จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 342
บทที่ 342: การระเบิดพลังอันแสนน่าตื่นเต้น
โชคดีที่มาสเรนอยู่ในสถานะสตัน ไม่มีใครตกลงไปในกระแสน้ำวนและมันก็หายไป
ชื่นใจเสียจริง!
นี่เป็นคำเดียวที่สามารถอธิบายความรู้สึกของลูหลี่ได้
"พเนจร นายพลาดนะเนี้ย"
ลูหลี่ตกใจเมื่อเห็นบอสโจมตีใส่เขา
เขาได้สร้างความเสียหายสูงสุด ดังนั้นเขาจึงเป็นเป้าหมายแรกเมื่อแท๊งค์หลักเสียค่าความโกรธจากบอสไป
ถ้าพวกเขาต้องสูญเสียตัวหลักของพวกเขาไป ทุกอย่างที่ทำมาจนถึงตอนนี้จะเสียเปล่า
"นายไม่ใช่ก้าววายุละ ไอ้โง่เอ้ย" พเนจรกล่าวดูถูกขณะที่เขาวิ่งไปและดึงบอสอีกครั้ง
"คนๆอื่นจะเป็นยังไงถ้าฉันหนีไป?"ลูหลี่กล่าวค้าน
ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม พเนจรก็ยังคงเป็นแท๊งค์และเขาก็ไม่สามารถถูกการโจมตีครั้งเดียวจากบอสแล้วตายไดเ
จากนั้นแล้ว คนที่รอดชีวิตทั้งหมดก็ได้กลับมายังตำแหน่งเดิมและโจมตีใส่บอสเหมือนเดิม
เนื่องจากการฟื้นฟูของอะคูมาอิอันแสนบ้า มันได้ทำให้ตอนที่พวกเขาไม่ได้โจมตีมัน มันได้ฟื้นฟู HP ไปมากกว่า 10,000 จุด
โชคดีที่คนที่บอกคู่มือเทคนิคในอดีตได้บอกไว้ว่า กระแสนน้ำวนจะถูกใช้เพียงแค่ครั้งเดียว
คู่มือเทคนิค...
เมื่อคิดถึงคำนี้ ลูหลี่ก็จำได้ถึงการโจมตีอย่างต่อเนื่องของบอสและไม่อาจที่จะเชื่อเทคนิคของคนอื่นๆได้ว่าดีที่สุด
แต่จริงๆแล้ว เพราะว่าดันเจี้ยนนี้เป็นความยากระดับฝันร้าย
ด้วยความระมัดระวังของเขา มันจึงช่วยพวกเขาได้มากเลยทีเดียว
เมื่อบอมี HP ลดลงเหลือ 20% กระแสน้ำวนกลับมาอีกครั้ง แต่พวกเขาก็สามารถจัดการกับมันได้ ด้วยการเคลื่อนที่เหมือนเดิม
เมื่อ HP ลดลงเหลือ 5% อะคูมาอิก็ได้เข้าสู่สถานะบ้าคลั่ง
อะคูมาอิมีความเร็วในการโจมตีเพิ่มขึ้นสามเท่าและหนวดเองก็เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บัพและดีบัพล้วนอยู่ด้วยกัน พลังป้องกันของเขานั้นลดลง ทุกๆทักษะที่โจมตีโดนเขามักจะสร้างความเสียหายได้มากกว่า 100 จุด
ถึงกระนั้นเอง มันก็เป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดในการต่อสู้ แท๊งค์หลักได้รับการโจมตีเจ็ดครั้งต่อเนื่องอีกครั้ง นั้นทำให้พเนจรต้องมารับหน้าที่แทน
ส่วนมูนไลท์และลูกชิ้น...
พวกเขาทั้งคู่ได้รับการโจมตีมาหนึ่งครั้ง
ซึ่งทอริลก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก เขาถูกส่งให้ลอยไปจากการโจมตีของบอสและลงจอดกับเพื่อนพร้อมกับไม่ได้เคลื่อนที่อะไร อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ตาย
บางทีเขาอาจจะรอให้ทั้งทีมตายก่อน เขาถึงจะค่อยๆตายไป
"ใช้ทุกอย่างที่มี อย่ายอมแพ้ จนกว่าจะตาย ฮีลเลอร์ออกมาช่วยโจมตีเลย "ลูหลี่สั่งขณะที่ใช้ก้าววายุ
ถ้าเขาไม่ถอยกลับในตอนนี้ เขาจะตายในทันที
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใช่เพื่อให้ตัวเองล่องหนและหลบหนีไป และเขาก็ไม่ต้องการวิ่งให้เสียเวลาด้วย เขาต้องสร้างความเสียหายให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้
การต่อสู้ครั้งนี้มันไม่ได้เป็นเพียงแต่เรื่องขมขื่นเท่านั้น มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียด้วย
HP ของอะคูมาอิลดลงอย่างรวดเร็วนับหนึ่งพันต่อสมาชิกที่ตายไปหนึ่งคน ในตอนนี้ เหลือสมาชิกเพียงคนเดียว ฮาชิจัง
บอสได้เอียงศีรษะ มันเผยให้เห็นดวงตาสีแดงเข้มและใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยเลือด มันช่างน่ากลัวมาก จนทำให้ฮาชิจังได้ปิดตาของเธอ
จากนั้นเธอก็จำได้ว่าลูหลี่เคยพูดอะไรก่อนที่เขาจะตายและสมาชิกแต่ละคนในทีมก็ได้เสียชีวิตลงไปอย่างกล้าหาญ
เด็กสาวตัวน้อยที่มีอายุมากกว่า 10 ปีก็ได้เปิดตาขึ้นและยกคทาขึ้นมา
แม่จ๋า ในเวลานี้ หนูไม่ได้เป็นลูกแมวที่ขี้กลัวแล้ว
จากการคาดการณ์ของระบบ อะคูมาอิจะชนะในศึกครั้งนี้อย่างแน่นอน
ในขณะที่บอสมี HP 645 จุดและการฟื้นฟูเลือด 165 หน่วยต่อวินาที ฮาชิจังมี 1,710 จุด แต่เธออ่อนแอกว่าบอสอย่างมาก ที่มากที่สุดที่เธอจะทำได้ คงเป็นการโจมตีบอสสองครั้งก่อนตาย
สำหรับ HP ของอะคูมาอิ ฮาชิจังก็คงไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากพอที่จะทำให้มันตายได้
อุปกรณ์ของเธออยู่ในระดับประณีตก็จริง แต่มันมีผลต่อเอฟเฟครักษา ดังนั้นแล้ว ค่าพลังโจมตีของเธอจึงเบามาก
แต่อย่างไรก็ตาม ฐานะของลูกสาวระบบก็ได้กลับมาอีกครั้ง
บอสนั้นไม่ยอมที่จะตายและโจมตีเข้าใส่ศรีษะของเธอ
HP ของฮาชิจังลดลงเหลือ 1300 ซึ่งเธอก็ใกล้จะตายแล้วอีกไม่นาน
อย่างไรก็ตามบอสนั้นแย่มาก แม้ว่าการโจมตีของฮาชิจังจะสร้างแค่เสียหายแค่ 200 แต่มันกลับเด้งขึ้นไปถึง 1,950 ก่อนที่มันจะล้มลงไปกับพื้น
ระบบ: สมาคมกฏแห่งดาบ ลูหลี่ อาเซอร์ซีบรีส มาสเรน ดอกไม้อ้างว้าง ... ได้เคลียร์ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึกระดับฝันร้ายได้สำเร็จ
ระบบได้ประกาศ ก่อนที่ฮาชิจังจะเปิดตาของตัวเองอีกครั้ง
เฮ้ เธอยังไม่ตาย
ระดับของเธอยังเพิ่มขึ้นอีก
มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?
บอสคิดว่าเธอน่ารักและตัดสินใจจะปล่อยเธอไปงั้นเหรอ?
"อุ๊ก นี้เธอ ชุบชีวิตพวกเราทีได้ไหม?"พเนจรได้พูดออกมาขณะที่กัดฟัน เพราะในตอนนี้ศพของเขากำลังอยู่ข้างบนก้นของอาเซอร์ซีบรีส
"โอ้ ใช่ๆ ต้องช่วยทุกคน" ฮาชิจังขานรับ
เหตุผลของการชนะนั้นฟังดูค่อนข้างง่าย อะคูมาอิได้โจมตีใส่ศรีษะของฮาชิจังและหมวกระดับประณีตของเธอจะสะท้อนความเสียหายกลับไปสองเท่า
มันควรได้รับความเสียหาย 2600 แต่บอสมีค่าความต้านทานบางอย่าง มันจึงเกิดความเสียหายเพียง 1,600 หน่วย
แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ผู้เล่นในทีมได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างช้าๆและทุกคนก็มองไปที่ร่างของอะคูมาอิ พวกเขานั้นไร้คำพูดที่จะกล่าวออกมาเลย
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้ตื่นเต้น สถานการณ์ทั้งหมดนั้นราวกับว่าไม่ใช่เรื่องจริง พวกเขาพึ่งจะชนะมันมา จากการที่มัน ... ฆ่าตัวตาย
ลูหลี่ต้องยอมรับเลยว่าจริงๆแล้ วพวกเขาไม่สามารถเอาชนะดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึกในระดับฝันร้ายได้ เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาทุกคนจะอยู่ในระดับ 30 และมีอุปกรณ์ระดับ 30
"ฮาชิ ฮาชิ เธอเก่งมากเลย! ไม่สิ หัวของเธอต่างหากที่สุดยอดมากที่สุด!"
อาเซอร์ซีบรีสได้กระโดดไปกระโดดมาพร้อมกับถูหัวของฮาชิจัง
"หยาบคายมาก!"เด็กสาวตัวน้อยตะโกนออกมา
ตอนนี้ระดับของเธอเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เดิมทีเธออยู่ในระดับ 25 แต่ตอนนี้เธออยู่ในระดับ 26 และแถบค่าประสบการณ์ของเธอเกือบเต็มแล้ว บางที เธออาจจะมีระดับ 27 ในวันรุ่งขึ้น
ในฐานะผู้เล่นระดับ 25 เธอได้รับค่าประสบการณ์ทั้งหมดจากบอส LV 30 เพียงคนเดียว!
อีกทั้งเธอยังได้รับคะแนนทักษะ ซึ่งมีสี่คะแนน มันเป็นรางวัลสำหรับการเคลียร์ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก
หลังจากที่เคลียร์ครั้งแรกได้แล้ว ทุกคนก็ได้รับคำประกาศจากระบบพร้อมๆกัน
ลูหลี่เปิดกระเป๋าของตัวเองเพื่อดูสิ่งที่ได้ มันเป็นกริชที่ดูน่าประทับใจมาก
เขี้ยวพิษแห่งนรก (ทอง): พลังโจมตี 26-32 ค่าความคล่องแคล่ว +18 ค่าความแข็งแกร่ง +10 เอฟเฟคพิเศษ 1: อัตราคริติคอล + 12% เอฟเฟคพิเศษ 2: ค่าสถานะทั้งหมด +20 หลังจากโจมตีติดคริติคอล เป็นเวลา 30 วินาทีและเวลาคูลดาวน์ 30 วินาที เอฟเฟคพิเศษ 3: การโจมตีเป้าหมายเดิมอย่างต่อเนื่องในครั้งที่ 5 จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 5 เท่า เวลาคูลดาวน์ 30 วินาที ความต้องการอุปกรณ์: ระดับ 30 ความทนทาน 65/65
โอ้พระเจ้า
ลูหลี่ลูบกริชเล่มนี้และพอใจอย่างมาก
ความเสียหายของมันอยู่ในระดับสูง อีกทั้งค่าสถานะของมันก็ยังดี นอกจากนี้ยังมันยังมีเอฟเฟคพิเศษถึงสามอย่าง
เอฟเฟคแรกเพิ่มอัตราคริติคอล ซึ่งไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากนัก
ส่วนเอฟเฟคที่สามเป็นการเพิ่มค่าสถานะ หลังจากตีติดสตัน บางทีมันอาจจะไม่ดีเท่ากับการเพิ่มความเร็วในการโจมตีหรืออัตราคริติคอล แต่มันกลับมีระเวลาที่นานพอสมควร นอกจากนี้แล้ว มันยังมีผลต่อทักษะสตันอีกด้วย มันจึงเป็นเอฟเฟคที่มีประสิทธิภาพมาก
เอฟเฟคที่สามคือการคอมโบห้าครั้ง
ซึ่งมันค่อนข้างคล้ายกับการคอมโบเจ็ดครั้งของอะคูมาอิ แม้ว่าแค่ห้าครั้งมันจะอ่อนแอลงมาก แต่ลูหลี่ก็พอใจมากเช่นกัน
หากเขาโจมตีใส่เป้าหมายสร้างความเสียหายได้ครั้งละ 100 การโจมตีครั้งที่ของเขาก็จะสร้างความเสียหาย 500 จุด นั้นมันแข็งแกร่งกว่าทักษะอัลติเมท จะไม่ให้เขาพอใจได้ยังไง?
เขาต้องรีบเพิ่มระดับให้ไปถึงระดับ 30 โดยไวที่สุด ครั้งสุดท้ายที่เขาได้ต่อสู้กับสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ ซึ่งเขาก็ได้ยืมกริชของแฟรี่น้ำ มันเหมือนกับเขาไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากความทรงจำในการเกิดใหม่เลย
ทุกๆคนต่างก็ได้รับรางวัลมามากมาย อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากอุปกรณ์ระดับทองของลูหลี่แล้ว มีเพียงแต่ลูกชิ้นงาที่ได้เหมือนกับเขา มันเป็นเสื้อที่สามารถเพิ่มโบนัสพลังโจมตี 40% ได้ ถ้าหนึ่งในสมาชิกในทีมของเขาตายไป
ตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะค้นศพของอะคูมาอิ
ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก มีโอกาสที่จะดรอบไอเท็มทองเพียงสองชิ้นเท่านั้น มันคือ บาเซิลและอะคูมาอิ อีกไม่นานนักหรอก พวกเขาก็จะได้รู้ว่าเทพธิดาแห่งโชคอยู่ข้างพวกเขาหรือเปล่า