461 - ลานพนันหิน
461 - ลานพนันหิน
บนถนนสายเก่าแก่ของเมืองศักสิทธิ์ คนเดินถนนกำลังเข้าๆ ออกๆอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นบริเวณทางเข้าของลานพนันหินของดินแดนศักสิทธิ์ หรือเป็นสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดของเมือง
ในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เย่ฟ่านได้หลอกหลอนลานพนันหินขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก เขาเรียกวิธีการนี้ว่า "การสะสมต้นกำเนิด"
แปดวันติดต่อกันที่เย่ฟ่านออกเดินทางแต่เช้าตรู่และกลับที่พักในช่วงดึกดื่น ลานพนันหินขนาดเล็กพวกนี้แทบจะถูกเขาทำให้ล้มละลายในครั้งเดียว
เขาดำเนินการติดต่อไปเป็นเวลาแปดวัน โดยซื้อศิลาต้นกำเนิด กลับมาและตัดมันด้วยตัวเองที่บ้านของหลี่เหอซุย
หลี่เหอซุยอ้าปากค้าง เขาไม่คิดว่าเย่ฟ่านจะมีความรู้ในด้านนี้ด้วย นี่มันไม่ใช่สมบัติจำนวนเล็กน้อย สิ่งที่เย่ฟ่านรวบรวมมามันทำให้จิตใจของเขาร้อนรุ่มด้วยความโล�
อย่างไรก็ตามสำหรับเย่ฟ่าน นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น มันยังห่างไกลจากคำว่าเพียงพอ แม้ว่าความเร็วเช่นนี้จะน่าทึ่งเป็นอย่างมาก
แต่หากเขาต้องการรวบรวมต้นกำเนิดให้ได้นับล้านจิน เขาต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่มากกว่าหนึ่งปี
นอกจากนี้ มันไม่แน่ว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในเมืองนี้จะอนุญาตให้เขาทำเช่นนี้อีกต่อไป
“ดูเหมือนว่าข้าต้องไปที่ลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว”
ลานพนันหินของดินแดนศักสิทธิ์นั้นพิเศษมาก เจ้าไม่สามารถซื้อหินและตัดมันเองได้ เจ้าจะต้องตัดเปิดหินโดยผู้เชี่ยวชาญของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
นี่เป็นกฎที่เข้มงวดและไม่อาจฝ่าฝืน หากเจ้าไม่พอใจในเรื่องนี้เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาใช้บริการที่นี่
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเริ่มลงมือต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่แล้ว!” เย่ฟ่านตัดสินใจ
ในวันที่เก้า เย่ฟ่านและหลี่เหอซุยเลือกลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าที่อยู่ห่างไกลจากสถานที่อื่นมากที่สุด
พวกเขาได้ยินมาว่ามีคนบ้าแปดคนที่กำลังสร้างปัญหามากมายเมื่อเร็วๆนี้ พวกเขาขู่ว่าจะพาตัวสตรีศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าออกไปด้วย
นักพรตหญิงแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋า ทิ้งความประทับใจต่อเย่ฟ่านไม่น้อย ความแข็งแกร่งของนางนั้นยอดเยี่ยมมาก ในขณะเดียวกันนางก็เคยแสดงความปรารถนาดีต่อเขาครั้งหนึ่ง
เขาต้องการที่จะเห็นว่าคนบ้าที่ไหนที่มันกล้าท้าทายดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าล้อมรอบด้วยไม้สูงตระหง่านปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ มีวิหารตามแบบฉบับของลัทธิเต๋ามากมายอยู่ในบริเวณนี้
ที่ด้านในของลานพนันหินมีคนคุ้นเคยของเย่ฟ่านรออยู่ก่อนแล้ว เขาคือองค์ชายเซี่ยและน้องสาวที่เป็นแม่ชีคนนั้น
“ไม่ทราบว่าครั้งนี้องค์ชายจะต่อสู้กับจินฉีเซียวแห่งตระกูลทองคำก่อน หรือว่าจินฉีเซียวจะต่อสู้กับเหยาเยว่กงแห่งวังอสูรสวรรค์ก่อนกันแน่?” มีคนถาม
“ข้ายังไม่ได้ใส่ใจในปัญหานี้ วันนี้เข้ามาที่นี่ก็เพื่อดูว่าคนบ้าแปดคนนั้นเป็นใครกันแน่”
องค์ชายเซี่ยตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมยก่อนจะเดินเข้าไปด้านในของลานพนันหิน
“เจ้าเด็กนั่นมาที่นี่จริงๆ?” หนึ่งในนั้นอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นเย่ฟ่านกำลังมา
“พี่อู๋เจ้ารู้จักเด็กหนุ่มคนนี้?” มีคนถาม
“ข้าเห็นเขาที่ลานการพนันหินเล็กๆ เขาซื้อหินแตงโมอย่าโง่เขลา ไม่คิดว่าเขาจะกล้ามาที่นี่ด้วย” อู๋จื่อหมิงล้อเลียน
คนอื่นๆได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาทันที รวมทั้งองค์ชายของเซี่ยและแม่ชีตัวน้อย
“เขาเป็นหัวหน้าสาขาแห่งวังห้าธาตุ ชื่ออู๋จื่อหมิง” หลี่เหอซุยส่งการส่งสัญญาณเสียงไปหาเย่ฟ่าน
จากการแนะนำตัวของเขา เย่ฟ่านได้เรียนรู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นลูกหลานของนิกายใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะเทียบไม่ได้กับองค์ชายเซี่ย แต่สถานะของพวกเขาก็สูงส่งมาก
อู๋จื่อหมิงโบกมือให้เย่ฟ่านและพูดติดตลกด้วยรอยยิ้มยั่วยวน
“วันนี้เจ้าอยากมาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าเพื่อซื้อหินแตงโมหรือไม่? เกิดอะไรขึ้นกับหินแตงโมที่เจ้าซื้อก่อนหน้านี้?”
ทุกคนพากันหัวเราะลั่น อู๋จื่อหมิงส่ายหัวและพูดอย่างประชดประชันว่า
"ถึงแม้หินแตงโมอาจจะมีต้นกำเนิดอยู่ภายใน แต่พวกมันก็มีขนาดไม่เกินเมล็ดแตงโมเท่านั้น การที่เจ้าใช้ต้นกำเนิดหลายสิบจินเพื่อซื้อมันนับเป็นเรื่องที่โง่เขลาจริงๆ"
“เด็กน้อยรีบกลับไปเถอะ นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะมา” มีคนส่ายหัวและล้อเลียน
“อย่าดีกว่า พวกเราควรให้เขามาเลือกหินแตงโมอีกสัก 2-3 ก้อน บางทีพวกเราอาจได้หัวเราะสักครั้ง” อู๋จื่อหมิงหัวเราะ
หลายคนอดหัวเราะไม่ได้ แม้แต่องค์ชายเซี่ยก็ยังยิ้มและส่ายหัว
“มีอะไรผิดปกติกับหินแตงโมหรือ ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาเดิมพันกันสักหน่อยเป็นไร?”
หลี่เหอซุยเป็นคนที่เต็มไปด้วยความโลภอยู่แล้ว เมื่อเห็นโอกาสสร้างรายได้ครั้งใหญ่มีหรือที่เขาจะปล่อยผ่าน
“ฮ่าฮ่า..เจ้าต้องการเดิมพันกับพวกเราโดยพึ่งพาเจ้าเด็กที่รู้จักแต่หินแตงโมเท่านั้น ข้าไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ”
อู๋จื่อหมิงหัวเราะและพูดอย่างเย้ยหยัน
“มาเถอะ พวกเจ้ามีความสามารถเท่าไหร่ก็รีบแสดงออกมา”
องค์ชายเซี่ยเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและกล่าวว่า
“จื่อหมิง เจ้ารังแกคนเกินไปแล้ว” .
อู๋จื่อหมิงปฏิเสธอย่างแข็งขันและกล่าวว่า
"มันไม่ใช่ว่าข้าจะรังแกคนอื่น แต่คนพวกนี้มาเพื่อแสดงตลกเท่านั้น"
เย่ฟ่านส่งสัญญาณไปยังหลี่เหอซุย
“ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่เดิมพันให้หนักก็พอ”
"เจ้าเห็นหินแตงโมที่อยู่ด้านหลังไหม รีบเข้ามาหยิบไปเร็ว” คนในกลุ่มของอู๋จื่อหมิงยังคงล้อเลียนไม่หยุด
" ฮ่าฮ่า ... " พวกเขาหัวเราะอย่างสนุกสนาน
"แกะน้อยพวกนี้น่าโมโหจริงๆ" หลี่เหอซุยแสดงความดูถูกอยู่บนสีหน้า
“ไอ้ดำ เจ้าว่าใคร”
คนกลุ่มนี้ต่างก็เป็นลูกหลานของสำนักใหญ่ พวกเขาเหยียดหยันหลี่เหอซุยที่มีผิวดำคล้ำอย่างไม่เกรงกลัว
“แน่นอนว่ามันหมายถึงพวกเจ้า หากพวกเจ้ามีความกล้าก็มาเดิมพันกับพวกเราทั้งหมดในครั้งเดียว” หลี่เหอซุยไม่ได้โกรธเคือง กลับกันเขานั้นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
“เจ้าดำ เจ้ากล้าหรือไม่? เจ้ากล้าเดิมพันกับเราเท่าไหร่?” คนกลุ่มนั้นไม่เชื่อว่าพวกเย่ฟ่านจะมีต้นกำเนิดมากมาย
“พวกเจ้าจะเล่นเท่าไหร่พวกเราจะสนองให้เอง” หลี่เหอซุยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เจ้าพูดมาดีกว่าว่าเจ้าต้องการเล่นเท่าไหร่ " คนกลุ่มนั้นยังคงเยาะเย้ย
"ต้นกำเนิดห้าสิบจิน!" หลี่เหอซุยพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสูง
“ฮ่าๆๆ ห้าสิบจิน เจ้าไม่อายบ้างหรือ ถ้ามีน้อยขนาดนั้นก็รีบไสหัวออกไปได้เลย”
“ไอ้ดำเจ้าจงใจหาเรื่องใช่หรือไม่ เจ้ารู้อยู่แล้วว่าพวกเราไม่เล่นเดิมพันน้อยขนาดนี้ ที่เจ้าทำก็แค่ยั่วโทสะเรา?”
อู๋จื่อหมิงที่หัวเราะจนน้ำมูกน้ำตาไหลก็ยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า
" เด็กโง่สองคนนี้น่าสนใจมาก เอาเถอะข้าจะเล่นเป็นเพื่อนกับพวกเขาเอง”
เย่ฟ่านส่งเสียงบอกหลี่เหอซุยว่า: “ทำเช่นนี้แผนการปลอมเป็นหมูของพวกเราคงใช้ได้เพียงครั้งเดียว”
เดิมทีเขาต้องการฆ่าแกะอ้วนบางตัว แผนการที่แท้จริงของพวกเขาคือต้นกำเนิดที่อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่หลี่เหอซุยดูเหมือนจะมีแผนการของตัวเอง
หลี่เหอซุยกล่าวว่า "ไม่เป็นไร ตราบใดที่ศิลปะต้นกำเนิดของเจ้าดีพอ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องสร้างศัตรูกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพียงรวบรวมต้นกำเนิดจากเด็กน้อยพวกนี้ก็น่าจะพอแล้ว"
“หากพวกเขาทั้งหมดลงมือโจมตีเราหลังจากที่ออกไปข้างนอกล่ะ” เย่ฟ่านถาม เรื่องนี้คือปัญหาที่ร้ายแรงที่สุด
"ไม่ต้องห่วง มีของบางอย่างอยู่ในมือของข้า ขอเพียงเปิดเผยมันออกมาต่อให้เป็นบรรพบุรุษของพวกเขาก็ต้องหน้าถอดสีอย่างแน่นอน”
“เหยาเยว่กงอยู่ข้างหน้า องค์ชายคิดจะไปทักทายเขาก่อนหรือไม่?” มีใครบางคนถามองค์ชายเซี่ย
“ลืมมันไปเถอะ ข้าคิดว่าการเดิมพันที่นี่น่าสนุกมากกว่า”
“เฮ้ เด็กน้อย ที่นี่มีหินแตงโม เจ้าสนใจหรือเปล่า” ใครบางคนเตะก้อนหินขนาดใหญ่ออกมาจากกอหญ้าที่ใช้ประดับสวน
“จะเดิมพันก็ได้ แต่ไหนล่ะกรรมการ?” หลี่เหอซุยพูดอย่างจริงจัง
“เจ้าคิดว่าพวกเราจะโกงเจ้าหรือ ต้นกำเนิดของพวกเจ้ามีแค่ไหนกันถึงกล้าคิดว่าเราจะโกง” ใครบางคนพูดขึ้นด้วยความโกรธ
“ไม่มีทาง ข้าต้องการกรรมการ” หลี่เหอซุยจู่ๆก็ตะโกนออกมาจากคอของเขาว่า
"ที่นี่จะมีการเดิมพันครั้งใหญ่ ผู้ใดสนใจรับชมก็เข้ามาเป็นกรรมการ"
“ไอ้เด็กเวร เจ้าคิดว่าพวกเราจะโกงเจ้าจริงๆ?”
ตอนแรกคนหลายสิบคนที่อยู่ที่นี่ไม่คิดจะเดิมพันกับพวกเย่ฟ่าน พวกเขาเพียงแค่ต้องการหยอกล้อเล็กน้อยเท่านั้น
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ มันก็เหมือนกับการขี่อยู่บนหลังเสือ มันไม่มีทางที่เรื่องนี้จะเลิกลาได้หากอีกฝ่ายไม่ล้มละลายไปก่อน