้ำตาของเธอซะ แม่สาวน่าเกลียด."
พเนจรนั้นดูถูกทุกๆคน ไม่ว่าคนๆนั้นจะน่ารักแค่ไหนก็ตาม
"อะแฮ่ม ไอเท็มชิ้นที่สองเป็น เข็มขัดทองชุบ เอามันให้มูนไลท์เถอะ พเนจรหยาบคายเกินไปอะ"ความฝันที่เหลืออยู่ขอร้องลูหลี่ให้เอามันให้กับมูนไลท์ เพราะพเนจรเรียกเธอว่าแม่สาวน่าเกลียด
"โอเค" ลูหลี่ไม่แม้จะมองไปที่ค่าสถานะของมันและพยักหน้าในทันที
พเนจร: ...
"กระดูกข้อนิ้วมืออันกระหายเลือด ไอเทมชิ้นนี้คืออะไรงั้นเหรอ?"ความฝันที่เหลืออยู่ถามขณะที่ลูทไอเท็มชิ้นสาม
"มันเป็นวัสดุหายาก ซึ่งสามารถใช้สร้างถุงมือของชาแมนได้ มันเป็นไอเท็มที่ดีเลยทีเดียว ให้มันกับซากรุะ "ลูหลี่ไม่จำเป็นที่จะต้องดูค่าสถานะของมัน เพื่อตัดสินที่จะเอาไอเท็มให้กับเขาเลย
ไอเท็มชิ้นที่สี่คือ หมวกผ้าผู้เยียวยา เห็นได้ชัดเลยว่านี้เป็นของสำหรับมาสเรน
"โอ้มี ศิลาเสริมความแข็งแกร่งด้วย มันค่อนข้างสวยเลยทีเดียว คราวนี้มีตั้งห้าก้อน "ความฝันที่เหลืออยู่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจอย่างเป็นสุข
อย่างไรก็ตาม เธอนั้นตื่นเต้นมากเกินไป เพราะไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะต้องมอบไอเท็มชิ้นนี้ให้กับผู้เล่นสตาร์ของพวกเขา ลูหลี่จึงได้หยิบศิลาสีแดงอันแสนงดงามออกมาจากมือของเธอ