การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 39 การต่อสู้กับกลุ่มโจร ไนน์เดมอน 2
ตอนที่ 39 การต่อสู้กับกลุ่มโจร ไนน์เดมอน 2
บนกำแพงเช้าวันต่อมา
พวกโจรไนน์เดมอนกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต่างไปจากเดิมเล็กน้อยเพราะพวกมันพยามล้อมกรอบค่ายเอาไว้อยู่ แถมเว้นระยะห่างพอประมาณไม่ให้พลธนูโจมตีไปถึงอีก ถ้าเป็นแม่ทัพปกติก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจปกติที่ต้องทำแบบนี้ แต่สำหรับไนน์เดมอนแล้วมันแปลกมากเพราะคนแบบมันไม่มาทำอะไรลีลาแบบนี้หรอกแต่ตอนนี้มันเป็นไปแล้ว มีแต่ต้องยอมรับเท่านั้นว่ามันมีสมองมากกว่าอีก 5 ปีต่อจากนี้ บ้าจริงๆ ปกติคนเราต้องฉลาดขึ้นสิ เหอๆ
“ท่านแกนด์ดยุค พวกมันเอาหินมาโจมตีพวกเราแน่ๆ ครับ”
ไคเซอร์ พูดขึ้นพรางชี้นิ้วไปยังก้อนขึ้นขนาดกลางด้านหลังของทัพพวกมัน ก้อนหินที่พวกมันเอามาด้วยมีขนาดไม่ใหญ่มากประมาณหัวคนสองหัวรวมกัน นั่นเป็นก้อนใหญ่ที่สุดที่ผมเห็นตอนนี้ เครื่องปาหินมันก็เป็นปัญหาสำหรับค่ายหรือกำแพงจริงๆ นั่นแหละ แต่ พวกโจรมันไม่สามารถสร้างเครื่องปาหินกันได้หรอก ถ้าไม่ใช่ทหารช่างฝีมือในกองทัพก็คงสร้างมาโจตีค่ายแห่งนี้ไม่ได้ ซึ่งดูแล้วพวกมันก็ไม่มีทางใช่แน่นอน
“พวกมันคงจะปากันเข้ามาสินะ!”
“ข้าก็คิดแบบนั้นครับ แต่การทำแบบนั้นมันเปลืองพลังปราณเป็นอย่างมาก ต่อให้เป็นข้าถ้าปาเข้ามาในค่ายก็คงได้ไม่เกิน 100 ลูก พลังปราณก็น่าจะหมดแล้ว”
“ถ้าเจ้าได้ 100 ลูก โจรส่วนมากก็คงได้ไม่เกิน 10 ลูก กันหรอก”
ไคเซอร์ พยักหน้าจริงจังให้กับสิ่งที่ผมพูดไป อย่างที่ผมบอกไปถ้าคนระดับจักรพรรดิปาได้เพียง 100 ลูก คนระดับลมปราณแท้จริงซึ่งเป็นระดับของพวกโจรส่วนมากคนปาได้ไม่ถึงสิบก้อนกันหรอก หึหึ! ช่างเป็นการบุกที่ทุมสุดตัวจริงๆ…. ไม่สิ! แทนที่จะเรียกว่าทุ่มสุดตัว เรียกว่าบุกแบบไม่คิดหน้าคิดหลังดีกว่า
“เป้าหมายของพวกมันไม่ใช่กำแพงเมืองหรอก!”
“แล้วมันคือ…”
ระหว่างถาม ไคเซอร์ ก็หันมองไปทางด้านหลังที่เป็นบ้านหรือโรงฝึกหลายแห่งที่โดนแรงงานสร้างขึ้นมา เหมือนกับว่าสามารถคิดตามสิ่งที่ผมต้องการจะบอกได้ ใช่แล้ว! พวกมันคงเข้าใจแล้วว่าไม่สามารถทำลายกำแพงได้ง่ายๆ ถ้ายังมีพลธนูนับพันบนกำแพงค่อยโจมตีพวกมันอีก เพราะงั้นเป้าหมายพวกมันเลยเปลี่ยนนิดหน่อยเป็นแรงงานที่ไม่มีฝีมือและสิ่งปลูกสร้างภายในค่ายจำนวนมากแทน
หินที่พวกมันจะโยนเข้ามาสามารถผ่านกำแพงได้สบายๆ แถมตอนนี้พวกมันยังล้อมค่ายเอาไว้อีก พวกมันคงคิดว่าจะล้อมและโจมตีสิ่งปลูกสร้างและคนงานเพื่อตัดกำลังของผมแน่ๆ แต่ว่า การที่พวกมันล้อมค่ายแบบนี้ก็เปรียบได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตายดีๆ เท่านั้นเอง หึ!
“ไคเซอร์!! เจ้าให้แรงงานทั้งหมดอพยพเข้าไปในถ้ำขนาดใหญ่ใจกลางค่าย แล้วก็เตรียมอัศวินเอาไว้สี่หน่วย หน่วยละ 100 คน ตั้งพวกนั้นเอาไว้ที่ประตูสี่ทิศของค่ายและรอรับคำสั่งจากข้า”
ไคเซอร์ ทำสีหน้าตกใจทันที
“คะ ครั้งนี้ท่านจะให้พวกเราบุกไปเหรอครับ”
“ใช่ แล้วมันก็ต้องดูเวลาบุกด้วยเพราะงั้นข้าจะเป็นคนสั่งการเอง ส่วนเจ้าก็ไปตรงไปยังไนน์เดมอนทันทีที่ออกไป จงหยุดมันและลูกน้องของมันอีกสิบคนเอาไว้ให้ได้ เจ้าทำได้ไหม?”
“แน่นอนครับ”
ไคเซอร์ ออกไปทันทีเพื่อไปทำตามคำสั่ง การให้หมอนั่นไปสู้กับไนน์เดมอนและชนชั้นสูงในกลุ่มอีกสิบคนดูแล้วอาจเกินตัวไปหน่อย แต่ผมไม่ได้หวังให้ไคเซอร์ชนะกลับมาหรอก ที่ต้องการก็คือให้หมอนั่นถ่วงเวลาเท่าที่จะทำได้เท่านั้น หึหึ! ระหว่างไคเซอร์กำลังถ่วงเวลาอยู่ การล่าของเหล่าอัศวินก็จะเริ่มขึ้น
คำสั่งของผมกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่นานก็ไม่เห็นแรงงานภายในค่ายเลยสักคน พลธนูบนกำแพงก็เช่นกัน ลดลงไปเป็นจำนวนมากเพราะต้องไปเตรียมตัวออกจากค่ายเมื่อได้รับคำสั่ง ทว่า ถ้าพวกมันหาญกล้าเข้ามาบุกตอนนนี้ก็ยังมีศรธนู 600 ลูก รอพุ่งตรงเพื่อไปปิดชีพพวกมันอยู่
ขณะเดียวกัน ทางด้านกลุ่มโจรไนน์เดมอนก็จัดเตรียมเพื่อจะโจมตีมาแล้ว พวกมันตั้งแถวเรียงหนึ่งและยืนกับพื้นพร้อมกหินขนาดที่บอกไปในมือของพวกมัน ถ้าเป็นคนปกติไม่สามารถโยนมันได้แน่นอน อย่าว่าแต่โยนมันเลย แค่ยกมันขึ้นมาก็ลำบากมากแล้ว แต่พวกนี้มันเป็นผู้บ่มเพาะเลยสามารถโยนเพื่อโจมตีได้ ทว่า มันไม่ได้มีข้อดีเพียงอย่างเดียวหรอกเพราะการโยนหินขนาดใหญ่แบบนั้นกินพลังปราณจำนวนมาก และเมื่อเสียพลังปราณไปมากๆ
หึหึ! ไม่ต้องอธิบายก็คงรู้ พวกมันจะกลายเป็นลูกแกะที่โดนอัศวินบนหลังม้าที่เปรียบเหมือนเสือไล่ล่ากันทันที
ปรีด!!!!
สัญญาแบบถอยทัพของพวกมันดังขึ้น จากนั้นก็ดังต่อๆกัน ดังจนกองกำลังทั้งหมดที่ล้อมรอบค่ายของพวกมันได้ยินกันทั้งหมด เมื่อสิ้นเสียงดังของสัญญาการโจมตี หินจำนวนมากของพวกมันก็ตรงเข้ามายังค่ายของผม หินหลายร้อยก้อนแวกอากาศตรงเข้ามาราวกับว่าเบื้องหน้าของผมตอนนี้กำลังโดนฝนหินตกลงมาจากฟ้า แต่พวกมันไม่ได้มีเป้าหมายที่ผม หรือบนกำแพงอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ
ตูม!
บูม!
ตูม!
หินจำนวนมากกระทำเข้ากับสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากในค่าย การพังทลายมีให้เห็นทุกทีราวกับว่าซากเมืองกำลังโดนโจมตีอย่างหนัก ให้ตายสิ… หาเรื่องยุ่งยากให้สะแล้ว แบบนี้การก่อสร้างคงล่าช้ากว่าเดิมอีกแน่ เฮ้อ~ ถึงจะคิดอาไว้อยู่แล้วก็เถอะว่าต้องยอมเสียหายจากการโจมตีของพวกมันอยู่บ้าง แต่นี่มันก็เสียหายมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้จริงๆ เฮ้อ~
ฝนหินยังคงพรุ่งตรงมายังค่ายอย่างต่อเนื้อง ความเร็วในการโจมตีของพวกมันก็ลดลงไปทีละน้อยๆ เป็นอย่างที่ไคเซอร์ได้บอกเอาไว้เมื่อผ่านไปสิบลูกการโยนเข้ามาในค่ายก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และจากการกวาดสายตาดูตอนนี้พวกโจรกว่า 80% ก็เหนื่อยมากแล้วเพราะใช้พลังปราณจำนวนมากในการโยนหินเข้ามาในค่ายเมื่อครู่ ผมยิ้มมุมปากให้กับภาพที่เห็นแล้วหันไปหาทางอัศวินด้านข้าง
“ส่งสัญญาให้ไคเซอร์และคนอื่นๆ เริ่มบุกออกไปได้”
“ครับท่านแกนด์ดยุค”
ปู๊น!!!! ปู๊น!!!!
สัญญาโดนส่งจากพลส่งสัญญาณ จากนั้นประตูค่ายทั้งสี่ทิศก็เปิดออกพร้อมกับทหารม้านับร้อยที่เต็มไปด้วยจิตสั่งหารตามประตูแต่ละทิศ ส่วนไคเซอร์ก็อยู่ทางทิศเหนือซึ่งเป็นจุดที่ผมยืนอยู่และไนน์เดมอนเองก็ยืนดูการต่อสู่ที่เกิดขึ้นทิศนี่เช่นกัน
กำลังรบทั้งสี่ทิศพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วหลังจากการเปิดทางของประตู แล้วก็แน่นอน ความเร็วของพลทหารม้าเมื่อเอาไปเทียบกับพวกโจรที่แทบหมดแรงแล้วตอนนี้มันต่างกันอย่างลิบลับ ในเวลานี้พวกมันเป็นเพียงลูกแกะที่กำลังโดนเสือขย้ำกันเท่านั้น
ทางด้านพวกกองโจรที่เห็นการปรากฏตัวของเหล่าพลทหารม้าต่างก็ทำหน้าบิดเบี้ยวด้วยความหวาดกลัว พวกมันคงคิดไม่ถึงกันหรอกว่าผมที่สั่งให้อัศวินและคนของตัวเองอยู่ในขอบเขตค่ายตลอดจะกล้าส่งอัศวินออกไปบุกพวกมันแบบนี้ แต่พวกมันคิดผิดแล้วละ ที่ผมไม่ส่งออกไปก็เพราะรอเวลาเช่นนี้อยู่ต่างหาก เวลาที่กองกำลังที่ส่งออกไปจะไล่ฆ่าอยู่ฝ่ายเดียวอย่างแท้จริง….
ขณะเดียวกัน ไนน์เดมอน ก็ทำหน้าโมโหสุดขีดมองมาทางผม ถึงจะอยู่ไกลแต่ก็มองเห็นหมอนั่นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังมองมาทางผมด้วยสีหน้าโมโหขนาดนไหน แต่มันก็มองผมได้ไม่นานเพราะไคเซอร์ได้เข้าไปถึงจุดที่มันอยู่แล้ว และก็กำลังปะทะกับชนชั้นสูงทั้งสิบคนของไนน์เดมอนอยู่
ทางด้านการกวาดล้างก็เป็นไปอย่างต่อเนื้อง ถึงเหล่าอัศวินที่เป็นพลธนูมาจะมีระดับพลังบ่มเพราะไม่สูงกันเท่าไหร่ แต่พวกนั้นก็ได้ฝึกกระบวนทัพที่ผมมอบให้ แถมยังมีเคล็ดวิชาสะบั้นขุนเขากันอีก เหล่างกองโจรไนน์เดมอนที่แทบจะหมดแรงและไม่มีม้ามีหรือจะรับมือกับเหล่าอัศวินพวกนั้นได้ หึหึ! นี่แหละที่เรียกว่า [ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ] การทำอะไรผิดพลาดในสนามรบหนึ่งครั้ง มันโหดร้ายกว่าที่คนปกติจะจิตนาการได้
….
หลังจากการปะทะได้ไม่นาน ตัวเลขการตายของกองโจรไนน์เดมอนในกรอบสี่เหลี่ยมด้านหน้าของผมก็ขึ้นไปที่ 980 คน รวมจำนวนที่พวกมันตายเมื่อวานไปด้วย ส่วนฝ่ายของผมตัวเลขก็ขึ้นที่ 15 คน การปะทะกันมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ต้องเกิดการศูนย์เสีย เพราะงั้น 15 คน ที่ตายไปก็ถือว่าคุ้มค่าจากการศูนย์เสียของฝ่ายศัตรู
…น่าจะพอแล้ว เท่านี้ไนน์เดมอนก็แทบไม่เหลือกำลังรบ ถึงเหลือพวกโจรก็คงไม่มองมันเป็นผู้นำอีกเนื้องจากการศูนย์เสียพวกพ้องจำนวนมากของพวกมันในวันนี้ แต่ ถึงจะอยากถอยอยู่ก็เถอะ แต่ก็ดูเหมือนว่าทางไคเซอร์จะไม่ค่อยอยากถอยสักเท่าไหร่ หมอนั่นสามารถจัดการกับชนชั้นสูงไนน์เดมอนได้หมดแล้วทั้งสิบคน และในตอนนี้ก็กำลังปะทะกันตรงๆ กับไนน์เดมอนอยู่
ทำได้ดีกว่าที่ติดเอาไว้จริงๆ แบบนี้คงปิดเกมได้เลยสินะ หึหึ!
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างสามารถจบลงได้ในวันนี้ ผมก็หันไปทางพลส่งสัญญาณด้านข้าง แล้วสั่งออกไปว่า
“ส่งสัญญาณให้ใช้รูปขบวนกรงจักรสวรรค์”
“ครับท่าน!!”
