ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 370
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 372

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 371


บทที่ 371: บอสลับ

ความยากของดันเจี้ยน: "ระดับยาก"

ตลอดทางของดันเจี้ยนจะง่ายมาก หากคุณเข้าใจถึงสิ่งต่างๆที่มันซ่อนเอาไว้ ดังนั้นแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปในโหมดระดับฮีโร่เลย พวกเขาเลยเข้าไปในความยากระดับยากแทน

ส่วนในความยากระดับฝันร้าย นักเวทย์เลือดในโหมดนี้จะสามารถร่ายคาถาอันแสนน่ากลัวได้ แค่เพียงมันร่ายคาถานี้ใส่ผู้เล่น ทุกๆคนจะตายในทันที ไม่เว้นแม้แต่แท๊งค์

ซึ่งหากทักษะนี้ถูกใช้บนตัวของแท๊งค์หรือฮีลเลอร์ ทีมๆนั้นจะถูกกวาดล้างอย่างแน่นอน ถ้ามีคนอื่นที่นอกเหนือจากหน้าที่สองหน้าที่นั้นเป็นคนเสียสละ ทีมก็สามารถที่จะผ่านไปต่อได้ นั่นหมายความว่า ความยากระดับฝันร้ายจะต้องพึ่งพาโชคดี แต่สมาคมกฏแห่งดาบต้องการเคลียร์ครั้งแรกในตอนนี้ เพื่อรักษาชื่อเสียงของพวกเขาไว้ พวกเขาเลยไม่จำเป็นต้องทดสอบโชคของพวกเขาเลยซักนิด

ในหลายๆดันเจี้ยนของเกมรุ่งอรุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ำแมงมุม เหมืองมรณะ ถ้ำโหยหวน ความมืดที่หยั่งลึก ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเหมือนๆกัน

อย่างไรก็ตาม ในสุสานนั่นเป็นข้อยกเว้นออกไป

หลังจากที่พวกเขาได้เข้าไปในดันเจี้ยน พวกเขาก็พบว่าตัวของพวกเขาเองกำลังอยู่ท่ามกลางความมืดมิดอันแสนเหน็บหนาว

ท้องฟ้าในตอนนี้ดูมืดมิดและมีดวงดาวที่สว่างไสวอยู่ข้างบน แต่ก็คงไม่มีใครมาที่นี่เพื่อชมวิว เพราะในที่นี้มีคนตายอยู่

สุสานเรียงรายไปตามทางเดินสองข้างทาง ราวกับว่าพวกเขาเป็นทหารที่กำลังลาดตระเวนอยู่

ส่วนเด็กสาวทั้งสองคน ฮาชิจังและความฝันที่เหลืออยู่ ไม่ได้มีความกลัวแม้แต่เล็กน้อยปรากฏบนใบหน้าของพวกเธอเลย

พวกเธอได้เติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุข และคงจะไม่เคยมีประสบการณ์ที่จะต้องโดดเดี่ยวหรือสิ้นหวังในตอนกลางคืน

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ลูหลี่ถูกตีโดยคนอื่นจนบาดเจ็บรุนแรง ในตอนนั้นเขาถึงกับทนมันไม่ไหวเลยทีเดียว มันเป็นเวลาในตอนเที่ยงคืนพอดี ที่เขาสามารถลากตัวของเขาเองกลับไปยังบ้านได้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ลูซินก็กลัวความมืด จนกระทั่งเธออายุสิบขวบ เธอก็ต้องการที่จะให้พี่ชายของเธอนอนหลับฝันดีทุกๆวัน

"ที่แห่งนี้ดูแปลกมาก ถ้าพวกนายไม่มีอะไรคัดค้าน ฉันขอไปล่อมอนทางโน้นก่อนนะ "อาเซอร์ซีบรีสกล่าวขณะที่เขายกโล่ขึ้นมาและเดินต่อไปสองก้าว

"รอก่อน" ลูหลี่พูดหยุดเขา "เรามาลองทำแบบอื่นดูไหม"

ทุกคนหยุดลงในทันทีที่ลูหลี่พูด พวกเขาทั้งหมดต่างเชื่อฟังลูหลี่ ราวกับเป็นคนตาบอด ตราบเท่าที่ลูหลี่พูดอะไรบางอย่างออกมา แน่นอนว่ามันจะต้องมีเหตุผลที่จะใช้อธิบาย

"เราจะจัดการพวกมันทุกตัวในครั้งเดียว ซึ่งนั้นหมายความว่า นายจะต้องลากมอนสเตอร์ทั้งหมดให้มาอยู่ข้างหลังนายเพียงครั้งเดียว ต้องมั่นใจด้วย ว่าจะไม่เหลือแม้แต่เพียงตัวเดียว "ลูหลี่สั่งขณะที่ชี้ไปที่มอนสเตอร์ในดันเจี้ยน

"ทำไมล่ะ?"อาเซอร์ซีบรีสไม่เข้าใจและคนอื่นๆก็ดูสับสนเหมือนกัน

ทำไมพวกเขาถึงต้องฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดในครั้งเดียวด้วย? ทำไมไม่ทำแบบที่ทำกันตามปกติ?

มีมอนสเตอร์สองชนิดที่อยู่ในสายตาของพวกเขา หนึ่งคือ วิญญาณบ้าคลั่ง ซึ่งดูคล้ายกับเงาสีขาวและศพที่เหมือนกับซอมบี้

ทั้งสุสานต่างเต็มไปด้วยมอนสเตอร์สองประเภทนี้ ซึ่งพวกมันมีเพียงไม่กี่สิบตัว

ซึ่งมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าที่มีจำนวนแค่สิบไม่ได้ถือว่าน้อยเลย และพวกมันทั้งหมดก็มีตัวที่มีระดับอยู่ที่สาบสิมอยู่ด้วย ถึงแม้ว่าระดับ 29 และระดับ 30 จะมีความแตกต่างเพียงระดับเดียว แต่ความแข็งแกร่งของมอนเตอร์จะเพิ่มเป็นอย่างมาก ทุกๆสิบระดับ

"ฮึ่ม ตามหนังสือที่ฉันอ่านมา ที่นี้มีผู้ดูแลสุสานอยู่ในสุสานแห่งนี้ แน่นอนว่าเมื่อมอนสเตอร์ทั้งหมดได้ตายไป เขาก็จะโผล่ออกมา ก่อนที่จะมีการสร้างอารามสีแดงขึ้น สถานที่แห่งนี้เป็นเพียงแค่สุสานเท่านั้น "ลูหลี่กล่าว

เขาเลือกเหตุผลอันสมควรที่ควรยกขึ้้นมา ซึ่งคำอธิบายของอารามสีแดงก็คล้ายคลึงกับที่เขาพูดออกมา

"บอสลับงั้นเหรอ? มันแข็งแกร่งหรือเปล่า?"พเนจรเป็นคนฉลาด เขาเข้าใจในทันทีว่าผู้ดูแลสุสานเป็นอะไร

"ควรจะไม่เป็นไรหรอก เราสามารถจัดการกับมันได้ "ลูหลี่ตอบอย่างคลุมเครือ

ผู้ดูแลสุสานไม่ได้ยากและของที่ดรอบก็ดีมาก เสื้อคลุมวิญญาณซ่อนเงาที่เป็นที่รู้จักในชื่อ เสื้อคลุมที่ดีที่สุดของอาชีพที่สร้างความเสียหายเวทย์มนต์ระดับ 30 แต่ส่วนมาก มันจะดรอบจากบอสลับ ซึ่งก็หายากมาก และโอกาสที่ผู้ดูแลสุสานจะโผล่มาก็น้อยมาก

คงจะมีแต่เพียงลูหลี่ที่รู้ว่า ถ้าคุณฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน มีโอกาสร้อยเปอร์เซนต์ที่ผู้ดูแลสุสานจะโผล่ออกมา นี่เป็นความลับที่คนอื่นๆได้ค้นพบเอง เมื่อชีวิตก่อนหน้านี้ของลูหลี่

อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นการค้นพบที่นานมากพอสมควร หลังจากที่เกมได้ออกมาวางขาย นอกจากนี้แล้ว คนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถลากมอนสเตอร์จำนวนมากได้ในครั้งเดียว และผู้เล่นธรรมดาก็ไม่มีทางที่จะทำได้เลย

ในตอนนั้นเอง ก็คงจะมีแต่ลูหลี่ที่รู้วิธี

วิธีการที่ง่ายที่สุดคือ พเนจรไปล่อทางซ้าย ส่วนลูหลี่ก็จะไปล่อทางขวา หลังจากนำมอนสเตอร์ทั้งหมดเข้ามารวมกัน อาเซอร์ซีบรีสก็จะใช้ทักษะลดความเสียหายและใช้ยั่วยุ

งานนี้ง่ายมากสำหรับลูหลี่ ทันทีที่มอนสเตอร์เดินตามเขาไป เขาก็ได้วิ่งในทันที ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาเร็วมาก ดังนั้นแล้ว มอนสเตอร์จึงไม่สามารถตามเขาได้ทัน ในทางกลับกัน พเนจรดันมีปัญหาในการลากมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างหลังเขา โดยไม่มีฮีลเลอร์ โชคดีที่ลูหลี่ได้เข้าไปช่วยเขาและทั้งสองคนก็สามารถดึงมอนสเตอร์ทั้งหมดเข้าด้วยกันได้

อาเซอร์ซีบรีสนั้นกำลังรออยู่ เขาใช้ทักษะลดความเสียหายของเขาก่อนเลย จากนั้นแล้ว เขาก็ใช้ยั่วยุใส่มอนเตอร์ทั้งฝูง

มอนสเตอร์ทุกตัวต่างหันศีรษะไปยังคนที่กล้ายั่วยุมันในทันที ในขณะที่อาเซอร์ซีบรีสได้ใช้ทักษะยั่วยุของเขา คนอื่นๆก็พยายามสร้างความเสียหายใส่มอนเตอร์ พวกเขาต้องฆ่ามอนเตอร์ทั้งหมด ก่อนที่ทักษะลดความเสียหายของแท๊งค์จะหมดลง ไม่อย่างนั้น อาเซอร์ซีบรีสก็อาจจะตายได้

โชคดีที่พวกเขามีคนที่สร้างความเสียหายเวทย์มนต์ได้สูงถึงสองคน ดอกไม้อ้างว้างและลูกชิ้นงา ส่วนการระดมยิงของความฝันที่เหลืออยู่ก็ยังเป็นประโยชน์ในการต่อสู้แบบกลุ่ม และทุกคนก็กวาดล้างมอนเตอร์สี่สิบห้าสิบตัวไปได้

เวลาที่พวกเขาใช้ไปน้อยกว่าสามนาทีเสียอีก

"เหมือนกับว่าฉันฝันไปยังไงยังงั้น"

หลังจากถอนหายใจออกมา ผู้ดูแลสุสานก็ค่อยๆคลืบคลานออกมาจากใจกลางสุสาน

เมื่อตอนที่ครูเซเดอร์สีแดงได้มาถึงที่นี้ในครั้งแรก พวกเขาได้กล่าวอ้างว่า สุสานแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ พวกเขาจึงได้ฆ่าเขาไป ผู้ชายที่สนใจแค่เรื่องศพและได้ฝังร่างของเขาไว้ที่สุสาน พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่า ผู้ดูแลสุสานคนนี้ได้กลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว

"ไปเลย! นักบวช เธอต้องทำให้มั่นใจนะว่ากำจัดสถานะโรคระบาดได้ทันเวลา "ลูหลี่กล่าวสั้นๆในขณะที่เขาบอกให้เริ่มการต่อสู้

ผู้ดูแลสุสานมีทักษะอยู่สามอย่าง

หนึ่งในทักษะเหล่านั่นคือ ขว้างยาพิษ มันจะทำให้ผู้เล่นติดโรคระบาด ส่วนใหญ่แล้ว แท๊งค์จะเป็นคนโดน แต่ตราบเท่าที่นักบวชได้เอาดีบัพนี้ออกไปทันเวลา มันก็จะไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไรมากนัก

ทักษะที่สองคือ เรียกอันเดต ซึ่งมันจะสร้างมอนสเตอร์ไม่กี่ตัวขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ด้วยการยั่วยุจากพเนจรและพายุหิมะของดอกไม้อ้างว้าง การอัญเชิญของมันจึงไม่สามารถทนกับสองทักษะนี้ไปได้

ทักษะที่สามคือ ดูดกลืน หลังจากที่ใช้ทักษะนี้ไป ผู้ดูแลสุสานจะนั่งบนพื้นและกินอันเดต ที่ผู้เล่นฆ่าไป มันจะฟื้นฟูเลือดจำนวนหนึ่ง แต่ทักษะก็แค่ยืดระยะเวลาที่เขาจะตายออกไปเท่านั้น จำนวนสูงสุดที่เขาสามารถฟื้นฟูตัวเองได้โดยประมาณคือ 10-20,000 จุด จากทั้งหมด 90,000 จุด ซึ่งในท้ายที่สุด ยังไงเขาก็ต้องถูกฆ่าโดยผู้เล่นอยู่ดี

ในฐานะที่เป็นบอสระดับ 30 เขาให้ค่าประสบการณ์ที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

ความฝันที่เหลืออยู่เดินเข้าไปลูทไอเท็มศพ แต่เธอพบแค่อุปกรณ์ระดับเงินเท่านั้น

ทุกๆคนรู้สึกผิดหวัง นอกจากตัวลูหลี่เอง

เสื้อคลุมวิญญาณซ่อนเงา (เงิน): เกราะ 24 สติปัญญา 20 อัตราฟื้นฟูมานา + 20%, การใช้มานาลดลง 20% โอกาสเวทย์มนต์ติดคริติคอล + 10% ความต้องการระดับ 30, ความทนทาน 42/42

หลังจากที่ลูหลี่ได้แสดงสถานะของเสื้อคลุมออกมา ไม่แปลกใจเลยที่ดอกไม้อ้างว้างและลูกชิ้นงาจะตาเบิกกว้างขนาดนั้น

อุปกรณ์ใดๆที่มีโบนัสค่าคริติคอล 10% ล้วนแล้วแต่เป็นของชั้นเอก นี่ไม่ต้องพูดถึงของที่มีการฟื้นฟูมานาและลดมานาที่ใช้ไป ด้วยเสื้อคลุมอันนี้ มันสามารถทำให้พวกเขาต่อสู้ระยะยาวได้เลย

นั่นหมายความว่า เวลาที่ใช้ในการฟื้นฟูจะลดลงอย่างมากและมันทำให้การเพิ่มระดับง่ายขึ้นไปอีก

"ดอกไม้ นายเอามันไป ทักษะขอยนายจะได้ใช้มานาน้อยลง "ลูหลี่กล่าวขณะที่มอบเสื้อคลุมไปให้ดอกไม้อ้างว้าง

แม้ว่าลูกชิ้นงาจะต้องการมันเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขารู้ว่าตราบใดที่เขาติดตามลูหลี่ไป ลูหลี่ก็ไม่มีทางที่จะทำกับเขาไม่ดี

อีกทั้งพวกเขายังสามารถได้รับมันมาอีกชิ้น เพราะโอกาสที่ผู้ดูแลสุสานจะโผล่มาคือ 100%

มันไม่สำคัญเท่าไหร่หรอกว่าใครจะได้เสื้อคลุมนี้ไป

ในดันเจี้ยนนี้มีบอสเพียงตัวเดียวในสุสาน ซึ่งไม่รวมผู้ดูแลสุสาน เนื่องจากมอนสเตอร์ทั้งหมดได้ถูกกวาดล้างแล้ว ทีมของพวกเขาจึงตรงดิ่งไปยังดินแดนของนักเวทย์เลือด เทลนอส ในทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด