เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่1: ร้อยปีแห่งการตั้งครรภ์ ทายาทสวรรค์สำแดงเดช
ตอนที่ 1 : ร้อยปีแห่งการตั้งครรภ์ ทายาทสวรรค์สำแดงเดช!
ณ ทวีปแผ่นฟ้า อาณาจักรฉีซาน เมืองต้าหยาน ชาวเมืองกำลังถกเถียงกันเกี่ยวกับข่าวเล่าลือล่าสุดของเมือง
“พี่ชาย ท่านทราบหรือเปล่า? มีอัจฉริยะน้อยหน้าใหม่ปรากฎตัวขึ้นในต้าหยานของเราอีกแล้ว อัจฉริยะรุ่นเยาว์ผู้นี้เพิ่งสอบผ่านด้วยคะแนนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสถาบันสายลมสวรรค์ และยิ่งกว่านั้น ข้าได้ยินมาว่าเขาคนนั้นมีอายุเพียง 16 ปี เท่านั้นเอง แต่กลับบรรลุถึงระดับเก้าของขั้นปรับปรุงปราณแล้ว!”
“แน่นอนว่าข้ารู้ดี ทั่วทั้งต้าหยานแห่งนี้มีใครบ้างที่ไม่รับรู้เรื่องราวของอัจฉริยะน้อยผู้นี้?”
“ถึงอย่างนั้น กล่าวกันตามตรง ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมานี้ มีอัจฉริยะมากมายถือกำเนิดขึ้นในเมืองต้าหยานของเรา ราวกับหน่อไม้ที่แตกกอเติบโตหลังฝนสาดซัด ผุดขึ้นมาต่อเนื่องไม่มีหยุดหย่อนเลยทีเดียว”
“แต่น่าเสียดายยิ่งนัก ดูเหมือนว่าสำหรับตระกูลหลินแล้ว สถานกาณ์ภายในตระกูลกลับไม่ได้ดีเท่าไหร่ ตั้งแต่ท่านเจ้าเมืองหลินเฮ่าขึ้นมาปกครองเมืองของเรา ก็ไม่มีอัจฉริยะคนใดได้ถือกำเนิดขึ้นภายในตระกูลหลินอีกเลยในช่วงร้อยปีที่ผ่านมานี้!”
“ดูเหมือนว่าตระกูลหลินกำลังเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ”
“ท่านเจ้าเมืองหลินเฮ่าช่างน่าสงสารยิ่งนัก แม้ท่านจะเป็นเจ้าเมืองที่ยอดเยี่ยม กลับมาต้องมาพบเจอสถานการณ์แบบนี้ ช่างน่าสงสาร น่าสงสาร น่าสงสาร”
“เฮ้ แต่ข้าได้ยินมาว่าภรรยาท่านเจ้าเมืองตั้งครรภ์มาแล้วถึงหนึ่งร้อยปีเชียวหรือ?”
“หากนับรวมปีนี้แล้ว ก็ครบร้อยปีพอดิบพอดี!”
“เฮ้อ ช่างน่าสงสาร ก่อนหน้านั้นท่านเจ้าเมืองหลินเฮ่าและภรรยาราวกับคู่สวววรค์สร้าง การแต่งงานของสองผู้ยิ่งใหญ่ทำให้ผู้คนหนุ่มสาวทั้งเมืองต้าหยานเต็มไปด้วยความริษยาอยู่หลายปีทีเดียว”
“ถูกของเจ้า ข้าได้ยินมาว่าตอนที่ภรรยาของท่านเจ้าเมืองค้นพบว่าตัวเองตั้งครรภ์นั้น ตระกูลใหญ่มากมายทั่วทั้งทวีปแผ่นฟ้าพร้อมใจกันมาแสดงความยินดีถึงเมืองต้าหยานแห่งนี้กันเลยทีเดียว”
“แต่บัดนี้ เจ้าทารกน้อยกลับอยู่ในครรภ์มารดามาเป็ยเวลาถึงร้อยปีแล้ว ไม่แม้แต่จะมีสัญญาณของการกำเนิด ช่างน่าเป็นกังวลยิ่งนัก!”
“จริงของเจ้า ข้าไม่เคยได้ยินเก่ยวกับทารกที่อาศัยอยู่ในครรภ์มารดาเป็นเวลาถึงร้อยปีมาก่อน คาดว่าเมื่อคลอดออกมา เด็กผู้นั้นคงจะไม่รอดเป็นแน่”
“เฮ้อ อย่าพูดถึงเรื่องนี้กันเลย อย่างไรเสีย ท่านเจ้าเมืองหลินเฮ่าก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมยิ่งนักผู้หนึ่ง”
“...”
……
ในที่ที่เต็มไปด้วยความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด พลังแห่งความโกาหลห่อหุ้มอยู่รอบๆทารกผู้หนึ่ง เจ้าหนูน้อยคนนั้นขดตัวไปมา และเริ่มสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นรอบๆกาย
“ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย?”
หลินซวนกำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาต้องการจะเปิดเปลือกตาขึ้นเพื่อมองว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเขาตอนนี้เป็นอย่างไร แต่แล้วเขาก็ตระหนักได้ว่า ไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใด เขาก็ไม่สามารถจะลืมตาขึ้นมาได้
และไม่ใช่เพียงแค่ดางตาของเขาที่ไม่สามารถเปิดขึ้นมาได้ แม้แต่แขนขาเองก็ขดแนบตัวเขาอย่างแน่นหนา ทั่วทั้งร่างในทุกๆการขยับเคลื่อนไหวมีแรงต่อต้านมาหาศาลอยู่รอบๆ จนทำให้เขาแทบจะไม่สามารถขยับตัวไปทางใดได้เลย
นี่มันที่ไหนกัน?
หลินซวนกำลังงุงงงและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่ใช่ว่าเขากำลังหลับอยู่ที่บ้านหรอกหรือ? ทำไมจู่ๆก็เขาก็มาปรากฎอยู่ที่นี่ได้กัน?
หรือว่าเขาถูกลักพาตัวมา? หรือนี่จะเป็นเพียงแค่ความฝัน?
ในขณะที่เขากำลังสับสนอยู่นั้น เสียงอ่อนโยนนุ่มนวลสายหนึ่งก็ดังแทรกเขา้มาในความคิดเขา เหมือนว่านี่จะเป็นเสียงผู้หญิงนะ
“ซวนเอ๋อ ทำไมถึงได้ซนนักล่ะเจ้าเด็กน้อยคนนี้?”
“นี่ก็ร่วมร้อยปีแล้วแล้ว แม่ไม่ได้ต้องการสิ่งใดอีก เพียงหวังให้เจ้าได้ออกมามองดูโลกนี้อย่างแข็งแรงและปลอดภัยเพียงเท่านั้น”
“ตราบเท่าที่เจ้ากำเนิดมาอย่างปลอดภัยได้ แม่จะยอมทุกสิ่ง”
“แม่ได้ยินเรื่องราวไม่ดีจากผู้คนมากมาย แต่แม่ก็ยังมั่นใจว่าเจ้าจะต้องไม่เป็นไร ซวนเอ๋อ เจ้าจะต้องเกิดมาอย่างปลอดภัยแน่นอน”
หลินซวนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ประโยคที่อบอุ่นและอ่อนโยนราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลินี้นั้น ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก และในเวลาเดียวกัน ความทรงจำบางอย่างก็ผ่านเข้ามาในห้วงความคิดของเขา
หลังจากพิจารณาความทรงนี้ หลินซวนถึงกับหัวเราะมิได้ ร้องไห้มิออกไม่ชั่วขณะ
เขากลับมาเกิดใหม่จริงๆ!!
เมื่อตื่นขึ้นมา เขากลับกลายเป็นเพียงแค่ตัวอ่อนในครรภ์มารดา!
ไม่น่าประหลาดใจเลยว่าทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงไม่สามารถจขลืมตาขึ้นมาได้
แล้วยิ่งไปกว่านั้น เขาอยู่ในท้องแม่มาเป็นเวลาถึงหนึ่งร้อยปี นี่ต้องไม่ใช่โลกเดิมที่เขาจากมาแน่นอน
แม้กระทั่งเทพนาจาในตำนานยังอยู่ในอยู่ในท้องมารดาแค่สามปี สามปีเท่านั้น!
เปรียบเทียบกันแล้ว ร้อยปีที่เขาอาศัยร่างมารดาอยู่นี่ เรียกได้ว่าคนละระดับกันเลยก็ว่าได้
[...ค้นพบโฮสต์ที่ตรงกับความต้องการของระบบ กำลังทำการติดตั้งระบบ…]
[...ระบบอัจฉริยะได้ระการติดตั้งสำเร็จ…]
เสียงทื่อๆเหมือนหุ่นยนต์ดังขึ้นภายในความคิดของหลินซวน เขามึนงงไปชั่วครู่ นี่มันระบบแบบในพวกนิยายที่เคยอ่านผ่านๆมานี่นา! ยิ่งกว่านั้น ระบบนี่เรียกตัวเองว่าระบบอัจฉริยะ?
หลินซวนสับสน ระบบนี่เกิดมาเพื่ออะไร? อัจฉริยะ? หรือระบบต้องการจะให้เขาเป็นสุดยอดไร้เทียมทาน ขึ้นไปเป็นหนึ่งเดียวในใต้หล้า?
[...โฮสต์ ระบบจะไม่มอบรางวัลใดๆให้ท่านโดนทันที มีเพียงการผ่านภารกิจจากระบบเท่านั้นท่านจึงจะสามารถรับรางวัลได้ ไม่มีทางที่โฮสต์จะสามารถเป็นยอดคนพิชิตใต้หล้าได้ในเร็ววัน…]
ภารกิจ? ภารกิจอะไรกัน? ต้องทำแบบไหน? หลินซวนกำลังพิจารณาถึงสิ่งที่เขาได้รับรู้มาจากระบบ
[...ระบบมีภารกิจมากมายให้ท่านได้พิชิต และไม่ว่าความสำเร็จใดก็ตามที่โฮสต์ได้กระทำในครั้งแรก เมื่อระบบประมวลผลแล้ว และถือว่าท่านทำภารกิจได้สำเร็จ…]
[...โฮสต์จะได้รับรางวัลของภารกิจจากระบบ…]
[...โอกาสที่เกิดขึ้น อนาคตที่สดใส อิทธิพลต่อมนุษย์รอบข้าง มีหลายวิธีในการพัฒนาตัวเอง…]
[...ผู้โชคดีรอบกายท่านจะได้รับโอกาสบางอย่างจากความสำเร็จของโฮสต์ด้วยเช่นกัน โดยสิ่งที่คนรอบข้างของโฮสต์จะได้รับ จะขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่มนุษย์คนนั้นมีต่อโฮสต์ แต่แน่นอนว่าโอกาสหรือความโชคดีต่างๆที่ผู้อื่นจะได้รับ ย่อมน้อยกว่าที่โฮสต์ได้รับจากระบบอย่างแน่นอน…]
เมื่อหลินซวนได้ยินแบบนี้ ความคิดบางอย่างก็สว่างวาบขึ้นมาในหัวของเขา นี่ฉันกลายเป็นเทพเซียนตัวน้อยไปแล้วสินะ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ฉันทำจะส่งผลต่อผู้คนรอบข้างไปด้วย และยิ่งกว่านั้น คนที่ดีกับฉ้นมากเท่าไหร่ ก็จะได้รับผลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น นี่สามารถเรียกได้ว่าเป็นผลดียิ่งขึ้นไปอีกกับการเป็นยอดคนไร้เทียมทาน
[...โฮสต์ เหมือนท่านจะคิดเกินความจริงไปเล็กน้อย แต่ก็สามารถพูดได้ว่าจะมีเหตุผลการณืแบบนั้นเกิดขึ้น ไม่ว่าสิ่งใดที่โฮสต์สามารถกระทำได้สำเร็จเป็นครั้งแรก จะมีผลพวงที่ยิ่งใหญ่ตามมา หรือสามารถเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ในโลกแห่งนี้ก็ว่าได้ แม้กระทั่งปฏิหาริย์จากโลกอื่น ปรากฏการณ์มหัสจรรย์ สุดยอดวิชาในตำนาน และอื่นๆอีกมากมาย ทุกอย่างล้วนสามารถเป็นไปได้…]
หลินซวนพยักหน้ารับเล็กน้อย
ในตอนนี้ ระบบอัจฉริยะดูเหมือนจะไม่ใช้ระบบที่ทำงานกับตัวเขาโดยตรง เรียกได้ว่าเป็นเหมือนผู้ช่วยของเขามากกว่า
“เอาล่ะ ฉันต้องทำยังไงถึงจะเปิดระบบได้ล่ะ?” หลินซวนถามขึ้นมาในใจ
[...โฮสต์ คุณแค่ต้องคลอดจากครรภ์เพียงเท่านั้น…]
หลินซวนพยักหน้าและไม่ถามสิ่งใดต่อ เขาเริ่มขยับกำปั้นเล็กๆของตัวเอง และใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดเพื่อเริ่มเคลื่อนที่
…
ในห้องที่แสนหรูหราและมีกลิ่นหอมจางๆ
หญิงสาวในชุดคลุมสีขาวนั่งอยู่ริมหน้าต่าง ในมือของนางมีชาจิตวิญญาณระดับสูงที่ช่วยบำรุงทารกในครรภ์ ส่วนอีกมือก็ถือหนังสือที่เรียกว่า “สุดยอดสูติเวชศาสตร์แห่งทวีปแผ่นฟ้า”
นางดื่มชาจิตวิญญาณชั้นยอด ระหว่างที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำคลอดเล่มนี้
แสงแดดอ่อนๆส่องเข้ามาและกระทบกับร่างกาย
นางค่อยๆวางหนังสือในมือลง แล้วเริ่มฮัมเพลงกล่อมเด็กเบาๆในลำคอ ระหว่างที่สัมผัสหน้าท้องตัวเองอย่างอ่อนโยน
แม้จะไม่สามรถกล่าวได้ว่านางเป็นสาวงามล่มเมือง หากแต่เมื่อได้พบนางในสายตาก็ยังสัมผัสได้ถึงความงาม และยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เมื่อพิจารณาแล้ว ความงามของนางจะค่อยๆปรากฎขึ้นมากเรื่อยๆ กล่าวได้ว่า แม้ไม่ได้สวยจนสะดุดตา แต่เมื่อได้มองจะค้นพบว่านางดูราวกับดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ เป็นความงดงามที่ดูเรียบง่ายและสงบสุข
เมื่อมองไปที่ท้องที่นูนขึ้นของนาง รอยยิ้มของคนเป็นมารดาปรากฎอยู่บนใบหน้านั้น ดวงตาที่เป็นไปด้วยความนุ่มนวล แต่แล้วจู่ๆ ความเจ็บปวดที่แสนหนักหน่วงก็ปรากฎขึ้นบริเวณท้องของนาง
“อ้ะ!”
นางไม่สามารถกระทำสิ่งใดได้ ทำได้เพียงแค่ขมวดคิ้วแล้วตะโกนออกมา
แม้เสียร้องของนางจะไม่ได้ดังมากนัก หากแต่สาวใช้ส่วนตัวที่คอยดูแลอยู่ก็รีบร้อนเข้ามา และถามด้วยความกังวล
“นายหญิง เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า?”
หญิงสาวที่นั่งเอนอยู่บนเก้าอี้ แม้เวลานี้จะเจ็บปวดมากมาย แต่ในความเจ็บปวดนั้นกลับเต็มไปด้วยความยินดีของนาง
นางกล่าวออกมาอย่างตกใจว่า “ซวนเอ๋อของข้าขยับแล้ว!”
ขยับ?
แล้วทันใดนั้น ดวงตาของสาวใช้ก็ขยายกว้างขึ้น นางรีบร้อนขยับเข้ามาและเริ่มกดสำรวจบริเวณหน้าท้องของหญิงสาวที่นั่งอยู่ หลังจากนั้น สาวใช้ที่กำลังสัมผัสท้องอยู่ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“นายน้อยกำลังจะคลอดแล้ว นายน้อยกำลังจะคลอดแล้ว!!”
“มีใครอยู่ด้านนอกบ้าง มานี่เร็วเข้า รีบไปตามหมอที่ดีที่สุดมาที่นี่ โดยด่วนที่สุด!”
“นำเรื่องนี้ไปแจ้งแก่นายท่านให้ท่านกลับมาเรือนเร็วเข้า นายหญิงกำลังจะคลอดแล้ว!”