จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 317
บทที่ 317: เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
การแข่งขันได้เข้ามาสู่ช่วงนาทีที่ห้าแล้ว ไวน์ธงเขียวทำได้เพียงหวังว่าลูหลี่จะทำผิดพลาด
จากประสบการณ์ของเขา มนุษย์นั้นไม่ใช่หุ่นยนต์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะต้องทำผิดพลาดสักครั้งหนึ่ง ข้อแตกต่างที่สำคัญคือ ข้อผิดพลาดบางอย่างที่เกิดขึ้น นั้นเล็กจนเกินไปที่จะถูกเจอโดยฝ่ายตรงข้าม ในขณะที่ข้อผิดพลาดอื่นๆนั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
หายตัว ชาโดว์เมล ก้าววายุ วิ่ง ทักษะของรองเท้าของเขาและถุงมือ ลูหลี่นั้นมีทักษะในการเคลื่อนที่มากมายและอุปกรณ์ของเขาก็เหมาะมากในการต่อสู้แบบกองโจร
บางครั้ง เขาก็จะใช้เอฟเฟคของกริช ในการสร้างลูหลี่อีกคนขึ้นมาเพื่อร่วมสนุกด้วยกัน
ความเสียหายของทักษะร่างเงานั้นไม่สูงมาก แต่ก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งไวน์ธงเขียวนั้นมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก 20 วินาที นั้นเป็นเพราะ เขากลัวที่จะถูกฆ่าจากการสตันโดยลูหลี่ ดังนั้นแล้ว เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกเหนือจากการใช้ทักษะที่แข็งแกร่งกว่าในการรักษาตัวเอง
ทักษะที่แข็งแกร่งนั้นล้วนดีมาก แต่มันก็ใช้มานาไปมากเช่นเดียวกัน
หลังจาก 18 นาทีผ่านไป ลูหลี่ก็ได้ใช้เทคนิคของเขาในการดึงมานาของไวน์ธงเขียวไปหมดแล้ว
เขาต้องใช้มานาในการรักษาตัวเขาเอง แต่เขาจะตาย ถ้าเขาไม่สามารถรักษาตัวเองได้ นักฆ่าที่ได้รับการขนานนามว่านักฆ่ายางไร้หนทางแล้ว
หนทางในครั้งนี้ยากยิ่งกว่าการพบกันของดูดคนเดียวกับมูนไลท์เสียอก
ในการแข่งขันแบบเดี่ยว ลูหลี่ได้เอาชนะไวน์ธงเขียว
หลังจากพักไปหนึ่งชั่วโมง ลูหลี่ก็ได้ฟื้นฟู HP และ มานา ขึ้นมาใหม่ ก่อนที่จะขึ้นไปเวทีเพื่อเข้าแข่งขันในรอบแบบทีม
ในฐานะที่เป็นคนที่เติบโตจากความจนแล้ว เขาจึงสามารถทำงานหนักๆเป็นเวลาหลายชั่วโมงได้ ในทางกลับกัน ไวน์ธงเขียวไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เขาต้องใช้พลังงานไปมากเกินไปและเหนื่อยมากกว่าลูหลี่เสียอีก ความเมื่อยล้าของเขาเห็นได้ชัดเลย เมื่อเขาได้ขึ้นมาบนเวที
ลูหลี่มองไปที่มูนไลท์ที่พยันหน้าอย่างเข้าใจ
พวกเขาสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากความเหนื่อยล้าของเขาได้ ในเวทีนั้นไม่มีพื้นที่สำหรับสุภาพบุรษหรอกนะ ถ้าพวกเขาไม่สามารถจัดการและใช้ประโยชน์จากไวน์ธงเขียวได้ พวกเขาก็สมควรที่จะพ่ายแพ้ไปจริงๆ
ลูหลี่และมูนไลท์ได้วิ่งพุ่งไปที่ไวน์ธงเขียวในทันที ในขณะที่มาสเรนก็วิ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามและใช้เสียงกรีดร้องวิญญาณ
ทั้งเวทีตกอยู่ในความวุ่นวาย แต่ลูหลี่กับมูนไลท์ก็ทำได้ดีเลยทีเดียว หลังจากที่ลูหลี่ทำให้ไวน์ธงเขียวติดสตันแล้ว เขาก็โจมตีไปพร้อมกับมูนไลท์เลย แม้ว่าพวกเขาจะสละฮีลเลอร์ของพวกเขาไป แต่การสูญเสียครั้งนี้ก็มีผลมากเลยทีเดียว
กางเกงในสีทองมฤตยูจึงรีบวิ่งเข้ามาเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนของเขา แต่ก็โดนมูนไลท์ใช้ทักษะเสียงร้องคำรามเพื่อทำให้เขาติดสตันหลายวินาที
จากนั้นไม่นานนัก การแข่งขันแบบทีมก็ได้จบลง มันไม่ได้เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นเหมือนกับรอบการแข่งขันแบบเดี่ยวเลย
ความประทับใจมากที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ ก็มีเพียงแค่การร่วมมือกนของลูหลี่และมูนไลท์ในการโจมตีที่สร้างดาเมจได้มหาศาลมาก ไวน์ธงเขียวเป็นอาชีพที่สวมใส่เกราะแผ่น แต่ HP ของเขาก็หมดไปอย่างรวดเร็ว เขานั้นตายไปจากการใช้ทักษะเซ็ตเดียวเท่านั้น
สมาเปียเรสซิตี้ได้ตกรอบไปรอบรองชนะเลิศแล้ว ซึ่งกลุ่มทหารรับจ้างซินซินก็ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ!
เมื่อระบบได้ประกาศมันออกมา แม้แต่ลูหลี่ก็ไม่อยากจะเชื่อ
พวกเขาได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอย่างงั้นเหรอ?
วันเวลาได้ผ่านพ้นไป มีหลายสิ่งหลายอย่างได้เกิดขึ้นกลับกลายเป็นเพียงหมอกควัน ลูหลี่ในตอนนี้เหมือนกับได้สูญเสียการแยกแยะระหว่างความจริงและความฝันไปเสียแล้ว เขายังรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปมากๆอยู่
เขาต้องทำงานอย่างหนักจริงๆเพื่อที่จหาเงินมา
รอบชิงชนะเลิศและการเป็นแชมป์ ... เขาไม่คิดที่จินตนาการว่าเขาสามารถทำได้เลย มันเหมือนกับความฝันที่เขากำลังจะตื่นขึ้นมา ก่อนที่เขาจะสามารถทำความเข้าใจกับมันได้ ก็ได้มีคนบอกเขาว่า เขาได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแล้วและบอกเขาให้เตรียมพร้อมสำหรับรอบชิงชนะเลิศ
"ออกจากระบบแล้วไปพักผ่อนหน่อยไหม?" มูนไลท์นั้นรู้ว่าลูหลี่นั้นเหนื่อยมาก แม้แต่เขาก็ยังเหนื่อยเลย เมื่อต้องต่อสู้กับดูดคนเดี่ยว
"ฉันสบายดี สมาคมดิสซี่คอสและสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศกำลังจะเจอกันในอีกครึ่งชั่วโมง ฉันต้องการที่จะไปดูพวกเขา ฉันไม่รู้ว่าฉันจะหาตั๋วชมพวกนั้นได้ที่ไหน " การได้ตั๋วพวกนั้นมาเป็นเรื่องยากจริงๆ
"นายสามารถขอบัตรกับผู้จัดงานได้นิ" มูนไลท์มองไปที่เขาอย่างแปลกๆ
เขารู้สึกมั่นใจอีกครั้งว่า ลูหลี่นั้นไม่คุ้นเคยกับภาพลักษณ์ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ถ้าผู้เล่นมืออาชีพคนอื่นได้ยินว่าลูหลี่กำลังจะไปซื้อตั๋วอย่างรีบร้อนเหมือนผู้เล่นธรรมดาทั่วไป พวกเขาก็คงจะกลิ้งไปมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ยังคงไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าลูหลี่นั้นเป็นผู้เล่นผู้เชี่ยวชาญ แต่ลูหลี่และสมาชิกทีมของเขาสามคนก็ได้กลายเป็นจุดเด่นและเป็นเหมือนกับดาวในการแข่งขันครั้งนี้ไปแล้ว
ไม่ว่าเหล่ามืออาชีพจะทำกันอย่างไร พวกเขาก็ไม่สามารถขจัดพวกเขาไปได้เลย
ลูหลี่นั้นพยายามที่จะเข้าช่องแชทระบบและก็ได้พบว่าเขาสามารถเข้าใช้เวทีได้พร้อมกับสิทธิพิเศษอื่นๆอีกมากมายแบบฟรีๆ
หลังจากที่พวกเขาได้เข้ามาในเวที พื้นที่ที่พวกเขาอยู่ก็ได้ออกมาจากที่รับชมปกติ เพื่อที่จะให้มุมมองในการรับชมที่ดีขึ้น นอกจากนี้ มันยังช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงจากความแออัดและถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงชนได้อีกด้วย
ลูหลี่นั้นไม่เคยเข้าแข่งขันถึงรอบแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลยซักนิด
การแข่งขันแบบเดียวเป็นการพบกันของ กริชสีเลือดและแฟรี่น้ำ
นี่มักจะเป็นอาชีพเดียวที่มักจะถูกส่งออกไปในการแข่งขันแบบเดี่ยว มันเป็นการต่อสู้ของโจรกับโจร
แฟรี่น้ำเคยพ่ายแพ้ไม้แห่งความหวาดกลัวไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงสามารถรักษาความสงบไว้ได้และยังกล้าเผชิญหน้ากับกริชสีเลือด
มันยากที่จะบอกได้ว่า กริชสีเลือดหรือไม้แห่งความหวาดกลัวที่แข็งแกร่งกว่ากัน ในความทรงจำของลูหลี่ พวกเขาทั้งสองมีทั้งชนะกันและพ่ายแพ้กันไปมา แต่จากทั้งหมดแล้ว กริชสีเลือดนั้นแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย
คนอื่นๆคิดว่ากริชสีเลือดนั้นแข็งแกร่งกว่าไม้แห่งความหวาดกลัว เพราะเขาได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ
สมาคมพระเจ้าสนธยานั้นอยู่ในอันดับ 3 ขณะที่สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศอยู่ในอันดับ 1 ทรัพยากรที่พวกเขาได้รับนั้นแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง
แต่ในแง่ของเทคนิคนั้น ไม้แห่งความหวาดกลัวก็ยังดีมากอยู่ดี
ในแง่ของอุปกรณ์ แฟรี่น้ำดูเหมือนจะไม่ได้อ่อนแอไปกว่ากริชสีเลือดนัก
อุปกรณ์ของเธอถูกสร้างขึ้นมาเองโดยลูหลี่ ดังนั้นแม้แต่ลูหลี่ยังต้องน้ำลายไหล อุปกรณ์อื่นๆของเธอต้องมีระดับอย่างน้อยดีเลิศ เธอนั้นไม่ได้เสียใจกับเงินที่จ่ายไปสักนิดเดียว
อย่างไรก็ตาม กริชสีเลือดมีระดับอยู่ที่ 25 แล้ว เรื่องนี้ได้ทำให้เกิดความแตกต่างเหมือนกับแผ่นดินไหวเลยทีเดียว
ในการต่อสู้กันระหว่างโจรแล้ว กุญแจสำคัญคือการโจมตีก่อน
จากมุมมองแบบผู้ชมของลูหลี่ เขาสามารถมองเห็นทั้งการกระทำและการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ ซึ่งในการต่อสู้ระดับสูงแบบนี้ มันมีผลต่อการเรียนรู้ของเขาเป็นอย่างมาก
สร้อยคอของแฟรี่น้ำกระพริบ เมื่อเธอวิ่งตรงไปที่กริชสีเลือด
สร้อยคอนี้ต้องมีค่าตรวจจับมากอย่างแน่นอน ลูหลี่ไม่คิดสักนิดว่ากริชสีเลือดจะไม่มีไอเท็มที่เพิ่มอัตราการล่องหนอยู่บนตัวเขา อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงถูกเจอตัวโดยแฟรี่น้ำ
แฟรี่น้ำเริ่มโจมตีด้วยเชปเช็ตและตามด้วยแทงหลัง
เธอประสบความสำเร็จในการใช้ความสำเร็จของทักษะและความเสียหายที่เธอสร้างขึ้นมาได้ก็มากเป็นอย่างมาก นอกจากนี้มันยังมีผลเจาะเกราะ
กริชสีเลือดรีบใช้ก้าววายุในทันทีและดูเหมือนว่าทั้งคู่ต่างกลับเข้าสู่สถานะล่องหน สร้อยคอของแฟรี่น้ำดูเหมือนจะอยู่ในช่วงคูลดาวน์ เพราะเธอไม่ได้รีบเคลื่อนไหวเหมือนกับตะกี้
จากนี้ไป มันเป็นเหมือนกับบททดสอบของการวางตำแหน่งแล้ว
โจรสลัดทั้งสองคนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ในท้ายที่สุดแล้ว แฟรี่น้ำก็อ่อนแอกว่าเล็กน้อย เธอเดินผ่านกริชสีเลือด นั้นทำให้เขาใช้แซปใส่เธอในทันที
จากนั้น กริชสีเลือดก็ใช้เชปช็อตและตามด้วยแทงหลัง ความสามารถของเขานั้นไม่น้อยกว่าแฟรี่น้ำ แต่ความเสียหายของเขาก็น้อยมาก ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความแตกต่างระหว่างอุปกรณ์ของทั้งสองคน
ซึ่งแฟรี่น้ำก็ได้ใช้ทักษะก้าววายุ ตามที่เขาได้คาดการณ์
อย่างไรก็ตาม ก้าววายุที่เธอใช้ออกมาไม่ได้ใช้เพื่อหนี กลับใช้เพื่อการโจมตีต่างหาก ขณะที่ทักษะนั้นมีผล แฟรี่น้ำก็ได้ใช้ทักษะเสื้อคลุมของเธอในการโจมตีเข้าเบื้องหลังของกริชสีเลือด
เสื้อคลุมตัวนี้ได้ถูกขายให้กับเธอโดยลูหลี่และเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่เขาเข้าไปฟาร์มกับเงาของอิลิดัน
ไม่เพียงแค่มันจะดรอบทักษะซ่อนเงาเป็นคู่ มันยังดรอบเสื้อคลุมซ่อนเงาอีด้วย
กริชสีเลือดติดสตันอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่มีทักษะก้าววายุ นั้นทำให้เขาต้องรับความเสียหายทั้งหมดไปโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้
HP ของเขาลดลงไปอย่างรวดเร็ว แต่แฟรี่น้ำไม่ได้มีความสามารถพอที่จะฆ่าเขาในการโจมตีชุดเดียว กริชสีเลือดใช้ทักษะหายตัวและหนีไปจากเงื้อมมือของแฟรี่น้ำ ถ้าทักษะกรีดคอของเธอมีระดับที่สูงกว่านี้และติดผลเลือดออก กริชสีเลือดคงจะตายไปแล้ว
ถ้ามีเอฟเฟคเลือดออก เขาก็จะถูกเปิดเผยตัวในทันทีที่ทักษะหายตัวมีผล
"นายคิดอย่างไร?"มูนไลท์ถามลูหลี่
"กริชสีเลือดไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก" ลูหลี่หัวเราะพร้อมกล่าวตอบ
มูนไลท์เงียบสักครู่ก่อนที่จะถามต่อว่า "นายคิดว่าคู่แข่งรอบต่อไปของเราคือใคร?"
"มันยากที่จะบอกได้ ในรอบนี้แฟรี่น้ำน้ำน่าจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะอุปกรณ์ของเธอนั้นดีมากจนเกินไป ด้วยสร้อยคอของเธอ ก็เหมือนกับตัวแก้ทางอาชีพโจรแล้ว "ลูหลี่รู้สึกเห็นด้วยอย่างมากกับความคิดเห็นของเขา
นอกจากสร้อยคอแล้ว อาวุธระดับประณีตของแฟรี่น้ำยังถูกสร้างขึ้นมาจากลูหลี่ เขาไม่แน่ใจเลยว่า ตอนนี้เขาได้ขุดหลุดดักตัวเองอยู่หรือเปล่า