จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 358
บทที่ 358: หุบเขาเสียงดังก้อง
ลูหลี่มองไปที่ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเขา ผู้ชายคนนี้ได้มีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงเขาไปทั้งชีวิต ซึ่งนั้นก็คือเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่บนเตียง เมื่อเห็นดังนั้น เขาก็ส่ายหัว
"เพลทอรัส ข้าขอขอบคุณท่านสำหรับความหวังดีของท่าน แต่ข้าขอปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้"
"ทำไมล่ะ?"เพลทอรัสประหลาดใจ
"ข้าเป็นโจร ดังนั้นแล้ว ธนูนี้จึงไม่สามารถสร้างประโยชน์อะไรให้ข้าได้ แต่ท่านสามารถช่วยให้เด็กสาวตัวเล็กๆสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ โดยใช้คันธนูตัวนี้ "ลูหลี่พูดอธิบาย" ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะโตขึ้นอย่างมีความสุขและข้าก็มั่นใจว่าเธอจะมีความสุขอย่างแน่นอน เพราะว่าเธอมีพ่อที่รักเธอมากที่สุด"
เขาไม่ได้ตัดสินใจเรื่องโดยไม่ลังเลใจอะไร ลูหลี่นั้นพยายามโน้มน้าวใจของตัวเอง ว่านี่เป็นแค่เกมเท่านั้น
น่าเสียดาย เกมนี้มันกลับสมจริงมากเกินไป เขาไม่สามารถเชื่อได้เลยว่า สิ่งที่เขาเห็นนั้นมันเป็นเพยีงแค่กลุ่มข้อมูลเท่านั้น ซึ่งแน่นอน สำหรับเขาแล้ว พวกเขาไม่ใช่แค่กลุ่มของข้อมูล พวกเขานั้นเป็นพ่อและลูกสาว เป็นพ่อที่เคยเกือบจะสูญเสียลูกของตัวเองไป
เขาจะอยู่ต่อไปไม่ได้เลย ถ้าเขาสูญเสียธนูยาวของเขาไป ซึ่งนั้นก็ไม่มีอะไรรับประกันอีกว่า เด็กสาวคนนี้จะมีชีวิตต่อไหม
บางที อาจเป็นเพราะว่าเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ ทำให้ลูหลี่นึกถึงน้องสาวของเขา นั้นจึงทำให้ลูหลี่รู้สึกเห็นใจ
"แต่เจ้าได้ทำอะไรมากมายเพื่อเรา ข้าจะชดใช้บุญคุณครั้งนี้แก่แก่เจ้าอย่างไร?"เพลทอรัสหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น
"ข้าได้รับมันมาแล้ว นั่นทำให้ข้ามีความสุขมาก ลาก่อนเพลทอรัส ข้าจะกลับมาอีกครั้งในอนาคต ถ้าข้ามีโอกาส "ลูหลี่ทำท่าทางกล่าวลาเหมือนเอลฟ์ทั่วไป ก่อนที่เขาจะก้าวออกจากบ้านธรรมดาๆหลังนี้ไป
เขาไม่ได้ดูเลยว่า ธนูยาวชิ้นนี้ เป็นไอเท็มระดับทอง หรือระดับทองดำ
มันเป็นอาวุธของทหารพรานเอลฟ์ ไม่ต้องกล่าวถึงรางวัลของเควสต่อเนื่องเลย ความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นไอเท็มระดับเงิน นั้นเป็นไปไม่ได้เลย
น่าแปลกใจ ที่เขาไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไรเลยสักนิด
เมื่อเขาได้ออกมาจากตรอกซอยและกลับไปที่ถนนอันแสนวุ่นวายในแอสทาน่า เขาก็รู้สึกราวกับว่า เขาเพิ่งเจอกับสองโลกที่ต่างกัน นั่นทำให้เขาดูมึนงงอยู่ชั่วขณะ
"ฉันคือลูหลี่ หัวหน้าสมาคมกฏแห่งดาบ ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแบบนั้นอีกแล้ว "ลูหลี่บอกกับตัวเอง
จากนั้น เขาก็ได้ไปที่คลังสินค้าของสมาคม เพื่อแลกเปลี่ยนยาแก้พิษระดับสูงและโพชั่น HP ระดับกลาง ไอเท็มพวกนี้ใช้พื้นที่เก็บของในกระเป๋าของเขามากกว่าครึ่งหนึ่งและเขาก็ได้วางแผนที่จะฟาร์มยาวๆ จนเขามีระดับ 30
ด้วยอุปกรณ์และระดับปัจจุบันของเขา เขาจะเพิ่มระดับอย่างไม่ช้าไปน้อยกว่ากองทัพนักเวทย์เลย เขาเพียงแค่ต้องหามอนเตอร์ที่จะฟาร์มเท่านั้น
ซึ่งไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า แมงมุมในโพลงวินเดอเว็บเลย
ใน โพลงวินเดอเว็บส่วนใหญ่แล้วจะมี ดีฟมอสครีปเปอร์และดีฟมอสเวน่อมสปินเตอร์ มอนสเตอร์ทั้งสองพวกนี้ มักจะอยู่รวมๆกันและมีอัตราการเกิดที่เร็วมาก พวกมันสามารถถูกจัดการโดยอาชีพที่สร้างความเสียหายกายภาพได้อย่างง่ายดายและให้ค่าประสบการณ์ที่สูง
ด้วยความเสียหายที่ลูหลี่สามารถสร้างได้ เขาต้องการเวลาแค่เพียงไม่กี่วินาทีในการฆ่าพวกมัน ค่าประสบการณ์จากแมงมุมพวกนี้ มันแทบจะเท่ากับค่าประสบการณ์ 1.5 เท่าของมอนสเตอร์ตัวอื่นๆที่อยู่ในระดับเดียวกัน
สิ่งที่สำคัญก็คือ เขาต้องระลึกถึงพิษของแมงมุมอยู่เสมอ นั้นทำให้เขาจะต้องดื่มยาแก้พิษเป็นจำนวนมาก
ราคาวัสดุของการสร้างยาแก้พิษระดับสูงนั้นไม่ได้ถูกเลย แค่ขวดเดียวก็มีค่าใช้จ่ายไม่น้อยไปกว่าหลายๆเหรียญเงิน แน่นอนว่า สำหรับผู้เล่นธรรมดาแล้ว นี่เป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมาก แต่ลูหลี่กลับไม่สนใจในเรื่องนี้เลย
นอกจากนี้แล้ว มันยังมีภัยคุกคามอื่นๆอีกในพื้นที่ ได้แก่ ราชาแมงมุมเขี้ยวแหลมและมอนเตอร์ระดับหัวหน้า การโจมตีของมันรุนแรงและรวดเร็ว ผู้เล่นจะตายได้อย่างง่ายดาย หากไม่ระมัดระวังตัว
ลูหลี่ไม่ค่อยเรื่องภัยคุกคามพวกนี้มากนัก เขาแข็งแกร่งพอและเขายังเป็นผู้เล่นที่เล่นอาชีพโจรด้วย
ก่อนที่เขาจะมุ่งหน้าสู่ โพรงวินเดอเว็บ ลูหลี่ก็ได้ซื้ออุปกรณ์สำหรับการทำเหมืองที่ + ค่าทำเหมือง 5 จุดด้วย
ทุกคนจะไปที่หุบเขาเสียงดังก้องโดยปราศจากเซ็ตทำเหมืองได้ยังไงกัน? มีเหมืองแร่ทองแดงระดับต่ำอยู่มากเลยทีเดียว ดังนั้นแล้ว สำหรับผู้เล่นที่เหมือนกับลูหลี่ ผู้ซึ่งไม่เคยที่จะขุดเหมืองมาก่อนเลย นี้จึงเป็นที่ๆเหมาะสมเลยทีเดียวสำหรับการฝึกทักษะนี้
หุบเขาเสียงดังก้อง ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของดินแดนรกร้าง จากทางตอนใต้สู่หุบเขาสีเทาและทางเหนือก็เป็นทางไปสู่ดินแดนอันหดหู่ ที่นี้มีฐานทัพฝ่ายพันธมิตรที่มีชื่อเรียกว่า จุดสูงสุดของหุบเขา และฐานของฝ่ายเผ่าพันธุ์ ที่มีชื่อเรียกว่า ดวงอาทิตย์หินเดเวอลิ่ง ซึ่งฐานของทั้งคู่ก็ตั้งอยู่ที่นี้เหมือนๆกัน
โพลงวินเดอเว็บ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของ หุบเขาเสียงดังก้อง เพื่อที่จะไปถึงที่นั่น ลูหลี่จะต้องผ่านหุบเขาเสียงดังก้องไป
ลูหลี่เดินทางไปที่จุดสูงสุดของหุบเขาและเดินไปตามทางหุบเขา
เขาไม่ได้บินมา เพราะว่ามีไวเวินร์อยู่มากมายเหนือน่านฟ้า
เหล่าไวเวินร์โบราณพวกนี้ถูกเรียกว่า "จิ้งจกบิน" ได้ พวกมันมักจะแย่งชิงอาณาเขตของกันและกันอยู่เสมอ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่อาณาเขตของมันถูกรุกราน พวกมันก็จะร่วมมือกันและกำจัดตัวที่เป็นภัยคุกคามนั้นออกไป
นอกจากนี้แล้ว ยังมีเรือบินของก็อบลินบินไปมารอบๆบริเวณนี้ ซึ่งมันสามารถฆ่าลูหลี่ได้อย่างง่ายดาย ไม่มีทางเลย ที่เขาจะกล้าบินไปมาด้วยร่างอีกาของเขา
โชคดีที่มีมอนสเตอร์ไม่มากนัก ตามเส้นทางของหุบเขา มอนสเตอร์พวกนี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเขามากนัก แต่ตลอดทางกลับมีหน่วยลาดตระเวนของออร์ค
ลูหลี่นั้นไม่ได้พยายามที่จะทำตัวเป็นวีรบุรุษอะไรเลย แต่เขาดันถูกพบโดยหนึ่งในกลุ่มทหารพวกนั้นโดยบังเอิญ เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะฆ่านักรบออร์คสองคนและนั้นเป็นผลให้ พวกที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เรียกกำลังเสริมมามากมาย...
โชคดี ที่เขามีอาชีพเป็นโจร
ถ้าลูหลี่พบเหมืองแร่ทองแดง เขาก็จะไปขุดมัน ซึ่งมันก็ไม่ได้เสียเวลาเท่าไหร่นัก
หลังจากผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ลูหลี่ก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุดของทางหุบเขาแล้ว ตามเครื่องหมายตลอดทางที่เขาพบ จุดต่อไปก็ควรจะเป็น หินผาวินเชีย
มันเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดนัก ที่จะเดินทางไปรอบๆหินผาวินเชีย เพราะนี่เป็นสถานที่อันตรายที่มีไวเวินร์ คนบ้าผู้อุ้ยอ้าย ดรูอิดบ้าคลั่งและก็อบลินนักทำลาย พวกนี้เป็นมอนเตอร์ที่ฆ่ายากมาก แต่มันกลับให้ค่าประสบการณ์ที่น้อยเช่นกัน
ลูหลี่ได้กระโดดลงไปยังแม่น้ำหมาป่าดำที่อยู่ใกล้ๆกับเขา
แม่น้ำหมาป่าดำคดเคี้ยวไปมาและอยู่รอบๆหุบเขาเสียงดังก้อง
ถึงแม้คุณภาพน้ำของแม่น้ำนี้จะไม่ดีนัก แต่ก็ไม่ได้มีปลาที่มีอันตรายอยู่ในนั่น ส่วนใหญ่แล้ว ในน้ำจะมีแค่ปลาที่สามารถทนมลพิษของน้ำได้ก็เพียงเท่านั้น ลูหลี่ได้กลายร่างเป็นแมวน้ำและว่ายน้ำไปอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง เขาไม่ได้ใช้เวลานานนัก เพื่อที่จะไปยัง หุบเขาวินเชีย
"อย่าก้าวเข้ามา นักผจญภัย!"หลังจากได้ตะโกนออกมา ทหารมนุษย์สองคนก็ได้มายืนอยู่ต่อหน้าลูหลี่
ลูหลี่เก็บกริชในมือของเขาไว้ เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่า เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร หลังจากนั้น เขาก็ได้ทำตามธรรมเนียมของไนท์เอลฟ์พร้อมกล่าวว่า "ข้าเป็นไนท์เอลฟ์จากหุบเขาเทาในแอสทาน่า ข้ามาที่นี้เพื่อมาพบกับจอมพลพัลโทรว์"
"รอที่นี่" ทหารคนหนึ่งได้ตรวจสอบตัวของลูหลี่อย่างระมัดระวัง ก่อนที่เขาจะหันกลับไปรายงาน
ทหารอีกคนจับดาบในมือไว้แน่น เขาเตรียมพร้อมที่จะโจมตีลูหลี่ตลอดเวลา หากเขาทำอะไรผิดแปลกไป
พวกเขานั้นเป็นยามเฝ้าทางเหนือ
กองกำลังใหม่นี้เป็นกำลังทหารหลักขอฝ่ายพันธมิตร ในการเอาชนะคาลิมดอร์และประกอบไปด้วยทหารจาก ดินแดงแห้งแล้ง หุบเขาเสียงดังก้องและดูโรทาร์
จอมพลพัลโทรว์ เป็นผู้บัญชาการสูงสุดหรืออย่างน้อยก็แค่ในตอนนี้ เมื่อเรื่องราวในเกมได้มาถึงจุดๆหนึ่ง จอมพลพัลโทรว์ก็จะถูกลอบสังหารโดยพวกเผ่าพันธุ์
ซึ่งวิธีการของพัลโทรว์ก็ได้ทำให้ขุนนางบางกลุ่มในฝ่ายพันธมิตรย่ำแย่ลง เช่นนี้แล้ว พวกเขาจึงวางแผนที่จะจัดการกับเขาและเข้าร่วมกับฝ่ายศัตรูเพื่อโค่นเข้าลง
แทนที่จะพูดว่า พัลโทรว์เสียชีวิตเพระาผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์ มันคงจะดีกว่า หากบอกเขาว่า เขาตายเพราะคนๆอื่น
จากนั้นเอง ลูหลี่ก็ได้ถูกนำตัวมาอยู่ต่อหน้า จอมพลพัลโทรว์
พัลโทรว์ เป็นพาลาดินที่สวมเกระาแผ่นสีทอง เขาสูงกว่า 2 เมตรและลูหลี่ก็รู้สึกสงสัยว่าเขามีสายเลือดไวกิ้งไหลเวียนอยู่ในตัวของเขาหรือเปล่า
"สวัสดี นักผจญภัยหนุ่ม" พัลโทรว์กล่าวด้วยรอยยิ้ม "ข้าไม่เคยเห็นนักผจญภัยมาที่นี่เป็นเวลานานเลยนะ ช่างแปลกใจที่ได้พบเจ้า? มีอะไรให้ข้าช่วยงั้นหรือ?"