จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 362
บทที่ 362: ชุมนุม
ช่องแชทโลกและฟอรัมเกมต่างเต็มไปด้วยข้อความมากมายพร้อมการแจ้งเตือนมากมาย
หนึ่งในบทความของโพสต์ในฟอรัมได้ระบุเหตุการณ์ๆหนึ่งขึ้นมา ซึ่งมันเป็นสถานการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ สมาคมจักรวรรดิวายุเป็นคนแรกที่ค้นพบกับบอสป่าและได้รวบรวมสมาชิกเพื่อเอาชนะมัน อย่างไรก็ตาม สมาคมเพ็คทามไดนาสตี้และสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศก็ได้ตามมาอย่างใกล้ชิต
สมาคมจักรวรรดิวายุได้ตัดสินใจที่จะร่วมทีมกับสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ นั้นจึงได้เป็นการกำจัดสมาคมเพ็คทามได้นาสตี้ออกจากการแข่งขันนี้ไป ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องกัน เพื่อลด EXP และไอเท็มที่จะต้องแบ่งออกไป
สมาคมเพ็คทามไดนาสตี้รู้สึกเจ็บแสบมากและพวกเขาก็ได้บอกกับผู้เล่นทั่วไปในแชทโลก มันจึงเป็นการดึงดูดคนกลุ่มใหญ่เข้ามา อย่างไรก็ตาม กำลังคนที่เขาได้คิดจะก่อตัวขึ้นมา กลับถูกทำลายด้วยแนวป้องกันของสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ
เมื่อราชินีกำลังจะตายลงไป ลูหลี่ หัวหน้าสมาคมกฏแห่งดาบ กลับโผล่มาจากฟากฟ้าและได้ขโมยการโจมตีครั้งสุดท้าย รวมถึงไอเท็มที่ดรอบไปด้วย ทั้งสองสมาคมกลับไม่สามารถทำอะไรได้และลูหลี่ก็หนีไปได้อย่างง่ายดาย
บทความนี้อาจจะพูดเกินจริงไปบ้าง แต่รายละเอียดส่วนใหญ่ของมันก็ค่อนข้างถูกต้อง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ลูหลี่สามารถขโมยบอสจากสามสมาคมได้และยังหลบหนีไปโดยไม่มีอันตรายอะไรอีก
ข่าวนี้น่าตกใจมากกว่าการที่ ลูหลี่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึกระดับฝันร้าย ได้อีก แทบจะในทันที ที่สามสมาคมใหญ่ได้กลายเป็นตัวตลกในสังคมเกม
ผู้เล่นธรรมดาที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นกลับโกรธมากยิ่งขึ้นอีก ไม่เพียง แต่สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศจะหยุดพวกเขาจากการฆ่าบอสป่า สมาคมจักรวรรดิวายุยังมากวาดล้างพวกเขา เพื่อที่จะระบายความโกรธอีก
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความโกรธในชุมชนเกมและเกิดความคิดเห็นที่เลวร้ายจำนวนมาก ที่เกี่ยวกับทั้งสามสมาคม พวกเขาขุดลึกแผลเก่าไปยังรากเหง้าและทำร้ายพวกเขาด้วยความคิดเห็นอย่างดูถูก
"อย่ามาแข่งขันกันล่าบอสสิว่ะ ถ้าพวกแกทำไม่ได้!"
"ลูหลี่ขโมยบอสใต้จมูกพวกแกด้วยว่ะ"
"นี่เป็นแผนที่พวกแกได้วางไว้ใช่ไหม? กันไม่ให้ผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์ด้วยกันฆ่าบอส แล้วปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายพันธมิตรเป็นคนฆ่ามัน? ทำไมพวกแกถึงให้ของขวัญมากมายกับลูหลี่ขนาดนี้ฟ่ะ?"
สามสมาคมใหญ่เกือบจะกระอักเลือดออกมา เพราะพวกเขาต่างผิดหวังและโกรธกับความคิดเห็นพวกนี้มาก
พวกเขาพยายามที่จะคิดร่วมมือกันเพื่อหาทางแก้แค้นลูหลี่ แต่มันอาจนำไปสู่สงครามระหว่างสองฝ่าย
ถึงแม้ว่าฝ่ายเผ่าพันธุ์จะมีสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ แต่ฝ่ายพันธมิตรก็มี สมาคมธงสงครามสีเลือด ที่มีพลังเหนือกว่าพวกเขา ถ้าสงครามระหว่างฝ่ายได้เริ่มขึ้น ฝ่ายเผ่าพันธุ์คงจะไม่มีโอกาสชนะ
พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากจะต้องเก็บงำความแค้นนี้ไว้ต่อไป
แม้ว่าลูหลี่จะไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีกับฝ่ายพันธมิตร แต่หลายคนก็ได้ชมเชยการขโมยบอสอันแสนงดงามนั้น
ผู้เล่นทั่วไปของฝ่ายพันธมิตรต่างรู้สึกภาคภูมิใจในตัวของลูหลี่ เรื่องนี้น่าจะได้ถูกกล่าวขานต่อไปหลายปี มันเหมือนกับการขโมยบอสที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกมรุ่งอรุณ
ในตอนนี้ ลูหลี่เหมือนเป็นคำนิยามของ ผู้มีความกล้าหาญ ผู้มีพรสวรรคฺและผู้มีทักษะ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้สนใจชื่อเสียงและการชิงดีชิงเด่นอะไรเลย กลุ่มทหารรับจ้างซินซินได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งลูหลี่ก็ไม่ได้เป็นคนบ้าเช่นในอดีตอีกแล้ว
แล้วลูหลี่จะทำอะไรงั้นเหรอ หลังจากที่เขาทำอะไรแบบนี้แล้ว?
คุณเดาได้ถูกแล้ว เขากลับไปเพิ่มระดับในจุดๆเดอม หลังจากที่เขาขโมยราชินีแมงมุมเสร็จ
ใครจะคิดกันว่าลูหลี่ยังอยู่แผนที่เดิม ทั้งๆที่เขากำลังถูกตามตัวจากผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์ แม้ว่าผู้เล่นทั่วทั้งโลกกำลังจะพูดถึงเขาอยู่ แต่เขาก็ทำตัวเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในตอนที่บอสตายลงไป เขาได้หยิบแพรไหมของราชินีแมงมุมขึ้นมา ซึ่งมันเป็นวัสดุหายาก ที่แม้แต่ราชินีแมงมุมก็ยังมีโอกาสที่จะดรอบมันได้น้อยมาก มันเป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูงสุด สำหรับเสื้อคลุมของนักเวทย์
คนส่วนใหญ่ล้วนล่าบอสป่าเพื่อวัสดุหายาก
คุณภาพและความสามารถของสมาคมไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิก แต่เป็นจำนวนวัสดุหายากที่เก็บสะสมมาต่างหาก
ลูหลี่ตีค่าของวัสดุหายากของเขา มากกว่าเงินที่เป็นเหรียญทองเสียอีก ในความเป็นจริงแล้ว บางทีวัสดุหายากพวกนี้ ก็ไม่มีวันที่จะปรากฏตัวบนโถงประมูลเลย
ระหว่างที่เขากำลังฟาร์ม ลูหลี่ก็ได้เหลือบไปมองแถบค่าประสบการณ์
ระดับ 28 ค่าประสบการณ์ 7%
ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับ EXP เขายังทำตามเป้าของเขาสำเร็จอีก นั้นทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์มากเกินกว่าที่คาดไว้ "เล็กน้อย"
ทั้งหมดนี้คงต้องขอบคุณ ราชินีไซลิส แม้ว่าจะเป็นค่าประสบการณ์แค่ 20% ของ EXP ทั้งหมด แต่มันก็ยังคงช่วยให้เขาประหยัดเวลาได้มากสำหรับลูหลี่ ในแง่ของการฟาร์ม
เมื่อแถบค่าประสบการณ์ของลูหลี่ได้มาถึง 15% มันก็ได้หมดวันแล้ว
ก่อนที่เขาจะออกจากระบบไป เขาก็ได้รับภารกิจจากจอมพลพัลโทรว์ หลังจากใช้เวลาไปกว่าครึ่งวันในการฟาร์มแมงมุม EXP ที่ได้จากเควส ก็ทำให้ EXP ของเขาพุ่งสูงมากขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการได้รับค่าชื่อเสียงจากเมืองลมพายุ มากกว่า 100 จุด
จอมพลพัลโทรว์เป็นเผ่ามนุษย์ ดังนั้น แน่นอนเลยว่ารางวัลของเขาที่ใช้ตอบแทนผู้เล่น ก็คือค่าชื่อเสียงจากเมืองลมพายุ
หลังจากออกจากระบบแล้ว ลูหลี่ก็ลูบหน้าอ่อนเพลีย ก่อนที่จะไปอาบน้ำและออกจากบ้านไป
เขาวางแผนที่จะไปพบกับสแควรูทสาม เพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนาสมาคมของพวกเขาด้วยกัน
นี่เป็นการพบกันครั้งที่สองของพวกเขาในชีวิตจริง ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกัน มันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป
ชีวิตบางครั้งก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้พบกันในชีวิตจริง ก็คือตอนที่ลูหลี่ยังเป็นสมาชิกนักขุดทองของสมาคม อย่างไรก็ตาม เขานั้นเบื่อหน่ายกับทัศนคติและก็ได้ยกเลิกสัญญาของเขาไป
คราวนี้ เขาได้เป็นเจ้านายเอง
สังคมเกมกำลังก้าวหน้าไปพร้อมกับยุคใหม่ มันจึงมีโอกาสมากมายที่จะต้องมีอะไรบางอย่าง เกี่ยวข้องกับศัตรูเก่า สถานะของลูหลี่เหมือนกับเป็น CEO ของสมาคม ดังนั้นแล้ว เขาจึงต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นทั้งด้านในและนอกเกมที่เขาต้องดูแล
สถานที่ๆพวกเขามาเจอกันนั้นอยู่ที่ร้านอาหารที่ดีแห่งหนึ่ง
ไม่ใช่เพราะว่าลูหลี่รวย แต่เนื่องจากสถานที่นี้ นั้นดีมากสำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจกัน
"ดูเหมือนว่านายจะทำได้ดีเลยทีเดียวนิ มันจะดีแค่ไหนกัน หากเราได้อยู่ในที่ๆเดียวกัน?"สแควร์รูทสามสั่งอะไรบางอย่างและพนักงานเสิร์ฟก็เอาเมนูของพวกเขาไป
"ตอนนี้ฉันเช่าบ้านอยู่แล้ว" ลูหลี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
สแควรูทสามหัวเราะ ไม่ใช่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม เพราะว่าลูหลี่นั้นยังไงก็จะชื้อบ้านด้วยเงินที่เขาหามาได้จากในเกมอยู่แล้ว สแควรูทสามมีความมั่นใจในธุรกิจใหม่นี้และเชื่อมั่นในความสามารถของลูหลี่และสมาชิกทีมของเขาดี
"นายได้ไปโรงเรียนพร้อมกับอู่เจียนและคนอื่นๆหรือเปล่า?"ลูหลี่ถามขณะที่ชี้ไปที่อาคารเรียนเก่าผ่านหน้าต่างกระจกออกไป
"นั่นมันหลายปีมาแล้ว ฉันรู้จักอู่เจียนและคนอื่นๆจากโรงเรียนมัธยม เพราะเราเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน มหาวิทยาลัย ไม่ใช่เส้นทางเดียวที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต บางคนก็รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ คนที่ทำมันไม่ได้ ต่างก็คิดมากเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากนัก พวกเราทั้งสี่คนนั้นไม่ค่อยจะชอบเรียนมากนักหรอก "สแควร์รูทสามกล่าวก่อนที่จะคิดถึงสิ่งที่เขาจะกล่าวและได้หัวเราะออกมา" โอ้จริงสิ เราไม่ได้ไปเรียนหนังสือกันเลยนี้หว่า เราได้หนีชั้นเรียนอยู่บ่อยๆครั้ง"
"นายทั้งสี่คนเล่นเกมด้วยกันตลอดเลยเหรอ?"ลูหลี่ไม่เคยเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนมัธยมปลายเลย เขาจึงได้พูดออกมา
เขาไม่เข้าใจความผูกพันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างวัยรุ่น 4 คนที่อยู่ห้องเดียวกันได้เลย มิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างชายสี่คน โดยอาศัยความสนใจร่วมกันในเรื่องของเกม เด็กผู้หญิงและสื่อลามก คงจะแข็งแกร่งเหนือกว่าสิ่งอื่นใด
"ใช่เราเล่นด้วยกันตลอดเลย พวกเราทั้งสี่คนได้ก่อตั้งสมาคมสตาร์มูนขึ้นมา ภายในโรงเรียนมีทะเลสาบอยู่ด้วยนะ นายน่าจะไปดูมันถ้ามีโอกาส มันสวยงามมากเลยทีเดียว "สแควร์รากสามกล่าวในขณะที่เขานึกถึงความทรงจำเก่าๆ
"มันจะดีกว่าถ้าลืมอดีตไปและมองแต่เรื่องในอนาคตข้างหน้า " ลูหลี่สนใจเรื่องของเขามาก แต่ก็ยังจำได้ว่าเขามาหากันเพื่อคุยกัน
ยิ่งความทรงจำนั้นเก่าและดีมากเท่าไหร่ เมื่อมันนานไป มันก็จะแสนขมขื่นและเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อก่อนพวกเขาเคยเป็นเพื่อนกัน แต่ตอนนี้ พวกเขาต่างอยู่กันคนละเส้นทางแล้ว
"ฉันเลิกห่วงเรื่องพวกนี้มาพักใหญ่แล้ว ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นอู่เจียน ฉันก็ยังยิ้มและกล่าวทักทายเขาอยู่"สแควรูทสามกล่าว
"เขายิ้มบางไหม?"ทั้งหมดที่ลูหลี่จำได้เกี่ยวกับตัวของอู่เจียนเอง คือเขาเป็นคนที่แสนอวดดี
"ไม่ เขาดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่" สแควร์รูทสามหัวเราะ ขณะที่เขาเปิดฝาขวดเบียร์ เขาเทใส่แก้วของลูหลี่ จากนั้น เขาก็เทใส่แก้วของเขาเอง