ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 29 สิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 31 เส้นทะเลลมปราณ

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 30 กลุ่มโจร ไนน์เดมอน!


ตอนที่ 30 กลุ่มโจร ไนน์เดมอน!

“ตอนนี้กลุ่มโจร ไนน์เดมอน! กำลังพยามเรียกร่วมตัวกลุ่มโจรรอบๆ อยู่ครับ จากที่ข้าออกมาพวกนั้นก็มีจำนวนประมาณ 500 – 600 คน เข้าไปแล้ว ข้าคิดว่าถ้าท่านยังอยู่ต่อไปอีกไม่กี่วันต้องเจอกับกลุ่มโจรนับพันคนแน่นอน แล้วในกลุ่มของกองโจร ไนน์เดมอน ยังมีคนที่อยู่ระดับจักรพรรดิถึงสองคน”

“นี่เจ้าจะบ้าหรือไง!!! เป็นแค่โจรระดับพลังมันจะขนาดนั้นได้ยังไง!!!”

ไคเซอร์ ตะโกนออกมาทันทีหลังได้ฟังจบ แต่มันก็น่าตกใจนั่นแหละที่พลังของโจรจะมาถึงระดับนี้ได้ แต่ว่า สิ่งที่โจรด้านหน้าของผมพูดออกมามันก็เป็นเรื่อจริงทั้งหมด… ไม่สิ! อาจจะบอกน้อยไปด้วยซ้ำเพราะในกลุ่มของกองโจร ไนน์เดมอน อีกสิบสองปีต่อจากนี้มีผู้บ่มเพราะพลังระดับจักรพรรดิถึง 5 คน ซึ่งที่ผมรู้แบบนี้ก็เพราะอีกสิบสองปีต่อจากนี้ ตอนจากนี้ผมได้มาฆ่าพวกมันเพื่อเปิดเส้นทางแห่งนี้ด้วยตัวเอง

ไม่คิดเลยว่าตอนนี้จะมีถึงสองคน ตอนแรกคิดว่ามีหัวหน้าโจรที่ใช้ชื่อไนน์เดมอนคนเดียวที่มีพลังระดับจักรพรรดิ แต่กลับมีถึงสองคน เฮ้อ~

“ท่านแกนด์ดยุค!! ฆ่ามันเถอะครับ ข้าว่ามันพูดข้อมูลมั่วเพื่อให้รอดเท่านั้น!!”

“ใจเย็นก่อนไคเซอร์ เรื่องที่มันพูดออกมาเป็นเรื่องจริง”

“แต่….”

“แต่ก็อย่ากังวล ข้าไม่ได้เสียเวลาเป็นเดือนเพื่อมาถูกฆ่าตายในป่าแห่งนี้หรอก หลังจากเจอเส้นทะเลลมปราณ เจ้าอย่านำกำลังทหารออกรอกค่ายก็เพียงพอแล้ว พวกราต้องรักษากำลังรบเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้”

เมื่อรู้ว่าพวกมันมีระดับ จักรพรรดิ ถึงสองคน แผนที่วางเอาไว้ต้องเปลี่ยนนิดหน่อย พลังระดับนั้นสองคนต่อให้เป็นไคเซอร์ก็คงเอาชนะได้ยาก หรือดีไม่ดีอาจจะไม่สามารถเอาชนะได้เลยด้วยซ้ำ แต่ถึงแบบนั้นการถอยกลับก็ไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับผมเช่นกัน แนวป้องกันสุดท้าบของมวลมนุษย์! ผมไม่ได้ได้ฉายานี้มาเพราะจับฉลากได้หรอก หึ! กับอีแค่กำลังรบที่มากกว่ากันนิดหน่อย มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรขนาดนั้นเลย

“ท่านแกนด์ดยุค แล้วหมอนี่เอาไงต่อครับ?”

ผมหันลงไปยังโจรที่นั่งคุกเข่าอยู่เล็กน้อย ถ้าคิดตามตรงหมอนี่ก็ไม่ได้บอกข่าวอะไรมากเลยเพราะงั้นการฆ่าก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ว่า คนทุกคนถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากเป็นโจรกันหรอก มันไม่มีใครหรอกที่เกิดมาแล้วจะเป็นคนเลวตั้งแต่เกิด การกดขี่! การเอาเปรียบ! สังคมห่วยแตก! ครอบครัวขาดความพร้อม! เจอเรื่องประมาณพวกนี้มันก็จะทำให้มนุษย์เปลี่ยนไปทีละน้อยๆ จนสุดท้ายก็กลายเป็นคนเลวไปเอง แต่ จะปล่อยไปก็ไม่ได้ด้วยเพราะหมอนี่มีข้อมูลอัศวินของผมอยู่มากเกินไป ปล่อยไปก็คงคาบเอาข่าวไปรายงานแน่

“ฆ่าทิ้งสะ!”

“ทะ ท่านครับ!! ไหนท่านบอกว่าจะไว้ชะ-”

“เหอ! แกคิดว่าตัวแกสมควรได้รับโอกาสแบบนั้นหรือไง ถ้าปล่อยไปแล้วแกจะทำอะไรต่อ กลับไปหากลุ่มโจรไนน์เดมอน? กลับไปใช้ชีวิตปกติ?”

“แน่นอนครับ!! ข้าจะไม่กลับไปหากลุ่มโจรแน่นอนครับ ข้าจะกลับไปใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา”

“ไคเซอร์!!!”

ฉวบ!

หลังจากการจะโกนเพื่อออกคำสั่งของผมอีกครั้ง ดาบในมือของไคเซอร์ก็แวกอากาศแล้วเสียบลงกลางหลังของโจรที่กำลังร้องขอชีวิตอยู่ ด้วยฝีมือในการสังหารอันเฉียบคมที่เล็งไปจุดหัวใจ ทำให้โจรตายไปในทันที  กองเลือดขนาดใหญ่เริ่มไหลออกมาจากร่างกายของมันเต็มพื้น

หึ! ช่างกล้าพูดออกมาได้ว่าจะกลับไปใช่ชีวิตปกติ ถ้าปล่อยให้มันกลับไปจริงก็ผิดกับคนที่โดนมันฆ่าไปสิ ขบวนขนของมีคนมากมายหลายประเภท พ่อค้า! ทหารรับจ้าง! แรงงาน! คนเหล่านั้นที่มาทำงานก็เพราะอยากได้เงินไปเลี้ยงดูครอบครัว พวกนั้นก็มีครอบครัวรอให้กลับมา การที่ฆ่าพวกนั้นไปแล้วคิดว่าตัวเองไม่ต้องชดใช้อะไรมันไร้สาระสิ้นดี …เพราะแบบนี้แหละผมเลยเลือกมาจัดการพวกโจร

“ให้คนมาทำความสะอาดด้วย และหลังจากนี้ให้เพิ่มเวรยามเป็นเท่าตัว”

“ครับท่าน!”

….

เช้าวันต่อมา

หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกเลย เพราะงั้นผมและคนอื่นๆ ก็เริ่มออกเดินทางทันทีเพื่อตรงไปยังเส้นทะเลลมปราณ ระหว่างกำลังเดินทางอยู่ผมก็ได้รับพลังปราณเข้ามาในร่างกายเรื่อยๆ เนื้องจากมีสัตว์มากมายตายไปด้วยสาเหตุหลายๆอย่าง

แต่ก็แปลกบางเรื่อง เมื่อตื่นมาตอนเช้าและเริ่มใช้เคล็ดวิชาดูดกลืมลมปราณ มีพลังปราณจำนวนมากไหลเข้ามาในร่างกายของผม เพียงพวกมันไหลเข้ามาก็ทำให้พลังของผมอยู่ใน ลมปราณแท้จริง ขั้นที่ 5 ขึ้นมาถึง 3 ขั้น มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก แต่ผมก็พอเดาได้นั่นแหละว่าเพราะอะไร

การจะคุมคนจำนวนมากให้ได้มันจำเป็นต้องมีการเชือดไก่ให้ลิงดู ไนน์เดมอน! หมอนั่นคงทำเรื่องอะไรในเมื่อคืนที่ผานมาแน่นอน กลุ่มโจรจำนวนมาก การจะรวมให้คนจำนวนมากอยู่ใต้อำนาจของมันก็จำเป็นต้องแสดงอำนาจให้เด็ดขาด เหอๆ รู้สึกเหมือนว่าครั้งนี้จะได้เจอสงครามขนาดเล็กๆ ในป่าแห่งนี้ได้เลยเลย

การกว้าล้างพวกมันเมื่อชาติที่แล้วก็ไม่ต้องพูดถึง ช่วงเวลานั้นถึงผมยังไม่มีอำนาจเท่าไหร่แต่ก็เริ่มมีอำนาจในกรมทหารพอสมควร การเอากองทัพที่เต็มไปด้วยทหารผ่านศึกและอัศวินมากฝีมือเข้ามาสู้ก็ชนะพวกมันได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก ถึงพวกมันจำพอสู้กลับได้บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับเรียกว่าสงครามอะไร  ทว่าตอนนี้มันต่างออกไปเพราะผมไม่ได้มีกำลังทหารมาด้วยแบบตอนนั้น

“ท่านแกนด์ดยุค พวกเรามาถึงแล้วครับ”

เมื่อขบวนหยุดเดินได้ไม่นาน ไคเซอร์ก็เข้ามารายงาน ในมือของเขาก็มีแผนที่ที่ผมระบุจุดหมายเอาไว้ด้วย รอบตัวของพวกเราตอนนี้เต็มไปด้วยป่าและต้นไม้ขนาดใหญ่ ผมเริ่มมองหาจุดที่จะพอยืนยันได้เพราะจากที่จำได้ที่นี่มันมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ 1 ถ้ำ

เจอแล้ว!

ที่นี่แหละเป็นที่นี่ไม่ผิดแน่ หึหึ! ถึงตอนนนี้จะยังสัมผัสอะไรไม่ได้ แต่ผมก็แน่ใจแน่นอนว่าจุดนี่แหละที่เป็นเส้นทะเลลมปราณที่ผมตามหา และที่ยังสัมผัสอะไรไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเส้นทะเลลมปราณมันไม่ใช่สถานที่ที่จะหาเจอได้ง่ายๆ ถึงตรงนี้จะเป็นเส้นทะเลลมปราณแต่ก็เต็มไปด้วยต้นไม้และหญ้าจำนวนมากปกคลุมมันอยู่ การจะสัมผัสได้ต้องถอนและทำลายพวกมันออกไปก่อน

“นี่แหละ! สั่งให้คนงานจัดการต้นไม้รอบๆ ได้เลย ส่วนพวกอัศวินก็ตั้งแนวป้องกันเป็นวงกลม 5 กิโลเมตร จากจุดตรงนี้เพื่อป้องกันการบุกเข้ามา หรือการสอดแนมจากพวกโจรอย่างแบบเมื่อคืน”

“…ครับท่าน”

ไคเซอร์ ลังเลชั่วครู่ก่อนที่จะตอบรับคำสั่ง ก็เขาใจหมอนี่อยู่หรอกว่ายังสงสัยอยู่ว่าผมกำลังจะทำอะไรกันแน่ แต่หลังจากนี้เดี๋ยวความสงสัยก็เปลี่ยนเป็นความตกใจแทน หึหึ!

…..

ทุกคนทำตามคำสั่งทันที เหล่าอัศวินก็ไปตั้งวงล้อมเป็นวงกลมที่เป็นแนวป้องกันที่นิยมใช้กันในโลกนี้เพื่อปกป้องฐานตรงกลาง ส่วนพวกคนงานก็เริ่มโค้นต้นไม้และกำจัดพืชทุกชนิดบนพื้นตามคำสั่ง ระหว่างทำทุกคนก็แสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ต่างจากพวกอัศวินที่ทำโดยไม่มีสีหน้าไม่พอใจ

แต่ก็นะ คนงานเหล่านี้ไม่ใช่ทหาร การที่อยู่ๆ ให้ถอนต้นไม้จำนวนมากคงไม่พอใจเป็นธรรมดา ถึงผมจะเรียกพวกนี้จะเป็นคนงานแต่ส่วนมาก็เป็นช่างฝีมือด้านการก่อสร้างบ้าน หรือก่อสร้างโรงฝึกในรูปแบบต่างๆ โดนสั่งให้มาทำงานอย่างกำจัดตนไม้แบบนี้คงเหมือนเป็นการดูดถูกความสามารถอยู่นั่นแหละ เหอๆ จ้างก็จ้างยังไม่พอใจกันอีกหรือไง…

แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นาน สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนไป

“นี่! พวกเจ้ารู้สึกแปลกแบบข้าหรือเปล่า???”

“เจ้าเองก็เหมือนกันสินะ หลังจากโค่นต้นไม่สักพักข้าก็รู้สึกว่าพลังลมปราณมันร้อนๆ เหมือนกับว่าจะทะลวงขั้นยังไงก็ไม่รู้ แต่มันก็แปลก ข้าไม่ได้ฝึกหรือกินโอสถอะไรเข้าไปเลย???”

“ข้าก็เหมือนกัน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น???”

เหล่าคนงานเริ่มพูดคุยกันด้วยความสงสัย หลังผ่านไปสักพักพวกคนงานที่กำลังทำลายต้นไม้กันอยู่ก็เริ่มพูดออกมา และที่พวกนี้พลังจะเพิ่มขึ้นก็ไม่แปลกเพราะคนงานส่วนใหญ่ที่ผมเอามาทำงานด้วย ระดับบ่มเพราะอยู่เพียงแค่ ก่อเกิดลมปราณ ขั้น 3 – 5 เท่านั้นเอง ด้วยระดับพลังเท่านี้การทะลวงขั้นหลังเข้ามาในเส้นทะเลลมปราณก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่คนธรรมดาคงไม่เข้าใจหรอกว่าตัวเองกำลังอยู่ในเส้นทะเลลมปราณที่ทั้งชาติคงไม่ได้เช้ามาเหยียบอีก

พวกอัศวินที่ยืนเฝ้ารอบๆ ก็เช่นกัน ในตอนนี้อัศวินบางคนก็เริ่มเข้าสมาธิเพื่อเตรียมตัวเข้าสู้การทะลวงขั้นกันแล้ว คนธรรมดาไม่เคยเข้าใช้งานเส้นลมปราณมันก็ไม่แปกลที่จะไม่รู้จักพวกมัน ในจักรวรรดิคนที่สามารถเข้าใช้ได้ก็มีพียงขุนนางระดับสูงและราชวงศ์เท่านั้น แม้แต่คนของกองอัศวินหลวงก็แทบไม่ได้เข้าใช้งานพวกมันกันเลย ทว่า หลังจากข่าวเรื่องเส้นทะเลลมปราณแห่งนี้กระจายออกไป คนธรรมดาจำนวนมากที่ยอมก้มหัวรับใช้ตระกูล วอเตอร์ ก็จะสามารเข้าใช้งานได้แบบไม่จำกัด

หึหึ! การปฏิวัติแห่งการบ่มเพราะกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด