จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 287
บทที่ 287: การสะท้อนที่ถึงแก่ความตาย
เด็กสาวที่ถูกลอบเข้าไปโจมตีข้างหลังกลับโดนความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่กลับกันคนที่พยายามจะโจมตีเธอโดยการใช้ทักษะอัลติเมทดันตายแทนซะงั้น
ลูหลี่รู้สึกว่ามุมปากของเขากำลังกระตุกขณะที่เขากายหน้าผากด้วยมือของเขา ในบรรดาตำแหน่งที่ๆโจรสามารถโจมตีได้เขาดันเลือกที่จะโจมตีไปที่ศรีษะของลูกสาวของระบบ
ซึ่งไม่นานมานี้ฮาชิจังก็พึ่งได้รับหมวกอันใหม่มา ค่าสถานะของมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่มันกลับมีเอฟเฟคพิเศษที่น่าสนใจมาก ซึ่งนั้นก็คือการสะท้อนความเสียหายถึง 200%
ตีฉันสิ แล้วฉันจะสะท้อนมันกลับไปจนถึงตายเชียวแหละ
เลขที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของโจรมันคือความเสียหายเกือบถึง 500 จุด
ด้วยความที่ฮาชิจังได้รับความเสียหาย 200 จุด มันจึงได้ส่งผลให้เกิดความเสียหาย 500 จุดขึ้น
เรื่องที่เขาจะตายนั้นเป็นเรื่องที่เขาไม่คาดฝันเลย
ผู้ชมมากมายต่างก็ตกอยู่ในความสับสน มันเพิ่งเกิดอะไรขึ้นเนี้ย?
ทำไมคนที่ยืนอยู่ตรงนั่นและถูกโจมตียังคงยืนอยู่โดยไม่ทุกข์ร้อน แต่ในขณะที่คนโจมตีใส่เขากลับตายจริงๆซะงั้น?
"กล้าที่จะตีฉันเหรอ ฉันก็จะให้นายตีเลย!"ฮาชิจังนั้นกระทืบไปที่ศพของโจรด้วยความเกลียดชัง ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าศพนั้นหายไปอย่างรวดเร็วพร้อมแสงสีขาว เธอก็คงจะกำลังง่วนอยู่กับมันเป็นเวลานาน
"ฮึ่ม"
นักพากย์นั้นเกือบจะร้องไห้ออกมา ทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือการแสดงความคิดเห็นอย่างเรียบๆ "เธอยังคงน่ารักอยู่เสมอเลยครับ แม้กระทั่งตอนที่เธอโกรธ ตามที่คาดไว้ครับ ฮาชิจังก็ยังคงป๊อปปูล่าเช่นเคย"
พ่อมดที่ยังมีชีวิตอยู่ก็รู้สึกตกใจ เขาสามารถจัดการฮาชิจังด้วยมือตัวเองได้ แต่เมื่อเขาได้คิดถึงฉากแปลกๆที่เกิดขึ้นก่อนที่ตาของเขาจะหลับลงสักครู่ มันก็ได้ทำให้เขาสูญเสียความกล้าหาญไปแทบทั้งหมดแล้ว
แม้ว่าพ่อมดจะรู้สึกตกใจ ดอกไม้อ้างว้างก็ไม่ได้เป็นเหมือนกันสักหน่อย เขาหันหลังกลับไปพร้อมกับอาเซอร์ซีบรีสและทั้งสองคนต่างก็มุ่งโจมตีไปที่พ่อมดพร้อมๆกัน
ซึ่งฮาชิจังนั้นก็มาช่วยด้วยเช่นกัน ด้วยการร่ายเวทย์มนต์ทุกอย่างและเปิดใช้เอฟเฟคพิเศษในอุปกรณ์เธอทุกชนิด
และหนึ่งในเอฟเฟคพิเศษนั้นก็คือ สถานะใบ้ พ่อมดไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้และเสียชีวิตทั้งๆที่ไม่ได้ตอบโต้เลย
ทีมของอาเซอร์ซีบรีสประสบความสำเร็จในการชนะการแข่งขันครั้งนี้
"ฮาชิจัง เธอน่าทึ่งมากเลย" ลูซินกล่าวด้วยความชื่นชมหลังจากที่ทั้งทีมได้ออกมาจากการแข่งขัน
เธอเพิ่งได้พบกับคนสองคนที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกันและยังเล่นเกมได้ดีอีกด้วย หนึ่งคือความฝันที่เหลืออยู่ที่ซึ่งมีสัตว์เลี้ยงที่แสนวิเศษและสองคือฮาชิจังที่ยืนอยู่เฉยๆในตอนนี้คนที่โจมตีใส่เธอกลับตายเอง นี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าสิ่งอื่นๆที่เธอเคยเห็นมาก่อนเสียอีก
"แน่นอนอยู่แล้ว เรายังไม่เคยแพ้มาก่อนเลยนะ"
ฮาชิจังรู้สึกภูมิใจกับตัวเองมาก เธอนั้นรู้สึกดีที่ได้รับความชื่นชม แต่มันช่างเป็นความน่าอับอายอย่างแท้จริงที่เพื่อนรักที่สุดของเธออย่างความฝันที่เหลืออยู่กลับไม่เคยชื่นชมเธอเลย แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ความฝันที่เหลืออยู่ดันพยายามที่จะเลี้ยงฮาชิจังอยู่เสมอ ฮาชิจังจึงได้ตัดสินใจว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอจะทำให้ลูซินกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนใหม่ของเธอ
"ด้วยเทคนิคของเธอแล้ว... เธอควรฝึกฝนเทคนิคของเธอให้มากขึ้นกว่านี้ แม้ฉันจะทำให้เธอขายหน้าก็เถอะ"ลูหลี่กล่าวออกมาเพื่อสบประมาทคำพูดที่เหลวไหลของฮาชิจัง
ที่เด็กสาวคนนี้สามารถมาได้ไกลถึงขนาดนี้ก็มาจากเหตุผลสองประการคือ หนึ่งมีเซ็ตไอเท็มที่แสนจะผิดปกติและสองคือเพื่อนร่วมทีมที่ยอมเยี่ยมอย่าง ดอกไม้อ้างว้างและอาเซอร์ซีบรีส
"ใช่ฉันรู้ดี" ฮาชิจังยอมรับ เธอยังคงตระหนักถึงความผิดพลาดของเธออยู่
เธอไม่ใช่เด็กสาวที่ไร้เหตุผล
ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ทีมของลูหลี่ก็ไม่ได้เป็นเหมือนกับนักเล่นเกมมืออาชีพที่เข้ามาเล่นเกมเช่นเกรชอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าการแข่งขันของพวกเขาครั้งนี้จะเกิดความลำบากเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้ถึงจุดที่ว่ามาสเรนจะถูกส่งออกไปจากการแข่งขันเป็นคนแรกเลย
เจ้าของบ้านสาวทั้งสามคนนั้นมาช้ามาก แต่ก็ได้มารวมตัวกับทุกคนอย่างรวดเร็ว
ทุกๆคนต่างก็ไม่มีข้อสงสัยใดๆในเรื่องข้อเสนอของยี่ยี่และพเนจรก็ได้พูดคุยไปทีละเรื่อง จนข้อตกลงของข้อเสนอได้เกิดขึ้น ร้านขายยาของพวกเธอจะจัดโพชันทุกชนิดให้กลุ่มของทหารรับจ้างซินซินโดยไร้ค่าใช้จ่าย ในทางกลับกันกลุ่มทหารรับจ้างซินซินต้องโฆษณาร้านนี้อย่างเปิดเผย
นี่เป็นโอกาสที่ทำกำไรได้มากสำหรับยี่ยี่ เพราะกลุ่มทหารรับจ้างซินซินนั้นมีชื่อเสียงมากและเมื่อการแข่งขันถ้วยเงาได้จบลงแล้ว ชื่อเสียงของพวกเขาก็จะยิ่งก้าวไปอีกขั้น
แต่ลูหลี่นั้นไม่ได้สนใจเลย โพชั่นที่หายากของพวกเขาแทบทั้งหมดต่างถูกสร้างขึ้นมาโดยลูกชิ้นงา ขณะที่โพชั่นปกติของพวกเขาได้มาโดยการซื้อมาจากการประมูล ถ้ามีคนเสนอโพชั่นฟรีให้พวกเขา ทำไมพวกเขาจึงต้องปฏิเสธข้อเสนอนี้ด้วยละ
ร้านค้าจำนวนมากต่างก็ใช้เทคนิคการโฆษณาแบบนี้สำหรับผลิตภัณฑ์ของตน อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การสนับสนุนอย่างเป็นทางการ
ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนใหม่ผู้เชี่ยวชาญของเธอ ลูซินจึงสามารถเพิ่มระดับขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ช่วงบ่าย ระดับของเธอก็ถึง 10
ซึ่งดู่ดู่ก็ได้เตรียมหนังสือทักษะไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว พวกเธอนั้นต่างก็ชอบลูซินมากจากก้นบึ้งของหัวใจและพวกเธอก็เตรียมตัวดีกว่าลูหลี่เสียอีก
การฝึกสัตว์นั้นไม่ได้เป็นงานที่ยากจนต้องถึงมือของลูหลี่
อีกทั้งลูซินยังยืนกรานว่าเธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากกลุ่มทหารรับจ้างของเขา ดังนั้นเขาจึงพาทุกคนกลับไปที่แอสทาน่าเพื่อไปฟาร์มมอนเตอร์ต่อ
ในเวลานี้มอนสเตอร์ในป่ามีโอกาสที่จะดรอบกล่องขนมพระจันทร์ออกมา กล่องขนมพระจันทร์เหล่านี้ต้องถูกเปิดโดย NPC และยังมีกล่องขนมพระจันทร์ที่สามารถให้บัพทุกประเภทรวมทั้งไอเท็มบางอย่างอีกด้วย
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือกล่องขนมพระจันทร์นั้นดรอบหนังสือทักษะ "การขี่พาหนะขั้นพื้นฐาน" และยังมีโอกาสเล็กๆน้อยๆที่ผู้เล่นจะได้รับพาหนะ
ในเกมรุ่งอรุณผู้เล่นจะต้องรอจนกว่าจะถึงระดับ 30 แล้วจะมีโอกาสได้เรียนรู้ทักษะขี่พาหนะและพวกเขาก็จะได้รับพาหนะหลังจากที่ได้เรียนรู้ทักษะเสร็จ
พาหนะสามารถหาได้หลายวิธี พาหนะบางอย่างได้มาจากอีเวนท์ บางอย่างได้มาจากเควสและมีเพียงไม่พาหนะไม่กี่แบบที่ดรอบมาจากบอส
แม้ว่าผู้เล่นจะไม่ได้พาหนะมาจากวิธีการเหล่านี้ ก็ไม่ต้องมีความจำเป็นที่จะต้องสับสนอะไรนัก เพราะว่ามีผู้เชี่ยวชาญในการฝึกสัตว์ขายพาหนะอยู่ในเมืองหลัก แม้ว่าราคามันจะสูงไปสักเล็กน้อย แต่พวกเขาก็สามารถใช้เกียรติยศที่ได้มาจากสนามรบจ่ายแทนได้ หากพวกเขาไม่มีเงินเพียงพอ เมื่อพวกเขาได้เลื่อนขั้นเป็น ผู้กอง พวกเขาสามารถแลกคะแนนสะสม 20,000 คะแนนจากสนามรบเพื่อพาหนะได้ อย่างไรก็ตาม พาหนะเหล่านั้นจะมีความเร็วในการเดินทางช้ากว่าเล็กน้อย
ซึ่งลูหลี่นั้นก็รู้จักบอสเพียงไม่กี่ตัวที่จะดรอบพาหนะและเขาก็รู้เทคนิคในการเอาชนะพวกมันด้วย
ถ้ากล่องขนมพระจันทร์ดรอบออกมาเป็น "ทักษะขี่พาหนะขั้นพื้นฐาน" สำหรับเขาแล้ว เขาก็คงจะไม่คิดที่จะใช้มันกับตัวเขาเอง
ทีมของเขายังคงฟาร์มมอนสเตอร์ต่อและต้องเข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับในเร็วๆนี้ และหากว่าพวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันในวันนี้เสร็จแล้ว พวกเขาก็คงจะสามารถรวบรวมกล่องขนมพระจันทร์เป็นโหลได้
หากรวมกับกล่องที่เขาเก็บไว้ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ลูหลี่มีกล่องขนมพระจันทร์ประมาณสามสิบกล่องและคนอื่นๆก็มีประมาณเท่าๆกัน
" เรียกซินซินให้มาเปิดกล่องขนมพระจันทร์พวกนี้ที ฉันได้ยินจากคนอื่นบอกว่า พวกเขาได้รับอุปกรณ์ดีๆจากกล่องพวกนี้ "
ฮาชิจังไม่สามารถเปิดกล่องด้วยตัวเองได้ เนื่องจากเวลาในการเล่นของวันนี้ได้หมดลงแล้ว ในขณะที่ลูหลี่และคนอื่นๆก็ยังคงฟาร์มมอนเตอร์อยู่
"โอเค งั้นวันนี้เราจะหยุดแค่นี้ก่อน" บางทีที่เขาพูดแบบนี้อาจเป็นเพราะน้องสาวของเขาและลูหลี่ก็ไม่คัดค้านเลย
หลังจากที่พวกเขากลับมาที่เมือง พวกเขาก็ได้เห็นกับฝูงชนมากมายเต็มท้องถนน
"ซื้อกล่องขนมพระจันทร์ในราคาสูงสุดอยู่ที่ 20 เหรียญเงินสำหรับหนึ่งกล่อง ฉันซื้อมาแล้วสองสามร้อยกล่องและไม่มีเงินเหลืออยู่มากนัก ดังนั้นตอนนี้ฉันจึงต้องการซื้อเพียงแค่สิบกล่องเท่านั้น "
"มันจะเป็นการกระทำที่โง่มากเลย ที่จะไม่ขายกล่องของพวกคุณให้กับฉัน อุปกรณ์ระดับเหล็กแลกกับกล่องขนมพระจันทร์ พวกคุณกำลังรออะไรอยู่ คุณสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้อย่างง่ายดายด้วยชุดระดับเหล็กครบชุด มันจะทำให้ทุกๆอย่างเร็วขึ้นมากเลยทีเดียว "
จากช่องแชทระดับภูมิภาคไปจนถึงช่องแชทโลก ข้อความสแปมเหล่านี้ต่างก็มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
นักธุรกิจเหล่านี้กดราคาในการชื้อไว้ต่ำมากและการซื้อกล่องหนึ่งกล่องก็มีมูลค่าอยู่ที่ 20 เหรียญเงิน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นและยังไม่มีการแข่งขันมากนัก
20 เหรียญเงินเป็นเงินจำนวนมากสำหรับบางคน แต่สำหรับลูหลี่และคนอื่นๆมันก็ไม่ได้มีค่าอะไรมากนัก
พวกเขาไม่สนใจนักธุรกิจในเกมพวกนี้และเดินเข้าไปในห้องโถงศูนย์กลางเมือง
มีเลขานุการที่แสนสวยยืนอยู่ข้างเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ชุดเกราะหนังที่เธอสวมใส่นั้นแสดงให้เห็นถึงส่วนโครงเว้าของเอลฟ์จนดึงดูดผู้คนมากมายให้เรียงรายอยู่ข้างหน้าเธอ
เมื่อลูหลี่และคนอื่นๆมาถึงครั้งแรกพวกเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเลขานุการคนนี้มากนัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อดอกไม้อ้างว้างที่ยืนอยู่ด้านหน้าได้เอากล่องขนมพระจันทร์ออกมา ทั่วทั้งห้องโถงก็มีกลิ่นหอมๆลอยอบอวน
กล่องขนมพระจันทร์จะไปยังกระเป๋าของผู้เล่นทันที เมื่อพวกมันดรอบ คนที่ฆ่ามอนสเตอร์จะมีโอกาสมากที่สุดในการได้รับกล่อง ในขณะที่อาชีพฮีลเลอร์จะสุ่มได้รับกล่องพวกนั้นจากมอนสเตอร์ที่ถูกฆ่าโดยคนอื่น
แม้กระทั่งสำหรับนักเวทย์ที่มีความสามารถในการสร้างความเสียหายเป็นพื้นที่ การได้รับกล่องขนมพระจันทร์ถึงเจ็ดสิบกล่องก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ