จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 397
บทที่ 397: ลมกรดบวกและลบ
คลังแสงเป็นหนึ่งในดันเจี้ยนของอารามสีแดง เฮโรดนั่งอยู่คนเดียวในห้องโถงนักรบที่เต็มไปด้วยประติมากรรมและรูปปั้นของวีรบุรุษที่เคยมีอยู่ในอดีต
ภายใต้ดวงอาทิตย์ของทะเลทางใต้อันอบอุ่น ลูหลี่เองก็เคยเห็นภาพในอดีตของเด็กชายผมสีทองที่เคยเดินผ่านเข้าไป เด็กชายผู้ไร้เดียงสาและร่าเริง เขานั้นได้วาดฝันว่าตัวเองจะเป็นวีรบุรษ เมื่อเขาเติบโตขึ้น
เด็กชายตัวน้ยอคนนี้ต้องการที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่เขารัก สำหรับเฮโรดแล้ว นามของผู้ที่เขาหลงรักคือ ไซลี่ ไวท์มีน
ในปีเดียวกันนั้นเอง โรคระบาดได้กระจายไปทั่วลอร์ดเดเรียน ครูเซเดอร์สีแดงและผู้ถูกลืมได้กำจัดผู้ที่แตกต่างจากพวกเขาและร่วมมือเป็นพันธมิตรกันเพื่อกำจัดโรคระบาด
ค่ายของอารามสีแดงได้ถูกทิ้งให้ว่างเปล่าและอ่อนลงไป เพราะพวกเขาต้องการคนเพื่อไปจัดการกับโรคระบาด ที่ปรึกษาของเฮโรดจึงได้ติดต่อกับเมืองหลวงลมวายุ เพื่อขอความช่วยเหลือและขอให้พวกเขาปกป้องอารามสีแดง
พวกครูเซเดอร์สีแดงแทบทั้งหมดต่างก็มุ่งมั่นที่จะจัดการกับโรคระบาด พร้อมกับเสียสละชีวิตของพวกเขาเองเพื่อความยุติธรรมมากจนเกินไป และไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์ทางสังคมและการเมืองเลยสักนิด พวกเขานั้นหมดหวังอย่างมากที่จะได้รับการช่วยเหลือจากเมืองลมวายุ ดังนั้นแล้ว การป้องกันของพวกเขาจึงลดน้อยลงไป
อาณาจักรแอลแทรคได้ล่มสลายไปและแดลเรนเองก็พังยับเยิน แต่ครูเซเดอร์สีแดงยังคงมุ่งมั่นที่จะปกป้องเมืองลอร์ดเดรียน นี่จึงเป็นโอกาสอันสมบูรณ์แบบของมนุษย์จากเมืองลมวายุ ที่จะทรยศพันธมิตรของพวกเขาเอง
กองกำลังเมืองลมวายุได้ก้าวเท้าไปทางชายแดนและดึงดาบออกมาเพื่อที่จะจัดการกับพันธมิตรของตน
ครูเซเดอร์สีแดง ที่ถูกนำโดยเฮโรดได้มุ่งมั่นที่จะปกป้องดินแดนของพวกเขาด้วยชีวิตของพวกเขาเอง ซึ่งผู้บุกรุกนั้นมีจำนวนมากกว่าพวกเขามากเลยทีเดียว
การต่อสู้รุนแรงเป็นอย่างมากและมีคi^เซเดอร์หลายคนที่ตายลงไป พวกเขาต่อสู้กันอย่างหนักและนักรบทุกคนต่างก็มั่นใจว่าพวกเขาจะต้องลากศัตรูตายลงไปตามพวกเขาให้ได้มากที่สุด มันเป็นเรื่องง่ายมากเลยที่ผู้เล่นจะรู้สึกเห็นใจพวกครูเซเดอร์เหล่านี้ พวกเขาพยายามที่จะปกป้องดินแดนแห่งเดียวในราชอาณาจักรและประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเด็ก ผู้สูงอายุและผู้ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาไม่มีที่จะให้หนีอีกแล้ว พวกเขาจึงได้แต่ทิ้งไว้เพียงแค่ความกล้าหาญและชีวิตของพวกเขาไว้!
เฮโรดและกองกำลังของเขาได้รับบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก พวกเขาสามารถยื้อเวลาได้มากพอ จนทัพเสริมของพวกเขามาถึง นั้นทำให้พวกเขาสามารถจัดการกับกองกำลังของเมืองลมวายุได้
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป ครูเซเดอร์สีแดงก็สาบานว่าจะไม่มีทางที่จะเป็นพันธมิตรกับเมืองลมวายุอีกครั้ง
เฮโรดได้ถูกสวมมงกุฏและกลายเป็นผู้ปกปักษ์แห่งครูเซเดอร์สีแดง
ในระหว่างการต่อสู้ครั้งนั้น เขาถูกขวานกรีดลึกลงไปที่อกข้างซ้ายของเขา มันเป็นแผลลึกมาก จนแทบจะทำให้เห็นหัวใจของเขา ซึ่งนั้นทำให้ร่างซีกซ้ายของเขาเป็นอัมพาตและไม่สามารถสวมใส่เกราะได้ แล้วนับประสาอะไรกับอาวุธหนักที่ไร้แขนซ้าย
หากผู้เล่นมองใกล้ๆ พวกเขาจะบอกได้เลยว่าเขาเป็นนักรบคลั่งและถือขวานเดียวไว้ในมือขวา ซึ่งก็สอดคล้องกับตำนานของเขาพอสมควร
เฮโรดนั่งอยู่ในห้องโถงนักรบอย่างเงียบๆ เพื่อที่จะปกป้องอาคารที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของครูเซเดอร์สีแดง ในตอนนี้ เขานั่งลงอยู่พร้อมกับรูปปั้นนักรบข้างๆเขา รูปปั้นนักรบที่เคยสู้กับโรคระบาดร่วมกับเขา
เมื่อประตูไม้ขนาดใหญ่ของห้องโถงนักรบถูกเปิดขึ้น เฮโรดก็พร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูของเขา ดวงตาสีแดงของเขาสว่างไสวด้วยความรุนแรงที่เขามีอยู่เสมอ
ในความเป็นจริงแล้ว เฮโรดเป็นนักรบธรรมดาและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสงคราม การทรยศและความทุกข์ทรมานของผู้คนของเขาเลย เขาเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่ต้องการรักษาครูเซเดอร์สีแดงและนำความสงบสุขมาสู่คนของเขา
"ข้ากำลังรอความท้าทายที่แท้จริงอยู่" เฮโรดเหวี่ยงขวานศึกของเขาและพุ่งเข้าหาพวกเขา ก่อนที่อาเซอร์ซีบรีสจะมีโอกาสได้ยั่วยุเขาเสียอีก
อาเซอร์ซีบรีสยกโล่ขึ้นและถูกลมกรดของเฮโรด มันสร้างความเสียหาย 460 จุด พเนจรเองก็โดนมันเหมือนกันและมันสร้างความเสียหายให้เขา 200 จุด
ทักษะลมกรด เป็นทักษะพื้นที่และผู้เล่นทุกคนในพื้นที่นั้นจะได้รับความเสียหายตามระยะ
"ทักษะลมกรดของเขา แข็งแกร่งกว่าทุกสิ่งที่นายมีด้วยซ้ำ" พเนจรหัวเราะเยาะ
"ไม่ว่าเทคนิคของเขาจะดีแค่ไหน เขาก็มีแค่แขนข้างเดียวเท่านั้น ความเสียหายมันไม่ได้สูงเท่าไหร่ "อาเซอร์ซีบรีสกล่าวตอบโต้ พร้อมกับกล่าวดูถูกบอสไปด้วย" นอกจากนี้แล้ว ฉันเป็นนักรบที่เน้นในการป้องกัน ตราบเท่าที่ฉันถือโล่ ฉันก็มีประโยชน์มากกว่านายเสียอีก"
เฮโรดนั้นจัดการได้ง่ายมาก หากมีแท๊งค์ที่สามารถรับความเสียหายได้ ดังนั้นแล้ว ลูหลี่เลยไม่ต้องเครียดอะไร เขาจึงตัดสินใจที่จะเล่าตำนานของเฮโรดให้ฟัง
"ทำไมฉันรู้สึกเหมือน ... ผู้ชายคนนี้ช่างเป็นคนที่มีน่านับถือมาก?"อาเซอร์ซีบรีสเริ่มรู้สึกไม่ดีที่จะต้องฆ่าเขา
จากเรื่องเล่าที่ลูหลี่เล่าออกมา เฮโรดเป็นวีรบุรุษที่น่าหลงใหล ฮีโร่ที่แข็งแกร่ง ราวกับตัวละครในอนิเมะบน TV
ในฐานะที่เป็นนักรบด้วยกัน ตำนานของเฮโรดก็ส่งผลต่ออาเซอร์ซีบรีสด้วย มันทำให้เขามีอารมณ์ร่วมและรู้สึกเคารพคนที่อยู่ข้างหน้าเขามากเลย ในขณะที่มูนไลท์กลับสงบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่ดวงตาของเฮโรดและรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีเรื่องราวอยู่เบื้องหลัง มูนไลท์จึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขาเหมือนกัน
"โอ้ไม่ ... งั้นพวกเราเป็นคนเลวงเหรอ?"ฮาชิจังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสุขหรือจะเศร้าดี
"อย่าโง่นักสิด ระวังอย่าโดนขวานนั้นสับเข้าให้ "พเนจรที่มีหัวใจอันแสนเย็นชาก็กล่าวตามปกติ
"จำไว้ว่าตำนานพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากผู้พัฒนาเกม อย่าให้มันทำให้การป้องกันของเธอลดต่ำลงไป นี่ก็เหมือนกับทุกๆดันเจี้ยนแหละ "ลูหลี่กล่าวออกมา เพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงเรื่องนี้
ซึ่งแตกต่างมากจากดอน การจัดการกับเฮโรดนั้นง่ายอย่างมาก เขาไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นและไม่แม้แต่จะสนใจลูหลี่และเพื่อนร่วมทีมของเขา
มอนสเตอร์บางตัวสามารถมีความสัมพันธ์กับผู้เล่นได้ ในขณะที่บางตัวก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ฆ่าอย่างเดียว ซึ่งมันก็แล้วแต่ระบบ
บางดันเจี้ยนเองอย่าง มหาวิหารสีแดงเองก็มีบอสที่สามารถพูดคุยกับผู้เล่นได้ ซึ่งพวกมันมักจะเป็นบอสที่จัดการได้ยากเลยทีเดียว
"ระวังตัวด้วย ทั้งลมกรดบวกและลมกรดลบ " ลูหลี่กล่าวเตือนหลังจากเหลือบไปที่ HP ของเฮโรด
"อะไรคือลมกรดบวกและลบ?"ทั้งสองนักรบที่สามารถใช้ลมกรดได้นั้นรู้สึกสับสน พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องลมกรด "บวกและลบ" มาก่อน
"ลมกรดบวกจะหมุนจากทางซ้ายไปทางขวา เมื่อเขาใช้ทักษะ ทุกๆคนควรหนีออกไปจากพื้นที่ ยกเว้นแต่แท๊งค์หลัก ถ้าใครเข้าไปอยู่ในลมกรดบวก จะต้องตายอย่างแน่นอน ความฝันที่เหลืออยู่และฮาชิจัง พวกเธอต้องระวังตัวเป็นพิเศษ ทำให้แน่ใจว่าพวกเธอตามมาสเรนตลอดทั้งการต่อสู้นะ"ลูหลี่กล่าวอธิบาย
"แล้วเกี่ยวกับลมกรดลบล่ะะ?"จากที่ลูหลี่อธิบายมา ดูเหมือนว่าลมกรดบวกจะคล้ายๆกับลมกรดของนักรบธรรมดาๆ เพียงแต่มันจะสร้างความเสียหายอย่างหนักและทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง
แต่ลมกรดลบนั้นค่อนข้างแตกต่าง พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินชื่อที่แตกต่างแบบนี้เลย
"ลมกรดลบจะเริ่มหมุนจากทางด้านขวาและหมุนไปทางซ้าย ถ้าเฮโรดใช้ลมกรดลบ ทุกๆคนจะต้องพุ่งเข้าไปในนั้นเพื่อที่จะแชร์ความเสียหายกัน ไม่อย่างนั้น อาเซอร์ซีบรีสจะตายในทันที ทักษะลมกรดลบจะสร้างความเสียหายมากขึ้น เมื่อมีผู้เล่นน้อยลงและมันจะสามารถฆ่าผู้เล่นได้ในทันที หากมีคนอยู่เพียงแค่คนเดียว "
"บ้าเอ้ย ฟังดูลำบากชะมัด"
ทุกๆคนต่างก็รู้สึกกดดันอย่างมาก เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ มันเหมือนจะเป็นการทดสอบการทำงานเป็นทีมและการตัดสินของแต่ละคนเลยทีเดียว
บริษัทเกมโคตรเกรียนเลยทีเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะความทรงจำในอดีตของลูหลี่ พวกเขาคงจะต้องทนฝืนเคลียร์ดันเจี้ยนโดยที่ไม่รู้รายละเอียดในเรื่องนี้เลย
"นี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมไม่มีใครสามารถเคลียร์คลังแสงสีแดงได้" ลูหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ช่วงแรกๆของคลังแสงสีแดงนั้นค่อนข้างที่จะน่ารำคาญและเข้าใจได้ยาก ซึ่งสมาคมส่วนใหญ่ก็มีทีมเทคนิคของพวกเขาเองและในท้ายที่สุด พวกเขาก็จะพบเข้ากับทางในการเอาชนะเฮโรด
เมื่อ HP ลดลงเหลือต่ำกว่า 30% เฮโรดก็เริ่มหมุนขวานไปมา นี่เป็นเทคนิคพิเศษของเฮโรดที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเขาเอง ไม่มีนักรบคนใดในเกมรุ่งอรุณที่มีทักษะนี้เลย
อาเซฮร์ซีบรีสได้รับความเสียหายอย่างหนักและไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะใช้ทักษะลดความเสียหายเลย พร้อมด้วยทักษะรักษาของมาสเรน เขาจึงสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
ทุกๆคนต่างหนีออกไปเหมือนกับกระต่ายที่กำลังหนีจากทักษะลมกรด ส่วนฮาชิจังและความฝันที่เหลืออยู่ก็ตามหลังมาสเรนไปติดๆ
ในตอนนั้นเอง ซากุระกลับวิ่งไปผิดทางและกำลังพุ่งเข้าใส่ทักษะลมกรด โชคดีที่มูนไลท์สามารถหยุดเธอได้ทันเวลา นี่เป็นหนึ่งในประโยชน์ของการที่มีผู้เล่นสตาร์ช่วยในการเคลียร์ดันเจี้ยน ปฏิกิริยาการตอบสนองที่รวดเร็วและความสามารถในการรักษาความสงบ มันจึงทำให้เรื่องต่างๆง่ายขึ้นมากสำหรับตัวของลูหลี่
เฮโรดใช้ทักษะลมกรดบวกออกมา ซึ่งนั้นหมายความว่า ทุกๆคนจะต้องหนีจากอาเซอร์ซีบรีสไป
ไม่มีใครสงสัยลูหลี่และทำตามคำสั่งของเขากันทุกคน
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจสิ่งที่จะต้องทำแล้ว ทุกๆคนต่างก็รอลมกรดระลอกที่สองที่บอสจะใช้ออกมา
ลูหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เพราะเขารู้แล้วว่า มันคงจะเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่เฮโรดจะถูกฆ่า