จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 380
บทที่ 380: อาร์คานิส ดอน
แทรกแซง: เพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ของตัวผู้ใช้เอง 200% เมื่อวิ่งไปหาเพื่อนร่วมทีมภายในรัศมี 15 หลา เป็นเวลา 10 วินาที ในขณะที่เป้าหมายอยู่ในระยะ 5 หลาของตัวผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถรับการโจมตีจากคนๆนั้นแทนได้
มันเป็นหนังสือทักษะที่ดี!
หนังสือทักษะนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะทำให้การต่อสู้แบบทีมดียิ่งขึ้น คุณลองจินตนาการถึงสถานการณ์ที่มีคนในทีมกำลังจะถูกสังหารเพียง แต่กลับมีผู้เล่นอีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาและรับความเสียหายแทนคนที่กำลังจะถูกโจมตี
แม้ว่าหนังสือทักษะนี้จะสามารถสกัดกั้นการโจมตีได้เพียงครั้งเดียว แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน
ตอนนี้ มันเป็นเรื่องของการกำหนดผู้ที่จะได้รับหนังสือทักษะนี้ไป
แทรกแซงไม่ได้เป็นทักษะที่ไม่ดี แต่จากฟอรัมแล้ว ไม่เคยมีใครได้มันมาก่อน
ใครจะรู้ล่ะว่า อีกนานแค่ไหนหนังสือทักษะเล่มนี้จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง?
ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกับหนังสือทักษะเล่มนี้คือ อาเซอร์ซีบรีส อย่างไรก็ตาม พวกเขายังสามารถให้พเนจรได้ด้วย
ซึ่งลูหลี่นั้นอยากให้มูนไลท์มากกว่า
"ฉันไม่สนใจ"
แม้ว่ามูนไลท์จะคิดว่าหนังสือทักษะเล่มนี้มีประโยชน์มาก แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มันมาหรอกนะ เขาพยายามที่จะทำตัวให้ไม่น่าสนใจเหมือนกับลูกชิ้นงา แต่แตกต่างจากลูกชิ้นงาที่ขี้อาย มูนไลท์นั้นเป็นพวกไม่แยแส
"ฮึ่ม เอาไปเถอะน่าไลท์ ฉันไม่ต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะที่ทำร้ายตัวเองหรอกนะ" พเนจรกล่าวออกมาพร้อมกับมองไปที่มันอย่างรังเกียจ
"ฉันจำเป็นที่จะต้องรับความเสียหายหลักอยู่แล้ว ดังนั้นแล้ว ฉันคงจะไม่มีเวลาช่วยเหลือคนอื่น" อาเซอร์ซีบรีสกล่าวขณะที่เขาส่ายหัวและปฏิเสธที่จะรับหนังสือทักษะมา ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี ถ้าเขาจะเอามันมา แต่เขาได้ยินมาว่า ลูหลี่ต้องการที่จะให้มันกับมูนไลท์ มันจึงเป็นเรื่องตามธรรมชาติ ที่เขาคิดว่าความคิดนั้นดี
เหตุผลของลูหลี่นั้นธรรมดามาก มูนไลท์นั้นสวมเกราะแผ่น ซึ่งเขาสามารถใช้ทักษะนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทักษะนี้จะทำให้การต่อสู้ PVP ของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก
มูนไลท์เป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งอันดับสองของสโมสร
แม้ว่าหนังสือทักษะเล่มนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการเคลียร์ดันเจี้ยน แต่มันมีประโยชน์มากกว่าในการแข่งขัน
สำหรับลูหลี่แล้ว การชนะและการแพ้ในเกมไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก หากไม่สามารถแปลงเป็นเงินจริงได้
ชื่อเสียงและเกียรติยศนั้นสามารถหายไปได้
มอนสเตอร์ที่ทำหน้าที่เฝ้าหนังสือนั้นจัดการยากมาก เพราะนี้คือความยากระดับฝันร้าย จุดเกิดของมันนั้นไม่ได้อยู่ในจุดๆเดียว ดังนั้นแล้ว ลูหลี่และคนอื่นๆจึงต้องไปดูรอบๆพร้อมกับเคลียร์มอนเตอร์ไปด้วย
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงมีความหวังอยู่ เมื่อพวกเขาได้มาถึงโถงหลักของห้องสมุด
ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบเข้ากับมอนเตอร์ที่เฝ้าหนังสือ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาโชคไม่ดีพอนัก [ถ้าเจอมอนเตอร์เฝ้าหนังสือ = เจอหนังสือ]
มีภูเขาหนังสือทุกๆที่ในห้องโถงใหญ่นี้
"เอาล่ะ พวกนายทุกคนจะต้องหาหนังสือทั้งสามเล่มที่มีชื่อว่า" จุดเริ่มต้นของภัยคุกคามอันเดต"บทสรุปของการล่มสลาย และ" ตำนานของไททัน" นอกจากนี้แล้ว เรายังจะต้องหากุญแจเพื่อไปที่ห้องสมุดด้วย "ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาตบมือ
"ฉันเข้าใจในเรื่องที่จะหากุญแจไปที่ห้องสมุด แต่หนังสือพวกนี้จะเอาไปทำไรงั้นเหรอ? พวกมันมีนับหมื่นเลยนะ"ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นสีเขียวเล็กน้อยด้วยความวิตกกังวล
นี่เป็นห้องโถงใหญ่ที่มีชั้นหนังสืออยู่สูงมาก การหาหนังสือสามเล่มในสถานที่แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีพวกเขาอาจจะค้นหามันทั้งวัน แต่อาจจะไม่พบมันก็เป็นไปได้
"อย่าพูดเกินจริงในสถานการณ์แบบนี้สิ"
เหงื่อของลูหลี่กำลังไหลลงมา เกมคงจะไม่ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ ใช่มั้ย?
หนังสือนับหมื่นเล่มนี้ มีเพียงร้อยเล่มเท่านั้นที่สามารถอ่านได้ อย่างไรก็ตาม จำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่าสามพัน ภายในระยะเวลาหนึ่งปี
เมื่อตอนที่ลูหลี่ได้มาที่อารามสีแดงในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา มีการเพิ่มหนังสือนับหมื่นลงในห้องสมุดของอารามสีแดง
หนังสือบางส่วนถูกเขียนโดยนักเขียน ที่ถูกจ้างโดยบริษัทเกม ส่วนบางเล่มก็ถูกเขียนโดยผู้เล่น โดยเราถึงเรื่องการผจญภัยในเกมรุ่งอรุณ นอกจากนี้แล้ว ยังมีหนังสือบางเล่มที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเกมรุ่งอรุณ
จากนักเขียนทั้งหมด คนที่เขียนมากที่สุดคือ แซลลี่ ไวท์มีน และ บริทเก็ต แอ็บเบนดิส
ทั้งสองคนเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียงอย่างมาก
คำขอของลูหลี่นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย จากหนังสือนับไม่ถ้วนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา มีบางเล่มที่อ่านไม่ได้ ดังนั้นแล้ว ถ้าพวกเขาแค่ยัดๆลงไปในกระเป๋า มันก็คงจะมีบางเล่มที่เป็นหนังสือหนึ่งในสามที่พวกเขาต้องการหา
ถ้าหากทุกคนหยิบหนังสือสิบเล่มไปพร้อมๆกัน ทุกๆคนก็จะมีหนังสือสามเล่มครบทุกคน
ซึ่งมันมีวิธีง่ายกว่านั้นอีก ถ้าพวกเขาทั้งหมดใส่หนังสือ 30 เล่มลงในกระเป๋าของพวกเขาและใช้เวลาสักประเดี๋ยวในการดูพวกมัน พวกเขาก็จะได้รับหนังสือสามเล่มที่ต้องการเหมือนกัน
กุญแจนั้นถูกพบอย่างรวดเร็ว โดยมันอยู่ในหนังสือเล่มหนึ่ง
สิ่งนี้จะเป็นตัวปลดล็อคห้องของ อาร์คานิส ดอน
ลูหลี่รู้จักประวัติของดอนเป็นอย่างดี เพราะเขามักจะอ่านหนังสือที่ถูกแต่งโดยครอบครัวแอ็บเบนดิส ซึ่งมันบันทึกประสบการณ์ในชีวิตของพ่อและลูกสาวแอ็บเบนดิสไว้
มีคำพูดหนึ่งในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งทิ้งความประทับใจให้กับลูหลี่
โอ้แอ็บเบนดิส ทำไมเจ้าไม่มองมาที่ข้าล่ะ? ข้ายินดีที่จะไปพร้อมกับเจ้าสุดขอบโลกและความหวังเดียวของข้าคือ เจ้าจะสังเกตุเห็นข้า ...
ประโยคนี้ได้ถูกแกะสลักไว้บนเหรียญเงิน เพื่อเป็นพยานในความรู้สึกของเขา
ได้มีการกล่าวกันไว้ว่า ประโยคนี้ได้ถูกพูดออกมาถึงชายแก่ตระกูลแอ็บเบนดิสจากชายคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความถูกต้องของเรื่องนี้ค่อนข้างน้อยนิด บางคนก็บอกว่าคำพูดนี้ได้กล่าวถึงผู้หญิงนิสัยเสียบางคน
ถึงกระนั้นก็ตาม มันก็ยังคงมีชื่อเสียงอยู่ดี นักเวทย์แก่คนนี้ได้กลับกลายเป็นมีชื่อเสียงในเกมรุ่งอรุณ จนเป็นที่กล่าวขานไปทั่ว
เหรียญเงินพวกนี้ได้ถูกเก็บรวบรวมโดยเหล่าผู้หญิงนิสัยเสียพวกนี้ด้วยความที่ว่า 'แต่ละเหรียญเงินนี้ พวกมันสามารถขายได้มากกว่า 100 เหรียญทอง'
ดอนเป็นหนึ่งในเพื่อนที่มอแกรนเชื่อใจ ีมี เขา ,ทีเรียน, อัลเฟรด แอ็บเบนดิส, อิลสิเลียนและแฟร์แบงค์ พวกเขาได้ทำงานร่วมกันเพื่อศึกษาศิลาลึกลับที่ได้รับมาจากสนามรบทางทะเลตอนใต้
นี่คือต้นกำเนิดที่ทำให้ แอสบลิงเกอร์ เกิดขึ้น [แอสบลิงเกอร์ ดาบที่ใช้สังหารราชาแห่งความตาย]
ซึ่งดอนนั้นเป็นคนสำคัญมากที่ทำให้มันเกิดขึ้น
ต่อมาจากนั้น หัตถ์สีเงินดอนก็ได้เข้าร่วมกลุ่มครูเซเดอร์สีแดงและค่อยรับผิดชอบในการเฝ้าห้องสมุดของอาราม นอกจากนี้แล้ว เขายังทำหน้าที่ในการปกป้องกุญแจที่เอาไว้ใช้เข้าอารามสีแดงด้วย
นักเวทย์ชราคนนี้ ซึ่งไม่มีใครรู้อายุของเขา กลับไปชอบลูกสาวของเพื่อนเก่าของตัวเอง บริทเก็ต แอ็บเบนดิส
บริทเก็ต แอ็บเบนดิส เป็นลูกสาวของ จอมพลครูเซเดอร์สีแดง อัลเฟรด แอ็บเบนดิส อัลเฟรด แอ็บเบนดิส ยังมีพื้นเพที่เคยเป็นพาลาดินหัตถ์สีเงินด้วย หลังจากที่จอมพลแอ็บเบนดิสรุ่นก่อนได้ตายไป สาวน้อยบริทเก็ตจึงต้องทำหน้าที่เป็นจอมพลคนใหม่ของอารามสีแดง เธอได้นำครูเซเดอร์สีแดงที่เหลือไปยังหุบเขาเตาไฟและได้ร่วมกับลอร์ดวาลเดเมียเพื่อต่อต้านโรคระบาดที่กำลังจะมาถึง
ในเรื่องนี้มันไม่มีหลักฐานอะไรมากนัก แต่ความประทับใจของทุกคนแก่ดอน คือเขาดูจะเป็นโลลิค่อนเล็กน้อย
แล้วตกลงว่าเขาเป็นเกย์หรือโลลิค่อนกันแน่?
ดอนเป็นคนที่ถูกผู้เล่นเยาะเย้ยมากที่สุด มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขา ที่จะเหลืออะไรให้เคารพอีก
อย่างไรก็ตาม เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกที่เก่าแก่ที่สุดของอารามสีแดง มันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะกำจัด อาร์คานิส ดอน ลงได้