เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่8: บรรพบุรุษสกุลหลินเลื่อนขั้น!? รีบไปแสดงความยินดีเร็วเข้า!
ตอนที่8: บรรพบุรุษสกุลหลินเลื่อนขั้น!? รีบไปแสดงความยินดีเร็วเข้า!
เมื่อต้องเจอกับอุ้งมือของตาแก่สติเลอะเลือนทั้งสอง ยังนับว่าเป็นโชคดีที่ซวนยู่กลับมาช่วยบุตรชายไว้ในท้ายที่สุด
“ท่านลุง ซวนเอ๋อยังเล็กนัก ให้เขานอนต่ออีกสักหน่อยเถิด” นางเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล ซวนยู่ได้ช่วยเหลือหลินซวนน้อยออกจากมือของตาแก่ทั้งสอง
หลังจากได้ยินประโยคนี้ ตาเฒ่าทั้งสองเลยได้แต่หยุดการกระทำของตัวเองได้ความอับอาย แล้วหันไปเล่นงานหลินเฮ่าแทนด้วยการหิ้วแขนสองข้างของหลินเฮ่าขึ้นเหมือนเขาเป็นลูกแมวตัวน้อย แล้วลากเขาออกไปข้างนอกเพื่อถามว่าเขามีเคล็ดลับอันใด หรือแอบกินโอสถวิเศษตัวไหนไปหรือเปล่า ทำไมถึงได้มีบุตรชายที่อัจฉริยะถึงเพียงนี้
หลินเฮ่าที่ดูต้องการความช่วยเหลือและกระอักกระอ่วนไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนทางด้านข้างๆของจวนเขาตอนนี้นั้น มีเหล่าเด็กๆมากมายทั้งชายและหญิงวิ่งวุ่นวายอยู่เต็มไปหมด พวกเขาล้วนจ้องมองไปยังหลินซวนแล้วเอ่ยถามออกมาด้วยสายตาเป็นประกาย
“นี่คือน้องเล็กของพวกเราใช่หรือไม่?”
เจ้าเด็กใจกล้าบางคนกำลังยื่นนิ้วสั้นๆออกมาแล้วจิ้มไปที่แขนของหลินซวน
ด้วยความที่พวกเขาเป็นตระกูลของเหล่าผู้บ่มเพาะลมปราณทำให้มีชั่วชีวิตที่ยาวนาน สำหรับคนที่อายุน้อยกว่าร้อยปีแล้วนั้น ล้วนแล้วแต่นับว่าเป็นรุ่นเยาว์ของสกุลทั้งสิ้น
เด็กๆที่สามารถเข้าใกล้หลินซวนได้ในตอนนี้ นับว่าเป็นเหล่าศิษย์หลักของตระกูลทั้งหมด แล้วยังอาศัยอยู่ใกล้กับจวนหลินเฮ่าที่สุดอีกด้วย ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลินซวนเริ่มหายใจและปราณม่วงเริ่มหลั่งไหลมาจากทางทะวันออก รวมทั้งตอนที่หลินซวนร้องไห้พร้อมกับสำเนียงแห่งเต๋าก็ด้วย เจ้ากลุ่มของเด็กน้อยพวกนี้นับว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเหตุการณ์นี้ และในบรรดารุ่นเยาว์กลุ่มนี้เกือบจะทั้งหมดถึงกับสามารถบรรลุขั้นลมปราณได้ถึงสองขั้นภายในวันเดียว! หากข่าวนี้กระจายออกไป คงจะทำให้ผู้คนมากมายตกใจจนลูกตาแทบหลุดออกจากเบ้า
อย่าไปสบประมาทว่าเป็นเพียงแค่ชั้นลมปราณสองขั้นเล็กๆเท่านั้น การเลื่อนขั้นนี้นับได้ว่าช่วยพวกเขาประหยัดเวลาไปได้อย่างน้อยนับสิบปี! การร่นระยะเวลาไปถึงสิบปีสำหรับเหล่ารุ่นเยาว์แล้วนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเด็กๆยิ่งนัก ในตอนนี้ ชายหนุ่มหญิงสาวศิษย์ที่เป็นศิษย์หลักล้วนแต่มีความรู้สึกที่ดีกับหลินซวนเป็นอย่างมาก
ร่วมกับการที่หลินซวนตอนนี้นอนขดตัวดูราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวน้อยๆที่กำลังเรืองแสงสีม่วงอ่อนๆจากปราณม่วงที่หายใจเข้าไปแล้วนั้น ช่างน่ารักน่าชังและดูน่าทะนุถนอมยิ่ง หลินซวนตัวน้อยที่กำลังเปล่งแสงทำให้เด็กสาวบางส่วนดวงตาเป็นประกายราวกับกำลังมองเห็นสิ่งที่น่ารักที่สุดในโลกนี้อยู่
เจ้าเด็กพวกนี้ยังคงจิ้มแขนขาของหลินซวนอยู่ตลอด แม้จะทำอย่างระมัดระวังก็ตามที
“อ๊า!”
“น่ารักเกินไปแล้ว!”
“อา ใจข้ากำลังละลายแล้ว น้องเล็กหลินซวนช่างงดงามและเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ จะมีนางจิ้งจอกสาวตนใดกันนะที่จะได้เจ้าตัวน้อยคนนี้ไปครอง”
“เขาดูราวกับหยกชั้นยอด ช่างน่ารัก!”
เหล่าเด็กสาวพวกนี้ทำราวกับกำลังเจอดวงดาว ประคองใบหน้าหลินซวนแล้วยังคงแตะต้องแขนขาของเขาไม่หยุด ยิ่งมองยิ่งคิดว่าเขาช่างคล้ายตุ๊กตาตัวน้อยยิ่งนัก หัวใจของพวกนางล้วนหลอมละลาย
เด็กหนุ่มรอบๆในตอนนี้ทำได้เพียงยิ้มอย่างไร้ทางช่วย
พวกเด็กผู้ชายไม่สามารถจะเข้าใกล้หลินซวนได้เลยด้วยซ้ำ ทำได้เพียงยื่นคอให้ยืดยาวขึ้นและพยายามเท่าที่จะทำได้เพื่อจะเห็นหน้าของเซียนน้อยแซ่หลินว่าเป็นอย่างไร แม้จะเกิดความริษยาขึ้นเล็กน้อย แต่พวกเขาก็มีความสุขมากกว่า ส่วนหลินซวนนั้น กลับไม่ได้รู้สึกว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากเหล่าเด็กน้อยพวกนี้เป็นการรบกวนเขาแต่อย่างได้
บัดนี้ หลินซวนอยู่ในสภาวะแปลกประหลาดบางอย่าง เพราะการหายใจและร้องไห้ก่อนหน้านี้ของเขา ปราณม่วงจำนวนมหาศาลรวมทั้งเสียงแห่งเต๋าอันเข้มข้นกำลังไหลเวียนอยู่ในกาย
และแม้ปราณทั้งหลายจะเข้ามาในร่างกายเขาแล้ว แต่ยังคงมีไอปราณเบาบางไหลอยู่ภายนอกในเวลาที่เขาหายใจเข้าออก
หลินซวนกำลังใช้ทักษะ “ลมหายใจปราณม่วงปฐมกาล” เพื่อซึมซับปราณทั้งหมดที่เขาได้รับ นี่คือเหตุผลที่เขาขดตัวอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ขยับไปไหน
“ปราณม่วงมากมายถึงเพียงนี้ อืม..พวกเจ้าได้สังเกตหรือไม่? ลมหายใจของน้องเล็กต้องนี้มีจังหวะบางอย่างแฝงอยู่ พี่หญิงเจ้าคะ มิใช่ว่าน้องซวนกำลังบ่มเพาะลมปราณอยู่หรอกหรือ?” เด็กสาวคนหนึ่งได้เอ่ยถามกับซวนยู่
ซวนยู่ทำเพียงพยักหน้าพร้อมกับโอบกอดหลินซวนเอาไว้ เนื่องจากการตั้งครรภ์มานานกว่าหนึ่งร้อยปี แม้นางจะนับว่าเป็นหนึ่งในผู้บ่มเพาะลมปราณ หากแต่การคลอดหลินซวนก็ส่งผลต่อปราณชีวิตของนางพอสมควรทำให้ในตอนนี้นางดูอ่อนแอกว่าปกติ หากแต่ดวงตาก็ยังคงเต็มไปด้วยความรักในตัวบุตรชายของตน
“ก่อนท่านบรรพบุรุษจะจากไป ท่านกล่าวว่าซวนเอ๋อดูคล้ายกำลังบ่มเพาะปราณอยู่”
เพียงกล่าวจบประโยคนี้เท่านั้น ทุกคนในที่นี้ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง
“อ๋า! เขาเรียนรู้การบ่มเพาะได้ด้วยวัยที่เป็นเพียงทารกเช่นนี้น่ะหรือ?”
“ข้าได้ยินมาว่า สำหรับเหล่าอัจฉริยะแล้วนั้น การบ่มเพาะกลับเป็นไปโดยสัญชาตญาณของพวกเขา”
“อ๊า! ช่างน่าอิจยิ่งนัก!”
“นี่คือความต่างระหว่างเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายกับคนธรรมดาสินะ?”
หลินซวนที่ไม่ได้สนใจสิ่งใดรอบตัวเขาในตอนนี้ เขาเพียงทำตามความรู้จากทักษะลมหายใจปราณม่วงปฐมกาลและบ่มเพาะอย่างเงียบๆเท่านั้น เพราะต้องการที่จะซึมซับทั้งปราณม่วงและเสียงแห่งเต๋าทั้งหมดให้ได้โดยสมบูรณ์ แต่ถึงกระนั้น ครู่ต่อมาเขากลับไม่สามารถจะบ่มเพาะต่อไปได้
“ตัวเล็กจังเลย”
สาวงามที่ผมแดงผู้ผูกหางม้าไว้ด้านหลังกำลังกะพริบดวงตาโตๆของนางอยู่ นางกางนิ้วทั้งสองของหลินซวนออกมาวัดแล้วพูดกับซวนยู่อย่างตื่นเต้นว่า “พี่สาวซวน มันใหญ่เท่านี้เลยนะ!!”
ซวนยู่บัดนี้ยิ้มก็มิได้ร้องไห้ก็ไม่ออก
หลินซวนในกำมือผู้อื่นนั้นกำลังมีสีหน้ามืดมนเต็มที เขารีบเร่งดูดซึมปราณม่วงอย่างสุดกำลัง เขาจำเป็นต้องเร่งรีบขนาดนี้ เพื่อที่จะสามารถขยับตัวให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ใครจะรู้ว่าเจ้าเด็กน้อยแสนซนพวกนี้จะพยายามแตะต้องร่างกายตรงส่วนใดของเขาอีก พวกเจ้าไม่มีอะไรให้ทำกันหรือยังไง!?
.....
ตระกูลหลินตอนนี้ประดับประดาไปด้วยโคมไฟและป้ายผ้าหลากสีสัน มีคนมากมายไม่ได้หลับลงในคืนนี้ พวกเขาล้วนยินดีกับโชคก้อนใหญ่อย่างปราณม่วงจากฟากฟ้า และการได้ยินเสียงแห่งเต๋านั้นเมื่อรวมกันแล้วทำให้คนเหล่านี้สามารถจะพัฒนาลมปราณและเลื่อนขั้นได้ถึงสองขั้นได้ภายในวันเดียว แถมการที่สกุลหลินของพวกเขายังมีเซียนน้อยมาเกิดด้วยแล้ว ช่างเต็มไปด้วยน่าเฉลิมฉลองยิ่งนัก
ถึงแม้ตระกูลหลินจะตั้งอยู่ในเมืองต้าหยานก็ตาม หากแต่ชาวเมืองด้านนอกล้วนแต่ไม่ได้รับรู้ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นกันแน่
ขณะที่สกุลหลินกำลังวุ่นวายกันอยู่นั้น ตระกูลอื่นๆรวมถึงพ่อค้ามากมายที่อาศัยอยู่ในเมืองต้าหยานกลับกำลังส่งคนของตัวเองออกไปกระจายข่าวใหญ่!
“เร็วเข้า!”
“รีบไปบอกที่ตระกูลหลักเดี๋ยวนี้ บรรพบุรุษแซ่หลินเลื่อนขั้นแล้ว!”
“ปราณม่วงจากทางตะวันออกไกลกว่าแสนลี้! แถมยังเสียงแห่งเต๋านั่นอีก! จากเหตุการณ์นี้คงเพียงพอจะบอกได้ว่า ท่านผู้นั้นได้ก้าวหน้าครั้งใหญ่แล้ว!”
ในเมืองต้าหยาน ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังเผยแพร่ข่าวสำคัญนี้ สำหรับพวกเขาแล้ว การเลื่อนขั้นของบรรพบุรุษสกุลหลินนับได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งนัก!
“ส่งสาส์นไปถามสาขาหลักของสมาพันธ์การค้าเร็วเข้า พวกเขาต้องรีบไปแสดงความยินดีกับพวกเขา ควรนำของขวัญใดติดไม่ติดมือไปด้วย?”
“บอกครอบครัวใหญ่ ส่งผู้อาวุโสของเรามาที่นี่...ไม่สิ ข้าจะกลับไปรายงานเรื่องนี้โดยตรงและให้พี่ใหญ่ของข้าเป็นคนมาที่นี่ด้วยตัวเอง บรรพบุรุษแซ่หลินผู้นั้นนับเป็นยอดยุทธ เราควรจะให้หัวหน้าตระกูลไปทักทายด้วยตนเอง!”