ตอนที่ 1279-1280 เธอไม่ใช่ลูกเจ็ดน้อย
เธอขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจเมื่อได้ยินเฉียวอันซินเรียกเธอว่า “แม่คะ”
เฉียวอันซินกำลังบ่นออกมา แต่เมื่อเธอมองลงมา เธอพบกับสายตาที่แสดงถึงความเกลียดชังและโกรธของคุณผู้หญิงไป่
เธอตกตะลึงและมีความรู้สึกที่ไม่ดีเอาเสียเลย เมื่อได้สติก็ร้องออกมาอย่างกังวลอีกครั้ง “แม่ค่ะ”
“หุบปาก!”
คุณผู้หญิงไป่เป็นคนอ่อนโยนมาโดยตลอด หลายปีที่ผ่าน คนในบ้านตระกูลไป่ไม่เคยเห็นท่านโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างนี้มาก่อน
แต่ตอนนี้ เธอมองไปที่เฉียวอันซินด้วยสายตาที่โกรธจัด “อย่ามาเรียกฉันแบบนั้น เธอมันลูกสาวแบบไหนกัน คนโกหกไร้ยางอาย? กล้าดียังไงมาแกล้งเป็นลูกเจ็ดน้อยของฉัน”
เฉียวอันซินเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“แม่คะ แม่กำลังพูดเรื่องอะไร” ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่เมื่อพบกับสายตาที่เย็นชาของคุณผู้หญิงไป่ จิตใจของเธอก็ว่างเปล่า ก่อนจะพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “โกหกอะไรกันคะ? หนะ-หนูเป็นลูกสาวของแม่นะ”
“ฉันไม่ได้โกหกเสียหน่อย”
“ไม่ใช่ว่าเราตรวจดีเอ็นเอกันไปแล้วเหรอคะ? แม่เองก็เห็นรายงานนั้นนี่คะ”
เกิดอะไรขึ้น?
คุณผู้หญิงไป่พูดได้อย่างไรว่าเธอโกหกและหลอกลวง...
ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นเลยนี่
เพียงไม่ถึงชั่วโมง กลับมาบอกว่าเธอเป็นคนโกหกอย่างนั้นเหรอ?
ท่านกับไป่ซู่ค้นพบกับความจริงบางอย่างแล้วหรือ?
ไม่สิ เซินโย่วบอกว่าเลือดนั่นเป็นของจริง ผลลัพธ์ที่ตรวจออกมาก็ได้รับการยืนยันแล้ว
แม้ว่าพวกเขาจะตรวจสอบ ก็ไม่น่าจะเจออะไรนี่
เพราะงั้น...
เฉียวอันซินคิดถึงความเป็นได้และหันไปมองเฉียวเมียนเมียน
คุณผู้หญิงไป่อยู่กับเฉียวเมียนเมียนตลอดเวลา
นังแพศยานั่นต้องพูดอะไรกับคุณผู้หญิงไป่
“เฉียวเมียนเมียน เธอไปพูดอะไรกับแม่” เฉียวอันซินเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง เธอระเบิดออกไป “ฟังนะ ฉันได้รับการยอมรับจากตระกูลไป่แล้ว สถานะของเราอยู่กันคนละโลก คงจะอิจฉาฉันล่ะสิท่า เลยพูดเรื่องไม่ดีของฉันให้แม่ฟัง”
“เฉียวเมียนเมียน เธอนี่มันราคาถูกชะมัด”
“เธอไม่ชอบฉัน เลยพยายามจะสร้างความบาดหมางขึ้นล่ะสิ”
“แม่คะ อย่าไปเชื่อนะคะ” เฉียวอันซินเดินไปที่ด้านข้างของคุณผู้หญิงไป่ ต้องการจะจับมือของอีกฝ่าย “ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรกับแม่ มันไม่เป็นความจริงทั้งนั้นค่ะ เธอพยายามสร้างความร้าวฉานระหว่างเรา เธออิจฉาที่หนูดีกว่าเธอมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะ ตอนนี้พอเห็นว่าหนูเป็นลูกสาวของตระกูลไป่ เธอคงจะยิ่งอิจฉาไปใหญ่ คงโกรธและทนไม่ได้ที่เห็นว่าหนูดีกว่า แม่คะ บอกหนูทีสิคะว่า...”
เพลี้ย!
ก่อนที่เฉียวอันซินจะพูดอะไรจบ คุณผู้หญิงไป่ก็ตบเธอ
คุณผู้หญิงไป่โกรธมากจนหน้าซีด เธอชี้ไปที่ปลายจมูกของเฉียวอันซินและต่อว่า “หุบปากนะ กล้าใช้อุบายมาหลอกฉัน ทำให้ฉันเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นลูกเจ็ดน้อย ตอนนี้ยังจะกล้ามาใส่ร้ายเมียนเมียนอีกเหรอ”
“เมียนเมียนน่ะ ดีกว่าเธอตั้งพันเท่า จำเป็นต้องอิจฉาคนอย่างเธอด้วยเหรอ?”
“คิดว่าคนในตระกูลไป่เป็นคนโง่อย่างนั้นรึ? เธอกับเซินโย่วใช้วิธีสกปรก เอาเลือดของลูกเจ็ดน้อยไปทดสอบ ฉันจะคิดบัญชีเรื่องนี้กับเธออย่างแน่นอน”
เฉียวอันซินต้องการจะอธิบาย
เอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
คุณผู้หญิงไป่โกรธจัดและดวงตาของเธอก็เย็นชา “ฉันเอาเส้นผมของเธอไปทำการทดสอบอีกรอบแล้ว เธอไม่ใช่ลูกเจ็ดน้อย!”
__
ในที่สุดเฉียวอันซินก็ดูเหมือนจะหวาดกลัว
“แม่คะ ไม่ใช่ คุณผู้หญิงไป่คะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ...”
เฉียวอันซินหน้าซีดและถอยหลังไปสองก้าว
เป็นไปได้อย่างไร?
เป็นไปได้ยังเนี่ย!
เธอไมได้บอกว่าพวกเขาจะไม่พบหลักฐานอะไรเลยไม่ใช่เหรอ?
ทำไมคุณผู้หญิงไป่ถึงรู้ทุกอย่างแล้วล่ะ
“แม่ครับ ผลตรวจออกแล้วเหรอ?”
ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง ตามมาด้วยเสียงทักทายอย่างนอบน้อม “นายน้อย, คุณเหมา”
เฉียวเมียนเมียนเห็นเหมาเยซื่อและไป่ซู่เดินเข้ามาพร้อมกัน
การแสดงออกของไป่ซู่มืดลงและเย็นชา เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉียวอันซิน
เขามองลงไปที่เธออย่างเย็นชา “เฉียวอันซิน กล้าดีนี่ กล้ามาหลอกลวงตระกูลไป่ ใครยุยงให้ทำ เซินโย่ว?”
เมื่อได้ยินเสียงของไป่ซู่ดังขึ้น เฉียวอันซินก็เงยหน้าขึ้นและสบตาที่เย็นชาของเขา ตอนนี้เธอยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก
เธอถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วส่ายหน้า “ไม่กล้าคะ ฉันไมได้อยากจะทำแบบนี้ ใช่แล้วเซินโย่ว เขาขอให้ฉันทำ”
ดูเหมือนเธอจะพบทางที่จะรอดแล้ว เธอรีบพยายามอธิบายในทันที “ฉันไม่ได้อยากจะทำเรื่องนี้จริง ๆ นะคะ เซินโย่วเขามาหาฉันเอง เธอบอกฉันว่าเธอจะทำให้ฉันเป็นลูกสาวของตระกูลไป่ ฉันอยากเป็นไห?”
“ตอนแรกฉันก็กลัว และปฏิเสธเธอออกไป แต่เธอให้สัญญากับฉันว่าเรื่องนี้จะสำเร็จอย่างแน่นอนและจะไม่มีใครรู้เรื่อง เธฮเป็นถึงคุณหนูตระกูลเซิน ฉันจะปฏิเสธเธอได้ยังไง อีกอย่าง...”
“อีกอย่าง ถ้ามีโอกาส ใครจะไม่อยากเป็นลูกสาวของตระกูลไป่บ้างละคะ? ใครจะปฏิเสธโอกาสที่ได้รับแบบนี้?” เฉียวอันซินมองขึ้นไปด้วยดวงตาที่สั่นเทา “แต่ถ้าเธอไม่มาหาฉัน ฉันไม่คิดจะทำเรื่องแบบนี้เลยจริง ๆ ค่ะ”
“เซินโย่วเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คะ ฉันหลอกลวงคุณก็จริง แต่ฉันเพียงแค่เชื่อฟังเธอ พวกคุณก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่ฉันไม่อาจขัดขืนได้”
ไป่ซู่เยาะเย้ย “นี่เธอหมายความว่า เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลไป่ หลังจากที่เซินโย่วมาพบเธอเหรอ?”
“ใช่ค่ะ เธอเป็นคนบอกฉัน”
“เฉียวอันซิน ยังจะกล้าโกหกฉันอีกเหรอ?” ดวงตาของไป่ซู่เย็นชา “เธอเป็นคนแรกที่รู้เรื่องนี้”
เซินโย่วจะรู้เรื่องของครอบครัวไป่ได้ยังไง? และยังรู้เรื่องนี้มากเสียด้วย
แม้แต่ปานของเฉียวเมียนเมียนก็ยังรู้
“ไม่คะ ฉันไม่รู้จริง ๆ” เฉียวอันซินส่ายหน้าอย่างแรง เธอกลัวไป่ซู่มากเสียจนอยากจะร้องไห้ เสียงของเธอสั่น “บอกความจริงกับฉันมาซะดี ๆ บอกทั้งหมดที่เธอรู้”
“นายน้อยไป่ เชื่อฉันเถอะค่ะ ฉันไมได้โกหกจริง ๆ เซินโย่วเป็นคนบอกทุกอย่างกับฉัน”
“ถ้าเธอไม่บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลไป่ ฉันจะรู้เรื่องได้ยังไง”
ไป่ซู่คิดว่าเธอกำลังโกหก แต่ดูไปแล้ว เหมือนจะไม่ใช่
เขาขมวดคิ้ว
เซินโย่วบอกความจริงกับเธอเหรอ?
แต่เธอจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
แม้แต่เขาเพิ่งรู้เกี่ยวกับปานของน้องสาวเพียงไม่นาน
ขณะที่เฉียวอันซินกำลังร้องไห้ ไป่ซู่ก็เห็นแม่บ้านที่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางแปลก ๆ เมื่อเธอสบตากับเขา เธอก้มศีรษะลงอย่างรู้สึกผิดทันที
ไป่ซู่มีข้อสงสั้ย แต่เขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขารีบคิดเรื่องสำคัญบางเรื่อง
เขามองไปที่เฉียวอันซินอย่างรวดเร็ว “แล้วเธอใช้เลือดของใครตรวจดีเอ็นเอ?”