การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 46 การเจรจาเพื่อร่วมมือทางธุรกิจ
ตอนที่ 46 การเจรจาเพื่อร่วมมือทางธุรกิจ
“ฮาฮาฮา ท่านนี่สุดยอดจริงๆ เลยนะครับ มันเป็นความจริงที่ข้าต้องการร่วมธุรกิจกับท่านในเรื่องแร่ที่ชื่อว่าไร้ค่าที่ท่านกำลังรวบรวมอยู่ และข้าต้องการเป็นแบบคนตระกูล วินเทอร์ไฮ ข้าได้ข่าวมาว่าท่านร่วมธุรกิจกับตระกูลนั้นสะใหญ่โต ข้าเองก็ต้องการเป็นแบบนั้นในเรื่องแร่ของท่านเช่นกัน”
“เจ้ากำลังบอกว่าอยากเป็นตัวแทนในการขายแร่งั้นเหรอ?”
หมอนี่คิดออกมาได้เยอะจริงๆ ไม่ใช่การกว้านซื้อแร่เท่านั้น แต่ยังรู้วางแผนธุรกิจสะใหญ่โตแบบธุรกิจนิยายที่ผมกำลังทำอยู่ด้วย เรื่องนิยายตอนนี้คงถูกขายไปแล้วหลายประเทศ การที่ซาอุสจะรู้เรื่องของมันแบบนี้มันก็ไม่แปลกอะไร แต่ที่แปลกคือเรื่องแร่ที่หมอนี่มันคิดได้ต่างหาก
“…ท่านก็ล้อข้าเล่นอีกแล้ว ถ้าข้าอยากกำไรจากแร่ข้าจะมาหาท่านเช่นนี้ทำไม”
“แล้วเจ้าต้องการอะไร”
“ท่านแกรน์ดยุก ข้าขอพูดตามตรงเลยว่าข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านกำลังเจ้าเอาแร่พวกนั้นไปทำอะไร แต่สัญชาตญาณพ่อค้าของข้ามันบอกว่าท่านต้องทำอะไรที่ได้เงินมากแน่ๆ เพราะงั้นสิ่งที่ข้าต้องการคือเป็นตัวแทนผลผลิตจากแร่ที่ท่านเก็บเอาไว้ต่างหาก หวังว่าท่านจะให้โอกาสข้าในเรื่องนั้น”
“เจ้ากำลังจะบอกว่าไม่รู้ว่ามันจะเป็นสินค้าอะไร แต่ก็เจ้าลงทุนคืนเหมืองทองในราคา 2.5 ล้านเหรียญทอง มาก่อนแล้วงั้นเหรอ”
ซาอุส พยักหน้าขึ้นลงทันที
“ครับ!”
เหอๆ เหมือนกับว่าจะกังวลอะไรกับหมอนี่มากเกินไป ตอนแรกก็คิดว่าหมอนี่จะรู้ถึงประโยชน์ของมันแล้วว่ามันดีขนาดไหน แต่ดันเป็นแค่เรื่องความกังวลเกินเหตุไปสะได้ ถึงเป็นแบบนั้นเรื่องมันก็ง่ายขึ้นมาเยอะจริงๆ อาวุธ! เกราะ! ของพวกนี้ที่สร้างจากแร่สวรรค์ผมไม่ต้องการส่งมันออกนอกจักรวรรดิก็จริง แต่ถ้าส่งออกไปในปริมาณน้อยๆ มันก็ไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก แถมของที่มันมีน้อยยังสามารถขายได้ในราคาที่แพงมากอีกด้วย ในโลกที่ผมเคยจากมาเคยเห็นมาแล้ว หึหึ!
การขายในจักรวรรดิผมสามารถให้ไกอาและคนของตระกูล วอเตอร์ ขายมันออกไปได้ไม่ยากเท่าไหร่ แต่ขายภายนอกประเทศนั้นผมและตระกูล วอเตอร์ คงทำเรื่องอะไรแบบนั้นไม่ได้ ส่วนเหตุผลก็แน่นอน ถ้าเกิดว่าตระกูล แกรนด์ดยุกแห่งจักรวรรดิขายอาวุธชั้นดีออกนอกประเทศมันก็ต้องสร้างความไม่พอใจจำนวนมากเกิดขึ้นในจักรวรรดิแน่นอน ในตอนนี้ผมแข็งแกร่งขึ้นแล้วก็จริง แต่ก็คงรับมือกับขุนนางทั่วทั้งจักรวรรดิที่เต็มไปด้วยความโกรธไม่ไหว เพราะงั้น การหาพ่อค้าออกหน้าเป็นตัวแทนขายให้ก็จะแก้ปัญหาส่วนนี้ได้อย่างดี
“เอาตามนั้น ข้าก็กำลังหาพ่อค้าทำหน้าที่ตรงนี้อยู่พ่อดี แต่ข้าเองก็อยากช่างตีเหล็กสักหนึ่งร้อยคนเพื่อมาเป็นแรงงานอยู่พอดี หวังว่าข้าคงไม่ต้องไปหาจากที่อื่น”
“ไม่ต้องห่วงครับ! ช่างตีเหล็กเรียกตัวให้มาทำงานยากก็จริง แต่ข้าก็มีเส้นสายในเรื่องพวกนี้อยู่พอสมควร ขอแค่เอ่ยปากพวกนั้นก็ยอมทำงานให้กันแน่นอน …เช่นนั้นข้าขอถามได้ไหมว่าท่านกำละจะสะ-”
“เดี๋ยวก่อน!! ก่อนจะไปพูดถึงสินค้าของอยากคุยเรื่องช่างตีเหล็กก่อน ของที่ข้าจะสร้างมันต้องเก็บเอาไว้เป็นความลับอย่างน้อยๆ ก็คงประมาณเกือบปี เพราะการจะเปิดเผยตัวตนการสร้างมันได้ข้าต้องแข็งแกร่งมากพอจนไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องง่ายๆ …เจ้าเข้าใจไหมว่าข้าต้องการจะบอกว่าอะไร”
นี่เป็นเรื่องที่ต้องคุยและระวังเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก แร่สวรรค์! การตีพวกมันตอนนี้ในทวีปของมนุษย์ยังเป็นความลับ การที่เอาช่างตีเหล็กร้อยคนเข้ามาทำงานมันจึงไม่เป็นความลับอีกต่อไป ถ้าเกิดให้เหล่าช่างตีเหล็กทำงานและเดินทางกลับบ้านตัวเองได้ปกติมันก็จะมีปัญหาหลายอย่างตามมา เวลานี้ผมมีกำลังทหารพลังบ่มเพาะระดับราชานักรบจำนวนมากแล้วก็จริง แต่แค่นี้มันไม่พอหรอก ถ้าวางใจได้อย่างน้อยๆ ก็ต้องให้พวกอัศวินและทหารนับสองแสนคนที่เส้นทะเลลมปราณถึงระดับราชานักรบกันก่อน
เมื่อถึงเวลานั้นความปลอดภัยของผมถึงจะปลอดภัยจริงๆ เรื่องการฟ้องร้องในครั้งนี้เหล่าตระกูล แกรนด์ดยุก อีกสามตระกูลยังไม่เข้ามาเลยด้วยซ้ำ ถ้าพวกนั้นเริ่มเคลื่อนไหวเรื่องมันคงไม่ง่ายเช่นนี้
“ท่านต้องการให้ช่างตีเหล็กทำงานและอยู่ในการควบคุมของท่านประมาณหนึ่งปี ท่านกำลังจะบอกให้ข้าหาคนที่ยอมรับเงื่อนไขข้อนี้ได้ใช่ไหม”
“ถูกต้อง! แต่!! คนที่ยอมรับเงื่อนไขได้ก็ต้องมีฝีมือหรือประสบการณ์มามากพอสมควรด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องค่าแรงก็ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะให้ค่าแรงมากกว่าพวกนั้นทำงานปกติในราคา 2 เท่า”
หลังพูดจบ ซาอุส ก็ทำหน้าเคร่งเครียดเหมือนกับใบหน้าของคนกำลังคิดหนัก ส่วนเงื่อนไขที่ผมบอกออกไป ว่ากันตามตรงต่อให้เป็นผมก็หาช่างตีเหล็กมาทำงานให้ยากเหมือนกัน ต้องทำงานโดยไม่ออกไปไหนหนึ่งปีโดยต้องรักษาความลับเอาในการตีเอาไว้ แถมยังต้องเป็นคนมีฝีมือในการทำงานกันอีก ช่างตีเหล็กที่มีจำนวนน้อยกันอยู่แล้วไม่มีใครยอมรับเงื่อนไขแบบนี้ง่ายๆ กันหรอก
ผ่านไปได้ไม่นาน ซาอุส ก็เงยหน้าขึ้นมา
“ข้าสามารถหาให้ท่านได้ แต่เรื่องราคาคงต้องเพิ่มนิดหน่อย”
“เจ้าต้องการให้เพิ่มเท่าไหร่?”
ก็คิดเอาไว้แล้วละว่าเพิ่มสองเท่ามันน้อยไป แต่เงินนั้นแค่พูดไปให้มันฐานการเจรจาเท่านั้นตามจริงผมจะให้ค่าแรงเป็นร้อยเท่าผมก็ยังคุ้มค่าอยู่ดีนั่นแหละ หึหึ! ตั้งแต่ที่หมอนี่บอกว่า ‘หาให้ท่านได้’ เมื่อนั้นก็เท่ากับว่าผมไม่มีอะไรต้องกังวลในการเจรจาอีกต่อไปแล้ว
“เรื่องเงินสองเท่าข้าไม่ขอเพิ่มให้พวกนั้นหรอก เพียงแต่ข้าอยากให้ท่านรับคนในครอบครัวพวกนั้นเข้ามาทำงานในคฤหาสน์ของท่านเพื่อความปลอดภัย อย่างที่รู้กัน ถึงที่แห่งนี้จะเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิแต่เรื่องความปลอดภัยของสามัญชนมันจะเป็นยังไงท่านก็น่าจะคิดออก ถ้าเกิดว่าไม่มีหัวหน้าครอบครัวอยู่ด้วยนานเกือบปี”
หมอนี่ใช้ได้เลยทีเดียว! ไม่ได้คิดถึงแค่เรื่องคนงานที่ทำงานให้ แต่ยังคิดถึงครอบครัวของคนเหล่านั้นด้วย นับว่าเป็นนายจ้างที่มีจิตใจดีในโลกยุคกลางแบบนี้จริงๆ
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ข้าว่าจะขยายพื้นที่คฤหาสน์อยู่พอดีและจะสร้างโรงตีเหล็กในคฤหาสน์แห่งนี้ด้วย แต่ว่า!! ถ้าพวกนั้นเอาครอบครัวเข้ามาด้วยข้าจะไม่ให้ทำงานในคฤหาสน์แต่ให้ทำงานในโรงตีเหล็กเช่นกัน แล้วคนเหล่านั้นก็ต้องใช้เงื่อนไขเดียวกันทั้งหมดที่จะไม่สามารถออกไปไหนได้เป็นเวลา 1 ปี โดยประมาณ”
ซาอุส พยักหน้าขึ้นลง
“ครับ! เรื่องนั้นท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
“ดี! เช่นนั้นการร่วมธุรกิจของเราก็ถือว่าเสร็จสิ้น ส่วนสินค้าที่ข้าจะสร้างก็คือ ชุดเกราะและอาวุธชนิดต่างๆ!”
“ครับ ????”
ใบหน้าซาอุสเต็มไปด้วยความสงสัยหลังอุทานออกมา หมอนี่คงกำลังแปลกใจนั่นแหละว่าผมกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรกันแน่ การสร้างอาวุธและเกราะมันไม่ใช้ธุรกิจที่จะทำกำไรให้ขนาดนั้น แถมในตลาดยังมีคู่แข่งอีกมากมายที่เป็นตระกูลเล็กตระกูลใหญ่ แต่! ถ้าเกิดได้เห็นพลังทำลายและป้องกันของแร่เหล็กสวรรค์ หมอนี่ก็คงเข้าใจได้เองว่ามันจะสามารถสร้างผลกำไรได้ขนาดไหน หึหึ!
“ท่านกำลังล้อข้าเล่นอีกแล้วเหรอครับ การสร้างพะ-”
“ข้าไม่ได้ล้อเล่น!! ข้าสามารถรับรองได้เลยว่ามันสามารถทำกำไรก้อนโตกับเจ้าได้แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แถมอาวุธที่ข้าจะสร้างขึ้นทุกประเทศในทวีปจะต้องการพวกมันแน่นอน ถ้าเกิดเจ้าไม่เชื่อใจข้าในเรื่องนี้พวกเราสองคนก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก!!”
ผมกระแทกเสียงก่อนที่ซาอุสจะได้พูดอะไรออกมา ถ้าเกิดไม่ไว้ใจกันผมก็ไม่ง้อหมอนี่หรอก การหาพ่อค้าที่ช่วยงานครั้งนี้มันไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนั้น ถ้าไม่มีหมอนี่ช่วยผมก็แค่ตีมันขึ้นมาแล้วเก็บสะสมเอาไว้ก่อนก็เท่านั้น พอมีความแข็งแกร่งมากเพียงพอก็เอามันออกไปขายเอาก็เอาได้ เรื่องมันไม่ได้ยากเย็นอะไรแถมแผนนี้ยังเป็นแผนที่ผมคิดเอาไว้ในตอนแรกอีกด้วย
แต่ที่ยอมเสี่ยงให้หมอนี่เอาไปขายเพราะผมคิดว่าต้องให้รางวัลเจ้านี่นิดหน่อยที่เอาของขวัญด้านหน้ามาให้ แต่ถ้าไม่เชื่อใจกันก็ไม่มีอะไรให้คุยกันอีก
“ทะ ท่านใจเย็นๆ ก่อนครับ ข้าไม่ได้หมายความว่าไม่ไว้ใจท่านครับ”
“แล้วไอที่บอกว่าข้าล้อเล่นมันอะไร!!”
“ขะ ขออภัยจริงๆ ครับ ข้าพูดออกไปโดยไม่คิด ข้าจะรีบทำตามที่ท่านต้องการทันที”
เรียบร้อย! การแกล้งอารมณ์เสียมันช่วยเร่งการเจรจาให้เร็วขึ้นมากจริง เหอๆ
เท่านี้เรื่องแร่เหล็กสวรรค์ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แรงงานผลิต! ตอนแรกผมก็ลังเลว่าจะผลิตเองคนเดียวในช่วงแรกๆ ดีหรือเปล่า แต่คิดไปคิดมาการจะสร้างจำนวน 1,000 ชิน คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะงั้นการเอาแรงงานมาช่วยผลิตมันก็ย่นเวลาทำงานของผมไปเยอะ… ไม่สิ! เรียกว่าผมแทบไม่ต้องทำเลยต่างหาก
การขาย! การขายก็ไม่ต้องกังวลเพราะคนระดับ ซาอุส คงเข้าใจดีว่าต้องทำยังไงหลังจากได้รับสินค้าไปแล้ว แถมหมอนี่เป็นพ่อค้ามือชีพไม่เหมือนกับพ่อค้าแร่ที่ผมร่วมธุรกิจด้วยในครั้งก่อน การเก็บรักษาความลับคงไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน หึหึ! สมบูรณ์แบบ!!
หลังจากที่รู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็มองไปที่ซาอุสอีกครั้งเพราะตอนนี้ทุกอย่างจบแล้ว แต่เจ้านั้นยังไม่ออกไปหรือเตรียมตัวออกไปเลย เห็นแบบนั้นผมเลยถามออกไปว่า
“มีเรื่องอะไรอีก?”
“….คือว่า เรื่องนี้ข้าได้รับข่าวมาในเส้นสายพ่อค้า ข้าคิดว่าต้องควรบอกท่านเอาไว้ก่อน”
“ ถ้าเจ้าคิดว่าข้าควรรู้เกี่ยวกับมัน เช่นนั้นก็พูดออกมา!! ‘