จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 333
บทที่ 333: ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก (ตอนที่ 3)
บนชายฝั่งของเกาะที่กามูร่าตั้งอยู่ มีเมอร์ล็อกสองตัวที่กำลังทรมานนักโทษ
หลังจากที่เมอร์ล็อกถูกสังหารไป นักโทษก็ได้ขอร้องเหล่าวีรบุรษเพื่อช่วยชีวิตผู้รอดชีวิตคนอื่นๆในจุดต่อไป เพื่อประโยชน์ของชื่อเสียงของเขา ลูหลี่จึงไม่สามารถหาข้ออ้างใดๆ เพื่อปฏิเสธคำขอของนักโทษ นักโทษได้เลย ซึ่งเมื่อเห็นลูหลี่ยอมรับเควสแล้ว นักโทษก็ได้นำทางเขาเพื่อไปยังตำแหน่งต่อไปในทันที
ทางเดินนั้นดูคดเคี้ยวมาก มันตั้งอยู่ภายในถ้ำใต้น้ำ แม้แต่ทอริลยังไม่สามารถหามันพบได้
พวกเขาได้มาถึงยังที่ๆใหม่ หลังจากที่พวกเขาได้ลอดผ่านถ้ำไป
ซึ่งนี่คืออาณาเขตของ โดมิน่า
โดมิน่า เป็นนาคหรืออีกอย่างก็คือ นักเวทย์ระดับสูงของเหล่านาค
เธอคุ้นเคยกับเวทมนตร์อัญเชิญ คาถาป้องกันและศึกษาศาสตร์โบราณแห่งการแผดเผา
กลุ่มค้อนสนธยาได้เก็บอ่าวขนาดเล็กให้เธอในดันเจี้ยนความมือที่หยั่งลึก ในขณะที่พวกเขายังคงส่งสิ่งมีชีวิตบูชายัญมาให้เธออยู่ ด้วยพิธีการและความมหัศจรรย์ในคาถาป้องกันของเธอ ก็ได้มีผู้ติดตามเธอจำนวนหนึ่งด้วยความหวังที่ว่า เธอจะสามารถปกป้องพวกเขาได้จากมอนเตอร์ที่มีหลายหัว ที่พวกเขาได้บูชายัญมันไป
อย่างไรก็ตามในขณะที่อะคูมาอิได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ โดมิน่าก็ไม่สามารถที่จะเป็นคู่แข่งกับเขาได้
การเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆของผู้ศรัทธาของเธอได้ถูกพังลง จากพิธีบูชาของอะคูมาอิ เช่นนี้แล้ว โดมิน่าจึงไม่มีทางเลือกอื่นเลย นอกเหนือจากการสร้างเวทมนตร์การป้องกันแบบใหม่ เธอยังคงหวังที่จะสร้างเวทย์มนต์ล่องหนด้วยเวทย์มนต์ของเธอ เพื่อปกป้องผู้ศรัทธาของเธอต่อไป
เธอใส่ทุกความพยายามอย่างมากกับการวิจัยของเธอ เพราะเธอเข้าใจว่า เมื่อเธอล้มเหลวในการปกป้องผู้ศรัทธา เธอก็จะกลายเป็นตัวไร้ประโยชน์ในความมืดที่หยั่งลึก บรรดาผู้ศรัทธาที่บ้าคลั่งไม่ยอมให้เธอได้รับอำนาจจากอะคูมาอิได้อย่างแน่นอน หลังจากที่เธอล้มเหลวในการพิสูจน์คุณค่าของเธอไป
เมื่อลูหลี่และคนอื่นๆเห็นโดมิน่า เธอก็กำลังมุ่งมั่นกับการศึกษากับเวทย์มนต์ของเธออยู่
"เราโชคดีจริง ไปกันเถอะ"
ลูหลี่ไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่เขาเป็นคนพุ่งนำไปเลย
ทำไมถึงตัดสินใจได้เร็วขนาดนี้กัน?
เพราะ โดมิน่าเพิ่งใช้มานาทั้งหมดไปและไม่มีเวลาที่จะใช้ฟื้นฟู
แม้ว่าโดมิน่าจะมีมานา แต่เธอก็คงไม่ใช่ศัตรูที่ยากลำบากอะไรนัก
หากไม่มีมานา โดมิน่าก็ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ใดๆของเธอได้ เช่น ง่ามสายฟ้า และ ฟรอสโนวา ดังนั้นแล้ว เธอจึงไม่มีทางที่จะสามารถใช้การสตันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เธอทำได้เพียงโจมตีใส่ลูหลี่และเพื่อนๆของเขาด้วยการยิง
บางที นี่อาจเป็นมรดกจากพันธุ์กรรมของบรรดาไนท์เอลฟ์ที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของเธอ แต่โดมิน่าก็ไม่ใช่แค่ นักเวทย์ธรรมดาๆ เธอนัน้คุ้นเคยกับธนูและลูกธนูด้วยเช่นกัน
แต่การยิงธนูของเธอนั้นแย่มาก เธอแทบจะยิงไม่โดนเลย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากค่าสถานะของเธอเหมาะแก่การเป็นนักเวทย์ เธอจึงสามารถสร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากการยิงธนูของเธอ
ด้วยความช่วยเหลือของทอริล ลูหลี่และคนอื่นๆใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อเอาชนะโดมิน่า หญิงสาวที่โชคดีในเวลานี้คือมาสเรน เธอเป็นคนที่ได้รับ คะแนนทักษะ
ตัวละครของผู้เล่นนั้นมีทักษะอยู่มากมาย แต่คะแนนทักษะกลับมีเพียงน้อยนิด
เมื่อเทียบกับผู้เล่นที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆที่ไม่สนใจดันเจี้ยน การเคลียร์ครั้งแรกของลูหลี่และสมาชิกทีมของเขาก็เหมือนกับข้อได้เปรียบที่มองไม่เห็น ที่จะมีผลอย่างช้าๆเมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเคลียร์ครั้งแรกได้สำเร็จ โอกาสในการได้รับคะแนนทักษะก็จะเพิ่มมากขึ้น
นอกเหนือจากนี้แล้ว โดมิน่ายังทิ้งอุปกรณ์และวัสดุที่หายาก
วัสดุหายากคือ "เครื่องชั่งเมอร์ล็อกสีม่วง" วัสดุพวกนี้เป็นวัสดุหายากที่พบได้ทั่วไปดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึกและสามารถถูกใช้โดยช่างตัดเสื้อ เพื่อสร้างเกราะพิเศษและกางเกงได้ ซึ่งหากช่างตีเหล็กเป็นคนใช้ ก็สามารถที่จะสร้างเกราะโซ่ได้
ส่วนอุปกรณ์ที่ดรอบลงมาคือแม่พิมพ์ระดับเงิน ซึ่งก็คือคันธนูของเธอ หัวใจนาคอันแหลมคม
อาวุธนี้มาพร้อมกับผลเจาะเกราะ ซึ่งมันต้องใช้โชคเป็นตัวช่วยได้ มันจะทำให้การโจมตีแรงขึ้น 3-5 เท่าจากพลังโจมตีปกติ
แม้ว่าธนูนี้จะเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ความฝันที่เหลืออยู่ก็ไม่ฉลาดพอที่จะใช้งานมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นแล้ว ในท้ายที่สุดคันธนูนี้จึงไม่ได้มอบให้กับเธอ
มีวงเวทย์มนต์ที่โดมิน่ากำลังค้นคว้าเวทมนตร์ของเธออยู่ ลูหลี่ได้ขอร้องให้ดอกไม้อ้างว้างและลูกชิ้นงาลองไปทำให้มันทำงานดู
ถึงแม้ว่าวงเวทย์มนต์เหล่านี้จะเป็นของระบบ แต่ผู้เล่นก็สามารถใช้พวกมันได้ หลังจากที่ทั้งสองคนตรวจสอบวงเวทย์มนต์เสร็จแล้ว แสงสีน้ำเงินสลัวๆก็ได้พุ่งผ่านทุกคนและทำให้ได้บัพพิเศษ: + 10% สำหรับค่าสถานะทั้งหมด
บัพนี้มีผลเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่
ทั้งทีมได้เดินกลับไปตามเส้นทางเดิมและเดินไปตามทางแยกที่แยกออกมา ขณะที่มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ถัดไป
ลูหลี่นำทางไปข้างหน้าและจงใจเดินไปตามกำแพง
ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีหนวดยักษ์ยื่นออกมาจากผนัง มันจับตัวลูหลี่พร้อมกับมีพลังงานสีดำไหลออกมา มันเหมือนกับว่าพลังงานพวกนั้นต้องการที่จะเขมือบเขา
ค่าความเสียหาย -30 โผล่ขึ้นเหนือหัวของลูหลี่ ความเสียหายไม่ได้มากอะไรนัก แต่ความเสียหายต่อวินาทีกลับรวดเร็วยิ่งนัก ภายในพริบตา HP ของเขาก็เสียไปประมาณ 600 จุด
"รักษาเร็ว!"
มาสเรนรู้สึกตกใจ เธอต้องใช้เวลาสักพัก ก่อนที่เธอจะเริ่มรักษาตัวของลูหลี่
ภายใต้สายตาจากทุกคน หนวดนั้นก็ได้ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
หนวดมีค่า HP เท่ากับ 10,000 จุด ซึ่งเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าในดันเจี้ยน นอกจากนี้ พวกมันยังปรากฏตัวแบบสุ่มและสร้างความเสียหายได้สูง และความรู้สึกที่ถูกจับกับอยู่ในปากของมันก็ไม่อภิรมย์อะไรนัก ถ้าเป็นคนอื่นที่ถูกมันจับ พวกเขาคงจะกลัวมันมาก
ลูหลี่ไม่สามารถทำตัวเหมือนเขารู้ทุกอย่างได้ ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดที่ เขาจะต้องทำให้ทุกคนมี"ประสบการณ์"เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง โดยการบอกคนอื่นๆผ่านการกระทำของเขา นั้นจึงเหมือนกับว่าเขาบอกพวกเขาได้เกี่ยวกับอันตรายข้างหน้าที่จะต้องเผชิญ และเขาก็ไม่กลัวหนวดพวกนี้ เพราะเขารู้จักมันมาก่อน
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ลูหลี่และอาเซอร์ซีบรีสก็ได้เดินชิดสองข้างกำแนง ถ้าหนวดโผล่ออกมา พวกเขาก็จะทำลายมันได้อย่างรวดเร็ว
ไม่นานัก พวกเขาก็ได้มาถึงทางแยกสี่ทาง ลูหลี่จึงได้สุ่มเลือกหนึ่งมาหนึ่งทางเพื่อที่จะได้เดินทางต่อไป
ซึ่งทางที่เขาเลือก เขารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นทางตัน
เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเลือกทางตันแบบนี้ ก็เพราะว่ามันมีมอนสเตอร์ตัวหนึ่งอยู่ที่ปลายสุด
มันคือ เมอร์ล็อกสีทอง เจ้าตาบอดไม่เอาถ่าน ตามบันทึกแล้ว มอนสเตอร์ตัวนี้เป็นตัวที่ชอบกินสุรา อย่างไรก็ตาม มันเกิดมาในดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก มันจึงไม่มีอะไรมากที่จะให้เลือกกินได้ เช่นนี้แล้ว มันจึงเริ่มที่จะกินศพเป็นอาหาร
มอนสเตอร์ตัวนี้ไม่ได้ดูน่าเกลียดเลย ในความเป็นจริง มันดูดีพอทีเดียว นักล่ามีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะฝึกมันเชื่องได้ แต่ความฝันที่เหลืออยู่ไม่สนใจมันเลย หญิงสาวมุดศีรษะของเธอไปบนตักของฮาชิจังและปฏิเสธที่จะใช้ทักษะฝึกสัตว์ของเธอ
เธอมองเห็นผ่านสายตาของเธอตามทาง มอนเตอร์ตัวนี้กำลังกินเนื้อมอนเตอร์ที่เธอไม่รู้จักอยู่
ด้วยผลของเสียงเคี้ยวกระดูก มันจึงทำให้มันดูน่ากลัวจนเกินไป
มีเพียงผู้ชายเท่านั้น ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์แบบนี้และคนส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่สามารถยอมรับมันได้ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ลูหลี่และคนอื่นๆจึงต้องฆ่ามอนเตอร์ตัวนี้
เจ้าตาบอดไม่เอาถ่าน เป็นมอนสเตอร์ที่หาได้ยาก ดังนั้นมันจึงดรอบไอเท็มระดับเงิน LV 25 ซึ่งก็คือแหวนที่ช่วยป้องกัน อาเซอร์ซีบรีสไม่ได้ต่อสู้เพื่อต้องการแหวนวงนี้และเขาก็เต็มใจให้มันกับพเนจร เห็นได้ชัดเลยว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้เลวร้ายเท่าที่ปรากฏภายนอก
บอสตัวที่สามคือ เกลิฮัส เขาคือ เมอร์ล็อก
เขาโบกดาบทั้งสองมือไปมา ราวกับเป็นนักดาบผู้เชี่ยวชาญ
ตามตำนาน เกลิฮัสได้มาที่ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก เพื่อมาสังเกตุพระเจ้าโบราณ ระหว่างทาง เขาได้ฆ่าคนในกลุ่มค้อนสนธยาไปเป็นโหลๆที่กำลังตกใจอยู่ด้วยดาบสองเล่มของเขา บรรดาผู้ศรัทธาต่างชื่นชมกำลังและความรุนแรงอันยิ่งใหญ่ของเขา และนั้นทำให้เขาได้รับอนุญาติให้สร้างที่บูชาของเขาในดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก
หลังจากผ่านพิธีบูชาไป เกลิฮัสได้รับบางสิ่งบางอย่างมา แต่มันกลับเป็นคำอวยพรจากปีศาจที่มาจากแท่นบูชาที่พังทลายแล้ว
เขาเป็นแค่แขกรับเชิญในพิธีบูชาก็จริง แต่แขกรับเชิญคนนี้รุนแรงจริงๆ เขาเคาะอาเซอร์ซีบรีสจนทำให้ HP ของเขาลดลงไปครึ่งหนึ่ง นั้นจึงเป็นการบังคับให้เขาต้องใช้ทักษะลดความเสียหาย