เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่5: กำเนิดเซียนน้อยสกุลหลิน สุริยันจันทราสาบสูญ ฟ้าดินกลับตาลปัตร!
ตอนที่5: กำเนิดเซียนน้อยสกุลหลิน สุริยันจันทราสาบสูญ ฟ้าดินกลับตาลปัตร!
“ช้าก่อน เหมือนว่าข้าจะได้ยินเสียงร้องไห้ของทารก?”
เมื่อเสียงแห่งเต๋าสะท้อนไปทั่ว ทุกคนในจวนหลินเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงแล้วจ้องมองไปยังสถานที่ที่หลินซวนอยู่อย่างโง่งม
นี่มันใช่เสียงร้องของเด็กแรกเกิดจริงหรือ?
เสียงร้องที่เต็มไปด้วยพลังแห่งเต๋าน่ะหรือ? ผู้คนที่ตอนแรกล้วนหมายจะกลับไปกักตัวฝึกวิชาเพื่อย่อยสลายสิ่งที่ได้รับมาจากกระแสปราณม่วงเมื่อครู่ต้องเปลี่ยนใจและเร่งรีบออกจากที่พักมาเพื่อรับฟังเสียงนี้ ทำได้เพียงเหม่อมองไปบนท้องฟ้าด้วยความตกใจถึงขีดสุด แม้แต่การร้องไห้ของเจ้าทารกน้อยนี่ก็ยังแฝงได้ด้วยพลังเต๋า?
นี่สามารถเรียกได้ว่าเป็นยอดอัจฉริยะที่แท้จริงใช่หรือไม่? แม้ในระหว่างที่กำลังตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่วายผู้คนทั้งหลายในตระกูลก็ยังไม่ลืมที่จะเร่งรีบนั่งขัดสมาธิเพื่อซึมซับพลัง เพ่งมองไปยังจังหวะที่สั่นสะเทือนอยู่ในกระแสเลือดของตน ทุกคนล้วนแล้วแต่กำลังรับฟังเสียงร้องไห้ของหลินซวนที่สะท้อนพลังเต๋าอยู่ในนั้น
เสียงแห่งเต๋าที่แต่ละคนได้รับฟังนั้นล้วนแตกต่างกันไปตามปัจเจก บ้างได้ยินเสียงของแม่น้ำไหลผ่านเขาสูงชัน บ้างเป็นเสียงการฆ่าฟันกันในสมรภูมิ บ้างคือเสียงกระซิบของสายลมและสายฟ้าคำราม บ้างพบเสียงกระบี่บินเหินไปบนท้องนภาหรือดาบศักดิ์สิทธิ์กำลังผ่าแยกประตูสวรรค์! และบางคนยังได้ยินเสียงกระดิ่งแผ่วเบา เสียงฆ้องดังสนั่น เสียงสายฝนโปรยปราย แม้กระทั่งเสียงสวดมนต์เต๋า!
โดยเฉพาะผู้ที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหลินซวน ราวกับพวกเขากำลังล่องลอยอยู่ในความฝันและได้พบความกระจ่างตระหนักรู้ในบางสิ่ง เพียงได้ยินก็พบกับเสียงเณรน้อยผู้ศักดิ์สิทธิ์สวดภาวนาให้ตน ความเข้าใจอันลุ่มลึกพิศดาลไหลผ่านเข้าไปในสำนึกส่วนลึกในร่างกายเหมือนไร้ที่สิ้นสุด และพาให้บรรลุถึงขั้นถัดไปของชั้นลมปราณในทันที!
“ฮ่าๆๆๆๆ!”
“สามารถผ่านขั้นลมปราณได้ถึงสองขั้นในวันเดียว!”
“ช่างประเสริฐยิ่ง!”
เสียงแห่งเต๋าไร้จุดสิ้นสุดนี้ยังคงดังสะท้อนไกลออกไป บรรพบุรุษตระกูลหลินผู้ซึ่งตัดผ่านคอขวดกำลังภายในของตนไปเมื่อครู่และออกจากการกักตัวเพื่อดูว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นก็ได้พบเห็นฉากนี้เช่นกัน ในตอนนี้อาวุโสท่านนั้นถึงกับยืนนิ่งเป็นก้อนหินไร้การเคลื่อนไหว
บรรพบุรุษอาวุโสท่านนี้ได้รับฟังเสียงที่กำลังดังสะท้อนไปทั่วด้วยสีหน้าตกตะลึง แววตาเต็มไปด้วยความสับสน เสียงแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่? ยิ่งกว่านั้น กลับแฝงอยู่ในเสียงร้องไห้ของเด็กน้อย!?
นี่มันเรื่องอันใดกัน?
อย่างไรก็ตาม ทันทีทันใด ท่านผู้เฒ่าก็สัมผัสได้ถึงศูนย์กลางของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพียงครึ่งก้าวเท่านั้น ร่างของเขาก็จางหายไปราวกับวิญญาณ
ชั่วครู่ต่อมา เขาก็ปรากฏตัวอยู่ใกล้กับห้องคลอดของหลินซวนโดนไม่มีผู้ใดสัมผัสได้ถึงการมาเยือน อันที่จริงแล้วหลังจากได้ยินเสียงทารกน้อยที่แฝงพลังเต๋าในนั้น ไม่เพียงแค่บรรพบุรุษอาวุโสท่านนี้ แต่ผู้อาวุโสอื่นๆที่ปกป้องอยู่โดยรอบก็ไม่สามารถจะนิ่งเฉยได้เช่นกัน เมื่อรับรู้ได้ถึงสาเหตุของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นก็ล้วนแต่เร่งรีบมายังที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน
ทุกคนล้วนต้องการเห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่นี่ และมาทันได้เห็นสีหน้าอันโง่งมของบรรพบุรุษของตัวเอง!
“ท่านบรรพบุรุษ!” เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างรีบทักทายทันที
“พวกเจ้าก็มาที่นี่ด้วยรึ? มันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่?” บรรพบุรุษท่านนี้มองสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆลานด้านหน้าจวนหลินเฮ่าด้วยความสับสน
“ปราณม่วงเหล่านี้ อีกทั้งเสียงแห่งเต๋าก็ด้วย เกิดขึ้นได้เยี่ยงไร? หรือนี่จะเป็นโชคก้อนใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นใกล้กับเมืองของเรา?”
“บรรพบุรุษ นี่มิใช่เพราะท่านตัดผ่านขั้นลมปราณหรอกหรือถึงได้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้?” อาวุโสคนหนึ่งถูมือไปพลางไต่ถามอย่างตื่นเต้น
“เปล่าเลย ข้าเองก็เร่งรีบมาที่นี่หลังได้ยินเสียงเต๋า เพียงนึกว่าหนึ่งในพวกเจ้าได้พบเจอกับชะตาที่ยิ่งใหญ่ก็เท่านั้น” ผู้เฒ่าบรรพบุรุษส่ายหน้าออกมาระหว่างที่กล่าวไปด้วย
หลังจากได้ยินคำนั้น เหล่าอาวุโสรุ่นหลังกลับเต็มไปความตื่นเต้นถึงขีดสุด! สถานการณ์นี้กลับมิใช่เพราะท่านบรรพบุรุษ!
เช่นนั้นแล้ว ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวที่เหลือคือ บุตรชายของหลินเฮ่า!
“ใช่แล้ว! ต้องเป็นเพราะรุ่นเยาว์ที่เพิ่งเกิดมาในตระกูลหลินของเราเป็นแน่!”
เหล่าผู้อาวุโสล้วนแตกตื่นกันไปหมด พวกเขาลากบรรพบุรุษของตนและเร่งรีบเข้าไปในห้องของหลินเฮ่าโดนไม่มีแม้แต่คำพูดบอกให้รู้ถึงการมาเยือน ณ ตอนนี้ ประตูห้องที่ถูกปิดมานานได้เปิดออก เพียงชั่วขณะที่ผลักประตูเข้าไป ปราณม่วงอันเข้มข้นกับเสียงแห่งเต๋าก็ทะลักออกมา
“ช่างเป็นพลังเต๋าที่หนาแน่น ทั้งยังมีปราณม่วง! เกิดสิ่งใดขึ้นกัน? เสียงร้องไห้ของผู้ใด?” บรรพบุรุษสกุลหลินมองไปรอบๆแล้วถามออกมาอย่างสงสัย
หลินเฮ่าที่อยู่ในห้องขณะนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจสุดขีด เขาไม่แม้แต่จะทราบด้วยซ้ำว่าผู้ที่เข้ามาในห้องแล้วถามเขาคือบรรพบุรุษของตน ไม่แม้แต่จะหันศีรษะไปมอง ทำเพียงจ้องอยู่ที่บุตรชายตัวน้อยในห่อผ้าอย่างรักใคร่ และตอบกลับไป
“เป็นเพราะบุตรชายของข้าคลอด!”
“เพียงแรกเกิด ลมหายใจแรกของเขาก็มาพร้อมปราณม่วง!”
“แล้วตอนนี้ การร้องไห้ของเขากลับเปิดประตูสวรรค์และเสียงแห่งเต๋าก็สะท้อนตอบรับ!”
อันที่จริงแล้ว หลินเฮ่าไม่จำเป็นต้องอธิบายใดๆ เพียงเหล่าผู้อาวุโสก้าวเข้ามาในห้อง สายตาของพวกเขาล้วนแต่จับจ้องไปที่หลินซวน
บรรพบุรุษผู้เฒ่ากลับตื่นตกใจ พลางมองไปยังเจ้าตัวน้อยที่กำลังส่งเสียงร้องไห้แฝงพลังแห่งเต๋า และหายใจเอาปราณม่วงเข้มข้นเข้าไป
เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายล้วนดวงตาเปิดกว้างจนแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
นี่มันนรกอันใดกัน! ที่ผ่านมาทั้งหมดนี่ เหตุการณ์ยิ่งใหญ่สั่นสะเทือนใต้หล้าทั้งหลายล้วนเกิดเพียงเพราะเจ้าทารกคนนี้? ไม่เพียงแค่ปราณม่วงอันยิ่งใหญ่จากทางตะวันลอยมาถึงที่นี่เพื่อให้เจ้าเด็กคนนี้ใช้หายใจ แม้กระทั่งเสียงแห่งเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์ยังตอบรับและสั่นสะเทือนไปทั่วแค่เพราะเจ้าตัวน้อยนี้ร้องไห้ออกมา?
นี่ใช่เรียกว่าอัจฉริยะฟ้าประทานลูกรักของสรวงสวรรค์หรอกหรือ?
“เป็นเจ้าทารกน้อยคนนี้จริงๆหรือที่ทำให้เหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น? คราแรกข้าได้เพียงคาดเดาถึงสาเหตุอื่น ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับสิ่งใดแบบนี้” บรรพบุรุษหลินลืมตากว้างขึ้น แววตาดูเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หลังจากอาศัยอยู่ในครรภ์มารดาถึงหนึ่งร้อยปีเต็ม ไม่ว่าผู้ใดก็ต่างคิดว่าเจ้าหนูน้อยคนนี้จะไม่สามารถเกิดมาได้แบบมีชีวิตอยู่แล้ว หากแต่ใครจะไปคาดคิด ไม่เพียงจะยังมีลมหายใจ แต่ยังคลอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์? ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นลูกรักของสวรรค์อีกด้วย! เพียงแรกเกิด ลมหายใจก็ใช้ปราณม่วงอันเข้มข้นจากทางตะวันออกอันห่างไกล!
แม้กระทั่งเสียงร้องไห้ยังก้องกังวานไปด้วยพลังแห่งเต๋าจากสวรรค์! เหล่าผู้อาวุโสตระกูลหลินสั่นสะท้านไปถึงกระดูกดำ ทั้งหมดล้วนเป็นคำอวยพรจากเทพเจ้าเพื่อเด็กคนนี้!
ผู้เฒ่าทั้งหมดต่างเต็มไปด้วยความตกตะลึง เพราะการเกิดของทารกน้อยนี้ เพียงแค่มีสายสัมพันธ์เป็นเหล่าผู้ร่วมสายเลือดกันเท่านั้น กลับทำให้คอขวดของการฝึกฝนที่ใช้เวลาบ่มเพาะทะลวงผ่านมาหลายปีถึงกับคลายออกได้
แล้วจะมิให้พวกเขาแตกตื่นได้อย่างไร! อาวุโสทั้งหลายในห้องตอนนี้ล้วนอยากจะเต้นระบำฉลองให้กับการคลอดของหลินซวน!
“เคยมีตำนานกล่าวไว้ว่า เมื่อทารกน้อยที่ได้รับพรจากสวรรค์ถือกำเนิดขึ้นทางเหนือ พายุหิมะพัดกระหน่ำยาวสามวันสามคืนแม้เป็นช่วงกลางปี ตอนบุตรแห่งสวรรค์เกิดที่ทิศใต้ดวงดาราของสวรรค์เก้าขั้นฟ้าล้วนเปล่งประกาย เสียงฆ้องศักดิ์สิทธิ์จะสะท้อนไปทั่วหล้า และเมื่อเด็กน้อยวิเศษคลอดด้านตะวันตก กระบี่นับไปถ้วนปรากฏราวกับผืนป่า และสายน้ำจากจักรวาลร่วงหล่นเป็นฝนจากท้องฟ้า!”
“บัดนี้ เมื่อมองมาที่ตระกูลหลินแห่งตะวันออกของข้า!”
“พวกเราพบปราณม่วงที่มาจากทิศตะวันออกเป็นระยะทางกว่าแสนลี้ สุริยันจันทราล้วนสาบสูญ ท้องดินกลับตาลปัตร และเพียงลมหายใจเดียว กลับทำให้ผู้คนสามารถบรรลุขั้นลมปราณถัดไป!”
“ช่างเป็นยอดคน! ช่างเป็นอัจฉริยะฟ้าประทาน!”
ผู้อาวุโสบางคนจ้องมองหลินซวนด้วยดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ!
“ท่านบรรพบุรุษ! นี่ช่างเป็นโอกาสที่ดียิ่งนัก!”
บรรพบุรุษผู้เฒ่าจ้องมองหลินซวนด้วยลำคอที่แห้งผาก ราวกับกำลังพบเจอขุมทรัพย์ที่หาได้ยากยิ่ง ดวงตาล้วนเต็มไปด้วยความรัก เขากำลังจะกล่าวบางอย่างออกมา แต่แล้วกลับได้ยินเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้งในระยะใกล้ ราวกลับมีกระแสพลังแห่งเต๋ากำลังทะลวงเข้ามาในร่างกาย!
ในแววตาเต็มไปด้วยมหาสมุทรแห่งอักษรศักดิ์สิทธิ์กำลั่งไหลหลากท่วมท้น!
ตาเฒ่าคนนี้กำลังจะพบบางสิ่งหลังจากเพียงได้ยินเสียงทารกร้องไห้อีกครั้งใกล้ๆอย่างนั้นหรือ? และไม่ใช้เพียงท่านบรรพบุรุษเท่านั้น เหล่าอาวุโสคนอื่นๆก็ต่างตกตะลึง เพียงได้ฟังเสียงร้องในระยะใกล้ กลับสัมผัสได้ถึงความหน้าเกรงขามของพลังเต๋าได้ชัดเจนมากขึ้นหรือนี่?
พวกเขาล้วนหันกลับไปมองยังพี่น้องอีกสี่คนของหลินเฮ่าที่นั่งทำสมาธิอยู่ด้านหน้าทางเข้าจวน ราวกับพวกเขาได้ค้นพบบางสิ่ง และเปิดเปลือกตาขึ้นโดยฉับพลัน!
“มาเถิดท่านผู้เฒ่าทั้งหลาย มารับพรจากสวรรค์ที่เจ้าหนูน้อยคนนี้มอบให้แล้วตัดผ่านชั้นลมปราณสักสองสามขั้นกันก่อนดีกว่า”
ผู้เฒ่าทั้งหลายมิได้กล่าวสิ่งใดแม้เพียงครึ่งคำ พวกเขาล้วนก้าวออกจากจวนแล้วเริ่มลอยตัวขัดสมาธิบนอากาศพร้อมบ่มเพาะลมปราณกันที่ลานด้านหน้าร่วมกับสี่พี่น้องของหลินเฮ่าทั้งอย่างนั้น!!