จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 301
บทที่ 301: ท็อป 100 (ตอนที่ 5)
ขณะที่เมเปิ้ลอันน่าจดจำใช้ทักษะของเขาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดเลือดของลูหลี่ เขาก็เหลือบตามองไปที่อัลติเมททักษะของเขา เขารู้ว่าเขาต้องอดทนไว้ก่อน เพราะฝ่ายตรงข้ามของเขายังไม่ได้ใช้ก้าววายุเลย
ลูหลี่ยังคงมีเลือดเหลืออยู่ 70% ในขณะที่เขาเหลือเพียง 43% เท่านั้น อย่างไรก็ตามเหงื่อของลูหลี่เริ่มไหลออกมาเพราะรู้สึกกระวนกระวาย
ความสามารถของความสำเร็จทักษะมันลดลงไปได้ยังไงกัน?
เมเปิ้ลตระหนักถึงสิ่งที่ทำให้ลูหลี่ประหลาดใจอยู่ ทักษะของเมเปิ้ลอันน่าจดจำมีคูลดาวน์ทักษะที่ต่ำ มันจึงมีผลต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อเขา ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ทักษะออกมาแบบแบบสุ่ม แต่จริงๆแล้ว ทุกทักษะนั้นถูกคำนวณและใช้ทุกๆอย่างให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด เพื่อขัดขวางการใช้ทักษะของลูหลี่
ตัวอย่างเช่น ลูหลี่จะพลิกตัวเล็กน้อยเมื่อโดนหอกน้ำแข็ง แม้ว่าทักษะของเมเปิ้ลอันน่าจดจำจะถูกลูหลี่ แต่ความสำเร็จทักษะก็ลดลง
หากมันเกิดขึ้นในอดีต มันอาจจะเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก แต่ลูหลี่ก็ได้ตระหนักว่าเมเปิ้ลนั้นมีจังหวะและทามมิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก
นอกเหนือจากการใช้ทักษะของเขาแล้ว เมเปิ้ลอันน่าจดจำยังสามารถลดความสำเร็จทักษะของลูหลี่ลงไปได้ด้วยการวางตำแหน่งและการเคลื่อนไหวของเขา
เขาจะเคลื่อนไปแบบสุ่มๆขณะที่ไคท์ลูหลี่ด้วยทักษะของเขา บางครั้งเขาก็จะขยับซิกแซกไปๆมาแล้วหยุดนิ่งๆ หรือแม้แต่จะหยุดยืนต่อหน้าลูหลี่ด้วย
การรวมกันของสองปัจจัยเหล่านี้จึงหมายความว่าไม่มีทักษะใดๆเลยของลูหลี่ที่จะมีความสำเร็จทักษะมากกว่า 60%
เมื่อถึงเวลาที่นักเวทย์มีเลือดถึง 25% แล้ว ลูหลี่ก็เหลือเลือดเพียง 40%
เมเปิ้ลอันน่าจดจำไม่ได้ใช้ทักษะหลักหรืออัลติเมทใดๆเลยในช่วงเวลานี้ สาเหตุที่ลูหลี่เสียเลือดไปเป็นจำนวนมากเพราะถูกโจมตีไปอย่างต่อเนื่องจากเมเปิ้ลอันน่าจดจำ โดยปราศจากการโมจีของสัตว์เลี้ยงธาตุน้ำ แม้ว่าจะเป็นการโจมตีที่สร้างความเสียหายเพียงครั้งละ 10-30 จุด แต่เขาก็สามารถที่จะทำให้เลือดของลูหลี่อยู่ในสถานะวิกฤตได้
ซุ่มโจมตี!
ลูหลี่ใช้เอฟเฟคพิเศษจากถุงมือของเขาและเปลี่ยนจังหวะในการต่อสู้ได้ในทันที
จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะเตะตามไป!
เมเปิ้ลร้องครางออกมา เขาไม่สามารถที่จะร่ายทักษะของเขาได้ในเวลานี้เลย
โชคดีที่สัตว์เลี้ยงธาตุน้ำของเขาทำให้ลูหลี่เคลื่อนที่ช้าลง นั้นทำให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีก
ก่อนที่เขาจะฟื้นตัว ลูหลี่ก็ได้ใช้ก้าววายุเพื่อจัดการดีบัพทั้งหมดออกจากตัวเขา
เมื่อเขาลบดีบัพเสร็จแล้ว เขาก็ได้ทำการใช้คอมโบอีกครั้ง
ในทางเทคนิค เชปช็อตนั้นไม่มีคูลดาวน์ ตราบเท่าที่ผู้เล่นอยู่ในสถานะหายตัวการที่จะใช้มันอีกก็ไม่มีปัญหา
ในที่สุดคูลดาวน์ฟรอสโนวาของเมเปิ้ลอันน่าจดจำก็ได้หมดลง ดังนั้นเขาจึงสั่งให้สัตว์เลี้ยงธาตุน้ำร่ายมันออกมาในทันที เขาต้องสั่งให้มันสตันลูหลี่ให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นเขาเองก็คงจะเสี่ยงต่อการแพ้ไปเลยในขณะนั้น
ซ่อนเงา!
ลูหลี่ไม่ได้ทำอะไรตอบโต้และใช้ทักษะซ่อนเงาในทันที
เมเปิ้ลติดสตันและไม่สามารถทำอะไรเพื่อขัดขวางลูหลี่จากการใช้ทักษะของเขาได้เลย เช่นนี้แล้ว ลูหลี่ก็เลยสามารถจัดการเขาด้วยการโจมตีสองสามครั้ง
'ชัยชนะ' ได้กระพริบไปทั่วหน้าจอพร้อมโลโก้ของเกมรุ่งอรุณ
ผู้ชมบางคนคาดว่าเมเปิ้ลอันน่าจดจำจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้และคิดอย่างไร้เดียงสาว่านักเวทย์นั้นมีข้อได้เปรียบเหนือโจร
อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ลืมเกี่ยวกับความรู้ที่เทียบเท่ากับห้องสมุดขนาดใหญ่ของลูหลี่และเทคนิคพร้อมกับความสามารถของเขา
เขามีทักษะหนีถึงสามทักษะ ชาโดว์เมล หายตัวและก้าววายุ
นอกจากนี้ยังมีอีกสามทักษะที่ช่วยเพิ่มความเร็วของเขา ได้แก่ สปรินท์ ก้าววายุและซุ่มโจมตี
นอกจากนี้เขายังมีทักษะอีกสามอย่างที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับตัวเขาเช่น ซุ่มโจมตี ซ่อนเงาและทักษะของรองเท้าที่เขายังไม่เคยเปิดเผยต่อหน้าผู้ชมเลย
ลูหลี่คิดว่าทักษะของเขาไม่ได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับผู้เล่นจากสมาคมใหญ่ๆเลย อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงเขานั้นเหนือกว่ามากๆ ทักษะเฉพาะที่เขาไม่มีก็เพียงแค่คิดไนท์สไตรค์และตาบอด
หญ้ามักจะเขียวในทุกๆส่วน
นี่เป็นความคิดที่แสนโง่เขลาที่ใครหลายๆคนคิด
เมเปิ้ลอันน่าจดจำไม่ได้ออกนอกสนามแข่งขันในทันที แต่ถูกสัมภาษณ์โดยนักข่าว
นี่คือหนึ่งในตัวเลือกหลายอย่างหลังจากจบการแข่งขัน มีตัวเลือกทั้งหมดสามตัวเลือก หนึ่งคือพักที่สนามแข่งขันจนกว่าจะหมดเวลา สองคือเทเลพอร์ตกลับไปที่แผนที่เดิมของผู้เล่นหรือถูกสัมภาษณ์
โดยปกติตัวเลือกการสัมภาษณ์เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับผู้เล่นทั่วไป ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะเมื่อผู้สื่อข่าวยินดีที่จะสัมภาษณ์ผู้เล่นเท่านั้น
ลูหลี่สามารถที่จะเลือกให้สัมภาษณ์ได้เช่นกัน แต่เขาปฏิเสธมันทุกครั้ง
เมเปิ้ลอันน่าจดจำเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงและต้องการที่จะออกสื่อ ดังนั้นเมื่อโอกาสมาถึง เขาจะเลือกที่จะให้สัมภาษณ์เสมอ
การพ่ายแพ้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากสำหรับเขาและเขาก็เต็มใจที่จะแบ่งปันประสบการณ์ของเขาให้กับผู้ชม
นักข่าวจากโฮมออฟอีสปอร์ตบันลี่ถามเขาอย่างหยาบคายว่า "อาจารย์เมเปิ้ลครับ ขอแสดงความเสียใจด้วยที่คุณแพ้ นี่เป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของคุณในการแข่งขัน ท็อป 100 ใช่ไหมครับ?"
เมเปิ้ลที่น่าจดจำเป็นมิตรกับนักข่าว แม้จะเป็นคำถามที่หยาบคายและตอบว่า "ไม่ครับ มันไม่ใช่ครั้งแรก ในครั้งแรก ฉันพ่ายแพ้ให้กับฮีลเลอร์ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมเปียเรสซิตี้
"ฮีลเลอร์ผู้เชี่ยวชาญ" เป็น ID ที่หลอกลวงมาก เพราะทุกคนคงจะคิดว่าเขาเป็นฮีลเลอร์ อย่างไรก็ตามเขาเป็นนักบวชแห่งความมืดที่เป็นสายสร้างความเสียหายเต็มรูปแบบ
นักบวชแห่งความมืดสามารถรักษาได้ดีเช่นกัน แต่พวกเขามีลักษณะคล้ายกับพ่อมดมากกว่านักบวช พวกเขามักจะมุ่งความสนใจไปที่ความเสียหายธาตุความมืด เพื่อที่จะลด HP ของฝ่ายตรงข้าม การรักษาเหมือนกับเป็นบทบาทรองของพวกเขา
นักบวชแห่งความมืดเป็นอาชีกที่สามารถเคาน์เตอร์นักเวทย์ได้ เนื่องจากสามารถสร้างความเสียหายได้ขณะที่รักษาได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้พวกเขายังมีทักษะเผาผลาญมานาซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับพวกเขา
"สำหรับความพ่ายแพ้ในวันนี้ คุณคิดว่าความแตกต่างในระดับนี้มีบทบาทสำคัญต่อผลลัพธ์หรือไม่ครับ?"นักข่าวถามออกมาด้วยความเห็นอกเห็นใจ แต่มันก็เหมือนกับป้ายเกลือใส่แผลของเขา
"เรื่องของระดับแตกต่างนั้นแน่นอนว่าจะสร้างความแตกต่าง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญขนดานั้น" เมเปิ้ลอันน่าจดจำตอบขณะที่เขาส่ายหัว
"ถ้าไม่ใช่เรื่องของระดับแล้ว คุณจะบอกว่าเรื่องของไอเท็มก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างงั้นเหรอครับ? แล้วถ้าอย่างนั้นแล้วอะไรเป็นปัจจัยที่ชี้ขาดในการแข่งขันวันนี้กันครับ?"นักข่าวถาม
เมเปิ้ลอันน่าจดจำได้หยุดพักหนึ่งขณะที่เขานึกถึงการแข่งขันในใจของเขาและกล่าวว่า "ความสำเร็จทักษะ ความสำเร็จทักษะของเขานั้นมันบ้ามาก "
"แต่คุณก็ขัดจังหวะความสำเร็จทักษะของเขาได้ทั้งเกมเลยนี้ครับ ... "
"แค่นั้นมันไม่มีทางที่จะทำให้ฉันชนะได้หรอก แม้ว่าฉันจะควบคุมความสำเร็จทักษะได้สมบูรณ์ก็ตาม" เมเปิ้ลหัวเราะ "ฉันเสีย HP ของฉันไปมากที่สุดหลังจากที่เกิดสตันครั้งแรกนั้น การต่อสู้ระหว่างนักเวทย์กับโจรจะขึ้นอยู่ที่ว่าฝ่ายใดก็ตามที่ควบคุมฝ่ายตรงข้ามได้ดีกว่าจะชนะ "
"คุณมีความเชื่อมั่นที่จะชนะในการแข่งขันแบบทีมที่กำลังจะเกิดขึ้นไหมครับ?"นักข่าวถามต่อไป
"ฉันรอคอยมันอย่างตื่นเต้นเลยแหละ" เมเปิ้ลยังคงยิ้มอยู่ อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถบอกได้เลยว่าเขาไม่ได้หวังอะไรมากนัก
เขาเป็นแกนหลักของทีมของเขาและเก่งในสถานการณ์ 1 ต่อ 1 แต่เขายังคงแพ้ลูหลี่อยู่
ในทางกลับกันทีมของลูหลี่มีภัยคุกคามที่สำคัญถึง 2 คน ไม่ใช่แค่เพียงคนเดียว มูนไลท์เป็นที่นับหน้าถือตาในวงการมืออาชีพและไม่มีใครเคยสงสัยในฝีมือของเขาเลย และไม่มีใครสงสัยเลยว่าเขาประสบความสำเร็จได้อย่างไร
การแข่งขันระหว่างนักรบ โจรและนักบวช เจอกับ พ่อมด นักเวทย์และชาแมน
ลูหลี่มั่นใจในการแข่งขันครั้งนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความระมัดระวังตัวของเขาลดลงเลย
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาต่อสู้กับชาแมนผู้กลืนกินพลังชีวิต
นักเวทย์ พ่อมด ชาแมนเป็นทีมที่เน้นในการทำลายล้าง ตัวหลักของทีมคือ ชาแมนผู้กลืนกินพลังชีวิต
ทีมนี้มีความสามารถในการปลดปล่อยความเสียหายที่เกิดขึ้นรอบพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและทักษะของพวกเขาก็มีผลต่อกัน ความสามารถในการระเบิดทันทีของฮีลเลอร์ฝ่ายตรงข้ามเป็นเรื่องพิเศษสำหรับพวกเขา
ทีมของลูหลี่ไม่มีทางเลือกมากมายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทีมรูปแบบนี้ ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถร่วมมือกันและให้ชาแมนดูดเลือดไปเรื่อยๆ ทุกอย่างก็จะดีไปเอง
การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว
แต่ละฝ่ายต่างลองเชิงกันและชาแมนก็ได้ใช้ทักษะดูดกลืนพลังชีวิตในทันที
พวกเขาไม่สามารถหาช่องว่างหรือข้อผิดพลาดใดๆได้เลยจากทีมของลูหลี่ ไม่มีเลยสักนิด พวกเขาหวังที่จะฆ่ามาสเรนในทันทีที่ทักษะดูดกลืนพลังชีวิตทำงานอยู่
ทันทีที่ทักษะดูดกลืนพลังชีวิตของชาแมนทำงาน ลูหลี่ก็ได้ใช้ทักษะซุ่มโจมตีใส่พ่อมดพร้อมใช้ทักษะซ่อนเงา
ขณะที่เขาติดสตันเป็นเวลา 4 วินาที ลูหลี่ก็ได้พุ่งเป้าไปที่นักเวทย์
มูนไลท์ประสานการโจมตีของเขากับลูหลี่พร้อมๆกับพุ่งตรงเข้าใส่นักเวทย์
การโจมตีคือการป้องกันที่ดีที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเอาชนะทีมนี้ไปได้
การแข่งขันอีกสามรอบต่อไปพวกเขาเจอกับทีมทั้งหมดที่มาจาก สมาคมที่มีอันดับต่ำกว่า 50 ในระบบจัดอันดับสมาคม ทีมเหล่านี้ต่อสู้ได้ง่ายมาก เมื่อต้องเทียบกับทีมของเมเปิ้ลอันน่าจดจำและทีมของลูหลี่ก็ประสบความสำเร็จได้ 12 คะแนนจากการแข่งขันในแต่ละวัน
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา หากพวกเขาได้รับอีก 6 คะแนนหรือได้รับชนะอีก 2 ครั้งพวกเขาก็สามารถเข้าสู่รอบ 16 ทีมได้