จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 343
บทที่ 343: หนังสือทักษะกระหายเลือด
ถ้าพวกเขาโชคดีพอ อะคูมาอิอาจจะดรอบโล่ทองก็เป็นไปได้ เป็นอุปกรณ์ป้องกันที่ทรงพลังมาก
ความฝันที่เหลืออยู่คุกเข่าต่อหน้าศพและล้วงแขนเข้าไปสำรวจ มันเหมือนกับว่าเธอกำลังได้ยินเสียงบางอย่างจากเทพธิดา แต่พวกเขาไม่มีทางรู้ได้เลย ว่าใครเป็นคนอวยพรให้กับมือนำโชคของเธอกัน
ไอเท็มชิ้นแรกคือชุดระเงิน LV 30 มันทำมาจากหนัง มันจึงเพิ่มค่าสติปัญญาและใช้ได้กับดรูอิด มันมีค่าสถานะที่ดี แต่ด้วยระดับของฮาชิจังที่ยังไม่สูงพอ มันจึงถูกส่งไปยังคลังของสมาคม
ส่วนไอเท็มชิ้นที่สองคือหนังสือทักษะ "กระหายเลือด"
กระหายเลือด ทักษะใช้งานทันที สูญเสียมานา 22% และเพิ่มความเร็วในการโจมตีและพลังโจมตีของสมาชิกทุกคน 30% เป็นเวลา 10 วินาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 8 นาที ฝ่ายพันธมิตรจะได้รับผลจากเอฟเฟคนี้ด้วย แต่จะไม่สามารถได้รับผลจากทักษะนี้ได้ภายในระยะเวลา 10 นาที
หนังสือเล่มนี้เป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันเลยว่าจะได้มันมา ลูหลี่ไม่รู้เลยว่าเขาควรจะร้องไห้หรือหัวเราะออกมาดี ตอนแรก เขาต้องการที่จะหาหนังสือทักษะเล่มนี้ หลังจากที่เขาเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คิดเลยว่าหนังสือทักษะเล่มนี้จะหาได้ง่ายปานฉะนี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่ผู้เล่นในอดีตได้กล่าวว่า รางวัลของการเคลียร์ครั้งแรกนั้นเป็นรางวัลที่มากมายเสียจริง ถ้าเป็นตอนนั้นลูหลี่คงไม่เชื่อ แต่เห็นอย่างนี้แล้ว เขาก็คงต้องยอมรับ รางวัลที่พวกเขาได้รับมา ล้วนแต่เป็นสิ่งของที่น่าทึ่ง
นี่เป็นข้อได้เปรียบของความทรงจำในอดีตอย่างแท้จริง
หลายคนได้กล่าวว่าพวกเขาคงจะแบบนี้ได้เช่นกัน หากพวกเขามีโอกาสครั้งที่สองในชีวิต
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครที่จะคิดหรอกว่า ตัวเองจะได้รับโอกาสครั้งที่สองจริงๆ และก็คงจะไม่มีใครเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆหรอก
สิ่งเดียวที่มีก็คือข้อมูล มันเป็นตัวที่สร้างความได้เปรียบให้แก่พวกเขา
ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นแล้ว
การเป็นผู้เชี่ยวชาญ PVP จะต้องอาศัยกลไกทางด้าน ความสามารถ ความพยายาม ความขยันและความอดทนทางจิตใจ ดังนั้นแล้ว ผู้เล่นระดับต่ำคงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ PVP ได้ยาก หากมีแต่เพียงข้อมูล
อย่างไรก็ตามการ PVE นั้นแตกต่างกัน แม้ว่าคุณจะมีพรสวรรค์ในเรื่องนี้ก็ตาม แต่ก็ควรจะมีเทคนิคอยู่ด้วย
ด้วยการที่เขามีเทคนิคแบบนี้ ลูหลี่จึงเหมือนกับก้าวนำคนอื่นอยู่เสมอ
จนถึงตอนนี้ ดันเจี้ยนถ้ำแมงมุม เหมืองมรณะและถ้ำโหยหวน ได้ถูกจารึกไว้ว่าเขาเป็นคนที่เคลียร์ครั้งแรก การที่เขาได้เคลียร์ครั้งแรกนี้ ยังหมายถึงอุปกรณ์และระดับของเขาที่อยู่ห่างจากผู้เล่นระดับสูงไปก้าวๆหนึ่ง
ด้วยความได้เปรียบนั้น ทีมของลูหลี่จึงสามารถเข้าแข่งขันการแข่งขันถ้วยเงาได้และกลายเป็นแชมป์อย่างคาดไม่ถึง
"บ้าเอ้ย ทักษะนี้มันทรงพลังจริงๆ อ่า แต่มันมีผลแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นเอง "
พเนจรกัดริมฝีปากของเขาและมองไปที่ซากุระอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่า เขาจะตัดสินใจให้มันแก่ชาแมน
"อย่าพูดถึงเรื่องที่นายไม่เข้าใจสิ ถ้ามันแข็งแกร่งมากกว่านี้ มันก็คงจะไม่มีสมดุลเกมแล้ว ถ้าเราสามารถเพิ่มความเร็วในการโจมตีและความเสียหายได้ 30% พวกเราหลายคนคงไม่ตาย "อาเซอร์ซีบรีสได้ตอบกลับมาอย่างน่าประหลาดใจ
เขาไม่ได้กล่าวอะไรผิดเลยสักนิด หนังสือทักษะกระหายเลือดเล่มนี้จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ด้วยหนังสือทักษะเล่มนี้ ลูหลี่ก็พร้อมที่จะทดสอบความยากของดันเจี้ยนอารามที่ถูกเผาไหม้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้คิดอะไรบางอย่างแล้ว เขาจึงตัดสินใจว่า ควรรอให้ทุกคนมีระดับ 27 ก่อน ค่อยคิดถึงมันอีกทีหนึ่ง
"หนังสือทักษะเล่มนี้เป็นของเธอแล้ว" ลูหลี่กล่าวในขณะที่เขาส่งหนังสือให้ซากุระ "เธอมีคะแนนทักษะเท่าไร?"
"สาม ฉันเก็บพวกมันไว้เพื่อทักษะที่แข็งแกร่ง ทักษะในปัจจุบันของฉันไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่เลย"
ซากุระนั้นมีแต่พวกบัพระยะสั้น แต่เธอก็ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้มันถึงระดับ 10 แล้ว ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีทักษะมากนั้น
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงยังคงมีคะแนนทักษะเหลืออยู่สามจุด
"เธอควรจะใช้มันทั้งหมดเพื่ออัพเกรดทักษะนี้ ทักษะกระหายเลือดนั้นสำคัญที่สุด"ลูหลี่กล่าวห้วนๆ
ทักษะกระหายเลือดที่มีระดับสูงสุดนั้นไม่ได้เพิ่มความเร็มในการโจมตีหรือพลังโจมตี แต่มันเพิ่มระเวลาแทน ถ้าลูหลี่จำได้อย่างถูกต้อง ทักษะกระหายเลือดในระดับ 5 จะมีผลเป็นเวลา 20 วินาที
ความแข็งแกร่งของทักษะนี้เหมือนกับเป็นบัค
ทักษะกระหายเลือดเป็นหนึ่งในทักษะการสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของชาแมน
ไอเท็มชิ้นที่สามเป็นแม่พิมพ์ระดับเงิน LV 30 ของพาลาดิน ซึ่งมันคือสนับแข้งเกราะแผ่น มันมีค่าสถานะที่ดี แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ระดับทองตามที่คาด
โดยทั่วไปแล้ว นอกจากว่าบอสจะดรอบไอเท็มมากกว่า 5 ชิ้น มันจะมีเพียงไอเท็มสองชิ้นที่เป็นอุปกรณ์สวมใส่ ทุกๆคนดูเหมือนจะปล่อยวางไปแล้ว เพราะแค่ขวานระดับทองนั้นก็สุดยอดมากพอแล้ว
แต่นั่นก็โอเคแล้ว
ดันเจี้ยนส่วนมากจะไม่ดรอบอุปกรณ์ระดับทอง ถ้ามีก็จะต้องเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยในบางครั้ง แม้จะเคลียร์ครั้งแรกก็ตาม
แน่นอนว่าแค่คทาระดับทองที่ได้มาตอนแรกๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากพอสมควร
ไอเท็มชิ้นสุดท้ายที่ถูกดรอบลงมาไม่ได้เป็นอุปกรณ์ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาได้คาดหวังไว้ มันเป็นแค่วัสดุหายาก มงกุฏนรก
เดี๋ยวนะ มงกุฏนรก!
ลูหลี่รีบวิ่งไปจับมันด้วยมือของเขาเอง เขาดูหยาบคายเล็กน้อย ไม่มีท่าทางที่แสดงถือเกียรติยศและความสง่างามเหลืออยู่เลย โดยการพูดซ้ำไปซ้ำมา
เพราะมันคือ มงกุฏแห่งนรก!
มันเป็นของหายากที่จะดรอบลงจากปรีศาจเท่านั้น มอนเตอร์จากนรกและฝูงมอนเตอร์พิเศษ ซึ่งมันเป็นหนึ่งในวัสดุหายากที่เขาจำเป็นต้องมี เพื่อการเอามาอัพเกรดแหวนซูพรีมของเขา!
สำหรับลูหลี่แล้ว ไอเท็มชิ้นนี้มีค่ามากกว่าไอเท็มระดับทองดำเสียอีก
"ฉันต้องการของสิ่งนี้ ฉันจะค่อยใส่อะไรสักอย่างลงคลังสมาคมในภายหลัง ดังนั้นอย่าหักคะแนนจากของที่ฉันเอาไปล่ะ"ลูหลี่ต้องการมงกุฏแห่งนรกนี้มากเสียจน เขายินดีที่จะไม่เอาอะไรเลยกับไอเท็มที่ได้มาจากในดันเจี้ยนแห่งนี้
"ดูสิว่าเขาตื่นเต้นแค่ไหน มันทนไม่ได้เลยสินะ"
พเนจรแตะไหล่ของอาเซอร์ซีบรีสขณะส่ายหัวให้กับลูหลี่
"ฮึ่ม" ลูหลี่ไม่ได้พูดอะไรกับเขา
คนพวกนี้ก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก
หากพวกเขารู้ว่าไอเท็มระดับทองดำที่พวกเขามีอยู่ในตอนนี้ ในอนาคตอีกไม่นานมันจะกลายเป็นระดับสูงสุด พวกเขาทั้งหมดคงจะไม่ได้ตกใจอะไรนัก
แต่การอัพเกรดก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
ลูหลี่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า เขาต้องการเก็บเลือดของมันเพื่อยกระดับแหวน อะูมาอิไม่ได้มาจากจักวรรดิเพลิง แต่เขามีเชื้อสายมาจากปีศาจโบราณ ดังนั้นแล้วแล้ว เขาจึงไม่แน่ใจว่ามันจะใช้งานได้หรือเปล่า
ลูหลี่ยื่นแหวนของเขาออกและหมอกควันเลือดของอะคูมาอิก็ได้ลอยขึ้นมา...
เลือดได้ลอยเป็นคลื่นๆเข้าหาแหวนของเขา
มันดูราวกับว่า ตัวของลูหลี่สามารถดูดซึมเลือดได้
ฉากนี้จึงดูแปลกเป็นอย่างมาก ลูหลี่ดูเหมือนกับคนๆหนึ่งในหนังที่ถูกปีศาจเข้าสิงสู่ แม้แต่อาเซอร์ซีบรีสก็ยังกลัว
"เฮ้ นี้นายบ้าไปแล้วเหรอ? นายกำลังพยายามที่จะชุบชีวิตมันงั้นเหรอ?"
แน่นอนว่าภาพที่เห็นก็ดูเหมือนจะทำให้คนเข้าใจผิด
"นายมักจะพูดจาเลอะเทอะอยู่เสมอเลยนะ"
ลูหลี่ลุกขึ้นเงียบๆและเดินไปหาทหารพรานทอริล
"เดี๋ยวก่อน นายคงจะไม่กินเขา ใช่ไหม?"
อาเซอร์ซีบรีสยืนขวางต่อหน้าทหารพราน มันแย่มากที่เขาไม่ใช่พาลาดิน มิเช่นนั้นแล้ว เขาคงจะสามารถใช้แสงศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำให้เกราะเป็นสีทองได้
"ไปให้พ้น" ลูหลี่กรอกตาใส่เขา
"ชิ ไม่เล่นด้วยก็ได้ นายมันน่าเบื่อมาก นายสมควรที่จะเป็นโสดตลอดไปด้วยซ้ำ "อาเซอร์ซีบรีสกล่าวขณะที่เขาขยับออกไปอย่างขมขื่น