เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่2: เทพเซียนจุติ ปราณม่วงปรากฎทางทิศตะวันออก!
ตอนที่2: เทพเซียนจุติ ปราณม่วงปรากฎทางทิศตะวันออก!
ในเมืองต้าหยาน พายุลูกใหญ่กำลังถือกำเนิด ข่าวใหญ่ล่าสุดกำลังแพร่สะพัดไปทั่วทุกทิศ
“อะไรนะ? เจ้าได้ข่าวมาว่าภรรยาของท่านเจ้าเมืองกำลังจะคลอดลูกหรือ?”
“จริงหรือเปล่า?”
“แน่นอนเป็นที่สุด ข้าจะโกหกไปเพื่อสิ่งใดกัน?”
ชาวเมืองบางส่วนที่รับรู้ข่าวเป็นพวกแรกๆกำลังช่วยกันกระจายข้อมูลใหญ่นี้ไปทั่วทั้งเมืองด้วยความภาคภูมิใจและตื่นเต้น
“เมื่อครู่ที่ผ่านมา ตอนที่ข้าไปหาหมอที่ร้านโอสถตระกูลหลิน ข้าก็ได้พบว่าท่านเจ้าเมืองหลินเฮ่าก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน”
“พวกเจ้าทั้งหลายย่อมรู้จักกับยายเฒ่าแห่งร้านโอสถใช่หรือไม่? นางคือหมอที่เก่งกาจที่สุดในอาณาจักรฉีซานแห่งนี้!”
“แน่นอนว่าข้ารู้ดี! แถมข้ายังเคยได้ยินมาว่ายายเฒ่าท่านนี้ร้ายกาจและอารมณ์ร้อนเป็นอย่างยิ่ง แม้กระทั่งท่านเจ้าเมืองก็ยังต้องปฎิบัติกับนางอย่างนอบน้อมถึงที่สุด!”
“ให้พวกเจ้าเดาเถิดว่าข้าเพิ่งพบสิ่งใดมา”
“มาฟังใกล้ๆนี่ ข้าจะทำให้พวกเข้าได้กระจ่างแจ้งแก่ใจเอง หลังจากที่ท่านเจ้าเมืองหลินเฮ่ามาถึงที่ร้านโอสถ ก็รีบร้อนเข้าไปที่โถงด้านในสุดในทันที ไม่แม้แต่จะสนใจอะไรทั้งนั้น ท่านเจ้าเมืองเดินตรงไปที่ห้องของยายเฒ่าผู้นั้น แล้วกล่าวขึ้นว่าให้ยายเฒ่ารีบตามท่านเจ้าเมืองไปทันที เพื่อไปทำการคลอดให้กับภรรยาท่าน ไม่รอให้ยายเฒ่าได้ทันฟังให้ดี ท่านเจ้าเมืองก็ลากนางออกมาจากห้องฉับพลัน จากนั้นท่านเจ้าเมืองก็กลายร่างเป้นประกายสายรุ้งเหาะตรงไปที่จวนตระกูลหลิน!”
“เจ้าคิดว่าภรรยาท่านเจ้าเมืองกำลังจะคลอดบุตรแล้วหรือ หลังจากนี้จะเกิดสิ่งใดขึ้นกัน?”
“...”
บุตรชายท่านเจ้าเมือง หลานชายคนโตของตระกูลหลิน กำลังจะลืมตาดูโลกใบนี้
ข่าวนี้กลายเป็นเหมือนพายุลูกใหญ่ที่พักถล่มทั้งเมืองต้าหยานให้ตกอยู่ในสภาพโกลาหลอย่างถึงที่สุด ยิ่งเมื่อชาวเมืองบางส่วนได้พบเห็นประกายสายรุ้งที่เหาะไปยังจวนกระกูลหลิน ซึ่งความจริงคือท่านเจ้าเมืองที่รีบร้อนพาหมอไปเพื่อทำคลอดภรรยาของตน ยิ่งทำให้ข่าวใหญ่นี้เป็นที่พูดถึงหนาหูมากขึ้นไปอีก
“ทารกน้อยตระกูลหลินที่อยู่ในครรภ์มารดามาถึงหนึ่งร้อยปีนั่น กำลังจะคลอดแล้วจริงๆน่ะหรือ?”
ในเวลาร้อยปีที่ผ่านมานี้ ท่านเจ้าเมืองหลินเฮ่าไม่เคยรับอนุหรือสาวใช้อุ่นเตียงเลยแม้แต่เพียงคนเดียว ท่านเจ้าเมืองมีเพียงภรรยาผู้เดียวเท่านั้น นั่นเป็นเหตุให้ตระกูลหลินสาขารองล้วนแต่เฟื่องฟูขึ้นมาก เพราะทายาทสายตรงของตระกูลหลินสาขาหลักไม่มีกำเนิดขึ้นมาเลยสักคนเดียวในรอบร้อยปี!”
“ภรรยาท่านเจ้าเมืองกำลังจะคลอดแล้วจริงๆน่ะหรือ?”
ชาวเมืองทุกคนในต้าหยานล้วนแล้วแต่กำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่กำเกิดขึ้นตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม มีคนบางส่วนกำลังกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น และรู้สึกว่าสถานการณ์นั้นมีบางสิ่งผิดปกติเป็นอย่างมาก
“ตั้งครรภ์นานถึงหนึ่งร้อยปี เจ้าเด็กตระกูลหลินนั่นมิใช่ว่าจะสิ้นชีพไปนานแล้วหรือ?”
ถูกของเจ้า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครรอดชีวิตมานานขนาดนั้น เจ้าเด็กนี่น่าจะไม่รอดแล้ว”
“ข้าไม่เคยได้ยินว่าาจะมีสิ่งมีชีวิตชนิดในใช้เวลาอยู่ในครรภ์มารดามากถึงร้อยปีมาก่อน!”
“...”
มีการถกเถียงมากมายเกิดขึ้นภายในเมืองต้าหยานแห่งนี้ แต่กลับกัน ตระกูลหลินกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายและวิตกกังวล
หน้าประตูจวนตระกูลหลิน ชายฉกรรจ์ที่หล่อเหลาในชุดคลุมสีขาวผู้หนึ่งกำลังรีบร้อนพุ่งเข้าไปในอาคารด้วยความกังวลอย่างสูง
“อายู่ ซวนเอ๋อ พวกเจ้าต้องปลอดภัย!!”
คนผู้นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่านพ่อของหลินซวน ท่านเจ้าเมืองต้าหยานผู้ยิ่งใหญ่ หลินเฮ่า
หลินเฮ่าผู้นี้นับว่าเป็นยอดคนอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง สุดยอดจอมยุทธผู้อยู่เหนือชาวยุทธทุกคนในรุ่นราวคราวเดียวกัน เมื่อตอนที่ยังเป็นคนหนุ่มเลือดร้อน หลินเฮ่าสร้างผลงานและฝากตำนานไว้มากมายในยุทธภพ
ณ ตอนนี้ เมื่อหลินเฮ่ากลับมาที่ตระกูลหลินเพื่อดูแลตระกูล เขาก็ยังสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งเรื่องกิจการครอบครัวและเรื่องส่วนตัวโดยไร้ที่ติ
หลินเฮ่าคือชายที่สุขุมเคร่งขรึมผู้หนึ่ง ไม่ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น เขาก็ยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ด้วยความเยือกเย็นได้อยู่เสมอ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆที่หลินเฮ่าผู้นี้สามารถจะท้าทายและประมือกับผู้เยี่ยมยุทธที่มีฝีมือสูงส่งกว่า แล้วยังสามารถพลิกผลจากพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชัยชนะในท้ายที่สุดมามากมายหลายครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้น ในเหตุการณ์เช่นตอนนี้ ผู้ใดจะสามารถสงบจิตใจอยู่ได้กัน?
มองไปเห็นบรรดาสาวใช้ที่กำลังวิ่งเข้าวิ่งออกจวนของตนเองในตอนนี้ หลินเฮ่ากลายเป็นเหมือนมดตัวน้อยในกระทะที่กำลังร้อนจัด เต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวลและไม่สามารถจะสงบนิ่งลงได้ กำลังภายในของเขาเดือดพล่าน คล้ายกับภูเขาไฟที่พร้อมปะทุตลอดเวลา
“อย่าได้กังวลไปเลยน้องสอง น้องสะใภ้สองจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน เก็บกำลังภายในของเจ้าไปก่อนเถิด”
ตรงหน้าหลินเฮ่าปรากฎร่างของชายสี่คนขึ้น
ทั้งสี่คนนั้นดูคลับคล้ายคลับคลากับหลินเฮ่า ทั้งสี่ล้วนคือพี่น้องของเขา เพียงได้ยินข่าวว่าบุตรชายหลินเฮ่ากำลังจะคลอด พวกเขาก็รีบเร่งมาหาโดนทันทีด้วยความกังวล
“ได้เปิดใช้ค่ายกลปกป้องจวนตระกูลหลินแล้วหรือยัง?” หลินเฮ่ามิได้ตอบคำถามพี่น้อง ตัวเขาตอนนี้ท่วมท้นไปด้วยความวิตกและกำลังสับสน
“เรียบร้อยแล้ว”
อืม…เยี่ยมมาก ก่อนข้าจะมาที่นี่ ข้าได้สั่งให้เปิดใช้ค่ายกลป้องกันเมืองต้าหยานด้วยเช่นกัน แล้วเหตุใดค่ายกลจึงยังไม่ทำงานเล่า?” ในสมองของหลินเฮ่าตอนนี้ว่างเปล่ายิ่งนัก ความคิดหลายอย่างสับสนยุ่งเหยิงไปหมด ถึงขั้นที่กล่าวได้ว่าเขาไม่สามารถรู้ตัวได้ว่ากำลังกล่าวสิ่งใดออกไป หรือพูดด้วยเหตุใดกันแน่
พี่น้องทั้งสี่ของหลินเฮ่าทำได้เพียงจ้องมองหน้ากันไปมา
เจ้านี่ใช่เจ้าสองผู้ที่สุขุมเยือกเย็นตลอดเวลาคนนั้นจริงๆน่ะหรือ?
“หากเราจำเป็นต้องเปิดใช้ค่ายกลป้องกันเมืองต้าหยานจริงๆ จำเป็นตอ้งใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วยามเพื่อใหค่ายกลทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อที่จะให้ค่ายกลสามารถรับมือกับผู้บรรลุขั้นอาณาจักรวิญญาณได้”
“ข้ารู้แล้ว แต่เจ้าไม่มีความคิดจะไปที่นั่นด้วยตัวเองบ้างหรือ? นี่เป็นความปลอดภัยของหลานเจ้าเชียวนะ!!” หลินเฮ่าหันกลับมาตวาดใส่ด้วยความกังวล
“พี่รอง…” ทั้งสี่มองมาที่หลินเฮ่าอย่างรู้สึกช่วยไม่ได้
“ไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!” หลินเฮ่าไม่ได้อยู่ในอารมณืที่ดีพอจะสามารถเสียเวลาไปเฉยๆได้ เขาเริ่มกำหมัดขึ้นมาแล้วแกว่งใส่บรรดาพี่น้อง
“ปะ ไปแล้วๆ!”
ทั้งสี่รีบผงกศีรษะอย่างรวดเร็ว ถึงพวกเขาจะไปที่นั่นแล้วไม่มีประโยชน์อันใด แต่ก็ยังเร่งรีบจากไปโดยเร็ว แม้พวกเขาจะรู้ว่าหลินเฮ่านั้นเป็นแค่พี่คนรอง แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นเป็นของจริง ยิ่งไปกว่านั้น หลินเฮ่ามักจะทุบตีบรรดาพี่น้องทุกคนอยู่บ่อยครั้ง
หลังจากที่สี่พี่น้องจากไป หลินเฮ่ากลับยิ่งกังวลมากกว่าเดิมไปอีก
เขาหยิบลูกประคำขึ้นมาในมือ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก แล้วเริ่มสวดภาวนาให้กับลูกเมีย
“ขอให้ทั้งแม่และลูกปลอดภัย ขอให้ทั้งแม่และลูกปลอดภัย….”
….
ด้านนอกของจวนตระกูลหลิน แสงนับไม่ถ้วนของค่ายกลป้องกันส่องออกมา หลินเฮ่าเฝ้ารอด้วยความกังวลและสวดภาวนาอย่างบ้าคลั่งไม่หยุด
ส่วนทางด้านในนั้น กลุ่มของสาวใช้ก็กำลังช่วยกันอย่างเร่งรีบ
“ออกแรงมากขึ้นอีก มากขึ้นอีก!”
“นายหญิง ท่านต้องทำให้ได้ เบ่งให้แรงกว่านี้เจ้าค่ะ!”
“ขากำลังออกมาแล้ว เบ่งอีก เบ่งอีก!”
“ลำตัวเขากำลังตามออกมา เบ่ง!!”
“ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว นายหญิง เบ่ง!!”
“แรงขึ้นอีก!”
ทุกคนในห้องคลอดกำลังช่วยกันทำคลอด และเต็มไปด้วยความกังวล
ครึ่งชั่วยามผ่านไปในพริบตา
แม้ยายเฒ่าผู้นี้จะเป็นหมอเทวดาที่เก่งกาจที่สุดในทั่วอาณาจักรฉีซานแห่งนี้ แต่ในเวลานี้นั้น นางกำลังเคร่งเครียดจนถึงขีดสุด ทำไมเจ้าทารกน้อยที่ถึงไม่ยอมออกมาเสียที? ยายเฒ่าคิดพลางหงาดเหงื่อก็ไหลท่วมไปทั้งตัวไม่หยุดหย่อน บรรยากาศทั้งหมดในห้องคลอดเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง
ยิ่งเวลาผ่านไปนานมากขึ้น พละกำลังของนายหญิงตระกูลหลินยิ่งลดน้อยลงไปทุกที และดูเหมือนว่าใกล้จะถึงจุดที่นางจะทนไม่ไหวแล้ว หากยังไม่สามารถทำคลอดเจ้าเด็กน้อยคนนี้ออกมาได้ เกรงว่า…
ในห้องคลอดนั้น ทุกๆคนรวมไปถึงยายเฒ่าผู้เป็นหมอเริ่มมีความกังวลและมีสีหน้าน่าเกลียดกันเข้าไปทุกที
ด้านนอกห้อง เวลาผ่านไปแล้วถึงหนึ่งชั่วยาม หลินเฮ่ายิ่งร้อนรนมากขึ้นไปอีกระดับ
เขากำลังจะสติแตก และต้องการจะพุ่งตัวเข้าไปในห้องคลอดหลายครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม พี่น้องทั้งสี่ของเขาคอยดึงรั้งห้ามปรามเขาอยู่
บรรยากาศกระอักกระอ่วนดำเนินมาเป็นระยะเวลานานจนไม่สามารถนับได้ ในขณะที่ทุกคนกำลังเต็้มไปด้วยความเคร่งเครียดและกังวล ยายเฒ่ากลับรู้สึกตกใจขึ้นมา
ดวงตาเปิดกว้าง และเริ่มทำการดึงบางอย่างออกมาอย่างระมัดระวัง
“เขาออกมาแล้ว เขาออกมาแล้ว!! นายน้อยคลอดออกมาแล้ว!!”
ยายเฒ่ารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พร้อมตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
“ทารกน้อยออกมาแล้ว!!”
“นายน้อยตระกูลหลินคลอดแล้ว!!”
ในห้องคลอด ทุกคนกำลังตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ หลังจากร้อยปีที่ตั้งครรภ์มา ในที่สุดนายน้อยของตระกูลก็คลอดออกมาแล้ว สาวใช้เริ่มเข้ามาล้อมรอบหลินซวน และเอาผ้าสะอาดมาห่อตัวเขาอย่างระมัดระวัง แม้จะอย่างนั้น ใบหน้าของพวกนางก็แสดงออกมาได้พิลึกพิลั่นเต็มที
นายน้อยไม่ได้ร้องไห้! ไม่เพียงแต่ไม่ร้องไห้เท่านั้น เขายังไม่หายใจอีกด้วย!!
ทารกน้อยตระกูลหลินขดตัวอยู่ในผ้าอ้อม หากแต่ไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวใดๆ สีหน้าของทุกคนในห้องเริ่มหน้าเกลียดเต็มที หัวใจของพวกเขาเริ่มจมลงไปที่ตาตุ่ม
ไม่แม้แต่จะร้องไห้หรือหายใจ ไม่ได้หมายความว่าร้อยปีที่ผ่านมานี่เป็นเพียงการตั้งครรภ์ที่เปล่าประโยชน์หรือ
“หะ ให้ข้าได้เห็นซวนเอ๋อของข้าเร็ว!”
บนเตียง หญิงสาวที่ดูราาวกับกำลังจะแตกสลายได้รวบรวมพละกำลังทั้งหมดของนางแล้วกล่าวบางอย่างออกมาด้วยเสียงที่สั่นไหว แม้ว่านางจะเป็นคนแข็งแกร่งเพียงใด แต่ด้วยระยะเวลาการทำคลอดที่นานขนาดนี้ เรี่ยวแรงทั้งหมดของนางได้ถูกดูดออกจากร่างกายอย่างหมดสิ้น ใบหน้าของนางขาวซีดราวกับแผ่นกระดาษ และร่างกายอ่อนแรงเต็มที
สีหน้าของยายเฒ่าผู้เป็นหมอซับซ้อนอย่างถึงที่สุด แต่ทำได้เพียงปฏิบัติตามความจ้องการของนายหญิงหลิน
ห่อผ้าที่คลุมทารกน้อยอยู่ถูกส่งให้กับนาง
แต่แล้วในวินาทีที่มือของเธอได้สัมผัสกับเจ้าทรกตัวน้อยนั้น หลินซวนก็อ้าปากหายใจขึ้นมาโดนทันที แต่สิ่งที่เด็กน้อยสูดเข้าไปไม่ใช่แค่อากาศธรรมดา แต่กลับเป็นปราณม่วง!!
ปราณม่วงเหล่านี้เต็มไปด้วยความลึกล้ำและมหัสจรรย์!
[ติ๊ง! ภารกิจสำเร็จ:ลมหายใจแรก]
[ได้รับของรางวัล:ทักษะลมหายใจปราณม่วงปฐมกาล จากปราณม่วงแห่งทิศตะวันออก!]