เทพสงครามหวนคืน ตอนที่ 134 สามสำนักใหญ่แห่งเมืองใต้พิภพ
" พวกเราจะเอายังไง? " ตุ๋นไห่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล แล้วเขาก็กวาดสายตมมอง หมิงตวงกับจางเที้ยท่ี่นั่งอยู่ด้านหน้าของตน ซึ่งในตอนนี้ ทั้งสองคนที่ดังอยู่หน้าหน้าของตุ๋นไห่ต่างก็กำลังทำหน้าเป็นกังวลกันทั้งนั้นไม่ต่างจากตุ๋นไห่เลยแม้แต่น้อย ซึ่งเรื่องที่ตุ๋นไห่พูดออกมาทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร
ซึ่งเรื่องที่ตุ๋นไห่พูดถึงก้คือเรื่องที่ทำให้พวกเขาทั้ง 3 คน ที่เป็นเจ้าสำนักของทั้งสามสำนักใหญ่มารวมกันในวันนี้ มันก็คือเรื่องของหยางเฉินที่ทำลายสำนักอัสนีสวรรค์ไป โดยใช้เวลาไม่ถึงวัน แล้วก็ได้ทำให้สำนักน้อยใหญ่ที่อยู่ในการดูแลของ 3 สำนักใหญ่เองก็เริ่มไปเข้าร่วมกับทางหยางเฉินแล้วเหมือนกัน ทำให้ตอนนี้สามสำนักใหญ่เริ่มอ่อนแอลงอย่างมาก ส่วนทางกับหยางเฉินที่ได้กำลังรบเพิ่มเรื่อยๆ
" มันก็มีแต่ต้องสู้ไม่ใช่หรือยังไง- หรือสำนักวารีนครของเจ้าจะยอมก้มหัวให้กับคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าแบบนั้นกันละ! อยู่ๆมันก็ปรากฏตัวออกมา แล้วก็เริ่มทำลายสำนักอัสนีสวรรค์เลยแบบนั้น ยังจะถามอีกว่าเอายังไง เหอะ! " หมิงตวงพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แบบไม่ชอบใจ หลังจากที่ได้ยินตุ๋นไห่ถามออกมา " ข้าถามว่าจะเอายังไงไม่ได้บอกจะยอมรับมัน นี้แหละพวกสำนักจันทร์เคี้ยวสมองไม่มีจริงๆ " ตุ๋นไห่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ และถากถางกลับไปด้วย
ตอนนี้ทั้งสองต่างมองหน้าซึ่งกันและกันด้วยความไม่พอใจ เพราะถึงทั้งสามสำนักจะมารวมกันอยู่ก็จริง แต่พวกนี้เองก็เคยมีปัญหากันมาก่อน ทำให้เกิดความแคลงใจเกิดขึ้นในระหว่างที่คุยกันเป็นเรื่องปกติ " มันใช่เวลามาแตกคอกันเองไหม!!! " เสียงของจางเที้ยที่ฟังทั้งสองคนกำลังประชดประชันกัยอยู่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง จากนั้นก็เริ่มพูดต่ออีก " ตอนนี้พวกเราต้องหาทางจัดการกับมันต่างหาก ข้าได้ยินมาว่าขนาดผู้สร้างสำนักอัสนีสวรรค์ยังโดนมันฆ่า พวกเจ้าคิดว่าพลังของมันจะอยู่เท่าไหร่ ถ้าพวกเรามาทะเลาะกันในตอนนี้ ก็มีแต่ผลเสียเท่านั้น อย่างน้อยก็ช่วยจัดการมันได้ก่อนพวกเจ้าจะทำสงครามกันก้เชิญเลย ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งด้วยเลย!!! "
หลังจากที่ทั้งสองได้ยินจางเที้ยพูดออกมาทั้งสองที่กำลังทำหน้าโมโหอยู่ก็ได้คิดในในใจกัน
' จางเที้ยมันพูดมาก็ถูก ถ้าเราไม่กำจัดมันก่อนมีแต่จะเป็นปัญหาเท่านั้น! ' ตุ๋นไห่คิดในใจ
' มันก็จริงแบบที่มันพูดออกมา ตอนนี้ลำพังเพียงสำนักของเรา ไม่สามารถจัดการมันได้อย่างแน่นอน ' หมิงตวงคิดในใจ จากนั้นก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอารมณ์เย็น โดยมองไปทางตุ๋นไห่ " ท่านเจ้าสำนักวารีนครเรื่องของเราเอาไว้ค่อยจัดการหลังจากที่จบเรื่องของผู้ชายที่ชื่อหยางเฉินกันเถอะ! ข้าต้องของอภัยด้วยที่พูดจาประชดท่านไปเมื่อกี้ "
" ข้าเองก็เหมือนกันต้องขออภัยจริงๆ ที่พูดจาดูถูกเรื่องสำนักจันทร์เคี้ยวของท่านเมื่อกี้ " ตุ๋นไห่เองก็ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงใจเย็นเหมือนกัน
เมื่อทั้งสองคนอารมณ์เย็นลงแล้วจางเที้ยก็เริ่มพูดออกมาต่อ " ถ้างั้นพวกเรามาเริ่มวางแผนกันเถอะ ว่าพวกเราจะจัดการกับมันยังไง เพราะถ้าคิดตามปกติี่มันสามารถฆ่าผู้สร้างของสำนักอัสนีสวรรค์ได้แบบนั้น มันต้องอยู่อย่างน้อยก็ขั้นกลืนพิภพแน่!!! "
" เรื่องนั่นข้ามีข้อเสนอ! " ตุ๋นไห่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจ หลังจากที่จางเที้ยพูดจบทันทีจากนั้นเขาก็เริ่มพูดต่อ " ตอนนี้พวกรเาที่เป็นเจ้าสำนักก็มีพลังอยู่แค่ขั้นเทพสงครามขั้นปลายกันเท่านั้น ต่อให้ใช้พวกเราทั้งสามคน หรือคนอีกทั้งสามสำนักใหญ่ร่วมมือกันเพื่อจัดการมันตอนนี้ ก็มีทางชนะมันได้หรอก "
" ข้าเองก็เห็นด้วยกับท่าน- เพราะตอนนี้พลังของพวกเราถ้าไปสู้กับมันไปละก็ เราก็เป็นได้เพียงแค่มดปลวกในสายตาของมันเท่านั้น เพราะขั้นพลังของมันนต่างาจกพวกเราเกินไป! " หมิงตวงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเห็นด้วยหลังจากที่ตุ๋นไห่พูดออกมา จากนั้นก็เริ่มอธิบายดหตุผลที่เห็นด้วยออกมาโดยมองไปทางจางเที้ยที่นั่งอยู่
ทางด้านของจางเที้ยเมื่อได้ยินทั้งสองคนพูดออกมาด้วยความคิดเดียวกัน ก็ได้คิดในใจทันที ' พวกนี้สองคนพูดออกมามันก็ถูก เพราะตอนนี้ถ้าเราไปสู้กันเองก็คงไม่มีทางชนะคนที่อยู่ขั้นกลืนพิภพได้แน่นอน ' เมื่อจางเที้ยคิดในใจสักพักก็ถามออกมาโดยหันหน้าไปทางตุ๋นไห่ที่บอกเอาไว้ว่ามีเรื่องเสนอ " แล้ว่าานมีข้อเสนออะไร