จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 328
บทที่ 328: เลือกปฏิบัติ
คนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมสมาคมก็มาเพื่อหาผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง แต่ทุกคนที่มีสมองนั้นก็รู้ได้ว่า ไม่มีอะไรที่จะได้มาฟรีๆ พวกเขาไม่ควรที่จะหวังอะไรสักอย่าง หากพวกเขายังไม่ได้ทำงานให้แก่สมาคม
อย่างไรก็ตาม สมาคมกฏแห่งดาบนั้นแตกต่างกันออกไป พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นสมาคมของแชมป์เท่านั้น แต่กิจกรรมที่พวกเขาจัดขึ้นครั้งแรกนั้นยังดูใจกว้างมากอีกด้วย
มันเป็นเรื่องปกติสำหรับสมาคมที่จะตั้งกิจกรรมขึ้นมา เพื่อที่จะให้สมาคมเติบโต อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเคยคิดเลยว่า รางวัลของกิจกรรมจะเป็นอุปกรณ์ระดับเงิน 6 ชิ้น
สแควรูทสามไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อเรียกรวมสมาชิกเลย สมาชิกหลายพันคนได้เรียกเพื่อนของพวกเขาเองและจัดปาร์ตี้กันอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งเข้าไปที่ห้องโถงทหารรับจ้าง เพื่อขอเควสของสมาคม ทั้งถนนเต็มไปด้วยสมาชิกของสมาคมกฏแห่งดาบ มันเป็นภาพที่ทำให้สมาคมต่างๆรู้สึกอิจฉามาก
สำหรับการที่จะทำให้สมาคมกลายเป็นระดับสอง มันจำเป็นที่จะต้องทำเควสสำเร็จประมาณหนึ่งรวมถึงวัสดุด้วย
แรกเริ่มสิ่งที่ต้องการคือกำลังคน ต่อจากนั้น ก็คือกำลังทุน
เงินที่ลูหลี่ได้รับจากการแข่งขันถ้วยเงาถูกใช้ไปเกือบทั้งหมดกับสมาคม มูนไลท์และมาสเรนก็ทำแบบเดียวกัน ซึ่งหากรวมเงินของพวกเขาทั้งหมด มันก็ประมาณ 5-6 ล้านดอลลาร์ เงินนี้เป็นเงินที่มาจากส่วนแบ่งของสโมสรของพวกเขาเองและพวกเขาก็ไม่คิดอะไรกับการจ่ายพวกมันไปสักนิด
ดังนั้นกลุ่มทหารรับจ้างซินซิน จึงมีทั้งกำลังคนและทรัพยากรทางการเงิน
ตามประมาณการของสแควรูทสาม ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น สมาคมของพวกเขาก็จะสามารถไปถึงระดับ 15 ได้ภายในสองสัปดาห์ หลังจากที่ระดับของผู้เล่นทุกคนค่อนข้างสูงแล้ว พวกเขาก็จะสามารถทำเควสได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
เมื่อเขาเห็นว่าวันนี้เหลือเวลาอีกไม่มากนัก ลูหลี่จึงได้พาน้องสาวของเขาออฟไลน์ออกไป
อย่างไรก็ตาม น้องสาวตัวน้อยก็สับสนเกี่ยวกับกลางวันและกลางคืน อีกทั้ง เธอยังตะโกนและถามถึงเควสที่เธอจะต้องทำด้วย เธอต้องการมีส่วนร่วมกับสมาคม ดังนั้นแล้ว ลูหลี่จึงต้องคอยดูแลเธอยิ่งกว่าเดิม เขาไม่ต้องการที่จะให้เธอออกจากที่ปลอดภัยเลยสักนิดเดียว
วันรุ่งขึ้น ลูหลี่ได้มอบหมายงานของสมาคมทั้งหมดให้กับสแควรูทสาม ซึ่งเขาตั้งใจจะพากลุ่มทหารรับจ้างซินซินดั้งเดิมของเขาพากันไปเคลียร์ดันเจี้ยน
เขาไม่สนใจการประท้วงของสแควรูทสามเลยสักนิดเดียว
เพราะทั้งหมดนี้ เกิดจากที่พวกเขาได้ชวนเขามาดูแลสมาคม เขาได้รับเงินเดือนที่สูงมากแล้ว ดังนั้น เขาจะยังต้องการอะไรอีกงั้นเหรอ?
ลูหลี่ยังไม่ได้วางแผนที่จะไปที่อารามที่ถูกเผาไหม้ แม้ว่าจะสามารถเข้าได้เมื่อระดับ 25 แต่มันก็คือดันเจี้ยนระดับ 30 ซึ่งมอนเตอร์ที่อยู่รอบๆนั้นก็มีระดับ 30
แต่ก่อนอื่น เขาต้องไปเจอกับผู้ดูแลแห่งป่าเรมูลัสในป่าแสงจันทร์เสียก่อน ในตอนนี้ เขารู้แล้วว่า เขาจะเพิ่มระดับแหวนซูพรีมของเขาได้อย่างไร นั้นก็คือการรับภารกิจจากเรมูลัส
เพื่อที่จะทำอย่างนั้น เขาต้องเคลียร์ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึกระดับฝันร้ายก่อน
ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก สามารถเข้าได้ในระดับ 20 แต่มันเป็นดันเจี้ยนระดับ 25 มีบอสอยู่ 6 ตัว พวกมันอยู่ในระดับตั้งแต่ 25 ถึง 30
ซึ่งความยากระดับฝันร้ายไม่มีทางที่จะเคลียร์ได้ แต่ลูหลี่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้เสียเวลาเปล่า
เขาคุ้นเคยกับลักษณะพื้นที่ของดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึกดี ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา เมื่ออาเซอร์ซีบรีสกำลังหมดกำลังใจกับการตามล่าหาวัตถุดิบสำหรับการอัพเกรดแหวนซูพรีม เขาก็ได้เดินทางไปที่ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก
ทางเดินใต้ดินที่ซับซ้อนเหมือนกับเป็นกลไกป้องกันทางธรรมชาติบางอย่างและลูหลี่ก็พบอะไรหลายๆอย่างจากการเดินทาง
เกี่ยวกับดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึกนั้น ลูหลี่ไม่เคยเข้าไปมาก่อน อย่างไรก็ตาม เขาได้พบกับเทคนิคทั่วไปในฟอรัม ซึ่งมันทำให้เขามีข้อได้เปรียบเหนือผู้เล่นธรรมดาที่เพิ่งเข้ามาใหม่
เมื่อเร็วๆนี้เอง กลุ่มทหารรับจ้างก็ได้ซื้อชุดอุปกรณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งทำให้การเคลียร์ความยากระดับฝันร้ายนั้นอยู่ไม่ไกล
ความมืดที่หยั่งลึก ตั้งอยู่ที่เส้นใยแห่งโซเรมในหุบเขาสีเทา มันเป็นอารามอันงดงามซึ่งเป็นที่สำหรับเคารพบูชาพระเจ้าแห่งไนท์เอลฟ์ อีลูน่า
อารามได้ทรุดตัวลงจากการระเบิดของพลังงานแห่งนิรันดร์และก็ได้จมลงไปในส่วนลึกของทะเลเวล นั้นทำให้มันได้แยกออกมาจากโลกภายนอก มันเป็นแบบนั้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเหล่านากและเซเทอร์ได้ถูกดึงดูดให้เข้ามายังอารามแห่งนี้ด้วยอำนาจบางอย่างและทำให้พวกมันได้พยายามที่จะเสาะหาความลับของอาราม
เรมูลัสได้กล่าวกับลูหลี่ว่าให้ฆ่าทุกคนที่ทำลายอารามแห่งนี้ นี่เป็นการกระทำที่ดูก้าวร้าวมาก แต่มันก็สามารถเข้าใจได้
ในด้านหนึ่ง เรมูลัสเป็นบุตรของเซนาเรียสและหลานชายของอีลูน่า ถ้ามีคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังยึดครองและกำลังค้นหาอะไรบางอย่างในที่เคารพบูชาของย่าตัวเอง เขาก็คงจะฆ่าคนพวกนั้นโดยไร้ซึ่งความเมตตา
ก่อนที่เขาจะพาพวกเขาไปที่ดันเจี้ยน ลูหลี่ก็ได้พาพวกเขาไปที่แห่งหนึ่ง ค่ายความมืดหยั่งลึก
ค่ายความมืดหยั่งลึก ตั้งอยู่ตามชายฝั่งของโซเรมและเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายพันธมิตร มีเอลฟ์สามคนอยู่ในค่ายแห่งนี้ คือ ชินเดล สวิฟฟาย ทาเรนและกล้ามเนื้อทองแบรด
"โอ้ นักผจญภัย นักผจญภัยมากเลยทีเดียว "ช่างตีเหล็กแบรดได้พึมพำใต้ลมหายใจของเขา
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ภาพที่น่ายินดี แต่เขาก็ยังต้องชื่นชมกับความกล้าหาญของนักผจญภัยเหล่านี้ ด้วยความที่พละกำลังอำนาจของดันเจี้ยนความมืดหยั่งลึกที่เพิ่มขึ้นเร็วๆนี้ มันได้ทำให้กลุ่มค้อนสนธยาและเหล่านาคได้จู่โจมพร้อมกับรบกวนค่ายความมืดหยั่งลึกอย่างต่อเนื่อง พวกเขาจึงต้องทำทุกอย่าง เท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้
"โอ้ นักผจญภัยมาจริงๆสินะ" ทาเรนกล่าว เขาเดินไปอยู่ต่อหน้าลูหลี่และคนอื่นๆ ก่อนที่จะแตะศีรษะของฮาชิจังและพูดว่า "หัวของเจ้าเล็กมาก แต่เจ้าก็เป็นนักผจญภัย คนหนุ่มสาวสมัยนี้ช่างยอดเยี่ยมเสียจริง "
ฮาชิจังทำหน้าบูดบึ้ง ทำไมเขาถึงไม่บอกว่าเธออายุน้อยไปเลย? ทำไมเขาต้องพูดว่าหัวของเธอเล็กแทน?
เธอต้องการที่จะเตะเขามาก แต่ด้วยมารยาทของเธอ มันจึงทำให้เธอได้ทำอีกอย่างหนึ่งแทน เธอได้กล่าวอย่างสุภาพและตอบกลับไปว่า "คุณลุง ฉันก็มีเพื่อนมากมายและพวกเขาก็ยังแข็งแกร่งมากด้วย"
"ฉันรู้แล้ว พวกเขาทั้งหมดดูมีความกล้าหาญมาก."
หลังจากมองกลับมาแวบหนึ่งแล้ว ทาเรนก็หันมาพูดกับฮาชิจังต่อ
คนอื่นๆแทบจะร้องไห้ออกมา เมื่อเขาทำกับพวกเขาอย่างกับเป็นสิ่งของ เห็ฯได้ชัดเลยว่า เขาให้ความสนใจทั้งหมดกับฮาชิจังไปแล้ว
หลังจากพูดคุยกับทาเรน พวกเขาก็ได้รู้ว่าเขาเป็นนักสำรวจและนักโบราณคดี เขาเคยเรือขนาดใหญ่และถูกเอาไปโดยฝูงนาคในซากปรักหักพังแห่งโซเรม และเขาก็เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวที่สามารถกลับมาที่ค่ายแห่งนี้ได้
"โชคร้ายจังเลย"
ดวงตาของฮาชิจังเบิกกว้างและได้มีน้ำตาหยดออกมา ราวกับว่าเธอกำลังแสดงบทน่ารัก
คนอื่นๆในทีมต่างก็ดูถูกการแสดงอันแสนเลวร้ายของเธอ
อย่างไรก็ตาม NPC คนนี้ได้ตกหลุมพรางและกล่าวปลอบเธออย่างเร่งรีบ
"โอ้ ไม่ต้องเศร้าไปหรอกสาวน้อย การผจญภัยมันก็เต็มไปด้วยความตายและความประหลาดใจอยู่แล้ว มันแย่มากที่การผจญภัยของข้าจบลงไม่ค่อยดีนัก "
"แล้วท่านได้อะไรจากการผจญภัยงั้นเหรอ?"เด็กสายตัวน้อยแสดงใบหน้าอันแสนอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา
"เราได้สำรวซากปรักหักพังของเมืองโบราณมาเป็นเวลานานมากและพบรูปปั้นโบราณบางอย่างภายใน บรรดานาคบ้าพวกนั้นได้ทำร้ายศิลปะของครอบครัวเอลฟ์เรา ข้าได้ยินมาว่า พวกมันได้โยนรูปปั้นไปยังนอกชายทะเลด้วย พวกเจ้าพอจะนำพารูปปั้นพวกนั้นมาให้ข้าได้หรือเปล่า?"ทาเรนถาม
"คู่หูของหนูกระตือรือร้นมาก พวกเขาจะช่วยได้หรือเปล่าคะ?"ฮาชิจังกล่าวถามออกมาโดยที่ไม่ลืมคนอื่น
"พวกนี้งั้นเหรอ?"ทาเรนขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกรังเกียจ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะออกเควสให้คนอื่นๆ แต่ดูเหมือนว่า ลูหลี่และคนในทีมจะเป็นประโยชน์ในการจัดการกับเจ้าพวกที่ทำร้ายซากปรักหักพัง
ลูหลี่เคยเห็นทาเรนในชีวิตที่ผ่านมาของเขา แต่เขาไม่ได้แปลกประหลาดเช่นนี้สักครั้งเลย
ค่าเสน่ห์ของเกมรุ่งอรุณต้องมีผลอย่างมากแน่นอน มันอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของ NPC อย่างสิ้นเชิง แม้ว่ามันฟังดูไม่เป็นธรรม แต่ลูหลี่ก็ไม่สามารถที่จะทำใจเชื่อได้ในตอนนี้
แม้ว่าฮาชิจังจะดูเหมือนกับคนโง่ แต่เธอก็เป็นสมบัติที่ดูล้ำค่าเช่นกัน