จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 321

บทที่ 321: กริชสีเลือดและการแก้แค้นของเขา

การแข่งขันแบบทีมประกอบไปด้วย โจร นักเวทย์และนักบวช ส่วนทีมฝ่ายตรงข้ามมี นักรบ นักบวชและพาลาดิน นั

ซึ่งในการแข่งขันแบบทีมนั้น สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้เลย อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เป็นชัยชนะที่ง่ายดายนักสำหรับสมาคมดิสซี่คอส พวกเธอเกือบจะแพ้การแข่งขันเสียเองด้วย

โชคดีที่แฟรี่น้ำได้ใช้กริชของลูหลี่ ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการแข่งขัน เธอสามารถหนีออกจากมุมอับได้และมันก็ได้ช่วยชีวิตเธอ

ในการแข่งขันถ้วยเงาในฤดูกาลนี้ สมาคมเปียเรสซิตี้ได้ที่สี่ ส่วนสมาคมดิสซี่คอสได้ที่สาม

ในตอนนี้ เวลานี้ การแข่งขันนัดสุดท้ายได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

นัดสุดท้ายของฤดูการถ้วยเงาปีนี้ค่อนข้างแปลกๆไปสักนิด

หนึ่งในทีมที่ไม่ได้เข้าแข่งขันสามปีได้เข้ารอบชิงชนะเลิศและตอนนี้ก็มีเป้าหมายที่จะทำให้พวกเขากลับมา

ในทางกลับกันกลุ่มทหารรับจ้างซินซินเป็นที่รู้จักกันในนามว่า บัคของเกม

อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับเป็นที่โด่งดังอย่างแท้จริง ผู้เล่น PVE มากมายต่างชื่นชมลูหลี่สำหรับการเคลียร์ครั้งแรกของเขาและในเวลาเดียวกัน ความสำเร็จในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ก็ทำให้เขาได้รับความเคารพจากผู้เล่น PVP

ตอนนี้ คนนับไม่ถ้วนกำลังที่จะรอผลการแข่งขันของรอบนี้อย่างจริงจัง

อีกทั้ง พวกเขายังคาดหวังว่าจะมีการจัดตั้งสมาคมของลูหลี่ขึ้นมาจริงๆ

มีคนหลายพันคนที่ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมสมาคมนี้ทันทีที่มันถูกสร้างขึ้น

เช่นนี้แล้ว สมาคมของลูหลี่จึงเสมือนกับมีจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับสมาคมอื่นๆ

ผู้นำของสมาคมใหญ่ๆคนอื่นๆต่างก็ไปนั่งอยู่ที่บาร์ ในขณะที่พวกเขากล้ำกลืนน้ำตาจากความทรงจำในวันเก่าๆและบ่นเกี่ยวกับความภักดีของผู้เล่นทั่วไปที่อยู่ในสมาคม

ไม่ใช่แค่เพียงเคลียร์ครั้งแรกหลายครั้ง?

ไม่ใช่แค่เข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขันถ้วยเงา?

นี้มันเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากสำหรับทุกคน?

มันค่อนข้างเป็นความสำเร็จที่แสนยิ่งใหญ่ที่พวกเขาสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ นั้นทำให้สมาคมใหญ่ๆทั้งหมดต่างรู้สึกอิจฉาเกี่ยวกับมัน

พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้วในตอนนี้ เพราะพวกเขาได้เข้ารอบชิงชนะเลิศไปแล้ว

จากมุมมองอื่นๆแล้วนั้น หากสมาคมได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ก็คงไม่น่าอายไปกว่า กลุ่มทหารรับจ้างที่สามารถเข้าไปได้

ไม่ต้องกล่าวถึงเลย กับการสร้างสมาคมของลูหลี่ที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้

สมาคมไหนกันที่มีคนสนใจจะสมัครเข้ากันขนาดนี้ตั้งแต่เริ่มสร้างขึ้นมา?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตราบเท่าที่สมาคมของลูหลี่ยังคงยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะยังคงมีคนสมัครเข้าไปเรื่อยๆเช่นกัน

บางสมาคมที่รู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับลูหลี่ เช่น สมาคมหน่วยสืบราชการลับอิมพิเรียลก็ได้ร่วมกันพูดคุยกันแล้ว ว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดี

มีวิธีใดที่จะช่วยชะลอการพัฒนาของเขาได้อีกไหม?

หลังจากที่ถกเถียงจนได้ความคิดมากมาย ก็ดูเหมือนว่าไม่มีเทคนิคใดๆเลยที่จะสามารถทำได้ ลูหลี่นั้นเป็นที่โด่งดังมากจนเกินไป!

แต่ถ้าหากว่า...

ถ้ากลุ่มทหารรับจ้างซินซินได้รับแชมป์จริงๆแล้ว ทิศทางของอุตสาหกรรมเกมคงได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ

อีกทั้งพวกเขายังได้คิดเกี่ยวกับข้อมูลที่รั่วไหลออกมาจากการแข่งขันของสมาคมดิสซี่คอสและสมาคมเปียเรสซิตี้ ดูเหมือนว่าลูหลี่และแฟรี่น้ำจะใช้อุปกรณ์ร่วมกัน

ไอ้คู่นี้มันสกปรก!

ทุกคนที่ได้ยินเกี่ยวกับข้อมูลนี้ต่างรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก แต่ในความเป็นจริง พวกเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัวมาก

แฟรี่น้ำมีอุปกรณ์ที่ดีมากจนเกินไป

สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศจะสามารถเอาชนะได้งั้นเหรอ?

คนที่เฝ้ารอนั้นไม่จำเป็นต้องรอนานนัก รู้กันดีว่านี้คือการแข่งขันถ้วยเงา หลังจากการต่อสู้ระหว่างสมาคมดิสซี่คอสและสมาคมเปียเรสซิตี้ได้จบลง รอบชิงชนะเลิศก็กำลังจะเริ่มขึ้น

ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ก็จะมีการสัมภาษณ์สั้นๆ

นักข่าวได้กล่าวถามคำถามสั้นๆและถามลูลี่ว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่คุณเข้าร่วมการแข่งขันเกมแบบนี้ใช่ไหมครับ?"

หลายคนตั้งคำถามว่า บางทีลูหลี่อาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ปลอมตัวมาใช่ไหม นี่ไม่ใช่แค่สมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้ บางที เขาอาจจะเป็นนักเล่นเกมผู้เชี่ยวชาญ ที่ไม่เคยเล่นมาหลายปีหรืออาจจะมีการทำศัลยกรรมพลาสติก

"นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีส่วนร่วมในการแข่งขันแบบนี้ครับ" ลูหลี่กล่าวออกมาตามตรง

"คุณรู้สึกอย่างไรกับการแข่งขันในครั้งนี้ครับ?"

"มันน่าทึ่งมาก ฮึ่ม บางทีคงเป็นเพราะเงินรางวัลมันมากละมั้งครับ "ลูหลี่กล่าว

"กริชสีเลือดต้องการที่จะเจอกับคุณในรอบการแข่งขันแบบเดี่ยว คุณจะยอมรับคำท้าของเขาหรือเปล่าครับ?"

"อาจจะครับ" ลูหลี่เหลือบมองไปที่คนอื่นๆที่นั่งอยู่ในห้องนี้

ตรงข้ามกับเขาคือ นักบวชเทือกเขาสีขาว หัวของเขาก้มลงราวกับเขาเป็นพระที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ ส่วนกริชสีเลือดก็จ้องเขม็งไปที่ลูหลี่ด้วยความปรารถนาในการต่อสู้ ที่เสมือนกับมีคำว่าอยากจะสู้ด้วยติดอยู่บนใบหน้าเต็มไปหมดและซอวโรวเลสก็ยังคงลึกลับอยู่เหมือนเดิม

ดูเหมือนว่าซอวโเวเลสจะได้พบกับผู้ลอบสังหารเขาแล้ว เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องปกติ มีกลุ่มพันธมิตรหลายคนที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น หนึ่งในนั้นที่เป็นสายลับก็ต้องให้ข้อมูล ด้วยพลังอำนาจที่สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศใช้อยู่ มันก็ทำให้ไม่ว่าเรื่องนั้นจะลึกลับปานใด เรื่องนั้นก็จะเป็นที่ล่วงรู้จาก

แต่ลูหลี่ไม่กลัวหรอก เขาดึงมุมปากของเขาขึ้นและยิ้มกลับไป

นักข่าวยังคงตั้งคำถามเพิ่มเติมอีก มีคำถามมากมายสำหรับทั้งสองทีมที่เข้าร่วมรอบชิงชนะเลิศนี้

แม้ว่าจะมีผู้เล่นหกคนอยู่ในห้องนี้ แต่ก็ไม่ได้มีใครพูดอะไรออกมาเลย เช่นเดียวกับการสัมภาษณ์ มันเป็นเหมือนกับการถามและตอบอย่างเดียว บางครั้งพวกเขาก็ไม่ได้ทำตัวน่ารำคาญและตอบออกมาเลย ผู้สื่อข่าวรู้สึกโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อการสัมภาษณ์ได้สิ้นสุดลง เขาก็ได้เดินออกไปโดยไม่หันกลับมาเลย

ลูหลี่ได้ยอมรับคำท้าทายของการแข่งขันแบบเดี่ยว

มันเป็นการต่อสู้ระหว่างโจรสองคน

กริชสีเลือดเป็นคนระมัดระวังเป็นอย่างมาก เขาได้เปลี่ยนอุปกรณ์ของเขาด้วย สมาคมได้ค้นพบอุปกรณ์บางอย่างที่สามารถเพิ่มอัตราล่องหนแก่เขาได้

แต่ช่างน่าเสียดาย การเตรียมการของพวกเขานั้นเร่งรีบจนเกินไป อุปกรณ์พวกนี้ไม่ได้มีค่าสถานะดีเด่อะไรมากและก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าพวกมันจะสามารถป้องกันจากลูหลี่ได้

ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่า กลุ่มทหารรับจ้างซินซินกำลังทำงานร่วมกับสมาคมดิสซี่คอส แฟรี่น้ำได้แลกเปลี่ยนไอเท็มกับลูหลี่และประสบความสำเร็จในการเอาชนะสมาคมเปียเรสซิตี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ลูหลี่ก็จะต้องมีอุปกรณ์ของแฟรี่น้ำด้วยเช่นกัน

ความสามารถในการตรวจจับของแฟรี่น้ำนั้นน่ากลัวอย่างแท้จริง กริชสีเลือดจึงต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ 2 ชิ้นเพื่อลดโอกาสในการถูกตรวจจับ

แต่นั่นเพียงพอที่จะปกป้องเขางั้นหรือ?

แซปได้ถูกใช้บนหัวของเขา ซึ่งนั้นเป็นการบอกได้เลยว่าเขานั้นไร้เดียงสาจนเกินไป

กริชสีเลือดไม่รู้สึกประทับใจอะไรเลย เขาควรจะเก็บอุปกรณ์เดิมไว้ ค่าสถานะที่ช่วยเพิ่มอัตราการล่องหนไม่ได้ช่วยอะไรเขามาก

ลูหลี่ไม่ได้ใช้ทักษะไปทั้งหมด เขาพบว่าเขายังมีโอกาสที่จะโจมตีเขาได้อีก

กริชสีเลือดใช้ก้าววายุเพื่อป้องกันทักษะในขณะเดียวกัน เขาก็หันกลับไปเพื่อโจมตีลูหลี่

แต่ปฏิกิริยาของลูหลี่ไม่ช้ากว่าเขาลูหลี่ ลูหลี่ไม่จำเป็นต้องให้มีใครนำทาง เขาได้หายออกไปในระยะหลายหลาและเข้าสู่สถานะล่องหนด้วยชาโดว์เมล

ทั้งสองคนได้กลับมาอยู่ในสถานะล่องหนอีกครั้งและดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่แรก ยกเว้นความจริงที่ว่ากริชสีเลือดได้ใช้ทักษะก้าววายุไปที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่สายตา ต่างก็สามารถบอกได้เลยว่าเขาเป็นคนที่เสียเปรียบ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้พลิกกลับไปมาอย่างรวดเร็ว กริชสีเลือดได้โจมตีลูหลี่ก่อน

สร้อยคอจากแฟรี่น้ำได้อยู่ในระยะเวลาคูลดาวน์แล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่พวกเขาทั้งสองมีไอเท็มเพิ่มอัตราล่องหน ปัจจัยที่ทำให้ได้เปรียบก็มีเพียง ตำแหน่งการยืน เทคนิคและโชคของพวกเขา

ลูหลี่ไม่ลังเลเลย เขาได้ใช้ทักษะก้าววายุไปเหมือนกัน

เมื่อเห็นว่า ลูหลี่ได้ใช้ก้าววายุโดยที่ไม่คิดอะไรในการโจมตีครั้งที่สอง กริชสีเลือดก็รู้สึกเห็นด้วยกับตัวของลูหลี่ พวกเขานั้นเป็นผู้เล่นประเภทเดียวกัน

ไม่มีทางเลย ที่ผู้เล่นธรรมดาทั่วไปจะใช้ทักษะของพวกเขาไปอย่างง่ายดาย การใช้ทักษะอย่างเกรี้ยวกราดแบบ ก้าววายุ อย่างนี้จะทำให้พวกเขาเสียประโยชน์เป็นอย่างมาก

แต่ไม่มีใครคิดมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะว่า หากพวกเขาได้ตายลงไปแล้ว ทักษะพวกนี้ เมื่อไม่ได้ใช้ก็จะไร้ประโยชน์

ลูหลี่ไม่ยอมให้กริชสีเลือดสตันได้ ถึงแม้ว่า กริชสีเลือดจะไม่ได้ใช้คิดไนท์สไตรค์ในการแข่งขันแบบทีมหรือในการต่อสู้กับแฟรี่น้ำ แต่ลูหลี่ก็รู้ว่า เขาจะต้องมีทักษะนี้และน่าจะใช้เป็นไพ่ลับของตัวเอง

หลังจากที่เขาใช้ก้าววายุแล้ว ลูหลี่ก็เข้าสู่สถานะอมตะ

ส่วนกริชสีเลือดก็ได้ใช้ทักษะล่องหนอย่างรวดเร็ว ถ้าเขาไม่ได้ใช้ทักษะล่องหนแล้วละก็ ลูหลี่คงจะวิ่งพุ่งมาหาเขา

หลังจากที่เขาได้เสียท่าให้กริชสีเลือด ลูหลี่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร แต่ค่อยๆค้นหาตำแหน่งของฝ่ายตรงข้ามของเขาอย่างช้าๆ

บางทีเทพธิดาแห่งโชคคงจะคอยช่วยกริชสีเลือด ครั้งที่สองและครั้งที่สามก็เป็นเขาที่โจมตีลูหลี่ก่อน แต่ลูหลี่ก็มีแผนสำรองเหมือนกัน เขาได้ใช้เอฟเฟคพิเศษของหมวกของเขา

ซึ่งหมวกนี้ได้มาจากแฟรี่น้ำ

มันเพิ่มความสามารถในการตรวจจับของเขาและยังมาพร้อมกับเอฟเฟคหนึ่งที่สามารถป้องกันทักษะที่ทำให้ติดสตันได้ อย่างไรก็ตาม มันต้องเปิดใช้งานก่อนที่ทักษะจะโดนตัวเขา เอฟเฟคนี้มีผล 5 วินาทีและเวลาก็ไม่สามารถเพิ่มหรือลดได้

เขาไม่อาจจะรอดพ้นจากการใช้แซปได้ แต่เขาก็สามารถป้องกันทักษะเชปช็อตได้แทน

กริชสีเลือดรู้สึกตกใจมาก ที่เห็นว่าการสตัน 4 วินาทีของเขานั้นไม่มีผล