จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 310
บทที่ 310: การต่อสู้กับอาเซอร์การ์ด
ถึงแม้ว่าพเนจรจะไม่ได้รู้จักลูหลี่มานานนัก แต่เขาก็เข้าใจคนอย่างลูหลี่ดี ในสายตาของเขา ลูหลี่เป็นอัจฉริยะในการเล่นเกม
ใช่แล้วเขาจะต้องเป็นอัจฉริยะก่อนที่เขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตามความสามารถนี้จะแสดงให้เห็นเฉพาะในเกมเท่านั้น เช่นการ PVP การทำเควส เขาจะเป็นคนที่ค่อนข้างสุขุมและไว้วางใจได้เลยทีเดียว
ดังนั้นเขาจึงมั่นใจได้ว่าลูหลี่จะต้องไม่เลือกที่จะตัดสินเรื่องนี้อย่างแน่นอน
เช่นเดียวกันกับคำกล่าวของอาเซอร์ซีบรีสที่เคยกล่าวออกมาว่า ลูหลี่จะไม่บ่นหรืออะไรเลย แม้จะรู้ทีหลังก็ตาม
สแควรูทสามรู้สึกมึนงงเล็กน้อย เพราะเวลาที่เขาอยู่ในสมาคมสตาร์มูนไม่มีเรื่องอะไรที่ง่ายเลย อู่ เจียน เป็นคนที่มีความฝัน แต่ไม่มีพรสวรรค์ เขาต้องการที่จะจัดการทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่ได้มีความสามารถในการจัดการอะไรเลยสักนิดเดียว ริชริชชี่ยิ่งตรงกันข้ามไปอีก ไม่มีอะไรที่จะหยุดเขาได้และทำทุกอย่างที่เขาคิดว่าทำได้ สแควรูทสามนั้นได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ของเขาในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ทั้งสองคนนี้ได้ก่อขึ้นมา
เขารู้สึกขอบคุณที่ลูหลี่ได้มอบทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในมือของเขา แต่ในขณะเดียวกัน นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเคยชินเลย
สแควรูทสามไม่รู้จะกล่าวออกไปตรงๆยังไง นี่เป็นความรู้สึกที่แสนยอดเยี่ยมยิ่งนัก โดยปกติแล้ว ถ้าคุณไม่เริ่มทำธุรกิจของคุณเอง มันก็ยากที่จะหาเจ้านายที่มอบทุกอย่างให้คุณ
เขาเคยคิดถึงการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมาก่อนและตระหนักว่าเขาไม่มีปัญหาในเรื่องรายได้ในการบริหารด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาคิดมันไม่อาจเป็นไปได้เลย เพราะเขาไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่เข้าแข่งขันที่ติดรอบร้อยทีมคนไหนเลยที่อยู่ใต้อาญัติของเขา
ซึ่งลูหลี่และคนอื่นๆนั้นแตกต่างกันออกไป
พวกเขาเป็นทีมเล็กๆที่มี 10 คน แต่ก็ได้เข้ารอบ 16 ทีมแล้ว
และในวันอังคาร รอบ 16 ทีมก็จะเริ่มขึ้น
กฎขั้นตอนของการแข่งขันนี้เรียบง่ายมาก ทีมทั้งสิบหกทีมจะจับคู่แบบสุ่มกันเอง โดยผู้ชนะจะได้รับตั๋วไปรอบรองชนะเลิศ จะมีทีมเหลือแค่ 8 ทีมและอีก 8 ทีมจะถูกคัดออกไป
สิบหกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันในรอบนี้ได้ผ่านการคัดเลือกในหมู่ผู้เล่นไปแล้ว ไม่มีทีมที่อ่อนแอหลงเหลือเลยในหมู่พวกเขา
ใครจะไม่ต้องการดูการแข่งขันระหว่างทีมที่แข็งแกร่งกัน?
บริษัทเกมได้เปิดช่องทางให้ผู้ชมได้รับชมมากขึ้นและการที่จะมีผู้ชมนับล้านๆคนก็ได้กลายเป็นความจริงอันใหม่แล้ว เมื่อถึงเวลาการแข่งขันแล้ว แม้แต่ตั๋วของการแข่งขันยังหาได้ยากเลยทีเดียว
"อาเซอร์การ์ดงั้นเหรอ? นี่มันน่าสนใจมากเลยทีเดียว "ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาเหลือบมองไปที่การประกาศของระบบ ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาในวันนี้คือ อาเซอร์การ์ด ซึ่งเป็นสมาคมอันดับที่ 6 ในการจัดอันดับของสมาคม
ทีมตรงข้ามมีสมาชิกผู้เล่นที่มีชื่อเสียงสามคน ได้แก่ เมจิกคาย สายฟ้าสีเงินและดอกไม้อัมพาต นี่คือการรวมกันของ โจร นักเวทย์และนักบวช
ในระหว่างการแข่งขัน 100 ทีม อาเซอร์การ์ดได้เจอกับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งหลายทีมเช่น สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ สมาคมธงสงครามสีเลือดและสมาคมสเตลลาร์ อย่างไรก็ตามด้วยความพยายามของพวกเขาและความแข็งแกร่ง มันก็ได้ทำให้พวกเขาได้เข้ารอบ 16 ทีม
แม้ว่าทีมพวกเขาจะแพ้สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศและสมาคมธงสงครามสีเลือดไป แต่ก็ไม่มีใครที่จะกล้าหัวเราะเยาะพวกเขา เพราะพวกเขาต่อสู้ได้ดีแล้ว
ไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกความแข็งแกร่งของทีมที่เข้ารอบตลอดหรอกนะ
"โจร นักเวทย์และนักบวช รอบนี้นายไปเถอะ" ตอนนี้มูนไลท์ไม่กล้าประมาทอีกแล้ว
พวกเขาใกล้จะขึ้นไปด้านบนแล้วและไม่มีใครที่จะอยากแพ้การแข่งขันโดยการประมาทเลย เขาเป็นนักรบ ดังนั้น ถ้าเขาเจอกับดอกไม้อัมพาต เขาก็จะมีโอกาสที่จะชนะได้ดีกว่า อย่างไรก็ตามหากทีมฝ่ายตรงข้ามส่ง เมจิกคายมา เขาจะเป็นคนที่พ่ายแพ้เอง
นักรบมีการเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยดีนัก โดยทั่วไปแล้วนะน่ะ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะเจอกับนักเวทย์น้ำแข็ง
หลังจากที่เขาได้พ่ายแพ้ให้กับดูดคนเดียวแล้ว มูนไลท์ก็รับรู้ถึงจุดอ่อนของเขาในสนามแข่งขัน แต่มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย หากส่งลูหลี่ไปแทน
ลูหลี่ขึ้นไปบนเวทีและไม่แปลกใจเลยที่ทีมฝ่ายตรงข้ามได้ส่ง เมจิคคาย มา
เมจิคคาย เป็นผู้เล่นที่เก่งมากและมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เขาเป็นที่รู้จักกันดีในช่วงสามถึงสี่ปีมานี้และเป็นผู้เล่นชื่อดังที่มีความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง
ไม่มีข้อได้เปรียบระหว่างโจรและนักเวทย์ในการเจอกัน ทั้งสองอาชีพอยู่ในจุดศูนย์กลางของการถกเถียงกันมายาวนาน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถพูดได้เลยว่าอาชีพไหนดีกว่ากัน
ลูหลี่ไม่ได้ที่จะทำอะไรที่เหนือความคาดหมายเลย เขาเข้าสู่สถานะล่องหนและเดินเข้าหาศัตรูของเขาอย่างช้าๆพร้อมกับเลือกเวลาที่ดีที่สุดเพื่อที่จะหาตำแหน่งที่จะเข้าโจมตี
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เขามุ่งมั่นที่จะฆ่าฝ่ายตรงข้ามด้วยการโจมตีในชุดเดียว
ถ้าอีกฝ่ายใช้ฟรอสโนวา ลูหลี่ก็จะใช้ทักษะล่องหน
ทันทีที่เวทมนตร์ได้หมดผลไปแล้ว ลูหลี่ก็จะใช้เอฟเฟคของหมวกของเขาและเขาไปใกล้ชิดเขาอย่างกับเงาตามตัว
เมจิกคาย มีระดับ 24 และอุปกรณ์ของเขาก็ไม่มีชิ้นไหนที่จะสามารถเทียบกับลูหลี่ได้เลย แม้ว่าเขาจะต่อสู้ได้ยอดเยี่ยมก็ตาม แต่เขาก็ได้พ่ายแพ้การแข่งขันแบบเดี่ยวไปแล้ว
เมื่อเขาล้มลงไป ลูหลี่ก็เหลือพลังชีวิตอยู่เกินครึ่งหลอด
ในการต่อสู้แบบกลุ่มนั้น เป็นการพบกันระหว่าง นักรบ โจรและนักบวช กับ โจร นักเวทย์และนักบวช
ลูหลี่และดอกไม้อัมพาต มีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันอย่างมากมาย ดอกไม้อัมพาตเป็นที่รู้จักกันในนามว่าเป็นโจรที่สกปรกที่สุดในเกมรุ่งอรุณและเขาก็มีทักษะในการเอาตัวรอดเหนือกว่าลูหลี่ แต่การโจมตีของเขาแทบจะไม่ได้เป็นอันตรายอะไรเลย
ถึงแม้อุปกรณ์ของเมจิกคายจะไม่ดีเท่ากับมูนไลท์ แต่ด้วยเรื่องของการแพ้ทางอาชีพ เขาก็ยังมีโอกาสที่จะเอาชนะเขาได้
เมื่อเร็วๆนี้ มาสเรนได้ทำการพัฒนาตัวเองอย่างมาก แต่เธอก็ยังไม่ดีหากต้องเทียบกับสายฟ้าสีเงิน
สายฟ้าสีเงิน เป็นฮีลเลอร์ที่ดีที่สุดในแง่ของเทคนิค
ความแข็งแกร่งของทีมอาเซอร์การ์ดแทบจะเทียบเท่ากับทีมของลูหลี่ได้เลย
กุญแจสู่ชัยชนะของการต่อสู้คือยุทธศาสตร์และบางทีอาจจะพึ่งโชคสักหน่อย
ตัวอย่างของเรื่องนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว สายฟ้าสีเงินได้เจอตัวของลูหลี่ ขณะที่เขาเดินเข้ามาและเขาก็ได้ส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมทีมอย่างลับๆเพื่อที่จะลอบโจมตีเขา
ก้าววายุ!
ลูหลี่ได้ถูกบังคับให้ใช้ทักษะสุดยอดของเขาออกมาเพื่อเอาตัวรอด
ช่างโชคดีมากเลยที่สายฟ้าสีเงินมีไอเท็มตรวจจับชิ้นไหมอยู่ในคลัง มิฉะนั้น ก็คงจะไม่มีทางใดเลยที่จะพบลูหลี่ได้ง่ายอย่างนี้ เขามีอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มอัตราการล่องหนถึงสองชิ้นนะ
ทันทีที่มาสเรนเพิ่มเลือดลูหลี่ เลือดของมูนไลท์ที่กำลังต่อสู้อยู่ก็ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่เขาได้เรียนรู้ทักษะใหม่มา สิงหนาท ซึ่งเป็นทักษะในการสตันและทำให้ผู้เล่นรอบกายเขาติดสถานะหวาดกลัว เมจิกคายสามารถหลบทักษะนี้ได้ แต่ดอกไม้อัมพาตไม่สามารถหลบได้ เพราะเขาเป็นอาชีพที่ต้องโจมตีระยะประชิด
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิงอย่างมาก
พวกเขาเสียเปรียบและลูหลี่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย เพื่อลดความกดดันของมูนไลท์
เขาใช้ทักษะพุ่งโจมตีเพื่อพุ่งเข้าใส่เมจิกคาย ลูหลี่ตั้งใจที่จะโจมตีนักเวทย์ก่อน เพราะเขาจะไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว หากเลือดของมูนไลท์ลดหมดหลอด
อย่างไรก็ตาม เมจิกคายไม่ใช่ผู้เล่นที่อ่อนแอ เขาใช้ทักษะแท่งไอติมและถ้าลูหลี่วิ่งเข้ามาหาเขา เขาก็จะโดนแท่งน้ำแข็ง
ด้วยแท่งน้ำแข็ง ความเร็วในการเคลื่อนที่ของลูหลี่จึงลดลงและนั้นทำให้เมจิกคายหลุดรอดจากการโจมตีของเขา
ในอีกด้านหนึ่ง ดอกไม้อัมพาตได้อาศัยชื่อของเขาในฐานะผู้เล่นโจรที่สกปรกที่สุด โดยเปิดใช้ทักษะของเสื้อคลุมเงาเพื่อลบสถานะหวาดกลัวออกไปและทำการหายตัวหนี
ลูหลี่ไม่ต้องห่วงเรื่องของดอกไม้อัมพาตมากนัก แต่เขาก็ได้ใช้เอฟเฟคพิเศษในเสื้อคลุมของเขาเพื่อไล่ตามเมจิกคายไป!
มูนไลท์ได้รับการเยียวยาจากมาสเรนเพิ่ม ดังนั้นเขาจึงหันพุ่งไปหานักเวทย์
สายฟ้าสีเงินมีเทคนิคที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่เพียง แต่เขาสามารถรักษาเมจิคคายได้อย่างเดียว แต่เขายังมีเวลาว่างในการเผาแถบมานาของมาสเรนและยังโจมตีด้วยทักษะบางอย่างในขณะนั้นอีกด้วย
มาสเรนตกอยู่ภายใต้การโจมตีเหมือนผีจากดอกไม้อัมพาตและแทบจะเอาตัวไม่รอด
ทั้งสองฝ่ายติดอยู่ในสถานการณ์ที่ดูสมดุลกันอย่างแปลกประหลาด
มันเป็นสงครามที่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ชนะหรือแพ้กันเลย
สายฟ้าสีเงินรู้สึกโล่งใจ นี่มันเหมือนกับสถานการณ์ที่เขาหวังไว้
เนื่องจากความแตกต่างในด้านของระดับ มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะสามารถจัดการลูหลี่ลงได้ในทันที ถ้าพวกเขายอมเสี่ยงแล้วพลาดขึ้นมา มันก็คงจะกลายเป็นโอกาสอันดีของทีมลูหลี่
ด้วยสถานการณ์ที่สมดุลเช่นนี้ การชนะหรือแพ้จะขึ้นอยู่กับผู้ที่ผิดพลาดเป็นคนแรก
ดวงตาของสายฟ้าสีเงินจดจ้องมองไปที่มาสเรน ในฐานะที่เป็นคนที่เล่นอาชีพนักบวช เขาสามารถบอกได้เลยว่ามาสเรนเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด
ด้วยการโจมตีจากดอกไม้อัมพาตและเขาที่เผาผลาญมานาของเธอไปเรื่อยๆ เธอก็คงจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน