การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 45 ของขวัญจาก ซาอุส เดอุส
ตอนที่ 45 ของขวัญจาก ซาอุส เดอุส
หลังจากได้รับการรายงานเรื่อง ซาอุส เดอุส ผมก็ตรงมาที่ห้องรับแขกของตระกูลทันทีด้วยความสงสัย เวลานี้มันไม่ใช่เวลาเจ้านี่ต้องปรากฏตัวออกมาแท้ๆ ผมไม่เข้าใจเลยว่าเจานี่กำลังคิดจะทำอะไร เพราะแบบนี้แหละผมเลยไม่ชอบพ่อค้าเท่าไหร่ จิตใจของคนพวกนี้มันอ่านยาก ถึงจะไม่อันตรายเท่าพวกนายพลหรือจอมพลของทหารก็จริง แต่ถ้าประมาทกับพวกนี้เรื่องปวดหัวก็จะตามมาเป็นขบวน
“ยินดีต้อนรับกลับครับ ท่านแกรนด์ดยุก”
ซาอุส พูดด้วยใบหน้าปั้นยิ้มมองมาทางผม
“ไม่ต้องมาพูดแบบนั้นเลย รีบเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าข้าไม่ได้มีเวลามาเล่นอะไรกับเจ้าหรอก”
“ฮาฮาฮา ท่านอย่าใจร้ายกับข้าแบบนั้นสิ ข้ามาที่นี่เพื่อเอาของขวัญมาให้ท่านแท้ๆ”
“ของขวัญ?”
ผมใช้ห่างตามองไปยังกองเอกสารด้านหน้าของซาอุสเล็กน้อยหลังได้ยิน สถานการณ์แบบนี้ของขวัญที่จะมีประโยชน์กับผมมันไม่ได้มีอะไรมากมายหรอก อีกอย่าง ในกองเอกสารผมเห็นตราประทับประจำประเทศของอาณาจักรอยู่ในนั้นด้วย
ตราประจำประเทศ!
ของพวกนี้มันมีหน้าที่การทำงานคล้ายๆ กับตราของขุนนาง ทว่า มันยิ่งใหญ่กว่านั้นเยอะเพราะตราประจำประเทศจะเอาไว้ใช้เมื่อมีเรื่องจำเป็นจริงๆ และมันก็ไม่น่าจะใช้อะไรที่จะเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์แกรนด์ดยุกแห่งจักรวรรดิแบบผมได้เลย ตราประจำประเทศมันยิ่งใหญ่กว่าตราประทับของราชวงศ์ประเทศนั้นๆ สะอีก
ถามออกไปได้ไม่นาน ซาอุส ก็ยกแผ่นกระดาษด้านหน้าสุดขึ้นมา
“ท่านลองมาตรวจสอบเองดีกว่า ข้าไม่ได้มาร้ายกับท่านหรอก”
“อ่า”
ผมรับมันมาแล้วเริ่มอ่านทันที …ออ! เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงบอกว่าเป็นของขวัญ ข้อความในกระดาษของผมตอนนี้มันเป็นข้อความที่อาณาจักรประกาศไปทั่วประเทศว่าราชวงศ์จะซื้อน้ำตาลในราคาสูงกว่าปกติถึง 5 เท่า ไม่แปลกที่จะเรียกว่าของขวัญ ถ้าเอาข้อความนี่ไปให้องค์ จักรพรรดิสวรรค์ อ่าน เรื่องการฟ้องข้อหากว้านซื้อน้ำตาลเพื่อผูกขาดก็ทำอะไรผมไม่ได้อีกต่อไป สิ่งนี่จะเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าที่ทำให้น้ำตาลขาดตลาดมันไม่ใช่การกว้างซื้อของผม แต่มันเป็นเพราะประเทศทางตอนใต้ไม่ส่งพวกมันออกมาขายต่างหาก
แต่ความจริงทุกคนก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วละ เพราะตอนนี้พายุคงถล่มประเทศทางตอนใต้ไปแล้ว ถ้าไม่งั้นน้ำตาลของผมคงขายไม่ออกในราคา 10 เท่า แบบนั้นหรอก หึหึ! เท่านี้พวกตระกูลที่ฟ้องร้องก็ไปไม่รอดกันแล้ว ไม่คิดเลยว่าหมอนี่จะเอาของขวัญชิ้นใหญ่มาให้แบบนี้ ตอนแรกก็คิดว่าต้องอธิบายต่อหน้าองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ให้ยืดยาว แต่ในเมื่อได้ของดีมาแบบนี้เรื่องก็คงง่ายขึ้นเยอะ
“ถือว่าเป็นของขวัญที่ดีจริงๆ แล้วเจ้ามีของขวัญแบบนี้กี่ประเทศ”
“ข้ารวมมาได้ 20 ประเทศครับ ประเทศใหญ่ๆ อย่างเช่น อาณาจักร สหราชอาณาจักร ราชอาณาจักร ข้าก็ได้พวกมันมาหมด ราชวงศ์ทุกประเทศเพิ่มราคารับซื้อน้ำตาลขึ้นเป็น 5 เท่า เหมือนกันหมดทั้งสามประเทศ แต่ส่วนมากพวกนั้นก็ซื้อในราคา 10 เท่า ไปจากท่านทั้งนั้น”
เท่านี้ก็หายห่วงเรื่องผูกขาด มีทั้งสามประเทศใหญ่ยืนยันแบบนี้ข้อกล่าวหาคงทำอะไรผมไม่ได้แล้ว แต่เอาตามจริงมันก็ไม่ใช่ความผิดของผมตั้งแต่แรกอยู่แล้วนั่นแหละ พวกกรมบริการมันหน้ามืดฟ้องร้องกันเอง แต่จากการพูดของซาอุสแบบนี้ มันก็คงทำกำไรจากน้ำตาลไปไม่น้อยเหมือนกันนั่นแหละ ถึงจะห้ามหมอนี่ตรวจสอบเอาไว้แต่ก็คงห้ามไม่ได้หรอก ‘ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ’ คำนี้ใช้ได้ทุกโลกจริงๆ
“เจ้าคงได้กำไรไปเยอะเลยสินะ”
“ฮาฮาฮา ท่านบอกให้ข้าอย่าตรวจสอบข้าก็ไม่ทำ ข้าแค่ซื้อช่วงมันผิดปกติเท่านั้น”
ตอแหล!!! เจ้านี่พูดออกมาไม่ใช่ความจริงแน่ๆ พ่อค้าอย่างแกได้กลิ่นเงินมีเหรอจะไม่รีบโกย แต่ก็เอาเถอะ ยังไงน้ำตาลก็ทำให้เงิน 2 ล้านเหรียญทอง ให้กลายเป็น 10 ล้านเหรียญทอง ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการเอาไว้แล้ หมอนี่จะได้กำไรไปเท่าไหร่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร อีกอย่าง จากการที่ซาอุสมาหาผมแบบนี้คงไม่ต้องกลัวเงินไหลออกนอกจักรวรรดิ และจะไปทำให้ประเทศของมันแข็งแกร่งขึ้นแล้ว หึหึ! เข้าเรื่องเลยดีกว่า
“เช่นนั้นวันนี้เจ้ามาหาข้าก็เพราะตัดสินใจได้แล้วสินะ”
ซาอุส เปลี่ยนสีหน้าเป็นแข็งค้างทันทีหลังจากที่ผมพูดออกไป
การที่หมอนี่ปรากฏตัวในเวลาแบบนนี้ไม่ใช่แค่เอาของขวัญมาให้ผมอย่างเดียวหรอก คงตัดสินใจได้แล้วมากกว่าว่าจะรับใช้ผมแทนที่จะเป็นประเทศของตัวเอง เรื่องแบบนี้ผมก็ไม่คิดว่ามันเลวร้ายอะไร เพราะยังไงสะผมก็เคยนำมนุษย์ทั่วทวีปเข้าสู้มาแล้ว เพียงแค่ทำงานให้ผมและทำตามคำสั่งได้ดี ไม่ว่าจะเป็นคนประเทศไหนผมก็ไม่ขัด
ตกใจได้ไม่นาน ซาอุสก็ทหน้าจริงจังออกมาแทนตกใจ
“ปิดบังท่านไม่ได้เลยนะครับ”
“มันแน่อยู่แล้ว แต่ขอบอกเอาไว้ก่อนว่าคนที่เลือกอยู่ข้างข้าแล้วจะไม่มีคำว่าทรยศเกิดขึ้นเด็ดขาด การที่เจ้าตัดสินใจแบบนี้ก็แปลว่าเจ้าต้องทรยศต่อบ้านเกิดตัวเอง”
“หึหึ! เรื่องนั้นข้าเตรียมใจเอาไว้แล้ว ข้าออกจากที่ประเทศแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก ข้ามาสร้างธุรกิจได้ที่จักรวรรดิแห่งนี้ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องสำนึกบุญคุณอะไรขนาดนั้น แต่ว่า ข้าไม่ได้ต้องการทำงานให้ท่านแบบ 100% ข้าต้องการร่วมธุรกิจกับท่านมากกว่า”
“โอ้ว! ถ้าเช่นนั้นเจ้าต้องการร่วมธุรกิจอะไร น้ำตาลข้าก็ขายออกไปหมดแล้ว”
สมแล้วที่เป็นเจ้าของธนาคารได้ ไม่ยอมก้มหัวให้แต่ก็ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นศัตรู แถมยังสามารถหาผลประโยชน์ได้จากการเจรจาในครั้งนี้อีก หึหึ! น่าสนุกแล้วสิ! นี่ถ้าไม่ต้องรีบเข้าเฝ้าองค์ จักรพรรดิสวรรค์ คงได้คุยอะไรมากกว่านี้แล้วแท้ๆ
“ถ้างั้นสิ่งที่เจ้าต้องการคงเป็นเรื่องปิดธนาคารคู่แข่งของเจ้าสินะ ถ้าให้เดาข้าคิดว่าคงมีหลายตระกูลที่ฟ้องร้องข้า และพวกมันก็ทำธุรกิจธนาคารกันอยู่”
ผลประโยชน์ที่หมอนี่ต้องการมันเห็นๆ กันอยู่แล้ว ตระกูลที่ทำธุรกิจธนาคารในจักรวรรดินั้นมีมากมาย ขนาดตระกูล แกรนด์ดยุค ทั้งสามตระกูลนอกจากตระกูลของผมยังทำกันเลย ตามจริงตระกูล วอเตอร์ ก็เคยมีธุรกิจธนาคารอยู่นั่นแหละ แต่คงไม่ต้องบอกว่าเป็นเพราะใครธุรกิจเลยเจ๊งไป เหอๆ เป็นเพราะไอคนไม่ได้เรื่องที่พยามตามติดยัยร่านนั่นเอง เฮ้อ~
แต่ว่า ถ้าผมยอมทำตามหมอนี่โดยได้เพียงแค่กระดาษตราประทับไม่กี่แผ่นมันก็เกินไปหน่อย ก็จริงอยู่ที่หลังจากการชนพการฟ้องได้แล้วผมคงทำลายธุรกิจหรือยึดมาได้ไม่ยาก ถ้าอ้างว่าเป็นค่าสินไหมในการเสียเวลาและเสียชื่อเสียงของแกรนด์ดยุก แต่จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร ซาอุสก็ออกตัวมาแล้วว่าต้องการร่วมธุรกิจไม่ใช่การรับใช้สักหน่อย และเมื่อพูดถึงธุรกิจก็ต้องพูดถึงความเท่าเทียมในการซื้อขายของทั้งสองฝ่าย เรื่องในครั้งนี้เองก็นับเป็นธุรกิจเช่นกัน
“ต้องขอบคุณที่ท่านคิดแบบนั้น แต่เรื่องธนาคารข้าไม่ได้สนใจมันเลย”
“หืม~ ไม่น่าเชื่อว่าข้าจะเดาอะไรผิดแบบนี้ ถ้างั้นเจ้าก็ลองบอกมาว่าเจ้าต้องการจะทำธุรกิจอะไรกับตระกูล วอเตอร์ กันแน่?”
ซาอุส ลวงมือลงไปในเสือคลุมแล้วเอากระดาษหนึ่งม้วนออกมา จากนั้นก็ส่งมาให้ผม
สัญญากู้เงิน!
นี่เป็นสัญญากู้เงินที่ผมเอาเหมืองทองของตระกูลไปคำประกันเอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมซาอุสถึงได้เอามาให้ผมตอนนี้ เท่าที่จำได้ ผมยังไม่ได้สั่งให้ไกอาส่งเงินที่ขายน้ำตาลให้ไปสักหน่อย???
“ทำไมถึงให้ข้า?”
ซาอุส เปลี่ยนมาโหมดใบหน้าปั้นยิ้มอีกครั้ง
“ของขวัญอีกชิ้นไงครับ”
ฉีก!
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับแล้วทำลายกระดาษสัญญาทันที เมื่อไม่มีมันซาอุสก็ไม่สามารถทำอะไรเหมืองทองของผมได้ หรือจะพูดง่ายๆ เงิน 2.5 ล้านเหรียญทอง มันเป็นของผมฟรีๆ ไปแล้ว แต่ทำลายสัญญาไปแบบนี้มันก็ดีอยู่หรอก แต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆ กับสิ่งที่หมอนี่ต้องการจากผมอยู่ดี ถ้าไม่ใช่เรื่องทำลายธนาคารที่เป็นคู่แข่งผมก็ไม่น่าจะมีอะไรให้ลงทุนด้วยแล้วแท้ๆ
พูดตามตรงผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ หมอนี่ต้องการอะไรกันแน่เพราะตอนนี้พะ-
เดี๋ยวก่อน!! นี่หรือว่าหมอนี่จะรู้แล้วว่าข้าเก็บรวบรวมแร่สวรรค์เอาไว้อยู่… ไม่สิ! รู้มันไม่ยากหรอกเพราะพ่อค้าแร่แบบนั้นคงเก็บความลับไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ที่แปลกคือหมอนี่รู้ได้ยังไงว่าแร่สวรรค์จะกลายเป็นของมีค่าได้ …ไม่เข้าใจเลย!! เรื่องตึแร่สวรรค์ข้ายังไม่ได้บอกใครไปเลยแท้ๆ ชิ! งั้นลองถามลองเชิงดูก่อนแล้วกัน
คิดได้ ผมก็ถามออกไปว่า
“ธุรกิจที่เจ้าต้องการร่วมกับข้า มันคือแร่ที่ข้ากำลังให้คนกว้านซื้ออยู่ใช่ไหม?!”