จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 359
บทที่ 359: ราชินิไซลิส
"ข้าได้ยินมาว่ามีปัญหาอยู่ใกล้กับค่ายนี้ และข้าก็หวังว่าที่จะช่วยเหลือท่านได้" ลูหลี่กล่าวออกมา เพื่อแสดงความตั้งใจของเขา
"เจ้ารู้ดีเลยทีเดียวนี้ ถูกต้องแล้ว ทหารของข้าได้ออกไปสำรวจและพบว่า ด้านหลังของภูเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยแมงมุมมากมาย แมงมุมพวกนี้มีจำนวนมากและมักจะโจมตีค่ายของพวกเราเสมอ "จอมพลพัลโทรว์กล่าวออกมาอย่างขมขื่น" เจ้าช่วยข้าจัดการแมงมุมพวกนั้นได้หรือเปล่า?"
"ด้วยความยินดีครับ" ลูหลี่ยอมรับเควส
ระบบได้แจ้งเขาว่า เขาได้รับเควสกำจัดแมงมุม ซึ่งรางวัลจะแตกต่างไปตาม จำนวนและเวลาที่ใช้ไปในการกำจัดแมงมุม
ภารกิจนี้สามารถได้รับจากพวกทหารได้ แต่มันจะจำกัดแค่เพียง 50 ตัว แม้ว่าจะเป็นภารกิจที่สามารถทำซ้ำๆได้ แต่คุณต้องย้อนกลับไปรับเรื่อยๆ นอกจากนี้แล้ว ในคำแนะนำที่เขาเคยอ่านมา มีคนบอกว่าพัลโทรว์สามารถมอบเควสนี้ให้ได้เหมือนกัน แต่ของตัวเขานั้น จำนวนการฆ่าไม่มีจำกัด
ลูหลี่ยอมรับภารกิจนี้และเดินไปตามทางของเขา
เขาไม่ได้พยายามที่จะบอกกับจอมพลพัลโทรว์ ว่าในอนาคตเขาจะถูกลอบสังหารในสักวันหนึ่ง
พวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีพอ ซึ่งลูหลี่ก็ไม่รู้ว่า หากเขาเตือนเขาไป มันจะเกิดอะไรขึ้น หากเขาพยายามแทรกแซงเนื้อเรื่องของระบบ?
ตามเส้นทางแคบๆขึ้นไปบนหลังภูเขา โพลงก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขา แม้ว่ามันจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ยังคงต้องใช้เวลาในการเดินทางมาพื้นที่นี้นานพอสมควร
ต้นไม้ในโพลงเป็นสีแดง ซึ่งมันดูไม่แข็งแรงและเต็มไปด้วยใยแมงมุม แม้แต่หญ้าโดยรอบก็ไม่มีเว้น พวกมันล้วนเต็มไปด้วยใยแมงมุม
แมงมุมสีเทาคือ ดีฟมอสครีปเปอร์ ในขณะที่สีเขียวคือ ดีฟมอสเวน่อมสปิทเทอร์ ส่วนราชาแมงมุมเขี้ยวแหลม เขาไม่เจอมันที่นี้เลย
ลูหลี่ได้เลือกตำแหน่งตำแหน่งหนึ่งเพื่อฆ่าแมงมุมและได้เล็งไปที่การฆ่าเจ้าครีปเปอร์ เพราะว่ามันฆ่าได้ง่ายมาก มีมอนสเตอร์จำนวนมากอยู่ทุกหนแห่งในที่นี้ ดังนั้นแล้ว แถบค่าประสบการณ์ของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไอเท็มที่แมงมุมดรอบลงมาค่อนข้างจะธรรมดา นอกเหนือจากวัตถุดิบสำหรับทำอาหารทุกประเภทแล้ว เช่นเนื้อแมงมุมและขาแมงมุม ก็มีเพียงแต่ ใยแมงมุมหนาทึบ ที่มีประโยชน์ขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น เพราะมันคือวัสดุทั่วไปสำหรับการตัดเสื้อ
ลูหลี่เก็บขาแมงมุมไว้สองชิ้น เพื่อไว้ใช้ย่างทำอาหารและเก็บที่ว่างจำนวนหนึ่งไว้ในกระเป๋าของเขา เพื่อที่จะได้เก็บใยแมงมุมหนาทึบ
หลังจากนั่นไม่กี่ชั่วโมง แถบค่าประสบการณ์ของลูหลี่ก็ได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ในอัตรานี้ เขาน่าจะสามารถเพิ่มระดับได้ถึง 28 เมื่อถึงตอนกลางคืนของเกม อีกทั้งเขายังประหยัดยาแก้พิษได้เป็นจำนวนมาก เพราะเขาหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีเวน่อมสปินเทอร์จำนวนมากไป
ในที่สุด เขาก็หยุดฆ่ามอนสเตอร์
ป่านี้ตามปกติจะค่อนข้างเงียบ นอกเหนือจากเสียงร้องของแมงมุมและเสียงลมอันแสนแปลกประหลาดที่มักจะพัดผ่านลุ่มน้ำ แต่ดูเหมือนว่า เขาจะได้ยินเสียงอื่นที่ดูแตกต่างออกไป
ลูหลี่ได้ถอยห่างๆไปยังพื้นที่เงียบๆที่ไม่มีแมงมุมอยู่และกลายร่างเป็นอีกา หลังจากที่เขาออกจากการต่อสู้
ด้วยปีกของเขาที่สยายกว้าง เขาก็ได้มองลงไปที่ป่าจากข้างบน
ขณะที่เขาไล่ตามเสียงมา ลูหลี่ก็เบิกตากว้าง
เขาได้เห็นแมงมุมยักษ์ ราชินีไซลิส
มีเพียงคำเดียวที่อธิบายถึงไซลิสได้ เธอตัวใหญ่ เธอสูงเทียบเท่ากับคนสองคนต่อตัวกัน ลูหลี่เห็นร่างอันใหญ่ยักษ์ของเธอได้อย่างชัดเจน จากข้างบนป่า
ลูหลี่ไม่ได้คิดที่จะต่อสู้กับบอสในที่นี้ แม้ว่าในตอนที่เขามีระดับ 30 แล้วก็ตาม เขาไม่มีทางที่จะฆ่าเธอได้เลย
ราชินีไซลิส เป็นบอสที่ยากที่สุดของบอสระดับ 30 ทุกๆตัว เธอมีลูกน้องและสามีที่ช่วยเธอต่อสู้และ HP 240,000 จุด ของเธอ มันจึงเป็นไปไม่ได้เลย แม้แต่ทีมที่มี 50 คนก็ตาม
ในสังคมของสตรีแมงมุม ราชินไซลิสจึงมีสามีหลายคน ดังนั้นแล้ว เธอจึงมีนักล่ามากมายที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเธอ เพียงแค่เธอสั่งออกมา ถ้าผู้เล่นนั้นโชคร้าย พวกเขาคงจะได้พบเจอกับแมงมุมนับพันตัว
การเจอกับฝูงมอนเตอร์ระดับหัวหน้านับพันพุ่งเข้าใส่ คงจะเป็นเรื่องที่ดูน่ากลัวจริงๆ
เช่นเดียวกับตอนที่ลูหลี่กำลังจะบินหนีไปจากไซลิส เขาก็ได้สังเกตเห็นว่า มีแสงไฟจากเวทมนตร์อยู่รอบๆตัวเธอ หลังจากที่เขาบินเข้าไปใกล้ๆ เขาได้ยินเสียงการสู้รบขึ้น
มีคนพยายามฆ่าบอสป่าระดับ 30 งั้นเหรอ?
นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว หากมีนักล่าสมบัติสักคนตามหากล่องอยู่ที่นี้ การจะเจอบอสใหญ่ตัวนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด อีกทั้งสมาคมจำนวนมากก็ยังไม่ได้สำรวจแผนที่ด้วย
การฆ่าบอสในพื้นที่ไกลๆแบบนี้มีข้อดี อย่างแรกก็คือ คนที่รู้เกี่ยวกับบอสตัวนี้จะมีน้อย อีกทั้งยังลดโอกาสที่จะมีคนขโมยบอสอีกด้วย
ลูหลี่บินวนรอบเหนือน่านฟ้าและพุ่งลงไปยังพุ่มที่มีใบไม้มากมาย ด้วยช่องว่างของใบไม้ มันจึงทำให้เขารู้ว่าใครกำลังต่อสู้กับบอสอยู่
สมาคมจักรวรรดิวายุ!
ลูหลี่เคยต่อสู้กับทีมของเขาในการแข่งขันถ้วยเงา เกรช ใบไม้เมฆหมอกและเวนเดอริน พวกเขาแต่ละคนล้วนแต่เป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียง
แต่ในเวลานี้ กลับมีแต่เพียงใบไม้เมฆหมอกมา ผู้เล่นที่รับผิดชอบในการต่อสู้ครั้งนี้คงจะเป็น "ความคิดราวกับยาพิษ"
ลูหลี่เคยได้ยินเกี่ยวกับผู้เล่นคนนี้มาก่อน เขาเป็นผู้เล่นที่เล่นเป็นอาชีพนักรบและสนใจแต่การป้องกัน นับได้เลย ว่าเขาคือตัวเต็งของผู้เล่น PVE ในสมาคมจักรวรรดิวายุ
เขาได้นำทีมมาประมาณสองร้อยคนเพื่อต่อสู้กับบอสตัวนี้ ซึ่งในแง่ของจำนวน พวกเขาก็น่าจะสามารถจัดการกับบอสระดับ 30 ได้ พวกเขาเป็นคนเพียงกลุ่มเดียวที่อยู่ที่นี่ ไม่มีบุคคลภายนอกมารบกวนพวกเขาด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ต่อสู้มาถึงจุดหนึ่ง ใบหน้าความคิดราวกับยาพิษก็เต็มไปด้วยความโกรธ
"ใครเป็นคนที่บอกความลับกัน? อย่าให้ฉันรู้นะ ฉันจะให้มันได้ไปนั่งเล่นในคุกแน่!""
ดูเหมือนว่า จะมีใครรู้ว่าพวกเขาพบกับบอสตัวนี้ ซึ่งแน่นอนว่านั้นต้องเป็นสปายในกลุ่มคนสองร้อยคนนี้ อีกทั้งยังเป็นเรื่องยากมาก หากจะให้ผู้เล่นจำนวนมากเก็บความลับ
แล้วการที่เขาขู่ว่าจะให้คนๆนั้นได้นั่งเล่นในคุก มันก็ไม่ใช่เรื่องตลกเลย
ผู้เล่นสองร้อยคนนี้ได้ลงนามสัญญากับสมาคมจักรวรรดิวายุไปแล้ว การละเมิดสัญญาตามกฎหมาย คือการบอกความลับ ซึ่งนั้นจะทำให้สมาชิกคนนั้นโดนลงโทษ
แต่นั่นจะเป็นไปได้ ก็ตอนที่คุณสามารถจับคนทรยศคนนั้นมาได้
เมื่อเห็นว่าสิ่งต่างๆนี้ดูน่าสนใจ ลูหลี่ก็ยังคงอยู่ในร่างของอีกาและซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ ซึ่งนั้นทำให้คนอื่นๆไม่สามารถจับเขาได้เลย
เพียงเวลาไม่นานนัก ขุมพลังกลุ่มหนึ่งก็ได้มาร่วมด้วย และไม่ได้มาแค่กลุ่มเดียว
สมาคมเพ็คทามไดนาสตี้ สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ!
ช่างเป็นอะไรที่ไม่สามารถเชื่อได้ด้วยสายตาเลย สมาคมระดับสูงสามสมาคมอยู่ในแผนที่เดียวกัน สงสัยว่าราชินีไซลีนน่าจะได้รับเกียรติมากพอดูเลยทีเดียว
ดูเหมือนว่า สมาคมเพ็คทามไดนาสตี้และสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศจะมาด้วยกัน แต่นี่เป็นเพียงแค่ความคิดของลูหลี่ ดูเหมือนว่าจะมีสปายหลายๆคนซ่อนตัวอยู่ในสมาคมจักรวรรดิวายุ
หลังจากที่พวกเขาได้รู้ว่ามีบอสอยู่ในหุบเขาเสียงดังก้อง ทั้งสองฝ่ายก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้
เช่นนี้แล้ว พวกเขาจึงได้จัดกลุ่มระดับสูงของพวกเขาและรีบไปที่นั้นทันที ทั้งสมาคมต่างไปพร้อมๆกันราวกับเข้าใจกันดี ทั้งๆที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า พวกเขาจะไปทำอะไรกัน
"บ้าเอ้ย... " ความคิดราวกับยาพิษรู้สึกไม่ประทับใจเลยสักนิด เพราะมันเหมือนกับว่าเขากำลังจะสูญเสียบอสตัวนี้ไป เพราะมีสายลับซ่อนอยู่ในทีมระดับสูงของเขา
การต่อสู้รุนแรงขึ้นในชั่วพริบตา กลุ่มคนนับร้อยต่างดาหน้าเข้าห่ำหั่นกัน
ในระยะเวลาสั้นๆกลับไม่มีใครสนใจตัวของราชินีไซลิสเลย
ลูหลี่ที่นั่งอยู่บนกิ่งก็ได้แต่นั่งมองดู เขาตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่หนีไป จากสถานการณ์ในปัจจุบัน บางที เขาอาจจะได้อะไรบางอย่างมาไว้ในมือก็เป็นได้