ตอนที่แล้วWS บทที่ 380 การประชุมสุดยอด PART 5
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 382 การประชุมสุดยอด PART 7

WS บทที่ 381 การประชุมสุดยอด PART 6


กำลังโหลดไฟล์

เมอร์ลินลงจากเวทีอย่างพึงพอใจ ในขณะที่ นักเวทย์หลายคนยังคงตกตะลึง จากรอบแรก เมอร์ลินใช้เพียงเวลาเพียงสั้น ๆ เพื่อจบการต่อสู้

ในรอบแรกลาเนียได้ร่ายวังวนแห่งความมืด เมื่อเห็นว่าไม่มีผลกระทบต่อเมอร์ลิน เขาจึงยอมแพ้ทันที อย่างไรก็ตาม ลาเนียไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก ดังนั้นจึงไม่ได้รับความสนใจมากนัก

มันแตกต่างออกไปสำหรับรอบที่สอง ปราการเทอร์ร่าเป็นองค์กรของนักเวทย์ขนาดกลางและเบิร์กส์ก็มีพลังที่น่าเกรงขามพร้อมกับรูปแบบการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ มีนักเวทย์หลายคนที่คิดว่าเบิร์กส์จะสามารถเข้าสู่รอบที่สามหรือแม้แต่รอบที่สี่ได้

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคิดคาดว่าเมื่อเมอร์ลินที่ร่ายมนต์เพียงครั้งเดียว เบิร์กส์ถึงกับยอมรับความพ่ายแพ้

หากพวกเขาไม่ได้เห็นสิ่งนี้ด้วยตาตนเอง ก็คงไม่มีใครเชื่อสิ่งนี้! ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นด้วยตาของพวกเขาเองแต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังสงสัยอยู่ว่าวังวนแห่งความมืดเป็นเพียงคาถาระดับสาม แม้ว่าคาถาธาตุมืดนั้นจะไม่ธรรมดาแต่นักเวทย์อย่างเบิร์กส์ย่อมมีพลังจิตที่เหนือกว่าระดับของเขามาก น่าจะไปถึงระดับสี่หรือแม้แต่ระดับห้า คาถาธาตุมืดส่วนใหญ่จึงไม่น่าจะทำอะไรเบิร์กส์ได้

อย่างไรก็ตาม เบิร์กส์ยอมจำนนเมื่อเมอร์ลินเพิ่งร่ายวังวนแห่งความมืดไม่กี่อึดใจ กระบวนการต่อสู้ของพวกเขาดูค่อนข้างสงบและไม่สามารถเทียบได้กับการต่อสู้ที่ดุเดือดอื่น ๆ ในสนามประลอง

“เกิดอะไรขึ้นที่นั่น? เหตุใดเบิร์กส์จึงยอมรับความพ่ายแพ้ในทันที”

“พลังของเบิร์กส์นั้นแข็งแกร่งจริง ๆ ฉันไม่สามารถรับประกันชัยชนะได้หากฉันต้องต่อสู้กับเขาแบะฉันเคยเห็นวังวนแห่งความมืดมาก่อนเช่นกัน มันจะทำให้เบิร์กส์ยอมแพ้โดยทันทีได้อย่างไร”

เกิดความสงสัยขึ้นบนใบหน้าของนักเวทย์จากนครปาฏิหาริย์ มีผู้ชมเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถแยกแยะความลึกลับที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ระหว่างเมอร์ลินและเบิร์กส์ได้

“นั่นเป็นเพราะพลังปีศาจแพนโดร่า ดวงใจแห่งความมืด!”

ทันใดนั้น เด็กอัศจรรย์ที่หลับตาอยู่ด้วยท่าทางสงบพูดช้า ๆ ชี้ให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

“ดวงใจแห่งความมืด? มันคือดวงใจแห่งความมืดในตำนาน เมอร์ลินผู้นี้ได้ฝึกฝนมัน โอ้ ไม่น่าแปลกใจที่เบิร์กส์ไม่สามารถสู้กับเขาได้!”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เด็กอัศจรรย์พูด นักเวทย์จากนครปาฏิหาริย์ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเคารพต่อเด็กอัศจรรย์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สงสัยในสิ่งที่เขาพูด

หลังจากที่เขาพูดจบ เด็กอัศจรรย์ก็จ้องมองเมอร์ลินอย่างลึกซึ้ง จากนั้นเขาก็หลับตาลงอีกครั้ง

"หื้ม?"

เมอร์ลินดูเหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่างและหันกลับมาอย่างกะทันหัน เขาจ้องมองไปไกล ที่นั่นเขาเห็นเด็กอัศจรรย์หลับตาลงอย่างสงบ

“ฉันทำให้เขาสนใจฉันได้อย่างงั้นหรือ? แต่ก็ดี ไม่ช้าก็เร็วฉันต้องเผชิญหน้ากับเด็กอัศจรรย์!”

เมอร์ลินพึมพำด้วยเสียงต่ำ เขากังวลเกี่ยวกับเด็กอัศจรรย์ แม้ว่าความสามารถของเขาจะพัฒนาขึ้นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีการรับประกันว่าเขาจะสามารถเอาชนะเด็กอัศจรรย์ได้ เป้าหมายของเขาคือการต่อสู้กับเด็กอัศจรรย์และการประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำเช่นนั้น

นอกจากเด็กอัศจรรย์เบลลัคแล้ว นักเวทย์จากหนามแห่งเงาก็เริ่มสังเกตเห็นเมอร์ลินด้วยเช่นกัน เมอร์ลินผู้ซึ่งฝึกฝนดวงใจแห่งความมืดและสร้างคาถาแห่งความมืดระดับสาม วังวนแห่งความมืด เขามีพลังมากพอที่จะทำให้เบลลัคสนใจ

“ดวงใจแห่งความมืด หากฝ่ายตรงข้ามมีพลังจิตที่ต่ำกว่าระดับหก เขาจะไม่มีทางแพ้ใคร!”

ดูเหมือนว่าเบลลัคจะรู้จักดวงใจแห่งความมืดเป็นอย่างดีและแววตาของเขาฉายแววไม่สบายใจออกมา อย่างไรก็ตาม ท่าทางของเขายังคงสงบ

ถึงแม้ว่าเมอร์ลินผู้ครอบครองดวงใจแห่งความมืดมีค่าควรแก่ความสนใจของเขาในตอนนี้ แต่ถ้าจะมีใครจะมีทำให้เบลลัคคนนี้ต้องกลัว แค่ดวงใจแห่งความมืดอย่างเดียวคงไม่พอ!

ทางบราตูจากป้อมปราการทรายดำก็เช่นกัน เขามองไปยังเมอร์ลิน และใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมเช่นกัน ในระหว่างการประชุมสุดยอดแต่ละครั้ง อัจฉริยะบางคนจะปรากฏตัวออกมา เพราะนี่คือจุดประสงค์ของการประชุมสุดยอด ดูเหมือนว่าเมอร์ลินจะเป็นหนึ่งในอัจฉริยะเหล่านั้น

นักเวทย์สองคนจากป้อมปราการทรายดำซึ่งคาดว่าเบิร์กส์จะสอนบทเรียนให้กับเมอร์ลินแต่ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เป็นดังที่พวกเขาคิดไว้ เมื่อเห็นว่าเบิร์กส์ยอมจำนน กรามของพวกมเขาก็ตกลงและพวกเขาก็ไม่หายจากอาการช็อกเป็นเวลานาน

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้…เจ้านั่นแค่โชคดีเท่านั้น”

นักเวทย์สองคนนี้พึมพำกับตัวเอง แต่พวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งพูดไป...

ไม่นานรอบที่สามก็เริ่มขึ้น เมอร์ลินเริ่มมองไปยังสนามประลอง ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่ผ่านเข้าสู่รอบที่สามมักจะเป็นพ่อมดจากองค์กรนักเวทย์ขนาดกลาง พวกเขาเป็นคนที่คู่ควรกับคำว่า ‘อัจฉริยะ’ อย่างแท้จริง

ถึงแม้ภายนอกพวกเขาเหล่านี้จะเป็นแค่นักเวทย์ระดับสาม แต่หลายคนจงใจไม่เลื่อนระดับ โดยชะลอการสร้างคาถาระดับสี่เพื่อฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่าให้มากขึ้น ยังมีบางคนที่กำลังศึกษาการเล่นแร่แปรธาตุที่ลึกซึ้งและอยู่ในขั้นตอนของการสะสมพลัง

อย่างไรก็ตาม นักเวทย์เหล่านี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน ก็คือถ้าหากพวกเขาต้องสู้กับนักเวทย์ระดับสี่หรือระดับห้าหรือระดับหก พวกเขาจะชนะการต่อสู้ได้ เมื่อพวกเขากลายเป็นนักเวทย์ระดับสี่พลังโดยรวมของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

นักเวทย์เหล่านี้จะกลายเป็นนักเวทย์ที่ทรงพลังที่สุดในอนาคต!

หากนักเวทย์สามารถประเมินความแรงของคาถาได้ตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความซับซ้อนของคาถา จำนวนพลังธาตุ พลังปีศาจแพนโดร่าที่ฝึกฝน พลังแห่งการเล่นแร่แปรธาตุและความเข้าใจในอักษรรูน นักเวทย์ที่สามารถเข้ามาสู่รอบที่สามโดยทั่วไปมักใช้คาถาสี่ธาตุเป็นอย่างน้อย

แน่นอนว่าบางคนได้สร้างพลังปีศาจแพนโดร่าแต่พลังปีศาจแพนโดร่าที่สามารถหลอมรวมกับเวทมนตร์นั้นหายากมาก

ดังนั้นการต่อสู้ในเวทีในปัจจุบันจึงน่าตื่นเต้นกว่าสองรอบก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน คาถาต่าง ๆ, พลังปีศาจแพนโดร่า, วงแหวนเวทย์, อุปกรณ์เวทมนต์สุดมหัศจรรย์และอื่น ๆ จะถูกนำมาแสดงทีละรายการบนเวที

ไม่นานก็ถึงรอบของเมอร์ลินอีกครั้ง คราวนี้ คู่ต่อสู้ของเขาเป็นพ่อมดจากองค์กรนักเวทย์ขนาดกลาง ผู้ซึ่งฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่ามามากมาย อย่างไรก็ตาม พ่อมดผู้นี้ไม่ได้ทรงพลังเท่าเบิร์กส์เพราะพลังปีศาจแพนโดร่าของเขาไม่ได้หลอมรวมกับคาถา พวกมันเป็นพลังปีศาจแพนโดร่าที่เรียบง่ายและอ่อนแอที่สุด

จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเมอร์ลินที่จะจัดการ เขาร่ายวังวนแห่งความมืดทันที ลากคู่ต่อสู้ของเขาให้ตกลงในภาพลวงตา

เมื่อนักเวทย์ถูกจับในภาพลวงตา ก็ไม่ต่างกับมือของพวกเขาก็ถูกมัดเอาไว้ ดังนั้น พวกเขาที่ไม่สามารถต้านทานวังวนแห่งความมืดของเมอร์ลินจึงยอมจำนนโดยปริยาย

ในรอบที่สาม เมอร์ลินเป็นผู้ชนะ!

ในรอบที่สี่ เมอร์ลินเป็นผู้ชนะ!

ในรอบที่ห้า เมอร์ลินเป็นผู้ชนะ!

เมอร์ลินชนะห้ารอบติดต่อกัน ตั้งแต่รอบที่สามเป็นต้นไป กลยุทธ์ของเขาเรียบง่าย เขาจะร่ายวังวนแห่งความมืดทันทีที่เริ่มต่อสู้ ถึงแม้กลยุทธ์จะซ้ำซากแต่ก็ไม่มีนักเวทย์คนไหนสามารถต้านทานมันได้

ดังนั้น จนถึงรอบที่ห้า ไม่มีนักเวทย์คนใดสามารถหยุดเมอร์ลินได้เลย เมอร์ลินเอาชนะคู่ต่อสู้โดยใช้เวลาเพียงสั้น ๆ เรื่องเวลาเขาเป็นรองแค่เด็กอัศจรรย์!

แม้แต่บราตูจากป้อมปราการทรายดำและเบลลัคจากหนามแห่งเงา ทั้งสองต่างยอมรับว่าพลังของเมอร์ลินเป็นรองแค่เด็กอัศจรรย์เท่านั้น

แน่นอนว่าพลังของคน ๆ หนึ่งไม่สามารถกำหนดได้เพียงว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเอาชนะคู่ต่อสู้ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้เป็นการบ่งบอกทางอ้อมถึงความแข็งแกร่งของเมอร์ลิน ย้อนกลับไปในตอนนั้น แม้แต่ไคลส์ก็ไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบที่ห้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้

“มันเป็นรอบที่ห้าแล้ว พ่อมดเมอร์ลิน ตอนนี้คุณเป็นศูนย์กลางของความสนใจของทุกคน!”

แม่มดซาร่าห์กล่าวด้วยความยินดี ดินแดนมนต์ดำเป็นเพียงองค์กรเล็ก ๆ และไม่ได้โดดเด่นมากนักในการประชุมสุดยอด นักเวทย์หลายคนไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อเมื่อกล่าวถึงครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม คราวนี้ชื่อของดินแดนมนต์ดำได้แพร่หลายไปทั่วโลกของนักเวทย์ องค์กรขนาดใหญ่ ขนาดกลางและโดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดเล็กกำลังให้ความสนใจดินแดนมนต์ดำและเมอร์ลิน

นับตั้งแต่ศตวรรษที่ผ่านมา มันเป็นครั้งแรกที่มีคนอย่างเมอร์ลิน พ่อมดจากองค์กรนักเวทย์ขนาดเล็กเข้าสู่รอบที่ห้าของการประชุมสุดยอด นี่เป็นเกียรติอย่างยิ่ง! บรรดาผู้ที่มาจากดินแดนมนต์ดำที่มีใบหน้าเศร้าหมองได้แปรเปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจ

ในทางกลับกัน หัวใจของเมอร์ลินก็สงบและมั่นคง มันเป็นรอบที่ห้าแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เจอบราตู, เบลลัคหรือเด็กอัศจรรย์

บุคคลทั้งสามนี้เป็นเป้าหมายปัจจุบันของเมอร์ลิน โดยเฉพาะเด็กอัศจรรย์ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักเวทย์รุ่นเยาว์ทางตอนใต้ทั้งหมด เมอร์ลินปรารถนาที่จะต่อสู้กับนักเวทย์อัจฉริยะอย่างแท้จริงเช่นเขา

อย่างไรก็ตาม เขาต้องผ่านรอบที่หกก่อน หลังจากรอบที่หก จะเหลือนักเวทย์เพียงสี่คนเท่านั้น เมื่อถึงจุดนั้น เมอร์ลินจะมีโอกาสสูงที่จะต่อสู้กับเด็กอัศจรรย์และอีกสองคน

“รอบที่หก พ่อมดเมอร์ลินจากดินแดนมนต์ดำและพ่อมดเฟอร์ราดีจากดินแดนวายุ!”

ทันทีที่ผู้ประกาศพูดจบ ฝูงชนก็เริ่มพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น มันไม่เหมือนกับรอบก่อน ๆ ที่เมอร์ลินปรากฏตัวในสนามประลองแล้วไม่มีใครสนใจ

เมื่อผ่านรอบที่สาม สี่ และห้าแล้ว เมอร์ลินก็ใช้เพียงวังวนแห่งความมืด ไม่มีใครสามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้ ดังนั้น ทันทีที่เมอร์ลินปรากฏตัวในตอนนี้ เขาจะดึงดูดความสนใจและการสนทนาของนักเวทย์หลายคน

ในหมู่พวกเขา มีหลายคนที่อยากจะดูว่ามีใครที่สามารถต้านทานวังวนแห่งความมืดของเมอร์ลินได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งมีใครบ้างที่สามารถทำลายวังวนแห่งความมืดของเมอร์ลินได้?

*หวู่ม*

สายลมอันบางเบาพัดผ่านไปชวนให้น่าฉงน เนื่องจากที่แห่งนี้คือห้องโถงใหญ่ที่ถูกปิดอย่างแน่นหนาไม่มีทางที่จะมีสิ่งใดเล็ดลอดเข้ามาได้

เมอร์ลินหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาเพิ่งรู้สึกคลื่นของความผันผวนของธาตุลม พวกมันมาจากเฟอร์ราดี คู่ต่อสู้คนปัจจุบันของเขายืนอยู่ตรงข้ามเขาในสนามประลอง

ดินแดนวายุเชี่ยวชาญในคาถาธาตุลม โดยเฉพาะคาถาประเภทเพิ่มความเร็วที่โดดเด่นกว่าองค์กรนักเวทอื่น ๆ

พวกเขามีนักเวทย์ระดับเก้าจำนวนมาก แต่เนื่องจากพวกเขาไม่มีจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ปัจจุบันจึงถูกพิจารณาว่าเป็นองค์กรขนาดกลาง

อย่างไรก็ตาม พลังโดยรวมของดินแดนวายุนั้นเหนือกว่าองค์กรขนาดใหญ่หลายแห่ง ดังนั้น แม้แต่องค์กรขนาดใหญ่ก็ยังให้ความสำคัญกับดินแดนวายุ

แน่นอนว่านักเวทย์จากดินแดนวายุจะมีพลังมหาศาล แล้วเฟอร์ราดีเองก็โดดเด่นแม้ในหมู่นักเวทย์จากดินแดนวายุ

*หวู่ม*

ทันทีที่กรรมการให้สัญญาณเริ่มต้น พายุก็ปรากฏขึ้นและเริ่มทำลายล้างเวที ราวกับพายุทอร์นาโดที่ส่งเสียงหวีดหวิวขณะหมุนเข้าหาเมอร์ลิน

นอกจากนี้ เฟอร์ราดียังรวดเร็วมาก ในชั่วพริบตา เขาได้เร่งไปข้างหน้าและปรากฏตัวต่อหน้าเมอร์ลิน

“ฉันได้ดูการต่อสู้ของคุณมาบ้างแล้ว ฉันรู้ว่าคุณได้ฝึกฝนดวงใจแห่งความมืดและสามารถร่ายเวทย์มนตร์แห่งความมืดอันทรงพลังได้ ฉันยอมรับว่าฉันไม่สามารถต้านทานเวทมนตร์แห่งความมืดของคุณได้ อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน คุณจะไม่มีโอกาสร่ายมัน!”

เฟอร์ราดีดูเหมือนจะมีความมั่นใจสูงสุด เขาแอบสังเกตเมอร์ลินมาเป็นเวลานาน จากนั้นจึงรวมข้อมูลที่ได้รับผนวกกับพลังของเขา  เมื่อเขาอยู่ที่ความเร็วสูงสุดแล้ว เมอร์ลินก็ไม่มีเวลาแม้แต่จะร่ายคาถาแห่งความมืดได้

หากปราศจากมนต์แห่งความมืด เฟอร์ราดีคิดว่า เมอร์ลินก็เป็นเพียงนักเวทย์ระดับสามธรรมดาที่รับมือได้ง่าย ๆ!

“ไม่นะ พ่อมดเมอร์ลินประเมินคู่ต่อสู้ของเขาต่ำเกินไป ทำให้เฟอร์ราดีเข้าประชิดตัวได้ ด้วยความเร็วของเฟอร์ราดี พ่อมดเมอร์ลินจึงไม่มีโอกาสร่ายคาถาแห่งความมืดได้ทัน!”

“ไม่แปลกที่กลยุทธ์ของพ่อมดเมอร์ลินจะถูกมองออก หากไม่มีคาถาแห่งความมืด เขาไม่คู่ควรกับพ่อมดเฟอร์ราดีเลย เฟอร์ราดีสามารถใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของพ่อมดเมอร์ลิน ทำการจู่โจมแบบฉับพลัน เขาเตรียมตัวมาดีมาก ฉันเกรงว่าพ่อมดเมอร์ลินจะต้องหยุดที่รอบที่หก!”

นักเวทย์ที่ผ่านเข้าสู่รอบที่ห้าล้วนน่าประทับใจ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพลาดพลั้งก็จะพ่ายแพ้ได้ในทันที

*พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ…*

ในมือของพ่อมดเฟอร์ราดี ลมกระโชกแรงได้รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ผลักพวกมันไปข้างหน้า พวกมันพุ่งไปทางเมอร์ลิน กลืนกินเขาด้วยพายุลมอันรุนแรงในทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด