จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 285
บทที่ 285: ลูหลี่สองคน
เกรชได้ฆ่ามาสเรนไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเลย หญิงสาวคนนี้มีความสามารถมาก ถึงแม้ว่าเธอรู้ว่ายังไงเธอก็กำลังจะตาย เธอจึงพยายามที่จะทำให้เธอรอดชีวิตได้นานที่สุด
ด้วยการกระทำแบบนี้ของเธอ มันจึงทำให้เกรชสูญเสียโอกาสที่จะช่วยนักเวทย์ไป
หรือในทางตรงกันข้าม ดูเหมือนว่าเขาจะคำนวณผิดพลาด เขาคิดว่าเขาสามารถฆ่านักบวชนี้ทันเวลาแล้วหันกลับไปช่วยนักเวทย์ได้
เรื่องไม่คาดฝันนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ เขาประเมินระดับความสำเร็จทักษะของลูหลี่ต่ำไป แม้กระทั่งนักรบคลั่งอย่างตัวเขาเองก็แทบจะกลายเป็นหิน เมื่อได้รับความเสียหายจากลูหลี่ ไม่ต้องกล่าวถึงมาสเรนที่เอาชนะได้ยากเลย
ตอนนี้เหลือสองต่อสอง!
มันยากที่จะบอกว่าฝั่งไหนได้เปรียบ ฝั่งของเกรชมีฮีลเลอร์ แต่เนื่องจากหน้าที่ความเสียหายมันเหลืออยู่ที่เขาเพียงแค่คนเดียว มันจึงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขาที่จะฆ่าทั้งลูหลี่และมูนไลท์อย่างรวดเร็วด้วยตัวเขาเอง
ส่วนด้านของลูหลี่และมูนไลท์นั้นสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง
ถ้ามานาของเวนเดอรินหมดก่อน มันก็จะกลายเป็นชัยชนะของลูหลี่และมูนไลท์ แต่ถ้าลูหลี่และมูนไลท์ไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้จนกว่ามานาของเธอจะหมด ทั้งสองคนก็จะตกอยู่ในอันตราย นั้นเพราะว่าทั้งหมดแล้ว พวกเขาไม่สามารถฟื้นฟูเลือดของตัวเองได้เลย
"เกรชฉันจะรับมือเองและนายไปจัดการนักบวชเถอะ" มูนไลท์กล่าวขณะที่เขาโบกมือพร้อมแกว่งขวานใหญ่ที่อยู่ในมือของเขา
"โอเค ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ให้โอกาสเธอได้ใช้ทักษะรักษา" ลูหลี่กล่าวสัญญาก่อนที่จะแฝงตัวเข้าไปในเงามืด
ชาโดว์เมล!
เกรชได้ถอนหายใจออกมา ทักษะนี้เป็นความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของเขา
การที่เวนเดอรินรักษานักรบนั้นแตกต่างจากการรักษาตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะอาชีพของเธอนั้นสวมใส่เกราะผ้า
"เข้ามา ดูซิว่าแกจะแพ้ก่อนไหม" มูนไลท์กล่าวพร้อมเลียริมฝีปาก ความปรารถนาในการต่อสู้นี้มองเห็นได้ชัดเจนผ่านสายตาของเขา
"ได้เลย วันนี้จะเป็นศึกตัดสินว่าระหว่างเราใครเก่งกว่ากัน"
เกรชนั้นปรับตัวอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่ามูนไลท์นั้นเป็นศัตรูที่ต่อสู้ด้วยอย่างยากลำบากและเขาก็ต้องตั้งใจด้วย
เวนเดอรินนั้นไม่ได้ตื่นตระหนกเลย เธอวางบัพฮีลอย่างสม่ำเสมอและป้องกันตัวเองด้วย
ถ้าลูหลี่โผล่ขึ้นมา เขาจะต้องเจอกับโล่ของเธอก่อนและถ้าเขารอให้โล่ของเธอหมดไป เธอก็จะมีเวลามากพอที่จะรักษาเกรชได้
แน่นอนว่าลูหลี่นั้นไม่ต้องการที่จะรอ เพราะทักษะเชปช็อตนั้นไม่มีเวลาคูลดาวน์แล้ว
ด้วยที่เชปช็อตนั้นพร้อมใช้งานแล้ว มันจึงไม่มีปัญหาอะไรเลย
เขาได้แอบเปลี่ยนกริชของเขาเป็นเขี้ยวแห่งความโกลาหลก่อนที่จะโจมตี
นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาควรจะซ่อนความแข็งแรงที่แท้จริงของเขาไว้ เขาไม่สามารถฝากความหวังทั้งหมดกับมูนไลท์ได้ ถ้ามูนไลท์พ่ายแพ้เกรชและเขาล้มเหลวในการฆ่าฮีลเลอร์ พวกเขาก็คงจะแพ้อย่างแน่นอน
เขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองแพ้อย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ต้องใช้ทุกอย่างที่เขามีอยู่ก่อน
"คุณลมครับ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้ครับ?"จาง เจิ้นต้องกล่าวออกมาเพื่อให้คู่หูของเขานั้นรู้ว่าเขาลืมวิเคราะห์ไป
คุณเป็นนักพากย์ ไม่ใช่ว่าคุณมาที่นี้เพื่อดูการแข่งขันเท่านั้นนะ
"ฮึ่ม นี่เป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างเท่าเทียมกันครับ" สายลมแห่งความมืดตอบหลังจากที่เขากระแอ็ม
"คุณคิดว่าลูหลี่จะสามารถฆ่านักบวชก่อนที่เกรชและมูนไลท์จะตัดสินกันได้หรือไม่ครับ?"จาง เจิ้นถาม
จนถึงจุดนี้ การแข่งขันนี้นไม่มีใครเลยนอกเหนือจากแฟนคลับที่ลำเอียงที่จะคิดว่าทีมที่พวกเขาสนับสนุนอยูนั้นจะได้รับการรับรองว่าจะชนะ
"นี่เป็นเรื่องยากที่จะพูดมากเลยครับ การสร้างความเสียหายของลูหลี่นั้นมันผิดปกติมากครับ แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถสตันนักบวชไปเรื่อยๆจนเธอตายได้ครับ เมื่อเวนเดอรินเห็นช่องว่างนั้น เธอก็สามารถฮีลเลือดตัวเองได้ครับ "สายลมแห่งความมืดนั้นมีมุมมองในการวิเคราะห์ที่แง่ร้ายมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ของฝั่งลูหลี่ แต่ในฐานะนักพากย์เขาไม่สามารถสรุปถึงผลแพ้ชนะที่แน่ชัดได้
อย่างไรก็ตามทุกคนเข้าใจดีว่าเขากำลังพูดอะไรออกมา
"เอาล่ะครับ ตอนนี้ลูหลี่กำลังเริ่มที่จะโจมตีเธอแล้วครับ เขาเปิดฉากด้วยโจมตีล่วงหน้าตามด้วยเชปช็อต จากนั้นเขาก็ใช้แทงหลัง ซุ่มโจมตี โอ้ ตอนนี้เขาก็มีคะแนนคอมโบอยู่ถึงห้าแล้วครับ อะไรที่เขาจะทำต่อไปกันนะครับ? แทงหลังด้วยหลังมือหรือกรีดคอกันครับ? รอเดี๋ยวก่อนนะครับ ผมกำลังเห็นอะไรอยู่เนี้ย? ท่านลมครับ นี่คือทักษะอะไรกันงั้นเหรอครับ?"
ในโลกของนักพากย์ จาง เจิ้นเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับสไตล์การพูดคุยอย่างรวดเร็วของเขา เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นเขาเอ่ยถึงทักษะของผู้เล่นด้วยความเร็วที่รวดเร็ว
แต่ตอนนี้เขานั้นจนปัญหาที่จะพูดอะไรเลย
เขาเป็นผู้เล่นในเกมรุ่งอรุณและมีความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับทุกอาชีพ อีกทั้งเขายังเป็นแขกประจำของฟอรัมเกม แต่เขาก็ไม่เคยเห็นอะไรที่เหมือนกับที่เขาเพิ่งได้เห็นเลย
เหตุใดจึงมีลูหลี่สองคนกัน!
"บางทีมันอาจเป็นทักษะแยกร่างบางอย่างก็ได้ครับ ... เกมนี้มีทักษะในการแยกร่างจริงๆสินะครับ ... "
ผู้ชมนั้นรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
นี่เป็นภาพที่พวกเขาไม่เคยเห็นและมันก็ส่งผลกระทบหลายๆอย่าง
บรรดาผู้ที่สนับสนุนลูหลี่กำลังเชียร์พวกเขาอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูหลี่จะทำปาฏิหาริย์อีกครั้ง ในขณะที่บรรดาผู้ชมของเกรชต่างก็ต้องสบถคำหนึ่งออกมา นี้ไม่ยุติธรรมสักนิด!
เขี้ยวแห่งความโกลาหล (ระดับเงิน สมบูรณ์แบบ):พลังโจมตี 24-36 ความคล่องแคล่ว +16, ความแข็งแกร่ง +6 อัตราคริติคอล + 8% เอฟเฟคพิเศษ 1: โอกาสในการเจาะเกราะ 20% เมื่อโจมตีเป็นมีผล 15 วินาที เอฟเฟคพิเศษ 2: มีโอกาสที่จะเรียกร่างเงาออกมาเมื่อโจมตี ร่างเงาสามารถสร้างความเสียหายได้จากพลังโจมตี 30% ของผู้เล่นและมีระยะเวลาคงตัวอยู่ 20 วินาที ระดับความต้องการ 25 ความทนทาน 50/50
ลูหลี่ได้โจมตีซึ่งนั้นทำให้เอฟเฟคพิเศษทำงาน เขานั้นไม่ได้หยุดนิ่งเพียงแค่นั้นและกริชของเขาก็ได้มุ่งเป้าพาดผ่านไปที่ลำคอของเวนเดอริน
ร่างแยกที่เขาเรียกมาก็ได้ทำเช่นเดียวกัน มันคัดลอกการเคลื่อนไหวที่แน่นอนของลูหลี่และกริชของมันก็ยังเคลื่อนไปที่ตำแหน่งเดียวกัน
-312!
-96!
ทักษะอัลติเมทนี้ได้ทำให้เลือดของเวนเดอรินเสียไปหนึ่งในสี่ ซึ่งด้วยความเสียหายที่เธอได้รับมาจากครั้งก่อนๆ มันก็ทำให้เวนเดอรินไม่ได้เหลือเลือดมากนัก
นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ลูหลี่ยังไม่ได้ใช้ทักษะชาโดว์สไตรค์ของเขาเลย
ร่างแยกนั้นก็สร้างความเสียหายได้เหมือนกับลูหลี่ทำ ดังนั้นแล้ว เมื่อชาโดว์สไตรค์ได้ถูกใช้งานซึ่งมันก็มีความเสียหายเทียบเท่ากับการโจมตีปกติสามครั้ง มันจึงทำให้ชีวิตของเวนเดอรินอยู่ในอันตรายจริงๆ
เมื่อการสตันสองวินาทีกำลังจะหมดลง ลูหลี่ก็ได้ใช้ทักษะกูวต่อ
ในช่วงเวลาสุดท้ายของเธอ เวนเดอรินนั้นได้ฟื้นคืนมาจากสตัน แต่เธอก็แทบจะไม่ได้รักษาตัวเองเลย แม้ว่าเธอจะสามารถรักษาตัวเองได้ แต่ก็ไม่มีทางใดเลยที่เธอจะรับมือการโจมตีของลูหลี่ได้
เวนเดอรินได้ล้มลงกับพื้นในขณะที่ ทั้งมูนไลท์และเกรชยังคงมี HP เหลืออยู่ราวๆครึ่งหนึ่ง
"นายแพ้แล้ว"
มูนไลท์หยุดการโจมตีและก้าวถอยหลังไปสองก้าว แม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจเกี่ยวกับการที่ลูหลี่ฆ่าฮีลเลอร์ไปอย่างรวดเร็วก็ตาม
"อืม" เกรชยอมรับขณะที่เขายิ้มอย่างขมขื่น "แต่มันจะมีโอกาสมากขึ้นแน่ในอนาคต."
การแข่งขันในฤดูกาลปกตินั้นแตกต่างไปจากการแข่งขันที่แพ้แล้วคัดออก การแพ้ในการแข่งขันนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะถูกตัดออกจากการแข่งขันเลย แม้ว่าทีมของเกรชนั้นไม่สามารถเข้าสู่รอบสิบหกทีมสุดท้ายด้วยความสามารถของเขาก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีโอกาสที่จะได้เป็นแชมป์ในการแข่งขันถ้วยเงาฤดูกาลถัดไป
เกรชไม่โทษกลีบดอกไม้อันมืดมัวที่ตายเร็วจนเกินไปและเขาก็ไม่โทษตัวเองที่ไม่ได้ฆ่ามาสเรนอย่างรวดเร็ว
พวกเขานั้นเล่นได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วและไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาแพ้ เขาอยู่ระดับ 24 กลีบดอกไม้อันมืดมัวก็มีระดับ 24 และเวนเดอรินมีระดับอยู่ที่ 23 ในทางกลับกันลูหลี่มีระดับ 26 มาสเรนก็มีระดับ 26 และมูนไลท์ก็อยู่ในระดับ 25 ช่องว่างระหว่างทีมนั้นจะมากเกินไปและพวกเขาไม่ได้สวมใส่ไอเท็มที่มีขีดจำกัดระดับอยู่ที่ 25 เลย
หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าพวกเขามีทักษะที่แข็งแกร่ง พวกเขาคงจะไม่สามารถต่อสู้ได้เลย
"เราค่อยพูดถึงเรื่องนี้อีกในครั้งต่อไป ฉันจะต่อสู้กับนายอีกครั้ง"
มูนไลท์กระแทกกำปั้นกับเขาและออกจากการแข่งขันไป เขาไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าเกรชนั้นจะกลับคำพูดของเขา
หลังจากนั้น เกรชก็ได้ออกไปจากการแข่งขันเหมือนกันและลูหลี่ก็ได้รับข้อความบอกว่าเขาชนะจากระบบ
หลังจากที่เขาออกจากสนามแข่งขันแล้ว ร่างแยกของเขาก็หายไปและช่วงเวลาอันแสนน่าทึ่งก็ได้จบลง สิ่งที่เหลืออยู่บนสนามแข่งขันคือความว่างเปล่าและความเงียบ
มีเสียงดังโห่ร้องจากผู้ชมมากมาย แม้แต่ผู้ชมของเกรชก็ปรบมือด้วยเช่นกัน
แม้ทีมของเกรชจะพ่ายแพ้ แต่พวกเขาก็บังคับให้ลูหลี่ใช้ไพ่ตายของเขาออกมา
อีกทั้งทีมของลูหลี่นั้นแทบจะใช้ทุกอย่างเพื่อเอาชนะทีมของเกรช แฟนคลับของเกรชจึงศรัทธาว่าทีมของเกรชจะสามารถเข้ารอบสิบหกทีมสุดท้ายได้อย่างแน่นอน
ลูหลี่ออกจากสนามรบและถูกส่งมายังทางเข้า สมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างซินซินก็นั่งลงบนพื้นและพักผ่อนขณะที่น้องสาวเขาก็กำลังเรียนรู้วิธีการต่อสู้กับมอนสเตอร์จากระยะไกล
ขณะที่เขามองดูอยู่นั้น ลูหลี่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้หยุดเธอเลย