ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 21 ระบบกองทัพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 23 สมาคมนักปรุงยา 2

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 22 สมาคมนักปรุงโอสถ


ตอนที่ 22 สมาคมนักปรุงโอสถ

ณ สมาคมนักปรุงโอสถ

สมาคมนักปรุงโอสถที่ผมเดินทางมาตอนนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ปรุงโอสถที่สุดในจักรวรรดิ ที่แบบนี้ไม่ได้มีเพียงจักรวรรดิประเทศเดียวเท่านั้น แต่มีตั้งอยู่ทั่วทั้งทวีป สมคมนักปรุงโอสถ! ชื่อก็บอกอยู่ว่าเป็นสถานที่แบบไหน ที่นี่เต็มไปด้วยนักปรุงโอสถมากมาย แถมไม่ได้ขึ้นตรงกับประเทศไหนสักประเทศ

พูดตามตรง พวกนี้ก็เป็นกลางนั่นแหละ ไม่ว่าจะประเทศไหนก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกนี้ รวมถึงจักรวรรดิด้วยเช่นกัน ขนาดราชวงศ์ยังไม่กล้ามีปัญหากับพวกนี้เพราะโอสถส่วนใหญ่ในประเทศต่างก็ได้รับจากพวกนี้ทั้งนั้น แล้วที่ผมมาที่นี่ก็เพราะเหตุผลเรื่องโอสถนั่นแหละ

ที่แห่งนี้ถึงเป็นกลางแต่ก็ไม่ได้ต้อนรับลูกค้าง่ายๆ ต่อให้เป็นแกนด์ดยุคก็เข้าใช้ไปไม่ได้ง่ายๆ เพียงแต่ว่า มีหนึ่งสิ่งที่พวกมันตอนรับนั่นคือ คนรวย! ต่อให้เป็นเพียงพ่อค้าแต่เพียงมีเงินจ่าย สมาคมนักปรุงโอสถก็จะทำงานให้ทันทีแบบไม่มีข้อยกเว้น เอาจริงๆ พวกนี้ก็ทำถูกนั่นแหละ เพราะทำแบบนี้ตัวโอสถก็จะกระจายออกไปไม่ตกอยู่ที่พวกขุนนางอย่างเดียว ผมคงด่าพวกนี้ไม่ได้หรอกว่าเห็นแก่เงิน

หลังจากนั่งรอสักพักในห้องรับแขกของสมาคม คนใหญ่คนโตที่น่าจะคุยกับผมรู้เรื่องก็เดินเขามาในห้องจนได้ คนที่เขามาตอนนี้เป็นชายแก่อายุประมาณ 60 ปี สวมเสื้อผ้าใหญ่กว่าตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของนักปรุงโอสถ แถมยังเป็นเสื้อสีขาวที่แสดงถึงตำแหน่งระดับสูงในสมาคมด้วย

หึหึ! ออกมาต้อนรับดีแบบนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมากแล้วละ

“ท่านแกนด์ดยุค”

ชายแก่ก้มหน้าลงเล็กน้อย ระหว่างกล่าวทักท้าย

ผมพยักหน้าให้เป็นการตอบรับ จากนั้นก็ชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ชายแก่ไม่รอช้ารีบเดินไปนั่งทันทีด้วยท่าทางเกรงเล็กน้อย ให้เดาเขาคงกำลังจกใตอยู่นั่นแหละที่ผมปรากฏตัวออกมาในทันทีแบบนี้ ปกติแล้วการจะเข้ามาในสมาคมต้องส่งจดหมายขอพบล่วงหน้า แต่ว่า ด้วยสถานะระดับสูงของผมที่เป็นถึงแกนด์ดยุค พวกนี้คงไม่สามารถปฏิเสธได้

“เช่นนั้นข้าขอถามได้เลยไหม ว่าอะไรทำให้คนอย่างท่านต้องมาหาเรา”

“ฮาฮาฮา ท่านนักปรุงโอสถ ท่านก็น่าจะรู้แกใจไม่ใช่หรือไงว่าข้ามาที่นี่ทำไม”

ผมตอบพร้อมรอยยิ้มเมื่อโดนถามออกมา เดินทางมานี่ก็ต้องมาซื้อเม็ดโอสถอยู่แล้ว ผมคงไม่ได้เดินทางมาที่นี่เพื่อซื้อดาบหรอก อยากสวนแบบกวนๆ กลับไปจริงๆ อีกอย่าง ระยะเวลาที่ผมนั่งรอในห้องก็ประมาณ 1 ชั่วโมง พวกนี้คงตรวจสอบจำนวนเงินของผมมาแล้วแน่ๆ

“ก่อนอื่นข้าอยากถามชื่อของท่านก่อน”

“ข้าชื่อมา แจนด์ลาส  …ตามที่ท่านกล่าวออกมาเมื่อครู่ แปลว่าท่านต้องการโอสถจากพวกเราใช่ไหม?”

“เป็นแบบที่ท่านเข้าใจ!”

ผมพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มให้ไป ถึงผมจะมีตำแหน่งเป็นแกนด์ดยุคแต่ก็ต้องให้เกียรติชายด้านหน้าด้วยเช่นกัน ตัวตนของนักปรุงโอสถเป็นคนที่แต่ละประเทศต้องการเอามากๆ นักปรุงโอสถส่วนมากถ้าไม่ใช่คนของตระกูลใหญ่ๆ ก็เข้าสังกัดสมาคมนักปรุงโอสถกันหมด ถ้าทำอะไรให้คนระดับสูงแบบนี้ไม่พอใจอนาคต คงทำการซื้อขายยากขึ้นไปอีก

“ท่านต้องการเท่าไหร่”

“ก่อนตอบข้าอยากถามท่านก่อนดีกว่า ว่าสามารถให้ข้าได้เท่าไหร่ ข้าต้องการโอสถจำนวนมากเพื่อให้อัศวินของข้าเพิ่มการบ่มเพราะ และให้คนที่เข้าใหม่เรื่อยๆ”

แจนนด์ลาส ทำสีหน้าคิดหนักทันที ‘จำนวนมาก’ ผมย้ำไปแบบนั้นหมอนี่ต้องคิดหนักอยู่แล้ว ถ้าคิดถึงเงินที่ผมพึงได้มาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาของพวกนั้นเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่าผมสามารถจ่ายได้ แต่สมาคมนักปรุงโอสถก็ไม่ได้เห็นแกเงินอะไรขนาดนั้น

ตามความทรงจำที่ผมจำได้ พวกสมคมนักปรุงโอสถก็มีส่วนอย่างมากในการรักาสมดุลระหว่างประเทศเอาไว้ เรื่องการขายโอสถหรือสมุนไพรให้คนของแต่ละประเทศก็มีจำกัดตามสัดส่วนที่สมาคมจำกัดเอาไว้ ใจจริงก็อยากเอาเงินหนึ่งล้านซื้อไปให้หมดนั่นแหละ แต่มันทำแบบนั้นไม่ได้นี่สิ เฮ้อ~

“โอสถลมปราณเดือด 10,000 เม็ด โอสถหลอมกระดูก 10,000 เม็ด โอสถสองชนิดนี้คงตรงตามสิ่งที่ท่านแกนด์ดยุคต้องการที่สุด เพราะการเพิ่มการบ่มเพราะของอัศวินของท่านที่พึ่งเดินทางมา โอสถสองชนิดนี้จะมีประโยชน์ต่อท่านที่สุด”

“โอ้ว! ช่างเป็นข่าวกลองที่สุดยอดจริงๆ”

“ขอบคุณที่ท่านชมพวกเราขนาดนี้ อย่างที่ท่านรู้ พวกเราไม่ใช่เพียงสมาคมธรรมดาที่จะปรุงโอสถขายเท่านั้น การเคลื่อนไหวกำลังคนแบบผิดปกติก็ต้องรู้อยู่แล้ว”

แจนด์ลาส ยิ้มตอบด้วยใบหน้าปั้นยิ้ม ตามจริงก็พอเดาได้อยู่หรอกว่าพวกนี้มีหน่วยข่าวกรองขนาดไหน แต่ว่า ผมไม่คิดเลยว่าจะตรวจสอบยันกำลังคนเพียง 1,000 คน ด้วยเบบนี้ ถ้าพวกนี้รู้เรื่องก็คงไม่ต้องพูดถึงตระกูลอื่นๆ ในจักรวรรดิแล้วละ เหอๆ

ทว่า เรื่องเม็ดโอสถทั้งสองที่แจนด์ลาสเสนอออกมาก็ถือว่าเป็นของที่ไม่เลว ของพวกนั้นต่างก็เป็นของระดับเริ่มต้นของผู้บ่มเพราะพลัง แต่มันก็ไม่ได้หาซื้อได้ง่ายๆ แถมยังจำนวนขนาดนั้นอีก

หึหึ! ถือว่าเป็นข้อเสอนที่ยอมรับได้ แต่…. มันยังไม่พอหรอก

“ข้าพอใจโอสถที่ท่านเสนอมาก เพียงแต่ว่า ข้าอยากได้ยินราคาของมันพวกมันด้วย ตามที่ข้ารู้มาเหมือนว่าร้านขายโอสถที่รับไปจากพวกท่านจะขายราคาหน้าร้านอยู่ที่ 10 เหรียญทอง ต่อเม็ด….”

“ถูกต้องแล้ว! พวกนั้นรับจากพวกเราไปแล้วบวกราคาขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น พวกเราอยากให้คนธรรมดาที่ไม่ใช่ขุนนาง หรือคนของตระกูลใหญ่เข้าถึงพวกมันด้วย”

เหอๆ ช่างกล้าพูดออกมาได้นะ เม็ดโอสถที่โดนขายออกไปมันโดนพวกขุนนางจองเอาไว้หมดแล้ว ดีไม่ดีราคามันอาจจะแพงกว่าที่ฉันรู้มาก็ได้ เฮ้อ~ แต่ก็เอาเถอะ เถียงกับหมอนี่ไปมันก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี

“ข้าเสนอราคาให้ท่านที่ซื้อจำนวนมากที่ 8 เหรียญทอง”

ผมพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มหลังได้ยินราคา ถึงจะแพง แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่คิดเอาไว้

“เป็นราคาที่ข้ายอมรับ เพียงแต่ว่าข้าต้องการเท่ากันในทุกๆ เดือน!!”

“เอ่ะ?!!?!?!”

ใบหน้าแจนด์ลาสแสดงความตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดในทันที เม็ดยาจำนวนมากแถมยังต้องการทุกเดือนแบบนั้นอีก ต่อให้ขอทานที่ขอทานตามถนนมาได้ยินก็ตกใจกับสิ่งที่ผมพูดไปเหมือนกันนั่นแหละ เม็ดโอสถขนาดนี้ต่อให้เป็น จักรพรรดิสวรรค์ ก็ไม่เคยซื้อพวกมาก่อน

“ทะ ท่านแกนด์ดยุค ท่านกำลังล้อข้าเล่นอยู่หรือ???”

“ข้าไม่ได้พูดเล่น ข้าต้องการแบบที่ข้าบอกไปจริงๆ ถ้าเจ้าสามารถหาเพิ่มให้ได้มากกว่านี้ข้าก็จะซื้อมัน หรือถ้าต้องเพิ่มอะไรนิดหน่อยข้าก็ไม่ขัด”

“คือ….”

แจนด์ลาส หลบตาผมด้วยท่าทางเป็นกังวล ที่พูดออกไปเมื่อกี้คือผมจะสื่อนัยๆ ออกไปว่า ‘เพิ่มเงินให้ก็ได้ แต่ขายให้ข้าคนเดียว’ ท่าทางที่หมอนั่นแสดงออกมาแปลว่าเข้าใจแล้วแน่ๆ หึหึ! เรียบร้อยแล้วสินะ

ก็จริงอยู่ที่สมาคมนักปรุงโอสถค่อยควบคุมกำลังรบแต่ละประเทศเพื่อรักษาสมดุล แต่ว่า สิ่งที่ผมเสนอมันก็ไม่ได้ผิดจากที่พวกนี้ต้องการเลย ที่ผมต้องการคือให้พวกนี้ยกเลิกการซื้อขายกับขุนนางและพ่อค้าทั้งหมดภายในจักรวรรดิ และเอามาขายให้ผมคนเดียวก็เท่านั้น

“ฮูว….”

ในที่สุดแจนด์ลาสก็ถอนหายใจออกมา แบบว่าตัดสินใจอะไรได้แล้ว

“ข้าต้องการเดือนละ 1 ล้านเหรีญทอง เม็ดโอสถทั้งสองอย่าง อย่างละ 40,000 เม็ด จะส่งไปให้ท่านเพียงคนเดียวภายในจักรวรรดินอกจากราชวงศ์ ถ้าท่านไม่ยอมรับ ข้าก็คงจะต้องปฏิสะ-”

“ตกลง 1 ล้านเหรียญทอง!!”

“ครับ???”

ใบหน้าแจนด์ลสเต็มไปด้วยความตกใจอีกครั้ง หนึ่งล้านเหรียญทองสำหรับตระกูลธรรมดาควไกลเกินเอื้อม ทว่า สำหรับผมแล้วมันไม่ได้มากมายอะไรเลยสักนิด ก็จำนวนเม็ดยาที่เพิ่มขึ้นมาขนาดนี้ 40,000 เม็ด แถมยังเป็นโอสถทั้งสองชนิดอีก หึหึ! ถึงแพงแต่ก็คุ้มค่าเมื่อเอามาเทียบกับอนาคตของมนุษย์

“ท่านเอาจริงงั้นเหรอ???”

“เชิญท่านไปเอาสัญญามาได้เลย ตอนนี้ท่านก็น่าจะรู้ดีว่าข้ามีเงินเท่าไหร่ใช่ไหม”

“เรื่องนั้น…”

แจนด์ลาสทำเสียงเบาๆ เพราะไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ ในเรื่องของกองกำลังทหารมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ต้องสืบให้รู้เอาไว้ แต่เรื่องงบการเงินมันไม่เหมือนกัน ถ้าถูกจับได้ว่าตรวจสอบเรื่องภายในของตระกูลขุนนางระดับสูงของจักรวรรดิ ต่อให้เป็นสมาคมนักปรุงโอสถก็ไม่อาจรับเรื่องนี้ได้ไหว

“ถ้าไม่ต้องการพูดก็ไม่เป็นอะไร ถ้างั้นพวกเรามาเซน-”

“เดี๋ยวก่อน!!!! ก่อนที่ข้าจะเซนสัญญากับท่าน ข้าอยากถามอะไรท่านให้แน่ใจก่อน และข้าอยากให้ท่านพูดออกมาตามจริงกับข้าด้วยท่านแกนด์ดยุค ถ้าข้ารู้สึกว่าท่านโกหกข้าจะยกเลิกการซื้อขายทั้งหมดทันที”

“หืม~ นี่ท่านกำลังขู่ข้างั้นเหรอ”

แจนด์ลาสส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ

“ไม่ใช่แบบนั้น เพียงแต่ว่ามันเป็นหน้าที่ของข้าเท่านั้น”

เหอ! ชักรู้สึกไม่พอใจหมอนี่แล้วสิ แต่ยังไงก็เพื่อความแข็งแกร่งของทหาร ถึงจะบอกว่าไม่ขู่แต่ถ้าตอบอะไรที่มันไม่พอใจก็เท่ากับว่ายกเลิกการซื้อขายไม่ใช่หรือไง ชิ! …อดทนเอาไว้ก่อนตัวเรา ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาจัดการกับพวกสมาคมนักปรุงโอสถ

หลังจากพยามใจเย็นลงสักพัก ผมก็พูดต่ออีกว่า

“เชิญท่านถามมาได้เลย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด