จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 375
บทที่ 375: หนังสือสามเล่ม
ระบบดันเจี้ยนของเกมรุ่งอรุณค่อนข้างเป็นมิตรกันผู้เล่น คุณสามารถเทเลพอร์ตมาที่ดันเจี้ยนได้ในทันทีจากที่เมือง คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังตำแหน่งของดันเจี้ยนจริงๆ
สิ่งที่สะดวกยิ่งกว่านั้นคือ ถ้าคุณออกจากดันเจี้ยน คุณก็จะไปปรากฏที่ๆคุณเทเลพอร์ตมาเลย
อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะได้ลำแสงสีแดง ผู้เล่นจึงจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปที่อารามสีแดงเอง กลุ่มทหารรับจ้างซินซินเองก็เหมือนกัน พวกเขาจึงได้เดินทางไป เพื่อไปฆ่ามอนเตอร์
ขณะที่ลูหลี่ได้ออกมาจากดันเจี้ยนในสถานะล่องหน ทักษะหลายอย่างก็ได้พุ่งมาทางเขา
ด้านนอกของดันเจี้ยนยุ่งเหยิงมากๆ มีการต่อสู้เกิดขึ้นทั่วทุกหนทุกแห่ง
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่แค่ผู้เล่นของฝ่ายพันธมิตรที่ตายไป ผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์ก็เสียหายอย่างหนักเหมือนกัน ผู้เล่นทุกคนต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก พวกเขาจึงเลือดขึ้นหน้า นั้นทำให้พวกเขาได้ลืมเหตุผลที่พวกเขาได้มาที่นี่ไปแล้ว
นอกจากนี้แล้ว ยังมีการต่อสู้อย่างดุเดือดที่ทางเข้าของดันเจี้ยนด้วย
ลูหลี่เองก็เป็นคนธรรมดาทั่วไปเหมือนกัน เขาไม่สามารถตอบสนองทักษะที่ปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วพวกนี้ได้ทัน และถูกเปิดเผยตัว ผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์ไม่ได้คิดเลยว่าจะมีคนออกมาจากประตูทางเข้าของดันเจี้ยน
ดังนั้นแล้ว เขาจึงได้ทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็วและหายตัวไป โดยปราศจากร่องรอยใดๆเลย
มันเป็นเรื่องยากมากที่จะหลบหนีจากสนามรบแบบนี้ แต่ลูหลี่มีชาโดว์เมล ล่องหน ก้าววายุและซ่อนเงา เมื่อเขาออกจากสนามรบแล้ว เขาก็ได้กลับเข้าสู่สถานะล่องหนอีกครั้ง
มันเป็นเรื่องยากที่จะตามจับโจรที่กำลังล่องหนอยู่ ดังนั้นแล้ว จึงไม่มีใครสามารถหาเขาได้เลย
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ออกมาเพื่อฆ่าใคร ในตอนนี้ เขากำลังมองหาพาลาดินสีแดงอยู่
มีผู้เชี่ยวชาญด้าน PVP จำนวนไม่มากนักอยู่ที่นี่และส่วนมากก็ไม่แข็งแกร่งเท่าลูหลี่ เขาจึงได้ฆ่าพาลาดินสีแดงไปยี่สิบตัวอย่างรวดเร็วและฆ่าผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์จำนวนหนึ่งที่อยู่ตามทาง
เมื่อทุกคนในปาร์ตี้ของเขาได้รับลำแสงสีแดงแล้ว เขาก็ได้กลับไปที่ทางเข้าของดันเจี้ยน
"ในตอนนี้นายออกมาได้แล้ว" ลูหลี่กล่าวในช่องแชทปาร์ตี้ "เมื่อนายออกมา ให้ดอกไม้และลูกชิ้นใช้ทักษะที่มีผลเป็นพื้นที่มุม 45 องศา และมูนไลท์จะต้องใช้ทักษะลมกรดที่ตรงกลาง ส่วนคนอื่นๆก็ค่อยตามมาจางข้างหลัง "
นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของการเคลียร์ดันเจี้ยนอารามสีแดง แม้ว่าจะเคลียร์หนึ่งในดันเจี้ยนเสร็จไปแล้ว แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะตาย ก่อนที่จะไปอีกดันเจี้ยนหนึ่ง
โชคดีที่ไม่มีใครขวางหน้าทางเข้าดันเจี้ยนเลย
บางทีพวกเขาคงไม่ได้คิดหรืออาจจะไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้น เพราะแต่แม้แต่สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศก็ไม่ได้มีกำลังมากพอที่จะทำแบบนั้นได้
ถ้าคุณส่งผู้เล่นมากันทางเข้าดันเจี้ยน คุณคงจะต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของผู้เล่นทั้งหมด นี้อาจบานปลาย จนกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบเลยก็ได้
สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศมีผู้เล่น 2-3,000 คน แต่สมาคม 30 อันดับแรกอาจมีคนรวมกันอย่างน้อย 10 ล้านคน ถ้าพวกเขาถูกโจมตีโดยผู้เล่นพวกนี้ทั้งหมด ไม่ว่ายังไงก็ตาม พวกเขาคงจะแพ้อย่างแน่นอน
หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น การสูญเสีย EXP จำนวนมาก ก็คงจะลากสมาคมไปยังจุดที่ต่ำที่สุด
แม้จะมีการหลั่งเลือดในอารามสีแดงอยู่เรื่อยๆ แต่ทุกคนก็ยังคงระมัดระวังตัวกันระดับหนึ่งอยู่ ถ้าสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศไม่ได้ปิดทางเข้าดันเจี้ยน นั่นหมายความว่า กองกำลังสวนใหญ่ของพวกเขาได้เข้าไปในนั้นแล้ว
กลุ่มทหารรับจ้างซินซินได้ออกจากดันเจี้ยน ก่อนที่ดอกไม้อ้างว้างและลูกชิ้นงาจะใช้ทักษะพื้นที่ทันทีที่ออกมา มันได้สร้างความเสียหายเป็นอย่างมากแก่ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ๆ และมูนไลท์ก็ได้พุ่งผ่านระหว่างคนพวกนั้นด้วยทักษะลมกรด
ในไม่กี่วินาที พวกเขาก็ได้เข้าไปยังห้องสมุดและทิ้งกองศพจำนวนมากไว้เบื้องหลัง
"บ้าเอ้ย พวกนั้นมันเป็นใคร ทำไมพวกเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?"ผู้รอดชีวิตจากการปะทะกันรู้สึกกลัวเป็นอย่างมากในขณะที่พวกเขาก็เช็ดเหงื่อกาฬที่กำลังไหล่ออกมาจากหน้าผากของพวกเขาเอง
"ทักษะพื้นที่ของพวกเขาสร้างความเสียหายได้ถึงหลักร้อยเลย ชายคนนั้นเป็นใครกัน? ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด "ผู้ที่เห็นเหตุการณ์นี้ได้กล่าวออกมาและพุ่งไปหยิบอุปกรณ์ที่ดรอบลงมาอย่างรวดเร็ว
"เป็นกลุ่มทหารรับจ้างซินซิน ที่เอาการเคลียร์ครั้งแรกไปไง พวกนายไม่เห็นเครื่องหมายของสมาคมกฏแห่งดาบที่พวกเขากำลังสวมใส่งั้นเหรอ?"ผู้เล่นพวกนี้จึงได้เข้าใจในทันที พวกเขาเลยได้แต่ปล่อยให้พวกเขาผ่านไปโดยไม่ได้ต่อต้านอะไรเลย
ผู้ที่กำลังจะเคลียร์ดันเจี้ยนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเป้าหมายที่ดีของการล่า อย่างไรก็ตาม คุณต้องแยกแยะระหว่างคนพวกนี้ด้วย บางทีจากที่เราเป็นผู้ล่าก็อาจจะเป็นผู้ถูกล่าแทน
จากนั้นเอง ลูหลี่ก็ได้เข้าไปในดันเจี้ยนห้องสมุดในทันที เพื่อเริ่มเคลียร์
ก่อนที่จะเข้าไปเคลียร์ดันเจี้ยนวังและคลังแสง พวกเขาจำเป็นที่จะต้องเคลียร์ห้องสมุดก่อน เพื่อที่พวกเขาจะได้กุญแจมาสำหรับปลดล็อคพื่นที่บางอย่าง นอกจากนี้แล้ว ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มในห้องสมุดที่มีประโยชน์มาก
"จุดเริ่มต้นการคุกคามของอันเดต" หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายเรื่องราวของอันเดต ลูหลี่เคยอ่านและพบว่ามันเป็นหนังสือที่น่าสนใจมาก
พาลาดินสามารถนำหนังสือเล่มนี้ไปยังโบสถ์ความหวังแห่งแสงสว่างได้ เพื่อที่จะขอภารกิจที่ให้หนังสือทักษะพาลาดินเป็นรางวัล หากผู้เล่นเป็นอาชีพอื่นและมีหนังสือเล่มนี้ พวกเขาก็จะได้รับ EXP มากมายเป็นค่าตอบแทน
"คอมเพนเดี่ยม" หนังสือเล่มนี้ได้กล่าวอ้างถึงโครงเรื่องอารามสีแดง และเนื้อหาภายในก็ดูลำเอียงมาก ซึ่งมันถูกดัดแปลงจากใครบางคน
หนังสือเล่มนี้ยังสามารถแลกเปลี่ยนกับค่าชื่อเสียงได้มากเลยทีเดียว แต่คุณจะต้องรอให้เมืองใหญ่ถูกเปิดขึ้นมาก่อน เพื่อที่จะทำแบบนั้น นอกจากนี้แล้ว มันยังสามารถแลกเปลี่ยนเป็นไอเท็มได้อีกด้วย ซึ่งมันจะแตกต่างไปตามตัวของแต่ละคน ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ลูหลี่ได้รับสิ่งมีชีวิตตัวน้อย มันไม่ค่อยมีประโยชน์เลยกับเขา แต่เขาสามารถขายมันให้กับผู้เล่นหญิงได้ 20,000 ดอลลาร์
หนังสือเล่มที่สามมีชื่อว่า "ตำนานของเหล่าไททัน"
นี่เป็นเพียงแค่หนังสือเรื่องเล่าเท่านั้น ลูหลี่จำประโยคที่อยู่ในหน้าหนังสืออย่างแจ่มแจ้ง อนาคตได้ถูกกำหนดไว้แล้ว และโชคชะตาของเราก็ไม่ได้สำคัญอะไร มันเหมือนกับหยดน้ำที่ร่วงหล่นลงมายังมหาสมุทร
หนังสือเล่มนี้ได้เล่าถึงตำนานของเกมรุ่งอรุณในส่วนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไททัน
ในอารามสีแดงมีบางสิ่งบางอย่างที่ผู้เล่นจะต้องเผชิญหน้าทุกคน เหตุผลส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะหนังสือเล่มนี้ หลังจากอ่านมันไปแล้ว ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับเควสที่แตกต่างกันไป มันอาจจะง่ายเหมือนกับการส่งจดหมายหรือยากราวกับต้องเอาชนะบอส
รางวัลของเควสพวกนี้ ได้แก่ "เหรียญตรานักผจญภัยผู้สำรวจ" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามันคือเหรียญตรานักผจญภัย หรือก็คือ "เหรียญตรา"
เหรียญตรานี้มีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามเผ่าพันธุ์และอาชีพ แต่มักมีเอฟเฟคอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ"ลบล้างดีบัพที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่และการสตันออกจากตัวละครของคุณ"
ตั้งแต่ช่วงเวลานั้นเป็นต้นมา ผู้เล่นธรรมดาไม่ถูกผู้เชี่ยวชาญรังแกได้เลย
แน่นอนว่าผู้เล่นกระจอกก็คงจะไม่ได้กลายเป็นเทพเพราะไอเท็มชิ้นนี้ แต่อย่างน้อย มันก็ได้เพิ่มโอกาสที่จะสวนกลับไป
อุปกรณ์นี้ได้ถูกพิจารณาโดยนักวิจารณ์เกมรุ่งอรุณที่คำนึงถึงประวัติศาสตร์ของเกม พวกเขากล่าวว่า มันเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณแห่งความเท่าเทียมในเกมรุ่งอรุณ
หนังสือทั้งสามเล่มมีการใช้งานในแบบของมันเอง ซึ่งพวกมันแต่ละอย่าง ล้วนแล้วแต่มีค่ามากกว่าทองเสียอีก
ลูหลี่ได้อ่านหนังสือหลายเล่มที่นี่ หลายคนพบกับตำนานของเกมรุ่งอรุณ แต่มันก็มีหนังสือเกี่ยวกับเทคนิคโผล่ออกมาด้วยเช่นกัน ในชีวิตก่อนของเขา ลูหลี่ได้มาที่นี้เพื่ออ่านตำนานของเกมรุ่งอรุณ ไม่ใช่เพื่อเพียงความสนุกเท่านั้น แต่มันก็มีประโยชน์ด้วยในบางครั้ง แม้จะไม่ได้จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น แต่เขาก็มีเวลาอ่านและดูดซับความรู้จำนวนมากจากห้องสมุดนี้
"ลองมาเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ในระดับยากกันเถอะ" ลูหลี่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมต่อเพื่อนร่วมทีมของเขา