การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 33 การปรากฎตัวของบุคคลที่คาดไม่ถึง
ตอนที่ 33 การปรากฎตัวของบุคคลที่คาดไม่ถึง
“พวกเจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องของขยะแห่งจักรววรดิหรือไง!! แกนด์ดยุค วอเตอร์ เป็นทายาทแทบจะคนสุดท้ายของตระกูลมันแล้ว ถ้ามันตายไปก็เหลือเพียงน้องสาวของมันคนเดียวเท่านั้นที่มีอำนาจในตระกูล พวกเจ้าคิดว่าเด็กผู้หญิงอายุยังไม่ถึง 16 ปี แถมยังเดินไม่ได้อีกแบบนั้น จะสามารถสั่งการอะไรได้หรือไง”
….ครืน….
คำพูดของชายสวมผ้าคลุมเปรียบเหมือนก้อนหินโยนลงแม่น้ำที่นิ่งสงบ สีหน้าของเหล่าโจรที่เต็มไปด้วยความกังวลเริ่มดีขึ้นมาทันที ขยะแห่งจักรวรรดิ! ชื่อนี้ไม่ได้รู้แค่เพียงชนชั้นสูงหรือขุนนางของจักรวรรดิเท่านั้น คนธรรมดาหรือแรงงานชั้นล่างของประเทศต่างก็รู้จักชื่อนี้ ถึงเวลานี้จะมีข่าวว่าแกนด์ดยุคตระกูล วอเตอร์ สามารถฝีกฝนร่างกายได้แล้วก็ตาม แต่ก็มีหลายคนคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องโกหกที่ตระกูล วอเตอร์ แต่งขึ้นมาให้รักษาอำนาจเอาไว้เท่านั้น
“เป็นแบบที่เจ้าว่ามา…”
ไนน์เดมอน พูดกับชายสวมผ้าคลุมด้วยน้ำเสียงนอบน้อม คำพูดของมันทำให้กลุ่มโจรในห้องเกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีว่าใครเป็นหัวหน้ากันแน่ ปกติแล้วเวลาไนน์เดมอนมันพูดกับคนอื่นๆ จะเต็มไปด้วยอารมณ์เหมือนกับว่ากำลังโมโหหรือไม่พอใจอยู่ ทว่า ทันทีที่พูดกับชายคนนี้กลับเต็มไปด้วยความนอบน้อม
“ถ้ารู้แบบนั้นพวกเราก็ต้องเตรียมตัวบุกให้เร็วที่สุด เพราะยังไงพวก-”
“ท่านหัวหน้ามีรายงานเข้ามาครับ!!!”
ก่อนที่ชายสวมผ้าคลุมกำลังจะพูดจบ เสียงโจรอีกหนึ่งคนที่เหมือนสถานะต่ำกว่าในกลุ่มก็ดังขึ้นมา ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความตื่นตูม ขณะกำลังวิ่งเข้ามในห้องเพื่อรายงานเรื่องที่ได้ยิน
ความสนใจทั้งหมดในห้องพุ่งไปที่โจรที่วิ่งเข้ามาทันที ไนน์เดมอน ไม่รอช้า มันตะโกนถามขึ้นว่า
“เกิดอะไรขึ้น!!! จะรีบขนาดนั้นทำไม!!!!”
“ขะ ขออภัยด้วยครับ”
โจรที่วิ่งเข้ามาคุกเข่าลงพร้อมกับกล่าวขอโทษด้วยท่าทางเกรงๆ ด้วยเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่ ทำให้ทันลืมตัวไปเลยว่าหัวหน้าตัวเองหน้ากลัวขนาดไหน แต่มันก็ทิ้งความกลัวทั้งหมด แล้วพูดต่อว่า
“รายงานจากหน่วยสอดแนมครับ พวกนั้น… ค้นพบเส้นทะเลลมปราณ…”
“ห่ะ!!!!!”
คนที่อุทานขึ้นมากก่อนคือชายสวมผ้าคลุม ทว่า ท่าทางของคนอื่นๆ ภายในห้องก็ไม่ได้ต่างอะไรกันขนาดนั้น ทุกคนรู้ดีว่าเส้นทะเลลมปราณหมายถึงอะไร แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดเมือนกันว่าของที่ล้ำค่าสะยิ่งกว่ามรดกของประเทศจะมาปรากฏที่ป่าไร้ค่าแบบนี้
‘ แบบนี้เป็นเรื่องใหญ่แล้วสิ ต้องรายงานเรื่องนี้กลับประเทศให้เร็วที่สุด ถ้าตระกูล วอเตอร์ มีเส้นทะเลลมปราณในการครอบครองแผนสิบกว่าปีของพวกเราก็ต้องพังกันหมดแน่ ‘
ชายสวมผ้าคลุมคิดในใจ
“เจ้าจะบ้าหรือไง!! เส้นทะเลลมปราณมันจะมาปรากฏที่นี่ได้ยังไง พวกเราเป็นโจรอยู่ที่นี่หลายสิบปียังไม่รู้เลยว่ามีมันอยู่ใต้ขาของพวกเรา ห่ะ!!!”
ไนน์เดมอน ตะโกนถามโจรที่รายงานเมื่อครู่ สำหรับมันแล้วการปรากฎตัวของกำลังอัศวินนับพันคนไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แถมดีด้วยซ้ำที่ทำให้กลุ่มโจรจำนวนมากยอมเข้าร่วมกับมัน แต่สำหรับเรื่องของเส้นทะเลลมปราณแล้วมันไม่สามารถยอมรับได้อย่างเด็ดขาด พวกมันอาศัยอยู่ที่ป่าแห่งนี้มานานนับสิบๆ ปี แต่ก็ไม่เคยเจอเส้นทะเลลมปราณหรือรู้สึกกันเลยสักนิด กลับกัน แกนด์ดยุคแห่งตระกูล วอเตอร์ ปรากฎตัวออกมาได้ไม่กี่วันกลับเจอมันสะแล้ว
“มะ มันเป็นเรื่องจริงครับ ถึงหน่วยสอดแนมจะไม่ได้เข้าไปเพราะพวกนั้นเอาอัศวินจำนวนมากมาตั้งวงล้มอเอาไว้แบบแน่นหน้า แต่สามารถสัมผัสพลังมหาศาลที่ปล่อยออกมาจากพื้นดินได้แน่นอนครับ”
“เจ้าอย่ามาพูดเรื่องบะ-”
“ใจเย็นก่อนท่านหัวหน้า!”
ชายสวมผ้าคลุมที่ตั้งสติได้แล้ว พูดหยุด ไนน์เดมอน ที่กำลังโมโหเอาไว้ คำพูดของชายสวมผ้าคลุมก็สามารถหยุดเอาไว้ได้ทันทีเช่นกัน ในตอนนี้มันสามารถแน่ใจได้ว่าเรื่องที่หน่วยสอดแนมรายงานมาครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติ พลังจากพื้นดิน! ในประวิติศาสตร์สิ่งที่จะทำได้แบบนี้ก็คือ เส้นทะเลลมปราณ เพียงเท่านั้น
ทว่า สำหรับมันแล้วการไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองคงทำใจเชื่อไม่ลง เพราะงั้นมันเลยพูดต่อ
“ท่านอย่าได้กังวล ข้าจะเดินทางไปตรวจสอบมันเอง”
“แต่…”
“ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าข้าเป็นอะไรไปประเทศของพวกเราก็ยังสนับสนุนท่านอยู่ดี อีกอย่างพวกมันล้อมค่ายแบบนั้นคงวางแผนป้องกันเต็มที่ไม่ได้คิดจะออกมาโจมตีกันแน่นอน”
ชายสวมผ้าคลุม วิเคราะห์สถานะการณ์ตามที่ได้รับรางงานมาเรื่อยๆ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนมันได้รับข่าวแล้วว่ากลุ่มของไคล์ตั้งแนวป้องกันบนภูเขาแห่งหนึ่ง และสร้างแนวป้องกันแบบแน่นหนาเอาไว้รอบจุดที่ตั้งค่าย ตอนแรกมันก็คดว่า ไคล์ วอเตอร์ คงทำอะไรไม่ได้เรื่องตามข่าวลือ แต่ตอนนี้มันเข้าใจแล้วว่าตัวเองคิดผิดและประเมินแกนด์ดยุคแห่งตระกูล วอเตอร์ ต่ำจนเกินไป
….
ณ ค่ายเส้นทะเลลมปราณ
ชายสวมผ้าคลุมเมื่อเดินทางมาถึงก็ต้องเบิดตากว้างกับสิ่งที่ตัวเองสัมผัสได้ ในใจของมันตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสนแบบอธิบายอะไรออกมาไม่ถูก ‘ เส้นทะเลลมปราณจริงๆ ‘ ถูกต้องแล้ว! หลังเดินทางมาถึงโดนเว้นระยะห่างออกจากค่ายประมาณ 1 กิโลเมตร มันก็เข้าใจได้ทันทีว่าหน่วยสอดแนมไม่ได้โกหก หรือพูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย
มันเป็นเส้นทะเลลมปราณ!
แถมยังมีขนาดใหญ่มากจนมันที่ยืนอยู่ไกลออกมายังสัมผัสพลังมหาศาลได้ ถ้าพูดให้ถูกคงพูดว่าจุดที่มันกำลังยืนอยู่ตอนนี้อาจเป้นเส้นทะเลลมปราณด้วยเช่นกัน
‘ ไม่ดีแล้วแบบนี้! แค่เส้นลมปราณขนาดเล็กก็ทำให้ตระกูลขนาดเล็กเติบโตจนรับตำแหน่งดยุคได้สบายๆ แต่นี่มันใหญ่มาก… ต้องกลับประเทศไปรายงานเรื่องนี้ด่วน ป่าแห่งนี้เราคงต้องทิ้งแล้วเริ่มแผนยึดอาณาเขตทางเหนือของจักรววรดิให้เร็วที่สุด ถ้าปล่อยเอาไว้นานตระกูล วอเตอร์ จะแข็งแกร่งเกินไป ‘
ชายสวมผ้าคลุมตะหนักได้ทันทีกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันเดินทางมานี่ก็เพื่อทำตามแผนขนาดเล็กที่วางเอาไว้ ทว่า ถ้ามันไม่รีบดำเนินการตามแผนที่กำหนดเอาไว้ แผนยึดอาณาเขตทางเหนือของจักรวรรดิที่วางแผนมากันสิบกว่าปีของประเทศมันก็จะไม่สำเร็จเหมือนกัน คิดได้มันก็หันทางไปหน่วยสอดแนมอีกคนที่นำทางมันมา
“เจ้ากลับรายงานไนน์เดมอนด้วยว่าข้าจะเดินทางออกไปสักพัก เจ้านั้นอยากทำอะไรก็ทำ”
“เอ่ะ???”
หน่วยสอดแนมที่ได้ยินยังไม่ทันได้ถามหรือเข้าใจอะไร ร่างกายของชายสวมผ้าคลุมก็หายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนปรากฏมาก่อน แต่ถึงแบบนั้นหน่วยสดแนมก็รีบออกเดินทางไปทันที แล้วกลับไปรายงานต่อไนน์เดมอนตามคำสั่งที่ได้รับจากรองหัวหน้าของมัน
…..
ณ ภายในค่ายเส้นทะเลลมปราณ
“ท่านแกนด์ดยุค เจ้านั่นไปแล้ว!!”
ไคเซอร์ พูดกับผมด้วยสีหน้าจริงจัง เมื่อครู่ทั้งผมและไคเซอร์สามารถสัมผัสพลังของคนที่อยู่ระดับจักรพรรดิได้ที่นอกค่าย ไคเซอร์ จะขอเดินทางออกไปเพื่อจัดการมันแต่ผมก็ห้ามเอาไว้เพราะถึงออกไปต่อให้เป็นไคเซอร์ก็ไม่สามารถเอาชนะหมอนั่นได้หรอก หึ! ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะกล้าถึงขนาดนี้
ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมในกลุ่มโจร ไนน์เดมอน ถึงได้มีคนระดับพลังจักรพรรดิซึ่งไม่น่าจะมาปรากฏตัวออกมา ผมจำพลังปราณของมันได้เป็นอย่างดี
มันเป็นพลังปราณของนายพลแห่ง สหราชอาณาจักร ตอนนี้สถานะของมันเป็นยังไงผมก็ไม่รู้ แต่อีกไม่นานมันต้องได้รับตำแหน่งนายพลแห่งสหราขอาณาจักรแน่นอน ที่รู้ได้แบบนั้นเพราะผมเคยสู้กับมันเพื่อรวมทวีปของมนุษย์ให้เป็นหนึ่งมาแล้ว แถมในตอนนั้นมันยังเป็นคนที่ไล่ต้อนผมจนเกือบแพ้เลยด้วยซ้ำ
แต่ระดับพลังของมันตอนนั้นอยู่ในระดับพระเจ้า ซึ่งผมตอนั้นอยู่เพียงจักรพรรดิ แต่เรื่องระดับพลังกับเรื่องในอนาคตที่ผ่านมาเอาไว้ก่อน ตอนนี้ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนอย่างมันถึงได้ปรากฏตัวออกมาแบบนี้ได้ ถึงตอนนี้มันยังไม่ได้เป็นนายพลแห่งสหราชอาณาจักร แต่ตำแหน่งของมันในกองทัพก็คงไม่ใช้น้อยๆ การมาอยู่กับกลุ่มโจรแบบนี้เป็นเรื่องแปลกมาก อืม….
ไม่เข้าใจจริงๆ สหราชอาณาจักรไม่ได้ลงนามหยุดรบกับจักรวรรดิอยู่เหรอ??? ในอดีคของเราเองพวกมันก็ไม่ได้บุกเข้ามาด้วย???
“ท่านครับ ทำไมไม่ให้ข้าไปจัดการมัน?”
เสียงไคเซอร์ถามออกมาระหว่างผมกำลังคิดอยู่ เฮ้อ~ สู้ไปถึงชนะได้ก็ไม่ได้อะไรหรอก ถ้าชนะนะ เหอๆ
“ข้ารู้ดีว่ามันเป็นใคร”
“คือ…”
“มันเป็นคนของสหราชอาณาจักร ข้าไม่เข้าใจทำไมพวกมันถึงได้มาปรากฎตัวที่นี่ได้”
“สหราชอาณาจักร!!”
ไคเซอร์ ตะโกนเสียงตกใจ ท่าทางสงบของเขาเปลี่ยนไปต่างจากปกติมาก
“มันมีอะไร ทำไมถึงต้องตกใจขนาดนั้น”
“ปะ เปล่าครับ…”
น่าสงสัยจริงๆ ผมหลี่ตาลงเล็กน้อยมองไคเซอร์ที่พยามปฏิเสธออกมา ผมคิดว่าหมอนี่ต้องรู้อะไรแน่แต่ถ้ายังไม่พูดอะไรออกมาก็ไปบังคับอะไรไม่ได้หรอก อีกอย่าง ตามนิสัยของเจ้านั่นหลังจากเห็นกำลังรบของผมเหนือกว่ากลุ่มโจร มันคงไม่โง่เข้ามาสู้หรอก ตามนิสัยของมันถ้ากำลังรบเสียเปรียบมันจะไม่สู้แล้วรีบหนีทันที ครั้งนี้เองก็ไม่น่าจะต่างกัน
หึหึ! ก็ไม่รู้หรอกนะว่าสหราชอาณาจักรวางแผนอะไรเอาไว้ แต่ถ้ามันกล้าที่จะมีเรื่องกับกองอัศวินหลวงทั้งสองแสนคนที่อยู่อาณาเขตทางเหนือ และจอมพลแห่งจักรวรรดิคนปัจจุบัน แผนที่พวกมันวางเอาไว้คงจบไม่สวยกันหรอก