การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 21 ระบบกองทัพ

ตอนที่ 21 ระบบกองทัพ

“ทั้งหมดร่วมตัว!!!”

เมื่อผมเดินมาถึงได้ไม่นาน ผมก็มาถึงลานฝึกของตระกูลแล้วไคเซอร์ก็ตะโกนออกคำสั่งทันที อัศวินทั้งหมดที่เรียกมาก็มาตั้งแถวตามคำสั่งด้านหน้าของผม เป็นแบบที่คิดเอาไว้ ระดับพลังลมปราณแท้จริง ขั้นที่ 5 – 7 ความแข็งแกร่งของอัศวินเหล่า… ไม่สิ! พวกนี้ไม่ใช่อัศวิน ชื่ออัศวินมันเป็นเพียงชื่อเรียกเท่านั้น

อันที่จริง พวกนี้เป็นทหารต่างหาก

ทหาร!

อัศวิน!

สองอย่างนี้มีความแตกต่างกันนิดหน่อย แต่ถ้าให้พูดสำหรับโลกนี้มีก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ เพียงแต่ว่าถ้าเป็นอัศวินจะได้มีหน้ามีตาในสังคมมมากกว่า ส่วนพวกอัศวินที่ยืนอยู่ด้านหน้าของผมตอนนี้ร่างกายดูแล้วอยู่ในสภาพไม่พร้อมเอามากๆ อายุแต่ละคนก็คงประมาณ 20 – 30 ปี แต่ว่า ขนาดใส่ชุดเกราะอยู่ยังเห็นบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้อย่างชัดเจน แววตาก็เหมือนกัน พวกนี้ทั้งหมดมีแววตาที่ใช้ได้ของทหารกันทั้งนั้น คนพวกนี้คงผ่านการต่อสู้อย่างหนักมาแบบไม่ต้องสงสัย

นี่แหละ! แบบนี้แหละที่ฉันต้องการ!

“ท่านครับ อัศวินเหล่านี้เดินทางมาตามคำสั่งของท่าน ทุกคนไว้ใจได้แน่นอนเพราะทุกคนข้าฝึกขึ้นมาเองกับมือ แถมพวกนี้ยังผ่านการต่อสู้มาเป็นร้อยครั้ง ท่านจะไม่ผิดหวังในความสามารถของคนเหล่านี้แน่”

ไคเซอร์ เริ่มอธิบายออกมากับภาพอัศวินด้านหน้า และจากที่ฟังหมอนี่พูดออกมามันก็คงเป็นเรื่องจริง อาณาเขตทางเหนือเต็มไปด้วยสงครามตลอดเวลา แล้วด้วยสถานะของคนเหล่านี้การจะโดนส่งไปทำสงครามแบบไม่คำนึงถึงความปลอดภัยมันก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้

แต่ว่า ด้วยการทำแบบนั้นมันก็เป็นเรื่องดีสำหรับผมเช่นกัน กำลังหารที่แข็งแกร่งเพียงร่างกายและระดับพลังมันไม่พอหรอก เมื่อสงครามแห่งหายะนะมาถึง จิตใจก็ต้องแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน เมื่อเวลานั้นมาถึงสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันมันจะกลายเป็นเด็กกำลังตีกันทันที

“ระดับพลังใช้ได้ แล้วแต่ละคนขี่ม้าเป็นหมดใช่ไหม?”

“แน่นอนครับ ในแนวหน้าพวกเขาต่างก็เป็นหน่วยทหารม้าที่ช่วงเหลือสงครามหลายจุด ฝีมือการขี่ม้าข้าคิดว่าคงทำได้ดีที่สุดในทางเหนือแล้ว”

เยี่ยม! กองทัพในสนามรบจะแบ่งออกเป็นสามกองกำลังรบหลักๆ อย่างเช่น พลทหารราบ!  พลทหารม้า! พลทหารธนู! ทหารม้าและธรูมันแยกย่อยไม่ค่อยมากเพราะมันตายตัวอยู่แล้ว แต่ว่า สำหรับทหารราบจะแบ่งออกเป็นหลายหน่วย พลดาบ! พลโล! พลหอกและพลอื่นๆอีกมากมาย ตามการใช้งานของประเทศนั้นๆ

แต่ ถ้าพูดถึงเรื่องการทำลายก็ต้องทหารม้านี่แหละ เหล่าทหารม้าถูกเรียกว่าเป็นกองทัพที่มีพลังทำลายเยอะที่สุดเพราะทั้งความรุนแรงและรวดเร็วในการโจมตี ถ้าคนพวกนี้ขี่ม้าไม่เป็นผมก็ว่าจะฝึกให้ขี่อยู่แล้ว แต่ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจขึ้นเยอะ

เอาละ! มาเริ่มจัดการเลยดีกว่า…

“ไคเซอร์ ทหารทั้งหมดมีตามที่เจาบอกเอาไว้ใช่ไหม?”

“ครับ! จำนวน 1,000 คน ตามที่ข้าบอกกับท่านเอาไว้ แต่ละระดับพลัง…”

“เรื่องระดับพลังไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าได้ฝึกนิดหน่อยพวกนี้พลังก็กระโดดเพิ่มขึ้นกันเอง แต่ก่อนอื่น ตอนนี้พวกเราต้องมาจัดตั้งระบบกองทัพใหม่กันก่อน”

“ครับ???”

ไคเซอร์ อุทานสีหน้างุนงงหลังผมพูดจบ ระบบกองทัพ! ว่ากันว่าระบบกองทัพของจักรวรรดิเป็นระบบที่ดีที่สุดในทวีปแห่งนี้ เหล่าประเทศรอบข้างถึงจะมีทหารที่มีความสามารถจำนวนเท่ากัน ระดับพลังเท่ากัน แต่พอเอามาสู้จริงๆ ก็ไม่สามารถสู้กับทหารของจักรวรรดิได้ ถ้าจะพูดให้ถูก ก็ต้องพูดว่าระบบกองทัพและรูปขบวนไม่สามารถสู้กับกองทัพจักรวรรดิได้ต่างหาก

อย่างโลกที่ผมเคยจากมา ก็มีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในประวัติศาสตร์ จักรวรรดิโรมัน! พวกนั้นเป็นประเทศที่ขยายอาณาเขตปกครองได้เยอะมากในประวัติศาสตร์ แต่กำลังทหารที่พวกนั้นมีก็ไม่ได้มากเท่าไหร่กับอาณาเขตที่ปกครองได้ แต่ว่า ถึงจะมีทหารน้อยและอาณาเขตปกครองมากมายจนเกินความจำเป็นอยู่ก็ตาม ก็ไม่มีทหารอาณาจักรหรือประเทศไหนสามารถเอาชนะพวกนั้นได้ในยุคที่รุ่งเรื่องเลยสักคน

ส่วนเหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็แน่นอน ระบบกองทัพ! เพราะระบบกองทัพของจักรวรรดิโรมันเป็นระบบต่อสู้แบบเป็นกลุ่ม เท่ากับว่า เมื่อศัตรูเข้าต่อสู้หนึ่งครั้งไม่ได้ต่อสู้กับทหารเพียงหนึ่ง แต่ต้องเจอกับทหารเป็นกองทัพที่ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้แทน แต่ ผมเองก็ไม่รู้จักรระบบการต่อสู้แบบโรมันหรอกเพราะผมไม่ได้ศึกษาอะไรลงลึกขนาดนั้น แถมระบบกองทัพแบบนั้นมันเลื่อนหานไปในประแสเวลาแล้วด้วย

“ท่านแกนด์ดยุค ขอโทษที่ข้าต้องพูดแบบนี้ แต่ท่านกำลังทำเรื่องผิดพลาดอยู่นะครับ ระบบกองทัพของจักรวรรดิเป็นระบบที่ดีที่สุดในการต่อสู้ และพวกทหารเหล่านี้ก็ผ่านการฝึกมาแล้วด้วย ข้าคิด-”

“เจ้าพูกถูกที่ระบบของจักรวรรดิดีสุด แต่มันไม่พอ!!”

ผมตอบไคเซอร์ที่กำลังพยามอธิบายออกมาอยู่ ก็จริงที่ระบบมันดีที่สุดแต่มันก็เฉพาะตอนนนี้เท่านั้นแหละ เมื่อเวลามาถึงทุกคนก็จะรู้ว่าระบบกองทัพแบบจักรวรรดิมันยังไม่พอในการทำสงครามกับพวกมัน

“แต่…”

“ไม่ต้องพูดอะไรต่อแล้ว เจ้าแค่ทำตามคำสั่งของข้าก็พอ!!!”

“….ครับ”

ไคเซอร์ ก้มหน้าตอบด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก แต่นี้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่หมอนี่จะแสดงท่าทางต่อต้านขนาดนี้ออกมา เมื่อเข้าสู้การต่อสู้หรือสงคราม นั่นก็หมายถึงชีวิตของเหล่าทหารและอัศวินที่จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อยู่ๆมาบอกว่าระบบที่ดีที่สุดมันยังไม่พอ

ถ้าเกิดเป็นผมได้ยิน ผมก็ไม่พอใจเหมือนกัน เหอๆ แต่หมอนี่แสดงท่าทางแบบนี้ไม่นานหรอก เมื่อได้ฝึกระบบกองทัพที่ผมต้องใช้ต่อสู้กับเผ่าเทพและเผ่าปีศาจ ที่ ระดับพลังเหนือกว่า! จำนวนเหนือกว่า! แล้วยังสามารถเอาชนะพวกมันได้ เขาต้องเปลี่ยนความคิดที่มีอยู่ตอนนี้แน่นอน หึหึ!

หลังจากนั้นผมก็เริ่มฝึกพวกทหารตามระบบที่ใช้เมื่อสมัยก่อน ก่อนที่ผมจะโดนส่งตัวกลับมาทันที

อันดับแลกผมสั่งให้เหล่าทหารแบ่งเป็นหน่วยเล็กๆ เรียกว่าหน่วย พลห้า! แล้วแต่งตั้งให้ทหารหนึ่งคนในห้าคนมีอำนาจเป็นหัวหน้าในการฝึกและในสนามรบ จากนั้นก็หน่วย พลสิบ! ให้หน่วยพลห้าทั้งสองมารวมกันแล้วแต่งตั้งหนึ่งคนให้เป็นหัวหน้าหน่วยพวกนั้น

ด้วยการทำแบบนี้มันจะทำให้การบัญชาการไหลลื่นขึ้นอย่างมาก แต่ ไม่ใช่ว่าจะมีหน่วยเยอะแล้วจะดีเสมอไปเพราะผู้บัญชาการก็ต้องคิดให้รอบครอบก่อนสั่งการต่างๆ ว่าให้ทหารในหน่วยนั้นๆ ไปทำอะไรกันด้วยเพื่อให้ระบบนี้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุด

แล้วหลังจากเรื่องระบบหน่วยเรียบร้อยก็เป็นการสอนกระบวนทัพต่างๆ กระบวนโจมตี! การบวนป้องกัน! กระบวนถอยทัพ! การจะให้พวกนี้ออกรบในฐานะหน่วยทหารม้าที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูล วอเตอร์ ก็ต้องสอนให้เป็นทุกอย่างเท่าที่ผมสามารถทำได้

นับจากวันนี้อีกไม่นาน ทุกประเทศทั่วทวีปจะต้องรู้จักทหารม้าหน่วยนี้แน่ๆ หึหึ

….

หลังจากผ่านมาหลายชั่วโมง ในที่สุดผมก็สอนระบบพื้นฐานไปจนหมด หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกของพวกนี้เท่านั้นว่าจะสามารถทได้แบบที่ผมตั้งเป้าได้ไหม แต่ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก เพาะยังไงพวกนี้ก็มีความสามารถพื้นฐานเพียงพออยู่ จิตใจ! ร่างกาย! สองอย่างนี้มีเพียงพอแล้ว

หลังทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็หันไปทางไคเซอร์ที่กำลังฝึกกับพวกทหารอยู่ หมอนั่นหลังจากผมอธิบายระบบให้ฟังก็สีหน้าดีขึ้นเยอะ คงเข้าใจแล้วละว่าระบบที่ผมเปลี่ยนมันสุดยอดขนาดไหน ไคเซอร์ต่อสู้ในสนามรบมามากมาย เรื่องสายตามองกระบวนทัพก็คงอยู่ระดับสูงเช่นกัน

เรื่องระบบเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คงเป็นเรื่องทรัพยากรในการบ่มเพราะ

“ไคเซอร์ มาทางนี้หน่อย”

“ครับท่าน?”

ไคเซอร์ เดินตรงมาด้วยสีหน้าสงสัย

ใจจริงก็อยากให้หมอนี่อยู่ฝึกกับพวกทหารต่อไปอยู่หรอก แต่ว่า ผมเองก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น จะออกไปไหนโดยไม่มีองครักษ์ที่แข็งแกร่งก็คงไม่ได้ ยิ่งตอนนี้พลังโดนเปิดเผยไปแล้วด้วย เหอๆ คนระดับเราต้องมาให้อัศวินปกป้องแบบนี้มันช่าง…. เฮ้อ~ อยากกลับไประดับพลังเท่าเดิมแล้วสิ

เมื่อไคเซอร์เดินมาถึง ผมก็พูดต่ออีกว่า

“เตรียมตัวออกเดินทาง ข้าจะไปสมาคมนักปรุงโอสถ!!”