ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่3: สองลมหายใจ ในห้านาที เทียบเท่าผู้อื่นบ่มเพาะลมปราณนานหกสิบปี!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่5: กำเนิดเซียนน้อยสกุลหลิน สุริยันจันทราสาบสูญ ฟ้าดินกลับตาลปัตร!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 4: สำเนียงแห่งเต๋า บรรลุขั้นอย่างต่อเนื่อง!


ตอนที่ 4: สำเนียงแห่งเต๋า บรรลุขั้นอย่างต่อเนื่อง!

อันที่จริงแล้ว ไม่เพียงแต่ตระกูลหลินเท่านั้น แต่เป็นทั้งเมืองต้าหยานที่ห้อมล้อมไปด้วยปราณม่วงอย่างไร้ที่สิ้นสุด ถึงแม้พลังจะเบาบางมิได้หนาแน่นเท่าบริเวณรอบจวนตระกูลหลินก็ตาม กระนั้นความล้ำลึกของกระแสพลังก็ยังคงไร้ก้นบึ้ง

ในตัวเมืองต้าหยาน บนท้องฟ้าเหนือกำแพงและบ้านเรือน ปรากฏร่างลึกลับในชุดคลุมยาวลอยอยู่และจ้องมองไปยังจวนตระกูลหลินด้วยความตกตะลึง

แม้ร่างเหล่านั้นจะไม่อาจทราบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบริเวณจวนหลิน แต่ก็มองเห็นได้ถึงปราณม่วงอันยิ่งใหญ่ที่แพร่กระจายออกมาจากที่นั่น

แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นคงคาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดทั้งหลาย ล้วนเกิดขึ้นเพียงเพราะทารกน้อยสักคนถือกำเนิดขึ้นมา

เพียงคิดกันว่าสถานการณ์นี้เกิดจากบรรพบุรุษสกุลหลินสักคนหนึ่งที่ตัดผ่านคอขวด บรรลุถึงกำลังภายในขั้นถัดไปเพียงเท่านั้น

“ปราณม่วงเหล่านี้ล้วนมาจากทางตะวันออกเป็นระยะทางกว่าหนึ่งแสนลี้ คาดว่าคงเป็นผลมาจากบรรพบุรุษตระกูลหลินเป็นแน่”

“ช่างเป็นปรากฏการณ์ที่น่าหวั่นเกรงยิ่งนัก เพียงเพราะการบรรลุขั้นลงปราณเท่านั้น เหลือเชื่อจริงๆ”

“ข้าคิดว่า คงเป็นผู้เยี่ยมยุทธชั้นยอดสักคนจากเมื่อร้อยปีก่อน บัดนี้เมื่อได้เลื่อนขั้นแล้ว ตราบเท่าที่บรรพบุรุษท่านนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ จะมีผู้ใดกล้าพอจะท้าทายสกุลหลิน?”

“ตระกูลหลินบัดนี้มิจำเป็นต้องมีอัจฉริยะรุ่นเยาว์อีกต่อไป ช่างน่าสงสัยยิ่งนักว่าเด็กน้อยเหล่านั้นจะมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวเพียงพอจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉกเช่นบรรพบุรุษได้หรือไม่”

สีหน้าของเหล่ายอดยุทธที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็เริ่มเปลี่ยนไป แม้นพวกเขาจะยังไม่แน่ใจในอนาคตข้างหน้า แต่ล้วนเห็นพ้องต้องกันประการหนึ่ง

“น่ากลัวยิ่งนัก!”

“อาศัยเพียงบรรพบุรุษท่านนั้น อนาคตอันรุ่งโรจน์ของตระกูลหลินย่อยไม่สามารถฉุดรั้งได้อีกต่อไป!”

ระหว่างที่กำลังพูดคุยกัน จอมยุทธแห่งต้าหยานเหล่านี้ก็มิรอช้า เริ่มทรุดตัวนั่งขัดสมาธิแล้วดูดซับกระแสพลังไปพร้อมกัน

ปราณม่วงที่ลอยล่องอยู่ในอากาศขณะนี้นั้นถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่หาได้ยากมาก จะมีผู้ใดกันที่ต้องการจะพลาดสิ่งดีๆแบบนี้?  ชาวเมืองทุกคนล้วนเป็นชาวต้าหยาน อาศัยอยู่ที่นี่ก็ย่อมเป็นเหล่าผู้สนับสนุนของตระกูลหลินทั้งสิ้น

กล่าวได้ว่าความสำเร็จของชาวเมืองก็นับได้ว่าเป็นการสนับสนุนสกุลหลินให้แข็งแกร่งขึ้นเฉกเช่นเดียวกัน

….

ปราณม่วงจากทางตะวันออกนับแสนลี้ ทำให้ชาวเมืองต้าหยานทุกผู้ล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึง

พวกเขาทราบเพียงว่าปรากฏการณ์นี้มาจากฟากฟ้าทางทะวันออก และล้วนคิดกันเพียงว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากความสำเร็จในการบรรลุขั้นถัดไปของบรรพบุรุษตระกูลหลินเพียงเท่านั้น

ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในจวนตระกูลหลินล้วนออกจากกับเก็บตัวฝึกฝน ภายหลังการกำเนิดของหลินซวน คนส่วนใหญ่ในตระกูลกลับสามารถตัดผ่านขั้นปราณได้ภายในเวลาเพียงน้อยนิด

มีเพียงอาวุโสบางคนของสกุลหลินเท่านั้นที่เริ่มขั้นตอนการตัดผ่านชั้นลมปราณในเวลาหลังจากนั้นสักพัก ในเวลานี้ ในส่วนต้องห้าม เหล่าบรรพบุรุษของตระกูลผู้ที่หลายคนคาดว่าเป็นต้นเหตุของปรากฏการณ์นี้ กลับลืมตาขึ้นมาด้วยสีหน้าโง่งม

เขาทำได้เพียงมองที่ฝ่ามือของตนด้วยความตกตะลึงเพียงเท่านั้น

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?

คอขวดลมปราณที่ติดขัดมาเนิ่นนานกลับตัดผ่านได้ในที่สุด

“ข้าจำได้ว่าข้าต้องเวลาบำเพ็ญเพียรอีกถึงเก้าร้อยปีเพื่อการทะลุผ่านคอขวดนี้?”

ปราณม่วงเหล่านี้คือสิ่งใดกัน?

ใจกลางจวนสกุลหลิน ท้องฟ้าทั้งหมดบริเวณนั้นล้วนเต็มไปด้วยปราณม่วงอันแสนเข้มข้น

กระแสปราณนี้คงอยู่เพียงสองเค่อก่อนจะเริ่มสลายหายไป หากแต่ภายในจิตของคนสกุลหลินทั้งหลายล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยการหยั่งรู้ที่ยิ่งใหญ่และความเข้าใจอันลึกซึ้งในการบ่มเพาะลมปราณ

เพียงการหายใจเข้าออกภายในปราณม่วงเพียงเท่านั้น

ทุกคนล้วนนั่งลงขัดสมาธิเพื่อดื่มด่ำกับโอกาสอันหาได้ยากยิ่งเหล่านี้  โดยเฉพาะตรงส่วนด้านหน้าของจวนหลินเฮ่า  พวกพี่น้องทั้งสี่ของเขาถึงขั้นตั้งค่ายกลเพื่อการนี้

“เจ้าหลานน้อย ช่างยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว!!”

พี่น้องของหลินเฮ่าเริ่มสรรเสริญทารกตัวน้อยไปพลางและดูดซับลมปราณไปพร้อมกัน และหากนับรวมหลินเฮ่าเข้าไปแล้ว ในทั้งห้าคน หลินเฮ่าเป็นผู้ที่ได้รับปราณม่วงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เขาไม่เพียงไม่ซึมซับปราณเหล่านี้ แต่เขายังมัวเป็นกังวลถึงบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเท่านั้น รวมถึงใช้ลมปราณของตัวเองขับไล่กระแสปราณรอบกายออกไปอีกด้วย เพราะอยู่ในห้วงอารมณ์เคร่งเครียดระคนตื่นเต้น หลินเฮ่าเร่งรีบเข้าไปในจวนเพื่อตรงไปยังห้องคลอดในทันใด

ก๊อกๆๆ

เพียงแต่ หลินเฮ่านั้นเป็นกังวลมากเกินไป ปราณม่วงในจวนของเขานั้นถึงกับเข้มข้นยิ่งกว่ากระแสปราณด้านนอกที่เขาใช้ลมปราณขับไล่ไปเสียด้วยซ้ำ

เหล่าสาวใช้ในห้องคลอดมายืนต้อนรับเขาที่ประตู ทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“ยินดีด้วยท่านเจ้าเมือง ยินดีด้วย!”

“ทั้งแม่และลูกนั้นปลอดภัย  ท่านเซียนน้อยจากสรวงสวรรค์ได้ถือกำเนิดแล้ว!”

หลินเฮ่าหาได้สนใจคนเหล่านี้ไม่ เพียงโบกมือน้อยๆ ขวดบางอย่างก็ไปปรากฏอยู่ตรงหน้ายายเฒ่าหมอและเหล่าสาวใช้ทุกคน

“พวกเจ้าควรได้รับรางวัล นี่คือโอสถแก่นทองบรรลุปราณของพวกเจ้า”  กล่าวเพียงแค่นั้นก่อนจะรีบเดินไปที่เตียงด้วยความดื่นเต้น

ยายเฒ่าและสาวใช้ล้วนมีไหวพริบดีและออกจากห้องคลอดไปในทันที  แสงแดดเริ่มจางลง ทั้งแม่และเด็กน้อยกำลังนอนอยู่เงียบๆบนเตียง

หลินซวนหลับตาอยู่ แขนขาล้วนหดแนบลำตัว และหายใจอย่างสงบ  ในทุกครั้งที่หายใจก็ได้สูบเอาปราณม่วงรอบๆเข้าไปด้วย เมื่อเห็นดังนี้หลินเฮ่าจึงได้มั่นใจว่าแหล่งรวมของปราณม่วงควรจะเป็นบุตรชายเขาแน่นอน

“บุตรชายข้าช่างน่าเกรงขาม เพียงหนึ่งลมหายใจ ปราณม่วงก็แพร่กระจายมาจากทิศตะวันออก”

หลินเฮ่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก  ราวกับเขากำลังล่องลอยอยู่ในความฝัน เจ้าทารกน้อยหลินซวนเริ่มอยู่ในภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น แม้จิตใจของเขาจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เพราะร่างกายที่เด็กเกินไปนี้ เขาจึงไม่สามารถรับรู้สถานการณ์รอบกายได้

ข้างกายหลินซวน หญิงสาวคนนั้นมองไปที่หลินเฮ่าด้วยความอ่อนโยน

แม้นางจะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุด หากแต่ใบหน้าและในดางตาล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและยินดีอย่างยิ่ง

“ท่านอยากจะลองอุ้มซวนเอ๋อหรือไม่?”

“อายู่!”  หลินเฮ่าทำได้เพียงกลืนน้ำลายเท่านั้น

ชายผู้ครั้งหนึ่งท้าทายไปทั่วหล้า เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทั้งทวีปแผ่นฟ้าอย่างกล้าหาญและสุขุม บัดนี้กลับทำได้เพียงถูมือไปมาด้วยความร้อนรนเป็นครั้งแรก

หลินเฮ่าไม่ทราบว่าตัวเองควรพูดหรือทำเช่นไรในตอนนี้

“ลองมาอุ้มซวนเอ๋อดูเถิด”

เขาหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น และเริ่มรับหลินซวนมาในอ้อมอกอย่างระมัดระวัง บุตรชายที่เขาเฝ้ารอมาถึงหนึ่งร้อยปีเต็ม

หลินซวนหายใจอย่างสงบราวกับโลกภายนอกมิสามารถจะเข้ามาขัดขวางการนอนหลับของเขาได้

หลินเฮ่ามองเจ้าตัวน้อยในห่อผ้า ขอบตาของเขาเริ่มมีสีแดงระเรื่อ

ในช่วงหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมานั้น เพียงเพื่อให้บุตรชายได้กำเนิดมาอย่างปลอดภัย มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รับรู้ว่าหลินเฮ่าได้แบกรับสิ่งใดไว้บนบ่าบ้าง

เขาคือยอดยุทธผู้พิชิตไปทั้งแถบตะวันออก แต่บุตรชายของเขากลับใช้เวลาถึงหนึ่งร้อยปีกว่าจะคลอดออกมาดูโลกได้  ผู้คนนับไม่ถ้วนล้วนคิดว่าทารกในครรภ์นั้นได้ตายไปแล้วและได้ล้อเลียนหลินเฮ่าและภรรยาเกี่ยวกับเรื่องนี้เสมอ แม้กระทั่งในตระกูลหลินเองก็มีปัญหามากมาย อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เพียงมองเห็นหลินซวนตัวน้อยในห่อผ้า หลินเฮ่าก็ค้นพบว่าทุกความทุกข์ตรมที่ผ่านมาล้วนคุ้มค่าให้เผชิญทั้งสิ้น

“ชื่อของเจ้าคือหลินซวน!”

“สกุลเดิมของมารดาเจ้าคือสกุลซวน และสกุลหลินก็เป็นของบิดาเจ้า ดังนั้น นี่จึงเป็นที่มาของชื่อเจ้า หลินซวน”

หลินเฮ่าค่อยๆเอาหน้าผากแนบกับหลินซวนและกระซิบบอก  เพียงชั่วกระซิบเสร็จเท่านั้น  อาจเพราะหลินเฮ่าหรือสาเหตุอื่นใดก็ตามแต่ หลินซวนที่กำลังยิ้มอยู่ก็เริ่มหน้าเปลี่ยนสี

“แง แง แงงงงง”

ทันใตนั้นเสียงร้องไห้ของหลินซวนก็เริ่มดังสะท้อนก้องไปในห้องทันที

“อะ อะไรกัน? ข้าทำสิ่งใดผิดไปหรือเปล่า??”

หลินเฮ่าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ในฐานะที่เป็นพ่อคนครั้งแรก เขารู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง เขาที่ไม่มีประการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์นี้และไม่รู้ว่าปกติแล้วการที่ทารกร้องไห้นั้นเป็นเพราะได้สัมผัสกับอากาศภายนอกครรภ์ของมารดา

หลินเฮ่าได้แต่มองไปยังหลินซวนโดนไร้ทางออก เขาทำได้เพียงขยับซ้ายขวาไปมา และไม่รู้ว่าจะต้องทำสิ่งใดกันแน่ ซวนยู่ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงทำเพียงยิ้มและมองไปที่หลินเฮ่าที่กำลังลนลาน แม้ต้องการจะพูดบางอย่าง แต่ในตอนนี้ จู่ๆนางก็มองเห็นระลอกคลื่นบางอย่างแผ่ออกมาจากร่างกายของหลินซวน และในเวลาเดียวกัน เสียงของระบบก็ดังขึ้นมาในความคิดของหลินซวนอีกครั้ง

[ขอแสดงความยินดีด้วย โฮสต์สำเร็จภารกิจ:การร้องไห้ครั้งแรก]

[ค้นพบเสียงฟ้าคำราม สะท้อนเสียงแห่งเต๋า]

[ได้รับวิชา:ทักษะจ้าวสายฟ้า]

พริบตาต่อมา ท้องฟ้าเหนือเมืองต้าหยานก็สั่นสะเทือน

ครืน!!

เสียงกระดิ่งสวรรค์ค่อยๆดังขึ้นมาบนท้องฟ้า เพียงได้ยินเท่านั้น เหล่าผู้บ่มเพาะปราณทั้งหลายต่างสั่นสะท้านและมองไปบนฟากฟ้าอย่างตกตะลัง

ถัดมา เสียงกลองก็เริ่มดังขึ้น ตามด้วยเสียงฆ้องและเสียงพิณบรรเลง

“แง๊”

เสียงร้องของหลินซวนดังลั่นไปทั่วจวนสกุลหลิน เมื่อผสมกับเสียงแห่งเต๋าไร้สิ้นสุดและแผ่ขยายไปทั่วทุกทิศทางโดยมีห้องของหลินเฮ่าเป็นศูนย์กลาง  พลังแห่งเต๋าก็กระจายไปทั้งเมืองต้าหยาน

เสียงร้องไห้ที่ดูอ่อนแอนี้กลับบรรจุไปด้วยพลังแห่งเต๋าอันแข็งแกร่งและลึกล้ำ เพียงพริบตา เสียงร้องอันเบาบางนี้กลับกลายเป็นดังก้องราวกับกลองขนาดมหึมา

โลกภายนอก เกิดปรากฏการณ์มากมายขึ้น อากาศกำลังปั่นป่วนไปทั่ว เสียงแห่งเต๋าห้อมล้อมไปทั้งเมืองต้าหยาน  ส่วนในจวนตระกูลหลินก็ดังสนั่นไปด้วยเสียงร้องไห้ของทารกน้อย

“อีกแล้วหรือ??”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด