เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่6: เจ้าจะเสียงดังทำไม? เดี๋ยวเซียนน้อยก็หวาดกลัวหรอก!
ตอนที่6: เจ้าจะเสียงดังทำไม? เดี๋ยวเซียนน้อยก็หวาดกลัวหรอก!
ในจวนอันหรูหรา ลานด้านหน้าประตูทางเข้า มีทั้งบรรพบุรุษและเหล่าผู้อาวุโสตระกูลหลินขัดสมาธิอยู่กลางอากาศ ล้วนพร้อมใจกับฟังเสียงของพลังแห่งเต๋า
หากมีคนนอกมาเห็นเหตุการณ์นี้ คงมองอย่างตกตะลึงจนลูกตาหลุดออกมาจากเบ้าแน่นอน! ต้องรู้ว่าบรรพบุรุษและอาวุโสสกุลหลินนั้นมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงแค่ในเมืองต้าหยาน หรือในอาณาจักรฉีซานเท่านั้น หากแต่เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งทวีปแผ่นฟ้าแห่งนี้!
ไม่ว่าผู้ใดได้พบเจอ ล้วนต้องทำความเคารพแสดงความนับถือ!
ความจริงแล้ว ส่วนใหญ่ที่ลอยอยู่บริเวณนี้ล้วนแต่เก็บตัวฝึกฝนบ่มเพาะปราณกันทั้งสิ้น ระยะเวลานับได้ร้อยปี เรียกได้ว่าไม่มีผู้ใดในตระกูลได้พบเจอมานานแล้ว ในความคิดว่าคนสกุลหลิน เหล่าอาวุโสต่างจากไปอย่างสง่างาม ลึกลับ และทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
หากเป็นเพียงคนทั่วไปของตระกูลหลินแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้พบผู้อาวุโสเหล่านี้แม้เพียงคนเดียวได้โดยง่าย มีเพียงเหตุการณ์ร้ายแรงที่ส่งผลกับทั้งตระกูลเท่านั้นที่จะเรียกให้ปรากฏตัวขึ้นได้
และหากกล่าวแล้ว ในรอบร้อยปีที่เก็บตัวบ่มเพาะมานี่ มีเพียงช่วงที่พวกเขาพักหายใจจากการปรับลมปราณเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะมีผู้ที่โชคดีในตระกูลได้พบเห็นบ้าง
แต่บัดนี้ เหล่าอาวุโสผู้หาตัวได้ยากยิ่งของตระกูลกลับมาลอยตัวบ่มเพาะปราณอยู่ตรงหน้าจวนของหลินเฮ่า พร้อมทั้งคอยฟังเสียงร้องไห้ของทารกแรกคลอดอย่างหลินซวน!
อักขระแห่งเต๋ามากมายลอยวนอยู่โดยรอบกายของพวกเขาราวกับแม่น้ำสีทองสายใหญ่ที่ไหลเชี่ยว
ในหูมีเสียงร้องของทารกที่แฝงพลังเต๋าทะลุทะลวงเข้าไปในจิตใจพร้อมทั้งปลุกความหยั่งรู้บางอย่างใจสำนึก คอขวดลมปราณที่ติดขัดมานับร้อยนับพันปีของเหล่าอาวุโสเริ่มพังทลายลงภายใต้เสียงสะท้อนแห่งเต๋า!
ประกายแสงบางอย่างเริ่มทอแสงออกมา อักขระเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์เริ่มปรากฏจากความว่างเปล่าแล้วเข้าไปหลอมรวมกับร่างของพวกเขา!
โดยเฉพาะกับบรรพบุรุษสกุลหลิน ตรงหน้าของเขามีอักขระมากมายลอยวนเวียนไปมา ในจำนวนมีอักขระสีม่วงทองอยู่เก้าตัวที่เปล่งแสงเจิดจ้ายิ่งกว่าอักขระใด และในชั่วพริบตาต่อมา ไอปราณรอบตัวก็เริ่มทอแสงประกายราวกับดวงดาว ตัวเขาสัมผัสได้ถึงพลังอันลึกลับไร้ที่สิ้นสุด!
“ท่านบรรพบุรุษบรรลุขั้นถัดไปแล้ว!!!”
“ช่างเป็นยอดอัจฉริยะ ข้าที่บ่มเพาะพลังมาหลายปียังไม่แม้แต่สามารถเข้าใจของลึกซึ้งของเต๋าอันยิ่งใหญ่นี้ด้วยซ้ำ”
“ความรู้สึกอะไรกัน? ข้ายังไม่เห็นสัมผัสสิ่งใดได้เลย เฮ้! พวกเจ้าหลีกออกไปบ้าง อย่ามาขวางทางเยี่ยงนี้!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวขึ้นระหว่างพยายามดันคนตรงหน้าให้หลีกทางออกไป
“ข้าไปขวางทางเจ้าได้เยี่ยงไร? สงบปากสงบคำเดี๋ยวนี้ อย่าได้คิดจะรบกวนเทพเซียนตัวน้อยของเรา!” ผู้เฒ่าด้านหน้ามองกลับไปอย่างเขร่งขรึมและปฏิเสธที่จะขยับไปไหนทั้งสิ้น!
“โอ้ คุณพระช่วย!”
เหล่าอาวุโสล้วนดูผอมบาง เส้นผมเป็นสีดอกเลา ดูราวกับวิญญาณแก่ๆ แต่ทุกย่างก้าวกลับทำให้เกิดความปั่นป่วนในอากาศ แลดูสง่างามและลึกลับ
แต่ตอนนี้ ตาเฒ่าทั้งหลายกลับเริ่มม้วนแขนเสื้อ และถกเถียงกันเสียงดังขึ้นทุกที พวกเขาไม่หลงเหลือความระมัดระวังใดๆ พร้อมทำทุกทางเพื่อให้ได้เข้าใกล้ทารกน้อยมากกว่าเดิม
“เงียบๆ จงอย่าได้คิดรบกวนเจ้าเซียนน้อยของเรา!”
แต่หลังจากได้ยินคำพูดจากบรรพบุรุษสกุลหลิน ตาเฒ่าอาวุโสที่เหลือก็เริ่มกลับไปบ่มเพาะกันด้วยความสงบ ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังแอบลืมตามามองทารกน้อยในห่อผ้าเป็นระยะๆ ในดวงตาเต็มไปด้วยความหลงใหล! ยิ่งจ้องมองหลินซวนมากเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกรักใคร่เจ้าตัวน้อยนี่มากขึ้นเท่านั้น ยิ่งมองดูทารกน้อยนานขึ้น ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นตาม หากเพียงมีเทพเซียนตัวน้อยคนนี้ โอกาสอันยิ่งใหญ่มากมายย่อมจะปรากฏขึ้นในสกุลหลินแน่นอน!
และไม่เพียงแต่กับเหล่าอาวุโสทั้งหลายเท่านั้น เสียงร้องไห้ที่แฝงพลังล้ำลึกนี้ยังกระจายไปทั่วทั้งอาณาเขตตระกูล เพียงเหล่าผู้ฝึกตนทั้งหลายได้ยินเสียง ก็เริ่มนั่งลงแล้วบ่มเพาะพลังปราณ ดูราวกับคนที่เมามาย
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดภาพประหลาดในจวนสกุลหลิน ปกติแล้วในยามบ่ายเช่นนี้มักจะมีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาตามที่ต่างๆ แต่ตอนนี้อาณาบริเวณรอบๆกลับเต็มไปด้วยความเงียบงัน และทุกคนกำลังนั่งบ่มเพาะพลัง!
ไม่ว่าจะบนหลังคา บนถนน บนเตียง หรือข้างๆโต๊ะอาหาร ผู้คนล้วนกำลังซึมซับลมปราณอยู่ทั้งสิ้น!
ในตระกูลที่ใหญ่โตถึงเพียงนี้ ปัจจุบันกลับมาเพียงเสียงร้องไห้ของทารกน้อยให้ได้ยินเท่านั้น
ทุกคนนั่งรับฟังเสียงร้องของหลินซวนราวกับกำลังดื่มสุราและเมามายในกลิ่นรสชั้นเยี่ยมของมัน ไม่เพียงแค่ผู้ฝึกฝนปราณเท่านั้นที่ดูมัวเมา บางคนถึงขั้นลุกขึ้นมาเต้นรำด้วยความรื่นเริง เหมือนกันคนเสียสติ ราวหัวเราะของพวกเขาดังทะลุชั้นฟ้า!
“เสียงร้องไห้นี่ราวกับมาจากสรวงสวรรค์ เป็นเสียงแห่งเซียนน้อย!”
“เทพเซียนมาจุติลงในสกุลหลินของเรา!”
ประกายแสงมากมายกำลังถักทอไปทั่วทั้งตระกูลหลิน แสงแห่งการเลื่อนขั้น!
เพียงวันเดียวเท่านั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนของสกุลหลินก็ตัดผ่านขั้นลมปราณ!
และผู้ที่สามารถบรรลุได้ถึงสองขั้นปราณนั้น มีจำนวนถึงหนึ่งพันคน!
อันที่จริงแล้ว ไม่เพียงแต่ตระกูลหลินเท่านั้น แต่ทั่วทั้งเมืองต้าหยานก็ห้อมล้อมไปด้วยเสียงแห่งเต๋านี้!
ถึงอย่างนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินเสียงร้องของหลินซวนชัดเท่าผู้คนในตระกูลหลิน เหล่าผู้บ่มเพาะด้านนอกได้ยินเพียงเสียงแผ่วเบาของทำนองเต๋าเท่านั้น แต่ก็ทำให้ผู้คนล้วนตกตะลึงมากมายแล้ว!
“นี่คือ เสียงที่ยิ่งใหญ่แห่งเต๋า? มันดังมาจากทางตระกูลหลินจริงๆด้วย!” ชายวัยกลางคนในชุดดำผู้หนึ่งกล่าวขึ้น
“เกิดอันใดกัน? เหตุการณ์ที่สองนี้ก็เป็นผลมาจากบรรพบุรุษสกุลหลินด้วยหรือ?”
“ช่างน่าหวั่นเกรงเกินไปแล้ว! นี่เพราะบรรพบุรุษหลินได้ก้าวผ่านชั้นลมปราณจริงน่ะหรือ?”
“ก่อนหน้านี้ ข้ามองเห็นปราณม่วงเข้มข้นมาจากทางตระกูลหลิน เป็นปราณเดียวกับที่มาจากทางตะวันออกไกลออกไปกว่าแสนลี้! แล้วในครั้งนี้ เสียงแห่งเต๋าก็ยังคงมีศูนย์กลางอยู่ที่สกุลหลินอีกหรือ? ทั้งหมดนี้นั้นควรเกิดเพราะบรรพบุรุษสกุลหลินเป็นแน่แล้ว!” ชายแก่คนหนึ่งพูดพร้อมมองไปยังท้องฟ้าเบื้องบน ดวงตาเขาสะท้อนให้เห็นแสงสวรรค์สาดกระจายไปทั่ว!
“เมื่อบรรพบุรุษตระกูลหลินก้าวขึ้นไปถึงลมปราณชั้นนั้น ก็ไม่มีสิ่งใดให้กังขาเลยว่าสกุลหลินจะต้องรุ่งโรจน์ ตระกูลจะสามารถต่อต้านพวกเขาได้อย่างไรนับจากวันนี้?”
ในเมืองต้าหยาน จอมยุทธมากมายล้วงแล้วแต่จ้องมองไปยังที่ตั้งของจวนตระกูลหลินและคิดเพียงว่าปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากการที่บรรพบุรุษของสกุลหลินก้าวขึ้นสู่ชนชั้นลมปราณที่สูงขึ้นกว่าเดิม
สีหน้าของพวกเขาล้วนเปี่ยมไปด้วยความหลากหลายซับซ้อนยิ่ง บ้างก็ตกตะลึง บ้างกำลังเสียใจ บางส่วนไม่สามารถคาดเดาได้ และบางส่วนก็ทอดถอนใจ อย่างไรก็ตามแต่ สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็ล้วนทำเพียงนั่งลงแล้วเริ่มบ่มเพาะปราณพลางฟังสำเนียงแห่งเต๋าที่สะท้อนตามมา
และในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม พลังแห่งเต๋านี้ก็เริ่มค่อยๆจางหายไป
ในตอนนี้ หลินเฮ่าที่ยังคงอยู่ในห้องก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาจากในห้วงจิตของตน เขาที่ตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นลุกขึ้นไปกอดบุตรชาย พร้อมกับกำลังจะกล่าวบางอย่างกับภรรยา
แต่แล้ว หลินเฮ่าก็สังเกตเห็นถึงเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย รวมทั้งบรรพบุรุษสกุลหลินที่กำลังขัดสมาธิรวบรวมปราณอยู่กลางอากาศบริเวณหน้าจวนของตน
หลินเฮ่าได้เพียงนิ่งค้างไป ก่อนที่จะได้สติกลับมา เขาวางบุตรชายแล้วกันไปคำนับให้กับบรรพุบุรุษอย่างลนลานและเต็มไปด้วยความเคารพ
“ผู้น้อยหลินเฮ่าคารวะแด่เหล่าบรรพบุรุษสกุลหลิน!”
เพียงกล่าวจบ บรรพบุรุษอาวุโสสูงสุดของตระกูลหลินที่ลอยอยู่ตรงด้านหน้าสุดก็เปิดเปลือกตาโดยพลัน เมื่อเขายืนขึ้นเต็มความสูงอย่างมั่นคง สิ่งต่อมาคือเตะหลินเฮ่ากระเด็นออกไปให้พ้นทาง! แล้วค่อยๆอุ้มหลินซวนตัวน้อยขึ้นมาอย่างทะนุถนอม
“เจ้าลูกหลานอกตัญญู!!”
“ตะโกนเสียงดังยิ่งนัก!”
“อยากทำให้เด็กน้อยคงนี้หวาดกลัวหรือไร!”
หลินเฮ่า “.....”
บิดาท่านเถอะ! นั่นมันบุตรของข้าหรือของท่านกันแน่!!