ตอนที่แล้ว460 - มนุษย์ไร้ผล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป462 - หยกม่วงแปรผัน

461 - ลานพนันหิน


กำลังโหลดไฟล์

461 - ลานพนันหิน

บนถนนสายเก่าแก่ของเมืองศักสิทธิ์ คนเดินถนนกำลังเข้าๆ ออกๆอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นบริเวณทางเข้าของลานพนันหินของดินแดนศักสิทธิ์ หรือเป็นสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดของเมือง

ในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เย่ฟ่านได้หลอกหลอนลานพนันหินขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก เขาเรียกวิธีการนี้ว่า "การสะสมต้นกำเนิด"

แปดวันติดต่อกันที่เย่ฟ่านออกเดินทางแต่เช้าตรู่และกลับที่พักในช่วงดึกดื่น ลานพนันหินขนาดเล็กพวกนี้แทบจะถูกเขาทำให้ล้มละลายในครั้งเดียว

เขาดำเนินการติดต่อไปเป็นเวลาแปดวัน โดยซื้อศิลาต้นกำเนิด กลับมาและตัดมันด้วยตัวเองที่บ้านของหลี่เหอซุย

หลี่เหอซุยอ้าปากค้าง เขาไม่คิดว่าเย่ฟ่านจะมีความรู้ในด้านนี้ด้วย นี่มันไม่ใช่สมบัติจำนวนเล็กน้อย สิ่งที่เย่ฟ่านรวบรวมมามันทำให้จิตใจของเขาร้อนรุ่มด้วยความโล�

อย่างไรก็ตามสำหรับเย่ฟ่าน นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น มันยังห่างไกลจากคำว่าเพียงพอ แม้ว่าความเร็วเช่นนี้จะน่าทึ่งเป็นอย่างมาก

แต่หากเขาต้องการรวบรวมต้นกำเนิดให้ได้นับล้านจิน เขาต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่มากกว่าหนึ่งปี

นอกจากนี้ มันไม่แน่ว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในเมืองนี้จะอนุญาตให้เขาทำเช่นนี้อีกต่อไป

“ดูเหมือนว่าข้าต้องไปที่ลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว”

ลานพนันหินของดินแดนศักสิทธิ์นั้นพิเศษมาก เจ้าไม่สามารถซื้อหินและตัดมันเองได้ เจ้าจะต้องตัดเปิดหินโดยผู้เชี่ยวชาญของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

นี่เป็นกฎที่เข้มงวดและไม่อาจฝ่าฝืน หากเจ้าไม่พอใจในเรื่องนี้เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาใช้บริการที่นี่

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเริ่มลงมือต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่แล้ว!” เย่ฟ่านตัดสินใจ

ในวันที่เก้า เย่ฟ่านและหลี่เหอซุยเลือกลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าที่อยู่ห่างไกลจากสถานที่อื่นมากที่สุด

พวกเขาได้ยินมาว่ามีคนบ้าแปดคนที่กำลังสร้างปัญหามากมายเมื่อเร็วๆนี้ พวกเขาขู่ว่าจะพาตัวสตรีศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าออกไปด้วย

นักพรตหญิงแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋า ทิ้งความประทับใจต่อเย่ฟ่านไม่น้อย ความแข็งแกร่งของนางนั้นยอดเยี่ยมมาก ในขณะเดียวกันนางก็เคยแสดงความปรารถนาดีต่อเขาครั้งหนึ่ง

เขาต้องการที่จะเห็นว่าคนบ้าที่ไหนที่มันกล้าท้าทายดินแดนศักดิ์สิทธิ์

ลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าล้อมรอบด้วยไม้สูงตระหง่านปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ มีวิหารตามแบบฉบับของลัทธิเต๋ามากมายอยู่ในบริเวณนี้

ที่ด้านในของลานพนันหินมีคนคุ้นเคยของเย่ฟ่านรออยู่ก่อนแล้ว เขาคือองค์ชายเซี่ยและน้องสาวที่เป็นแม่ชีคนนั้น

“ไม่ทราบว่าครั้งนี้องค์ชายจะต่อสู้กับจินฉีเซียวแห่งตระกูลทองคำก่อน หรือว่าจินฉีเซียวจะต่อสู้กับเหยาเยว่กงแห่งวังอสูรสวรรค์ก่อนกันแน่?” มีคนถาม

“ข้ายังไม่ได้ใส่ใจในปัญหานี้ วันนี้เข้ามาที่นี่ก็เพื่อดูว่าคนบ้าแปดคนนั้นเป็นใครกันแน่”

องค์ชายเซี่ยตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมยก่อนจะเดินเข้าไปด้านในของลานพนันหิน

“เจ้าเด็กนั่นมาที่นี่จริงๆ?” หนึ่งในนั้นอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นเย่ฟ่านกำลังมา

“พี่อู๋เจ้ารู้จักเด็กหนุ่มคนนี้?” มีคนถาม

“ข้าเห็นเขาที่ลานการพนันหินเล็กๆ เขาซื้อหินแตงโมอย่าโง่เขลา ไม่คิดว่าเขาจะกล้ามาที่นี่ด้วย” อู๋จื่อหมิงล้อเลียน

คนอื่นๆได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาทันที รวมทั้งองค์ชายของเซี่ยและแม่ชีตัวน้อย

“เขาเป็นหัวหน้าสาขาแห่งวังห้าธาตุ ชื่ออู๋จื่อหมิง” หลี่เหอซุยส่งการส่งสัญญาณเสียงไปหาเย่ฟ่าน

จากการแนะนำตัวของเขา เย่ฟ่านได้เรียนรู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นลูกหลานของนิกายใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะเทียบไม่ได้กับองค์ชายเซี่ย แต่สถานะของพวกเขาก็สูงส่งมาก

อู๋จื่อหมิงโบกมือให้เย่ฟ่านและพูดติดตลกด้วยรอยยิ้มยั่วยวน

“วันนี้เจ้าอยากมาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าเพื่อซื้อหินแตงโมหรือไม่? เกิดอะไรขึ้นกับหินแตงโมที่เจ้าซื้อก่อนหน้านี้?”

ทุกคนพากันหัวเราะลั่น อู๋จื่อหมิงส่ายหัวและพูดอย่างประชดประชันว่า

"ถึงแม้หินแตงโมอาจจะมีต้นกำเนิดอยู่ภายใน แต่พวกมันก็มีขนาดไม่เกินเมล็ดแตงโมเท่านั้น การที่เจ้าใช้ต้นกำเนิดหลายสิบจินเพื่อซื้อมันนับเป็นเรื่องที่โง่เขลาจริงๆ"

“เด็กน้อยรีบกลับไปเถอะ นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะมา” มีคนส่ายหัวและล้อเลียน

“อย่าดีกว่า พวกเราควรให้เขามาเลือกหินแตงโมอีกสัก 2-3 ก้อน บางทีพวกเราอาจได้หัวเราะสักครั้ง” อู๋จื่อหมิงหัวเราะ

หลายคนอดหัวเราะไม่ได้ แม้แต่องค์ชายเซี่ยก็ยังยิ้มและส่ายหัว

“มีอะไรผิดปกติกับหินแตงโมหรือ ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาเดิมพันกันสักหน่อยเป็นไร?”

หลี่เหอซุยเป็นคนที่เต็มไปด้วยความโลภอยู่แล้ว เมื่อเห็นโอกาสสร้างรายได้ครั้งใหญ่มีหรือที่เขาจะปล่อยผ่าน

“ฮ่าฮ่า..เจ้าต้องการเดิมพันกับพวกเราโดยพึ่งพาเจ้าเด็กที่รู้จักแต่หินแตงโมเท่านั้น ข้าไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ”

อู๋จื่อหมิงหัวเราะและพูดอย่างเย้ยหยัน

“มาเถอะ พวกเจ้ามีความสามารถเท่าไหร่ก็รีบแสดงออกมา”

องค์ชายเซี่ยเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและกล่าวว่า

“จื่อหมิง เจ้ารังแกคนเกินไปแล้ว” .

อู๋จื่อหมิงปฏิเสธอย่างแข็งขันและกล่าวว่า

"มันไม่ใช่ว่าข้าจะรังแกคนอื่น แต่คนพวกนี้มาเพื่อแสดงตลกเท่านั้น"

เย่ฟ่านส่งสัญญาณไปยังหลี่เหอซุย

“ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่เดิมพันให้หนักก็พอ”

"เจ้าเห็นหินแตงโมที่อยู่ด้านหลังไหม รีบเข้ามาหยิบไปเร็ว” คนในกลุ่มของอู๋จื่อหมิงยังคงล้อเลียนไม่หยุด

" ฮ่าฮ่า ... " พวกเขาหัวเราะอย่างสนุกสนาน

"แกะน้อยพวกนี้น่าโมโหจริงๆ" หลี่เหอซุยแสดงความดูถูกอยู่บนสีหน้า

“ไอ้ดำ เจ้าว่าใคร”

คนกลุ่มนี้ต่างก็เป็นลูกหลานของสำนักใหญ่ พวกเขาเหยียดหยันหลี่เหอซุยที่มีผิวดำคล้ำอย่างไม่เกรงกลัว

“แน่นอนว่ามันหมายถึงพวกเจ้า หากพวกเจ้ามีความกล้าก็มาเดิมพันกับพวกเราทั้งหมดในครั้งเดียว” หลี่เหอซุยไม่ได้โกรธเคือง กลับกันเขานั้นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

“เจ้าดำ เจ้ากล้าหรือไม่? เจ้ากล้าเดิมพันกับเราเท่าไหร่?” คนกลุ่มนั้นไม่เชื่อว่าพวกเย่ฟ่านจะมีต้นกำเนิดมากมาย

“พวกเจ้าจะเล่นเท่าไหร่พวกเราจะสนองให้เอง” หลี่เหอซุยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

"เจ้าพูดมาดีกว่าว่าเจ้าต้องการเล่นเท่าไหร่ " คนกลุ่มนั้นยังคงเยาะเย้ย

"ต้นกำเนิดห้าสิบจิน!" หลี่เหอซุยพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสูง

“ฮ่าๆๆ ห้าสิบจิน เจ้าไม่อายบ้างหรือ ถ้ามีน้อยขนาดนั้นก็รีบไสหัวออกไปได้เลย”

“ไอ้ดำเจ้าจงใจหาเรื่องใช่หรือไม่ เจ้ารู้อยู่แล้วว่าพวกเราไม่เล่นเดิมพันน้อยขนาดนี้ ที่เจ้าทำก็แค่ยั่วโทสะเรา?”

อู๋จื่อหมิงที่หัวเราะจนน้ำมูกน้ำตาไหลก็ยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า

" เด็กโง่สองคนนี้น่าสนใจมาก เอาเถอะข้าจะเล่นเป็นเพื่อนกับพวกเขาเอง”

เย่ฟ่านส่งเสียงบอกหลี่เหอซุยว่า: “ทำเช่นนี้แผนการปลอมเป็นหมูของพวกเราคงใช้ได้เพียงครั้งเดียว”

เดิมทีเขาต้องการฆ่าแกะอ้วนบางตัว แผนการที่แท้จริงของพวกเขาคือต้นกำเนิดที่อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่หลี่เหอซุยดูเหมือนจะมีแผนการของตัวเอง

หลี่เหอซุยกล่าวว่า "ไม่เป็นไร ตราบใดที่ศิลปะต้นกำเนิดของเจ้าดีพอ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องสร้างศัตรูกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพียงรวบรวมต้นกำเนิดจากเด็กน้อยพวกนี้ก็น่าจะพอแล้ว"

“หากพวกเขาทั้งหมดลงมือโจมตีเราหลังจากที่ออกไปข้างนอกล่ะ” เย่ฟ่านถาม เรื่องนี้คือปัญหาที่ร้ายแรงที่สุด

"ไม่ต้องห่วง มีของบางอย่างอยู่ในมือของข้า ขอเพียงเปิดเผยมันออกมาต่อให้เป็นบรรพบุรุษของพวกเขาก็ต้องหน้าถอดสีอย่างแน่นอน”

“เหยาเยว่กงอยู่ข้างหน้า องค์ชายคิดจะไปทักทายเขาก่อนหรือไม่?” มีใครบางคนถามองค์ชายเซี่ย

“ลืมมันไปเถอะ ข้าคิดว่าการเดิมพันที่นี่น่าสนุกมากกว่า”

“เฮ้ เด็กน้อย ที่นี่มีหินแตงโม เจ้าสนใจหรือเปล่า” ใครบางคนเตะก้อนหินขนาดใหญ่ออกมาจากกอหญ้าที่ใช้ประดับสวน

“จะเดิมพันก็ได้ แต่ไหนล่ะกรรมการ?” หลี่เหอซุยพูดอย่างจริงจัง

“เจ้าคิดว่าพวกเราจะโกงเจ้าหรือ ต้นกำเนิดของพวกเจ้ามีแค่ไหนกันถึงกล้าคิดว่าเราจะโกง” ใครบางคนพูดขึ้นด้วยความโกรธ

“ไม่มีทาง ข้าต้องการกรรมการ” หลี่เหอซุยจู่ๆก็ตะโกนออกมาจากคอของเขาว่า

"ที่นี่จะมีการเดิมพันครั้งใหญ่ ผู้ใดสนใจรับชมก็เข้ามาเป็นกรรมการ"

“ไอ้เด็กเวร เจ้าคิดว่าพวกเราจะโกงเจ้าจริงๆ?”

ตอนแรกคนหลายสิบคนที่อยู่ที่นี่ไม่คิดจะเดิมพันกับพวกเย่ฟ่าน พวกเขาเพียงแค่ต้องการหยอกล้อเล็กน้อยเท่านั้น

แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ มันก็เหมือนกับการขี่อยู่บนหลังเสือ มันไม่มีทางที่เรื่องนี้จะเลิกลาได้หากอีกฝ่ายไม่ล้มละลายไปก่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด