การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 44 การฆ่าแบบถูกกฎหมาย
ตอนที่ 44 การฆ่าแบบถูกกฎหมาย
เฮ้อ~ ชักจะเริ่มหมดความอดทนกับไอพวกนี้แล้วสิ!!
หลังจากจัดการปัญหาที่หน้าประตูเมืองไปได้แล้ว ตอนนี้ก็มาเจอกับปัญหาหน้าคฤหาสน์อีก ด้านหน้าคฤหาสน์ของผมตอนนี้เต็มไปด้วยอัศวินหลายตระกูลที่มาร่วมตัวกันอยู่ จากการรวมตัวของพวกมันแบบนี้คงไม่ได้มาดีกันหรอก พวกมันคงมารวมตัวกันแล้วเอาตัวผมไปพระราชวังแน่ๆ
การทำให้ผมขายหน้าต่อผู้คนมากเท่าไหร่พวกมันคงได้ประโยชน์เท่านั้น จำนวนอัศวินคงมีประมาณ 100 – 200 คน ระดับะพลังพวกมันก็อยู่ที่ระดับ ราชานักรบ ถือว่าระดับสูงเลยทีเดียว [ในค่ามาตฐาน] สีหน้าพวกอัศวินเหล่านั้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีหน้าซีดกันบ้างแล้ว หลังจากที่ผมเดินทางมาถึงพร้อมอัศวินจำนวนมากด้านหลัง
ท่าทางที่พวกมันแสดงออกมาแบบนั้นก็นับว่าปกตินั่นแหละเพราะอัศวินด้านหลังของผมมีมากกว่าพวกมันหลายเท่า แถมระดับพลังต่ำสุดก็แทบจะสูงสุดในหมู่ของพวกมันเข้าไปแล้ว หึ! คงถึงเวลาที่จะแสดงอำนาจออกมาหน่อยแล้ว
ผมฉีกยิ้มเล็กน้อย แล้วเริ่มกวาดสายตามองพวกด้านหน้าแบบละเอียด
จากการกวาดสายตาดูสักพักก็ไม่เห็นคนของราชวงศ์อยู่เลยสักคน ส่วนมากจะเป็นอัศวินของตระกูลเล็กๆ มีตระกูลใหญ่โผ่ลออกมานิดหน่อย เหล่าขุนนางตระกูลต่างๆก็อยู่ในกลุ่มพวกนั้นเหมือนกัน หึหึ! เอาสิ! การมาขึ้นเขียงแบบนี้ข้าละชอบจริงๆ และการไม่มีคนของราชวงศ์วงศ์อยู่ที่นี่มันก็หมายความว่า ตระกูล วอเตอร์ ใหญ่ที่สุด!
ระหว่างกำลังคิดในใจอยู่ ก็มีชายหนึ่งคนเดินออกมาด้านหน้ากองกำลังทั้งหมด มันเป็นคนที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี เรมอน มอแกน ตระกูล มอแกน นี่มัน….!! เฮ้อ~ หมดคำจะพูดกับพวกมันแล้ว
“ท่านแกรนด์ดยุก ข้าและเหล่าตระกูลที่รับใช้องค์ จักรพรรดิสะ-”
“พระองค์รับสั่งมาหรือไง!! ตามที่ข้าได้รับข้อความคือเมื่อข้ากลับมาแล้วพร้อมไม่ใช่เหรอ!!”
“เรื่องนั้นมันก็ใช่ แต่เรามาควบคุมความปลอดภัย”
เรมอน มอแกน ยิ้มมุมปากขณะพูดออกมา ใบหน้าของมันแบบนั้นช่างกวนประสาทสะจริงๆ ส่วนเรื่องการเข้าพบมันก็เป็นแบบที่ผมพูดไป เพราะทางองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ก็คงรู้เหมือนกันว่าผมเตรียมตัวกับเรื่องนี้เอาไว้พอสมควรเลยให้เวลาเมื่อพร้อมแบบนั้น และการที่พวกอัศวินนับร้อยคนมาปรากฏตัวที่หน้าคฤหาสน์ของผมแบบนี้คงจะมาคุมตัวให้เดินทางไปเลยโดยไม่มีข้อมูลที่เตรียมเอาไว้ เหอๆ แผนของพวกมันขนาดเด็กน้อยก็ยังมองออกกันเลย
“ปลอดภัย? เจ้าหมายความว่ายังไง เจ้าไม่เห็นอัศวินด้านหลังข้าหรือไง”
“นั่นมันก็ใช่ แต่ปลอดภัยที่ข้ากล่าวออกไปมันคนละแบบกัน”
เรมอน มอแกน พูดจบ เหล่าขุนนางด้านหลังของมันก็พากันเสนอหน้าออกมาทันที
“ใช่แล้วท่านแกรนด์ดยุก พวกเรามาเพื่อควบคุมท่านในกรณีที่ทำอะไรไม่เข้าเรื่อง”
“ถูกต้องแล้วครับ ถ้าท่านไปกับพวกเราดีๆ พวกเรารับรองความปลอดภัยให้”
“ท่านไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องเอกสาร เดี๋ยวทางเราจะส่งคนมาเอาไปให้ท่านเอง”
ช่างกล้าพูดออกมากันได้นะ เหอๆ พูดจาสะดิบดีผลสรุปก็คือคุมตัวแบบนักโทษให้เดินทางไปพระราชวังไม่ใช่หรือไง การที่พวกมันเสนอหน้าออกมาแบบนี้แปลว่ายังไม่ได้รับข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นประตูเมืองกันเลยสินะ พวกมันคงคิดว่าแกรนด์ดยุกแห่งตระกูล วอเตอร์ คงไม่กล้าทำอะไรแล้วเดินทางตามที่พวกมันต้องการเหอๆ อยากหัวเราะใส่พวกมันสะจริงๆ
แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ได้ฟังเรื่องแบบนี้จากพวกมันผมจะได้ไม่รู้สึกผิด …จะได้ไม่รู้สึกผิดกับการสังหารหมู่ครั้งนี้!!
เมื่อได้ยินแบบนั้น ผมก็ยิ้มให้กับพวกมันพร้อมกับพูดออกไปว่า
“พวกเจ้าทุกคนเข้าใจกฎหมายของจักรวรรดิเรื่องการบุกรุกที่พักอาศัยของขุนนางหรือไม่ … ข้อที่ 2 วรรคที่ 18 ถ้าสามัญชน หรือ ขุนนางที่ยศต่ำบุกรุกเข้ามาในอาณาเขตพร้อมกำลังทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้เป็นเจ้าของพื้นที่จะสามารถสั่งฆ่าได้ทันทีโดยไม่ต้องมีการยืนยันอะไรจากกรมยุติธรรม”
เมื่อชาติที่แล้วผมศึกษาเรื่องพวกนี้มาบ้างเพราะการต่อสู้จริงๆ มันไม่ได้ต่อสู้แค่เผ่าเทพหรือปีศาจเท่านั้น การต่อสู้ทางการเมืองกับมนุษย์ในยุคหายนะแห่งมวลมนุษย์มันก็มีเหมือนกัน เพราะงั้นกฎหมาบแทบทั้งหมดของจักรวรรดิเลยอยู่ในหัวของผมหมดแล้ว ถึงจะลืมไปบ้าง แต่เรื่องการฆ่าแบบถูกกฎหมายผมไม่มีทางลืมพวกมันหรอกเด็ดขาด
“ท่านกำลังพูดเกินจริงไปหรือเปล่า ท่านแกรนด์ดยุก ข้าและคนอื่นๆ มาเพื่อรอต้อนรับท่านเท่านั้นและเห็นว่าเวลาการนัดเข้าพบก็ใกล้เข้ามาแล้ว พวกเราเลยอาสาพาท่านเดินทางไปกันเอง”
เรมอน มอแกน แก้ตัวออกมาพร้อมรอยยิ้มมีนัย มันคงกำลังคิดว่าผมเอาผิดมันไม่ได้แล้วแน่ๆ แต่ว่า เรื่องกฎหมายที่พูดไปเมื่อครู่มันแค่ใบเบิกทางฆ่าเท่านั้น
“ฮาฮาฮา ดีๆ ในเมื่อเจ้าบอกมาแบบนั้นข้าก็ไม่เอาเรื่องการบุกรุก แต่พวกเจามารอข้านานหรือยัง”
“ก็มาตั้งแต่เช้า ตอนนี้ใกล้ครึ่งวันช่วงเช้าก็หลายชั้วโมงแล้วละ”
“เช่นนั้นก็ขอบคุณ แต่ว่า เจ้ารู้กฎหมายข้อที่ 2 วรรคที่ 20 ของจักรวรรดิหรือไม่?”
เรมอน มอแกน และขุนนางคนอื่นๆ มองหน้ากันไปมาด้วยสีหน้าสงสัย ไม่แปลกหรอกที่พวกมันจะไม่รู้เพราะขุนนางส่วนมากไม่ได้สนใจกฎหมายมากนัก ถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้ฝ่ายกฎหมายของตระกูลเป็นคนจัดการ หลังจากไม่ได้รับคำตอบอะไรผมก็หันไปทางไคเซอร์ข้างๆ แล้วพูดออกไป
“ไคเซอร์ กล่าวกฎหมายข้อที่ 2 วรรคที่ 20 ให้พวกมันฟังหน่อย”
“ครับท่าน ….กฎหมายข้อที่ 2 วรรคที่ 20 ถ้ามีกำลังรบของขุนนางคนอื่นๆ ในพื้นที่ตัวเองเป็นเวลานานเกินความจำเป็น ขุนนางเจ้าของพื้นที่สามรถจัดการตามเห็นสมควร ทั้งนี้เพื่อรักษาความลับของวงศ์ตระกูลเอาไว้ องค์ จักรพรรดิสวรรค์ อนุญาตให้สังหารได้ทันที”
ก็ไม่รู้ใครออกกฎหมายอะไรมาขนาดนี้ แต่ปกติแล้วไม่มีขุนนางคนไหนเคยใช้กฎหมายนี้ในการฆ่าขุนนางคนอื่นๆ ที่บุกรุกเข้ามากันหรอก เพราะหลังจากการต่อสู้ด้วยกฎหมายแบบนี้ความขัดแย้งระหว่างตระกูลมันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่า เรื่องความชัดแย้งนะช่างมันเถอะ หึ!
“จัดการพวกมันให้หมด เหล่าขุนนางสั่งสอนนิดหน่อยไม่ต้องถึงชีวิต …ส่วนอัศวิน ฆ่าพวกมันให้หมด!!!”
“ครับ ท่านแกรนด์ดยุค!!”
ไคเซอร์ ควบม้าออกไปตามคำสั่งทันที หน่วยอัศวินแห่งตระกูล วอเตอร์ ด้านหลังเองก็เข้าปะทะตามไคเซอร์ไปอย่างติดๆ การต่อสู้ระหว่างกำลังรบที่ต่างกันหลายเท่าก็เลยเริ่มขึ้น ส่วนพวกขุนนางที่เสนอหน้าออกมาคุยกับผมเมื่อครู่ก็รีบหนีกันอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าหวาดกลัว เรมอน มอแกน ก็เหมือนกัน หึ! การสังหารครั้งนี้คงทำให้หลายตระกูลรู้จุดยืนของตัวเองกเป็นอย่างดี
….
ณ ภายในคฤหาสน์
“ท่านพี่… การทำแบบนั้นมัน…”
อลิส พูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อยๆ ระหว่างพูดออกมาเธอก็มองไปทางการต่อสู้ด้านหน้าคฤหาสน์ด้วยสีหน้าเป็นห่วง ถึงเธอจะไม่ได้ออกไปไหนแต่ก็ได้รับการศึกษาเท่าขุนนางทั่วไป การเห็นการต่อสู้ด้านนอกมันเป็นผลร้ายแรงมากในเมืองหลวง แต่ว่า ถ้าใครต้องการเอาผิด ผมก็ใช้หลักกฎหมายในการจัดการกับพวกมันได้อยู่ดี
“ไม่เป็นอะไรหรอก พวกนั้นมันเริ่มก่อนเอง”
“แต่…”
ผมลงจากม้าแล้วใช้มือรูปหัวอลิสที่นั่งอยู่
“พี่บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร พวกมันทำผิดกฎหมายโดยเอากำลังทหารเข้ามาในอาณาเขตของตระกูลเรา การโดนฆ่าแบบนั้นยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
อลิส มองหน้าผมด้วยแววตาไม่พอใจเล็กน้อย แต่ในเวลาไม่นานเธอก็เหมือนจะเข้าใจแล้วยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มสดใสแบบปกติ
“ถ้าท่านพี่ว่าแบบนั้นข้าก็ว่าตามท่าน”
“ดึ! แบบนั้นแหละ ต่อไปนี้ตระกูล วอเตอร์ ของเราจะไม่ยอมให้ใครมาใช้อำนาจข่มเหงอีกต่อไป ถ้าใครพูดไม่ดีหรือทำอะไรให้น้องไปสบายใจน้องก็บอกพี่ได้ตลอดเวลา”
“ค่ะ” ^_^
ระหว่างคุยผมก็มองไปยังขาของเธอเล็กน้อย อีกไม่กี่วันก็ถึงงานวันเกิดครบอายุ 16 ปี ช่วงเวลานั้นสำหรับคนบนโลกนี้แล้วจะรับว่าเป็นผู้ใหญ่และเข้าสู้ช่วงยุคสนุกสนามของชีวิต เธอสามารถจัดงานและเดินทางไปงานต่างๆ ที่ตระกูลอื่นๆ จัดขึ้นมาได้ ในชาติที่แล้วผมทำให้เธอลำบากจนไม่ได้ใช่มันเพราะตระกูลโดนทำลายจากยัยร่าน ชาตินี่ผมต้องทำให้เธอใช้ชีวิตช่วงนั้นให้ได้!! …หลังจากจบเรื่องการฟ้องคงต้องไปตามเรื่องกับสมาคมนักปรุงโอสถสักหน่อย!!
ระหว่างที่ผมกำลังคุยกับอลิส เซบาส ก็เดินเข้ามาหาหาพวกเรา
“มีเรื่องอะไร?”
“ข้าขออภัยที่ขัดจังหวะของท่านและท่านอลิสครับคุยกันครับ แต่ตอนนี้มีแขกกำลังรอท่านอยู่ที่ห้องรับแขกตั้งแต่เช้าแล้วครับ”
“จริงด้วย!! ข้าลืมตัวไปเลย เมื่อเช้าคนที่ชื่อ ซาอุส เดอุส บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับท่านและไกอาก็รับรองว่าเขาไม่ได้มาร้ายอะไร ข้าเลยบอกให้เขารอท่านในห้องรับแขกตั้งแต่เช้าแล้วคะ”
อลิส พูดเสริมขึ้นมาทันทีหลังเซบาสพูดจบ
ซาอุส เดอุส หมอนั่นมาทำอะไรเวลานี้???