การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 36 ข้อเสนอทั้งสอง ของไนน์เดมอน
ตอนที่ 36 ข้อเสนอทั้งสอง ของไนน์เดมอน
“โห่ว! ไม่คิดเลยวโจรแบบเจ้าจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ทั้งๆที่เมื่อสามวันก่อก็ฆ่าโจรที่ไม่ยอมรับคำสั่งตัวเองไปตั้งมากมายขนาดนั้น”
ผมตอบกลับไปด้วยสีหน้ายิ้มมุมปาก ระหว่างพูดไปใบหน้าไนน์เดมอนจากสงบลงได้ก็เต็มไปด้วยความสงสัยมองมาทางผมอีกครั้ง ให้เดาหมอนั่นคงสงสัยนั่นแหละว่าผมรู้เรื่องการตายโจรเหล่านั้นได้ยังไง หลังจากเมื่อสามวันก่อนก็ไม่มีพลังจำนวนมากไหลเข้ามาในตัวผมอีกเลย ซึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็คิดได้เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือมันไม่ได้ฆ่าโจรคนอื่นๆ หลังจากสามวันทีแล้วสักคน
“เอ้า!! รีบพูดข้อเสนอต่อสิรออะไร”
“อะ อ่า ข้อแรกข้าอยากให้เจ้าเซนยกเลิกสิทธิ์ครอบครองป่าแห่งนี่สะ”
ระหว่างพูดออกมา ไนน์เดมอน ก็เอากระดาษออกมาหนึ่งแผ่น ซึ่งถึงจะอยู่ไกลแต่ผมก็สังเกตเห็นตราของกรมที่ดินได้อย่างชัดเจน หึ! เอกสารราชการมาอยู่กับโจร…. ได้ยินถึงไหนอายถึงนั่นแน่
การที่ให้ผมยกเลิกสิทธิ์แบบนี้นับว่าเป็นวิธีที่มีสมองพอสมควร หลังจากที่แห่งนี้ไม่ใช่ของผมมันก็แปลว่าแต่ละตระกูลมีสิทธิ์ครอบครองมันเอาไว้เองถ้ามีอำนาจเพียงพอ ถึงพื้นที่ของเส้นทะเลลมปราณจะกลายเป็นของราชวงศ์สะส่วนใหญ่ก็เถอะ แต่พวกตระกูลต่างๆ ก็คงได้กันไปตระกูลละนิดตระกูลละหน่อยกันอยู่ดี
“ส่วนข้อที่สองให้เจ้าทิ้งคนงานทั้งหมดเอาไว้สะ พวกอัศวินเจ้าสามารถเอาพวกมันกลับไปด้วยได้ แต่พวกคนงานที่ไม่ใช่อัศวินของเจ้าทั้งหมดต้องทิ้งเอาไว้ที่นี่!!!”
“…เหอๆ อยากรู้จริงๆ ว่าใครมันเป็นคนคิดข้อเสนอพวกนี้ออกมา”
ผมเงียบสักพักก่อนจะตอบออกไป
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าใครคิด เพียงแค่ให้คำตอบมาก็พอว่าจะออกไปหรือเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่”
“เช่นนั้นข้าก็ขอบคุณในความหวังดีของเจ้าจริงๆ …แต่!! ข้าไม่คิดว่าโจรเช่นเจ้าจะมีความสามารถขนาดนั้น อย่าว่าแต่ฆ่าข้าเลย วันนี้เจ้าจะไม่สามารถฆ่าอัศวินหรือคนงานของข้าได้เลยสักคนด้วยซ้ำ”
“เจ้า…. เช่นนั้นก็ได้ ถ้าอยากตายขนาดนั้นข้าก็จะจัดให้!!”
ได้ยินไนน์เดมอนมันตะโกนมาแบบนั้น ผมก็หันไปทางไคเซอร์ที่ยืนข้างๆ แล้วพูดไปว่า
“สั่งให้พลธนูเตรียมพร้อมเอาไว้!”
“ครับท่าน”
คำสั่งของผมกระจายไปอย่างรวดเร็ว อัศวินทั้งหมดหยิบธนูขึ้นมาเพื่อเป็นอาวุธของตัวเอง ถ้าใครมาเห็นภาพนี้ก็คงแปลกใจนั่นแหละว่าทำไมอัศวินที่น่าจะเป็นทหารม้าถึงได้ถือธนูออกมาสู้แบบนี้ แต่ว่า พลธนูบนหลังม้านี่แหละที่มันเป็นอะไรน่ากลัวมาก ในโลกที่ผมจากมาชนเผ่าที่มีประเทศที่เป็นเพียงชนเผ่าขนาดเล็กแต่ปกครองโลกไปถึง 1 ใน 3 ส่วน ซึ่งพวกนั้นก็ใช่ทหารม้าบนหลังธนูนี่แหละในการต่อสู้
ชนเผ่ามองโกล!
ด้วยความเร็วของทหารม้าและระยะการโจรตีที่ไหลของธนู ทำให้ประเทศมองโกลแทบปกครองดินแดนทั้งสองทวีปทั้งเอเชียและยุโรป ซึ่งเหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็เพราะมีการเดินทางที่รวดเร็ว และระยะการโจมตีที่เรียกได้ว่าไกลที่สุดในยุคสมัยนั้นอย่างธนู ใจจริงผมก็อยากฝึกอัศวินของผมให้ได้แบบนั้นนั่นแหละ แต่มันก็ไม่สามารถทำได้เพราะผมได้แค่ศึกษาประวัติศาสตร์มาเท่านั้นไม่ได้ฝึกสักหน่อย เฮ้อ~ คิดไปคิดมาก็รู้ศึกถึงปืนอีกแล้วสิ อย่าสร้างมันได้จัง~
“บุก!!!! ฆ่าพวกมันให้หมด!!!!”
หลังจากการเตรียมพร้อมของกองกำลังโจรได้ไม่นาน เสียงไนน์เดมอนก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันตะโกนออกมาพร้อมกับควบม้าออกมาด้านหน้าพร้อมกับดาบขนาดใหญ่ที่มันชักออกมาในมือ ด้านหลังของมันเองก็เต็มไปด้วยพวกโจรที่ควบม้าตามมาหลายร้อยคน… ไม่สิ! ต้องเรียกว่าออกมาทั้งหมดเลยต่างหาก การสู้กับกองโจรมันก็แบบนี้แหละ ถึงพวกมันจะเหมือนกองทัพยังไงแต่ก็ไม่ใช่กองทัพ บุกเข้ามาพร้อมกันแบบนี้โดยไม่มีแผนอะไรมันไม่ได้ต่างจากพวกคนเถื่อนเลยสักนิด หึ! หวานหมูเลยงานนี้…
“ท่านแกนด์ดยุค ท่านไม่ให้ข้าออกไปจริงๆ เหรอ?”
ไคเซอร์ พูดออมามาน้ำเสียงร้อนรน ระหว่างพูดออกมาเขาก็มองไปยังกลุ่มโจรที่กำลังควบม้าเข้ามาด้วยใบหน้าจริงจัง การโดนบุกแบบนี้ปกติแล้วจะส่งทหารออกไปเพื่อสกัดทางเอาไว้ เพราะการทำแบบนั้นจะเป็นการถ่วงเวลาให้ศัตรูเข้ามาประชิดและให้พลธนูโจมตีได้นานขึ้น ตามจริงไอแผนแบบนั้นมันก็ดีนั่นแหละเพราะมันได้ประสิทธิภาพในการรบมากกว่าป้องกันบนกำแพงเพียงอย่างเดียว
แต่ว่า ผมใช้แผนนั่นไม่ได้หรอก อัศวิน 1 คน ตายไปก็เท่ากับลบไปแล้ว 1 แต้ม กลับกัน พวกโจรตาย 10 คน ผมถึงจะได้แต้มม้า 1 แต้ม นับกันตามจำนวนแล้วผมเสียเปรียบแบบสุดๆ ถ้าส่งอัศวินออกไปมันเลี่ยงการศูนย์เสียกำลังทหารไม่ได้แน่นอน
“เจ้าไม่จำเป็นต้องออกไป พวกมันทำอะไรเราไม่ได้”
“แต่…”
“ดูไปเถอะ!!”
ผมหันหน้าหนีจากไคเซอร์ทันทีหลังพูดจบ ตอนนี้เสียงโหร้องของพวกโจรดังเข้ามาเรื่อยๆ พลธนูตามกำแพงของผมเองก็เริ่มมีแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อีกไม่นานหรอก… เข้ามาอีก… ผมมองไปยังกลุ่มโจรพร้อมกับยิ้มมุมปากเมื่อทุกอย่างเป็นแบบที่คิดเอาไว้
1000 เมตร
500 เมตร
300 เมตร
ระยะห่างของกำแพงและพวกโจรเข้าใกล้กันมาเรื่อยๆ ความเร็วของพวกมันเองก็เช่นกันกำลังเพิ่มมากขึ้นจนน่ากลัว ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นของพวกมันทำให้แรงกดดันหปรากฏกับพลธนูตามกำแพงมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ถึงอัศวินเหล่านี้จะผ่านการต่อสู้เป็นตายมาเยอะแล้วก็ตาม แต่ยังไงสะการที่มาเจอแรงกดดันแบบนี้ก็ต้องแสดงความกังวลออกมาเป็นธรรมดา
“ท่านแกนด์ดยุค พวกเราควรยิงดะ-”
“ยัง!! มันยังไม่ถึงเวลา!!”
ผมตอบกลับไคเซอร์ทันทีเมื่อเสียงดังขึ้น นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่คนในโลกนี้เข้าใจผิดเรื่องการยิงธนู ธนูเป็นอาวุธระยะไกลก็จริง แต่มันก็มีช่วงเวลาของมันในการยิงออกไปอยู่ดีว่าต้องยิ่งออกไปช่วงเวลาไหน ซึ่ง ช่วงระยะเวลามันจะแตกต่างกันออกไปตามขบวนทัพและการแต่งกายของฝ่ายศัตรู ศัตรูในสนามรบและกองทัพแต่ละกองทัพนั้นต่างกันออกไปตาม การโจมตีของพลธนูต้องดูในส่วนตรงนี้ด้วยเช่นกัน
ศัตรูของผมตอนนี้คือพวกโจรที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันมากมายอะไรขนาดนั้นก็จริง ทว่า ถ้ายิงออกไปในระยะที่ไกลกว่าที่ผมคิดเอาไว้ พลังทำลายของมันก็แสดงออกมาไม่ได้เต็มที่อยู่ดี หึ!
เมื่อรอได้สักพัก ไนน์เดมอนที่นำหน้ามันก็เข้ามาในระยะ 100 เมตร จนได้ เห็นแบบนั้นผมก็ชูมือขึ้นแล้วตะโกนสั่งไปว่า
“ยิง!! ยิงออกไปที่ระยะ 150 เมตร!!!”
เหล่าอัศวินต่างหันมองมาทางผมด้วยสีหน้าสงสัย แต่ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรอีกเสียงไคเซอร์ก็ดังขึ้น
“ทำตามคำสั่ง!!! ยิงตามตำแหน่งที่ท่านแกนด์ดยุคสั่ง!!!”
ฟุบ!
ฟุบ!
ฟุบ!
ด้วยการออกคำสั่งของไคเซอร์ ศรธนูจำนวนมากก็ออกไปจากกำแพงและกลายเป็นฝนธนูจำนวนมากไปทางกลุ่มโจรที่กำลังพุ่งเข้ามา ระยะทางที่ผมบอกให้โจมตีไปคือ 150 เมตร ใช่แล้ว! มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่พวกพลธนูจะลังเลและไม่ทำตามคำสั่งทันที ถ้ายิงไปตรงนั้นจะไปโดนกลางทัพของศัตรูไม่ใช่แนวหน้าในการบุกเข้ามา ซึ่งมัก็หมายความว่าพวกแนวหน้าที่บุกเข้ามาก่อนสามารถโจมตีได้อย่างเต็มที่ แต่ กำแพงลงลงจารึกเอาไว้มันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอก หึหึ!
เคล้ง!
เคล้ง!
เคล้ง!
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร ทำไมกำแพงของไม้ของพวกมันถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!!!”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน พวกมันรีบสร้างขึ้นมาภายในระยะเวลาไม่ถึงสามวันมันต้องอ่อนแอเพราะรีบสร้างไม่ใช่หรือไง!!!”
“กำแพงนี่แข็งแกร่งกว่ากำแพงเมืองที่เป็นหินสะอีก!!!”
เสียงพวกโจรแนวหน้าที่มาถึงพากันตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตกใจ พวกมันเข้ามาโจมตีแบบเต็มแรงถ้าเป็นตามมปกติกำแพงไม่พังก็ต้องมีลองรอยอะไรบ้าง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น กำแพงไม้ของผมไม่ได้รับความเสียหายอะไรจากพวกมันเลยสักนิด ท่าทางของพวกมันช่างน่าตลกจริงๆ
ขณะเดียวกัน ทางด้านกลางทัพที่โดนลูกธนูโจมตีไปเมื่อครู่ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายไปแล้ว ด้วยการล่มของม้า 1 ตัว ก็จะทำให้ม้าที่ตามหลังม้าลมลงอย่างน้อย 3 – 5 ตัว และจำนวนม้าที่ล้มเพราะฝนธนูที่ผมสั่งให้ยิ่งไปเมื่อกี้ก็มีมากกว่า 50 ตัว ขบวนการบุกของมันตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความสับสน ตอนนี้ถ้าให้เปรียบก็เหมือนกับว่าทัพหน้าของพวกมันโดนตัดเส้นทางหนีกันแล้วนั่นเอง หึหึ! ได้เวลาที่พวกมันจะเข้าใจอำนาจทำลายที่แท้จริงของธนูกันแล้ว…
หลังจากทุกอย่างเป็นแบบที่คิด ผมก็ตะโกนออกอีกว่า
“เริ่มโจมตีอีกครั้ง!!! กวาดล้างแนวหน้าของพวกมันให้หมด!!! แสดงพลังอำนาจของทหารจักรวรรดิให้พวกมันได้เห็น!!!”
“ครับท่าน!!!”