จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 299
บทที่ 299: ท็อป 100 (ตอนที่ 3)
เนื่องจากเพียงแค่การแข่งขันแบบเดี่ยว ก็ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่คิดว่าพวกเขาได้เห็นจุดจบของการแข่งขันครั้งนี้
แผนที่ในการแข่งขันครั้งนี้เป็นทะเลทรายที่สามารถมองทุกอย่างที่อยู่รอบๆได้อย่างชัดแจ้ง
เอลฟ์เว่นพุ่งไปข้างหน้าทันที ราวกับว่าไม่มีอะไรจะหยุดเขาได้ ทั้งสองฝ่ายต่างต่อสู้กันตรงๆไปเลย เนื่องจากไม่มีที่ให้ซ่อนแล้ว
"เอลฟ์เว่นพุ่งออกไปด้วยความกล้าหาญมากๆเลยครับ"
นักพากย์ไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ด้วยประสบการณ์ของเขา มันบอกเขาว่าการแข่งขันครั้งนี้ได้จบลงแล้ว
ไม่มีความร่วมมือกันระหว่างเอลฟ์เว่นและมาร์คที่เป็นนักล่าในสมาชิกทีมของเขาเลย
ดูเหมือนว่าเอลฟ์เว่นกำลังตั้งใจที่จะแสดงความสามารถที่สามารถอยู่ยงคงกระพันได้ ขณะที่อีกฝ่ายคงจะต้องมองอย่างสิ้นหวังเท่านั้น
โชคทางใต้แห่งเปอร์เซียยังคงถอยหลังออกไปเช่นเดียวกับที่เขาต่อสู้ในการแข่งขันรอบก่อนหน้านี้ของเขา ขณะที่เอลฟ์เว่นก็ยังมีเป้าหมายคือเขาเหมือนเดิม
ปลอม! นี่เป็นดูปลอมเกินไปแล้ว!
ลูหลี่ส่ายหัว เขาไม่ต้องการที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการแข่งขันเลย
มันง่ายที่จะเห็นทุกอย่างชัดเจนจากมุมมองของคนนอก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้เล่นที่ลงแข่งขัน ดูเหมือนว่าเอลฟ์เว่นจะหลงกลเขาจากการแข่งขันแบบเดี่ยว เขาได้ประเมินความแข็งแกร่งของอุปกรณ์ LV25 ใหม่ของเขามากจนเกินไป
ไม่มีการประสานงานกันเลยของทีมจากสมาคมปีกแห่งรุ่งอรุณ เอลฟ์เว่นได้พุ่งมาไกลจากทีมของเขาเกินไปแล้ว
เป็นเวลาไม่นานนัก โชคทางใต้แห่งเปอร์เซียก็ได้เผยคมเขี้ยวของตัวเองออกมา
ฟรอสโนวา!
เอลฟ์เว่นที่ทิ้งสมาชิกทีมไว้เบื้องหลังก็ถูกตรึงอยู่ที่จุดนั้น ขณะที่โชคทางใต้แห่งเปอร์เซียก็ได้เทเลพอร์ตไปที่เบื้องหลังของมารค์ที่เป็นนักล่า
เขาต่างหากที่เป็นเป้าหมายที่แท้จริง
มาร์คถถูกลูกบอกสายฟ้าน้ำแข็งโยนใส่ มันแทบจะเป็นการโจมตีที่แทบจะในทันทีและติดคริติคอลด้วย ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาลดลงเป็นอย่างมากจากเอฟเฟคพิเศษของทักษะ แตนเน็ทได้เปลี่ยนเป้าหมายจากคำโกหกที่มากกว่าสายลมที่เป็นพาลาดินกลายเป็นนักล่าแล้ว
ขณะที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น คำโกหกที่มากกว่าสายลมก็ถูกดึงไว้โดยความว่างเปล่า
เอลฟ์เว่นถูกแช่แข็งและพาลาดินก็กำลังถูกดึงไว้อยู่ ไม่มีทางให้หนีได้เลย
นักล่าLV24 ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงเวลาที่พาลาดินจะมาช่วยเหลือเขาและเขาก็ไม่สามารถทนได้ถึงตอนที่เอลฟ์เว่นจะหลุดออกมาจากการแช่แข็ง น่าอับอายมาก เขากลายเป็นคนแรกที่ถูกส่งออกไปจากการแข่งขันแบบกลุ่มนี้
เอลฟ์เว่นก็ตายไปเช่นกัน
ทิศทางของการต่อสู้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วได้อย่างไรกัน? ทั้งทีเมื่อกี้เป็นพวกเขาที่ชนะด้วยซ้ำ
ลูหลี่ยืนขึ้นและปล่อยให้ผู้ชมที่เหลืออยู่นั่งต่อไป การแข่งขันได้จบลงตั้งแต่ตอนนี้แล้ว ไม่มีอะไรให้ดูอีกแล้ว
สมาคมสวรรค์ชั้นเจ็ดได้ชนะไปสองแต้ม ขณะที่สมาคมปีกแห่งรุ่งอรุณได้รับเพียงแต้มเดียว แม้จะมีนักรบที่มี LV25 ก็ตาม
โชคทางใต้แห่งเปอร์เซียได้ตั้งใจพ่ายแพ้ตั้งแต่ต้น
แม้ว่าจะไม่มีการรับประกันว่าเขาจะได้รับชัยชนะจากเอลฟ์เว่นในการแข่งขันครั้งนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลยที่เขาจะกล้ายอมแพ้โง่ๆ
เขาได้แพ้ให้กับเอลฟ์เว่น แต่ก็ได้รับรางวัลจากการแข่งขันแบบกลุ่ม อันที่จริงเอลฟ์เว่นที่มั่นใจในฝีมือของตัวเองก็ได้ทำให้เขาไม่ร่วมมือกับทีมของตัวเอง
เขาคิดว่าจะชนะง่ายๆ ซึ่งนี้ก็ได้เป็นบทเรียนให้กับเขา
อาชีพสายเวทย์ของสมาคมปีกแห่งรุ่งอรุณมีข้อได้เปรียบเหนือกว่าสมาคมสวรรค์ชั้นเจ็ดโดยการรวมกันของนักเวทย์ พ่อมดและชาแมน อีกทั้ง พวกเขายังมีนักรบคลั่งที่มีระดับ 25 ซึ่งทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีอะไรที่ทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ลงไปได้เลย
วิธีเดียวที่พวกเขาจะแพ้ก็คือข้อผิดพลาดที่พวกเขาสร้างขึ้นเอง
แม้ว่าสมาคมปีกแห่งรุ่งอรุณได้พ่ายแพ้การแข่งขันครั้งนี้ไป ก็ไม่มีใครคิดว่าฤดูกาลนี้ของพวกเขาได้จบลงแล้ว
ด้วยเหตุการณ์ในครั้งนี้ เอลฟ์เว่นจะระมัดระวังตัวมากขึ้นในครั้งต่อไป นั้นทำให้ทีมต่อไปที่เจอกับพวกเขาต้องโชคร้ายมาก
คู่ต่อสู้ฝ่ายตรงข้ามของทีมลูหลี่นั้นมาจากสมาคมวัดมาจิน
มันเป็นชื่อที่เหมือนกับบอกตัวของตัวเอง สมาคมพวกเขาประกอบไปด้วยนักเวทย์จำนวนมาก แม้มันไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน
พวกเขามีชื่อเสียงสองประการคือ ประการแรกสมาคมนี้มีนักเวทย์มากและประการที่สองก็คือประกอบด้วยสมาชิกผู้สูงอายุจำนวนมาก
สมาคมวัดมาจินบางครั้งก็ถูกเรียกว่าสมาคมวัดอันแสนเก่าแก่ในรุ่งอรุณ
เมื่อยุคเสมือนจริงได้เข้ามาโดยใช้การเล่นเกมเสมือน นั้นทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในรูปแบบหลักของความบันเทิงสำหรับคนทั่วๆไป เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นผู้เล่นอายุประมาณสามสิบหรือสี่สิบปีในเกม แต่ไม่ค่อยพบใครที่มีอายุมากนักในเกม
สื่อข่าวในวงการเกมต่างก็อธิบายว่าสมาคมวัดมาจินนั้นพูดได้ว่า "รุ่นเก่า แต่ก็ยังคงแข็งแกร่ง"
"นายหรือฉัน?"ลูหลี่ถามมูนไลท์ก่อนที่การแข็งขันจะเริ่ม
มูนไลท์ส่ายหัวและหัวเราะอย่างขมขื่น
"ฉันไม่รับประกันว่าจะชนะเลย"
หากนักรบต่อสู้กับนักเวทย์ ก็เป็นธรรมชาติที่จะมีข้อเสียเปรียบในเรื่องของอาชีพ เว้นเสียแต่ว่าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะทำผิดพลาดหรือมีความแตกต่างกันมากระหว่างอุปกรณ์หรือระดับ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะชนะ แทนที่จะหวังว่าผู้เล่นมืออาชีพจะผิดพลาด คุณควรจะเชื่อว่าคุณจะเปลี่ยนร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าในระหว่างการแข่งขันมากกว่ามั้ง
ชื่อของราชานักเวทย์อันดับหนึ่งก็คือ เมเปิ้ลอันน่าจดจำ เขามีชื่อเสียงมาเกือบร้อยปีและมีประวัติร่วมกับสมาคมวัดมาจิน
แต่แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถเล่นเกมมาได้นานถึงหนึ่งร้อยปี
ชื่อนี้ได้สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น นักเล่นเกมต่างๆที่ใช้ชื่อนี้ก็สืบทอดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งชื่อเสียงของเขาโดดดังมาก
เขาได้ถูกรู้จักว่าเป็นนักเวทย์อันดับหนึ่งในทุกๆเกม ซอวโรวเลสเป็นตำนาน แต่เขาไม่ใช่นักเวทย์หมายเลขหนึ่ง
"เอาล่ะ" ลูหลี่กัดริมฝีปาก "ฉันจะไปพบกับนักเวทย์หมายเลขหนึ่งเอง"
ไม่มีใครอยากจะยอมรับว่าตัวเองนั้นอ่อนแอยิ่งกว่าคนอื่น มันจึงเป็นการดีกว่าที่จะท้าทายผู้แข็งแกร่งด้วยตัวเอง
"เมเปิ้ลอันน่าจดจำมีข้อมูลที่น้อยมากในเกมรุ่งอรุณ เขามีทีมเฉพาะของเขาในสมาคมวัดมาจินและมักจะไม่ได้เจอกับคนนอกเลย มีเพียงไม่กี่คนที่ได้เคยต่อสู้กับเขาเท่านั้น มันจึงแทบจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาเลย "มูนไลท์กล่าวออกมาอย่างไร้หนทาง
ลูหลี่หยิบกระดาษข้อมูลขึ้นมาอ่าน ในนั้นมันมีเพียงชื่อทักษะและเอฟเฟคของอุปกรณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเพียงแค่ชื่อทักษะที่มีอยู่ในนั้นอันเดียวก็ได้ทำให้ลูหลี่รู้สึกตกใจ
"เขาสามารถใช้ทักษะตู้เย็น ฟรอสโนวาและยังสามารถเรียกสัตว์เลี้ยงธาตุน้ำขึ้นมาได้ด้วย ... "
ด้วยทักษะตู้เย็นจะทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดได้ ส่วนทักษะฟรอสโนวาเป็นทักษะในการสตันและเช่นเดียวกันกับสัตว์เลี้ยงธาตุน้อย ถึงแม้อย่างนั้น ลูหลี่ก็ไม่แน่ใจเลยว่าจะได้พบกับทักษะพวกนี้ในช่วงเวลานี้ของเกม
การมีสัตว์เลี้ยงธาตุน้ำ มันจะสามารถใช้ลูกบอลสายฟ้าน้ำแข็งได้เอง และนอกจากความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วยังมีโอกาสที่จะติดผลของการลดความเร็วในการเคลื่อนที่อีกด้วย
อีกทั้งสัตว์เลี้ยงธาตุน้ำยังสามารถใช้ทักษะฟรอสโนวาได้เองอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ เมเปิ้ลอันน่าจดจำจึงเหมือนกับมีทักษะฟรอสโนวา 2 ทักษะ
"ทักษะสัตว์เลี้ยงธาตุน้ำของนักเวทย์มีกันไปทั่วในเกมรุ่งอรุณเลยงั้นเหรอ โดยที่เราไม่รู้เนี้ยนะ?"ลูหลี่รู้สึกเหมือนกับว่าเกมนี้เป็นเกมที่เขาไม่เคยรู้จักเลย
"นายต้องล้อเล่นแล้ว ที่เมเปิ้ลอันน่าจดจำมีทักษะนี้ ก็เพราะเขาเปลี่ยนอาชีพให้กลายเป็นนักเวทย์น้ำแข็ง รางวัลของภารกิจก็คือ สัตว์เลี้ยงธาตุน้ำ"มูนไลท์อธิบาย
"น่าอายจริงๆที่ฉันไม่ได้ทักษะคิดไนท์สไตรค์เลย" ลูหลี่ถอนหายใจ
การต่อสู้แบบเดี่ยวในครั้งนี้เป็นศึกระหว่างโจรและนักเวทย์
หนึ่งในนั้นคือนักเวทย์หมายเลขหนึ่งของที่มีชื่อเสียงอยู่มาเป็นเวลานานและอีกคนคือลูหลี่ซึ่งเป็นคนที่ทำให้กริชสีเลือดคิดเกี่ยวกับตัวเขาตลอดทั้งวัน เพียงแค่ได้ยินครั้งเดียว การแข่งขันนี้ก็ได้ดึงดูดความสนใจแทบทุกๆคน
เนื่องเพราะในเวลาไม่นานนัก ในระหว่างการสัมภาษณ์กริชสีเลือด เขาได้กล่าวว่าเขาต้องการที่จะเอาชนะลูหลี่มากที่สุดในการแข่งขัน
สื่อไม่ได้หาเหตุผลที่ชัดเจนแน่นอน แต่นี่ก็เพียงพอแล้วที่ลูหลี่จะกลายเป็นคนที่คนทั่วไปรู้จักกันดี
อะไรที่เกี่ยวกับตัวเขาจึงทำให้กริชสีเลือดมองว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกัน?
ทันทีที่ลูหลี่เข้ามาในแผนที่เขาก็เข้าสู่สถานะหายตัวทันที เขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเมเปิ้ลอันน่าจดจำเลย ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องตรวจดูก่อน
เมเปิ้ลอันน่าจดจำไม่ได้วางแผนที่จะซ่อนอะไรไว้เลย สัตว์เลี้ยงธาตุน้ำของเขาถูกอัญเชิญทันทีและมายืนรออยู่ข้างๆเขา