43
Ep.43
แต่พอลองคิดดูนิดเดียวก็จะทราบคำตอบ ผู้ใช้พลังเลเวล 5 ถือเป็นกระดูกสันหลังของฐานที่มั่น แล้วบุคคลสำคัญขนาดนั้นจะมาที่นี่ทำไม?
ระหว่างทาง ฉู่เซวียนมองไปรอบๆ เขาพบว่าแม้พนักงานที่นี่จะเป็นเด็กสาวทั้งหมด แต่เหล่าผู้ใช้พลังกลับสุภาพกับพวกเธอมาก นี่หมายความว่าอำนาจของสนามประลองไม่ใช่สิ่งที่สามารถประมาทได้
รอไม่นาน เด็กสาวก็เดินไปหยิบแท็บเล็ตและยื่นให้เขา บนหน้าจอมีแบบฟอร์มให้กรอก จากที่กวาดสายตาดู เป็นเพียงข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงช่องเกี่ยวกับอบิลิตี้ ฉู่เซวียนกลับต้องขมวดคิ้ว “ฉันต้องระบุอบิลิตี้ด้วย?”
“มิสเตอร์ ตรงส่วนนี้ต้องระบุตามความจริง” เด็กสาวอธิบาย
“ผู้ใช้พลังทุกคน ตอนลงทะเบียนครั้งแรก พวกเขาต้องรายงานอบิลิตี้ของตัวเอง ซึ่งนี่จะช่วยให้สนามประลองของเราสามารถจัดทำสถิติ และคัดเลือกคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับคุณได้”
ฉู่เซวียนหรี่ตาลง หลังนึกอยู่พักหนึ่งเขาก็เขียนคำว่า ‘กลืนกิน’ ลงไป
ระบบของเขาสามารถรับแต้มสเตตัสและอบิลิตี้ของคนอื่นผ่านการฟิวชั่น ซึ่งนั่นจะโมเมว่าเป็นการกลืนกินคงไม่ต่างกันนัก
ยังไงก็ตาม หลังจากเด็กสาวเห็นข้อมูลที่กรอก เธอกลืนน้ำลาย ถามย้ำว่า “มิสเตอร์ คุณแน่ใจใช่ไหม?”
“แน่ใจสิ มันคือกลืนกินนี่แหละ” ฉู่เซวียนพยักหน้า ยื่นแท็บเล็ตคืนให้เธอ
เด็กสาวเมื่อได้รับคำยืนยัน เธอก็ไม่ถามอะไรอีก หลังจากนำแท็บเล็ตไปวาง เธอก็พาเขาเดินไปยังห้องว่างที่ดูจากสภาพแล้วน่าจะเป็นห้องสำหรับรอหรืออะไรทำนองนั้น
“มิสเตอร์ โปรดรอสักครู่ ทางเรากำลังจัดหาคู่ต่อสู้ให้คุณ” เด็กสาวบอก แล้วออกจากที่นี่ไป
ยังไงก็ตาม ฉู่เซวียนคงไม่รู้ ว่า ณ ขณะนี้ ทุกการเคลื่อนไหวของเขากำลังถูกจับตามอง
“กลืนกิน? ไม่เคยมีอบิลิตี้นี้ปรากฏขึ้นมาก่อน เด็กน้อย นายทำให้ฉันต้องประหลาดใจอีกครั้งแล้ว” ซ่งหงที่กำลังมองจอมอนิเตอร์ลูบเคราของเขา หัวเราะกับตัวเอง
อีกด้านหนึ่ง หลังจากฉู่เซวียนออกจากห้องโถงพักผ่อนในตอนแรก ผู้ใช้พลังระดับสูงสามคนที่คุยกับเขาก็เริ่มสนทนากัน
“หลงเหวิน ถ้านายสู้กับเจ้าหมอนั่น มีโอกาสชนะเท่าไหร่” ผู้หญิงเจ้าเสน่ห์ถาม
“น้อยกว่า 30 %” หลงเหวินตอบ เขาคือคนเดียวกับที่มีรอยสักมังกรบนใบหน้า ท่าทีของเขาเวลานี้ดูเคร่งเครียดมาก ไม่เหลือเค้าของรอยยิ้มก่อนหน้านี้เลย
“ว่าอะไร!”
ได้ยินคำนี้ ดวงตาของหญิงเจ้าเสน่ห์เบิกกว้าง น้ำเสียงเธอฟังดูไม่อยากเชื่อ
“น้อยกว่า 30%? นายไม่ได้พูดผิดใช่ไหม?”
“หวนจี เธอกำลังสงสัยในพลังของฉันหรอ?” หลงเหวินขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจ
พลังของหลงเหวินคือ ‘ตาวิญญาณ’ เป็นอบิลิตี้ที่หาได้ยากมาก เพราะมันช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นความแข็งแกร่งและอ่อนแอของศัตรูได้
“คิก คิก” หวนจียกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ “ซะที่ไหนเล่า ฉันแค่คาดไม่ถึงว่าน้องชายตัวเล็กจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ก็เท่านั้นเอง”
“เขามีพลังงานหลายประเภทอยู่ในตัว แต่พอฉันพยายามตรวจสอบดู มันเหมือนกับว่าถูกบางสิ่งบางอย่างขัดขวางไว้ เลยไม่สามารถมองเห็นได้” หลงเหวินกล่าวเสียงขรึม
“อีกอย่าง ความสามารถในการกลืนกินของเขาก็ไม่เคยมีมาก่อน มันทำให้ฉันเผลอนึกว่ามีคนอย่างชางหมิงปรากฏขึ้นในสนามประลองอีกครั้ง”
เมื่อประโยคนี้หลุดออกมา ตลอดทั้งห้องโถงพลันเงียบสงัดลง
พวกเขายังคงจดจำได้อย่างชัดเจน ว่าคนที่ชื่อชางหมิง ได้ฆ่าสมาชิกผู้ประลองไปเกือบครึ่งในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
อีกทั้งเมื่อตอนที่เกิดกองทัพซอมบี้บุกฐานเทียนหัว เขายังเคยสังหารซอมบี้เลเวล 5 ได้ถึงสองตัวทั้งๆที่ตนยังอยู่แค่เลเวล 4!
ต่อมา หากไม่ใช่เพราะสำนักงานใหญ่ของสนามประลองแห่งพันธมิตรจีนเรียกตัวเขาไปซะก่อน เกรงว่าในฐานเทียนหัวคงไม่สงบเหมือนในตอนนี้
“อย่าพูดถึงไอ้วิปริตนั่นจะได้ไหม!”หวนจีเบ้ปาก “ได้ยินชื่อนี้ทีไร ฉันมักเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมาทุกที ...”