จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 284
บทที่ 284: การแลกเปลี่ยนชิ้นงาน
เกรชจ้องมองไปที่ร่างที่ลอยบนอากาศของลูหลี่ขณะที่เขาใช้ทักษะกระทืบ
ทักษะกระทืบนั้นสามารถถูกมองเห็นได้จากรอยแตกที่แผ่กระจายไปเป็นวงกลมรอบๆตัวเขาพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนต่อวินาที เขาจึงไม่กังวลเลยว่าลูหลี่จะสามารถหลบมันได้
ตอนนี้พวกเขาต้องใช้ประโยชน์จากข้อเท็จจริงที่ว่ามูนไลท์ยังคงไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อีก 8 วินาทีและต้องจัดการกับลูหลี่อย่างรวดเร็ว
ส่วนทางด้านมาสเรนนั้น เธอกำลังวิ่งไปรอบๆโดยสุ่มๆ
เวนเดอรินได้เดินเข้ามาหามาสเรนและได้ใช้เสียงกรีดร้องของวิญญาณใส่เธอและทำให้เธอตกอยู่ในสภาวะหวาดกลัวเป็นเวลา 8 วินาที
ทักษะเสียงกรีดร้องของวิญญาณ เป็นทักษะการสตันที่แข็งแกร่งที่สุดของนักบวช ทำให้เป้าหมายต้องวิ่งไปรอบๆโดยที่ทำอะไรไม่ได้
ในขณะที่สมาคมจักรวรรดิวายุในตอนนี้มีระดับอยู่ที่ LV21 ซึ่งสาขาหลักก็ต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 20,000 คน อีกทั้งพวกเขายังมีสาขาย่อยไม่มากนัก แต่น่าจะมีสมาชิกทั้งหมดเข้าร่วม 100,000 คน
ไม่เช่นนั้นแล้ว ทั้งเกรชและสมาชิกทีมคงจะไม่มีทักษะที่แข็งแกร่งเช่นนี้หากปราศจากผู้สนับสนุนกว่า 100,000 คน
ตอนนี้มูนไลท์เหลือเวลาสตันอยู่ที่สี่วินาทีก่อนที่น้ำแข็งจะละลายไป ซึ่งนั้นก็เพียงพอแล้ว!
ตอนนี้พวกเขาต้องจัดการลูหลี่ให้ได้
แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานในการอธิบาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทั้งน่าเหลือเชื่อและยังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ลูหลี่ได้กระโดดขึ้นไปนั้นเกิดขึ้นชั่วพริบตา
ทุกคนคิดว่าเขาจะถูกจัดการทันทีที่ลงถึงพื้น
แต่จริงๆแล้วจุดจบของลูหลี่จะมีแค่นี้อย่างงั้นเหรอ?
แน่นอนว่าไม่มีทาง! ไม่มีทางที่เขากระโดดเพื่อถ่วงเวลาไปเพียงเล็กน้อยแค่นั้น
ภายใต้การจ้องมองของผู้ชมถึง 100,000 คน เขาได้เตะขาขวาลงบนหน้าอกของนักเวทย์ ...
มันเป็นไปได้ด้วยงั้นเหรอ?
เมื่อมันได้มาถึงจุดนี้ แม้แต่สายลมแห่งความมืดก็ไปไม่เป็น "ด้วยความว่านี้เป็นเกม ดังนั้นนี้จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ในชีวิตจริง ... "
แม้ว่าเกมเสมือนจริงจะมีมานานกว่า 200 ปีแล้ว แต่สิ่งเดียวที่เขาสามารถพูดได้ก็คือ "ทั้งหมดนี้มันเป็นแค่เกม"
การเตะไปที่คนอื่นเพื่อเปลี่ยนโมเมนตัมนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกในชีวิตจริง อย่างไรก็ตามในเกมมันควรจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความยากลำบากทางเทคนิคที่ต้องทำให้ได้
หลังจากนั้นแล้ว ทุกกฎของเกมก็ได้ถูกสร้างขึ้นรอบแนวคิดของความสามารถในการเล่นที่ทุกคนทำได้
เช่น เมื่อคุณเตะผู้เล่นอื่นในการต่อสู้ก็ไม่มีผลอะไร
แต่เหตุการณ์ที่ได้ตามมาก็ทำให้ทุกคนตะลึง ขณะที่ลูหลี่เตะเสร็จแล้ว ลูกบอลสายฟ้าของกลีบใบไม้อันมืดมัวที่กำลังจะใช้งานก็ได้สลายหายไป
เขาได้รับผลกระทบจากการเตะ!
เมื่อเห็นแบบนั้น ทุกคนก็ได้ตระหนักว่าลูหลี่กำลังใช้ทักษะอยู่
การใช้ทักษะเตะและการที่เตะธรรมดานั้นแตกต่างกัน มีเพียงทักษะเตะเท่านั้นที่ทำให้เกิดเอฟเฟค
เมื่อทักษะนี้ได้ถูกใช้งาน มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะขัดจังหวะทักษะ
แม้ว่าลูหลี่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การใช้สกิลนี้ก็ได้ทำให้เวลาได้ลากต่อไปอย่างเห็นได้ชัด
พื้นดินได้หยุดสั่นสะเทือนและผลของกระทืบก็ได้หายไป ลูหลี่ลงมาที่พื้น แต่เขาก็พยายามยกกริชของเขาและป้องกันทักษะไร้กำลังที่จะใช้กับเขาได้ไม่สำเร็จ
เขาประสบความสำเร็จในการป้องกันทักษะกระทืบแล้ว แต่ความเร็วที่จะลดลงไป 50% และความเสียหายที่จะเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่งนั้นก็ยังมีอยู่
ถึงแม้ว่าเขาจะหลีกเลี่ยงทักษะกระทืบไปได้ แต่ลูหลี่ก็ยังคงตกอยู่ในอันตราย เขาถูกสโลว์และเขาอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับนักรบคลั่ง นักเวทย์และนักบวชของฝ่ายตรงข้าม
ด้วยความกดดันนี้ ลูหลี่จึงต้องถูกบังคับให้ใช้ก้าววายุ
เกมรุ่งอรุณเป็นเกมที่สมดุลมาก
ไม่มีทางใดเลย ที่เขาจะเอาชนะนักรบคลั่งได้ แม้ว่าเขาจะมีอุปกรณ์และระดับที่เหนือกว่าก็ตาม นี่ยังไม่รวมกันอีกสองคนที่เหลืออยู่เลย
เขาไม่ต้องการที่จะทำผิดพลาดเหมือนกับหมุนตาขวาที่ลังเล เมื่อเขาเห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายมาก เขาก็รีบถอยออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว
ก้าววายุเป็นทักษะการหลบหนีที่ดีที่สุดของโจร นั้นทำให้ลูหลี่สามารถหลบหนีออกมาได้และสามารถจัดการดีบัพต่างๆที่เขาได้รับมาได้
อีกทั้งก้าววายุยังทำให้เขาสามารถเข้าสู่สถานะหายตัวได้อย่างสะดวกสบาย
เกรชนั้นรู้สึกตกใจ เขาคิดว่าลูหลี่จะต้องรู้สึกภาคภูมิใจมากกว่าที่จะต้องตายโดยใช้ก้าววายุ มิฉะนั้นแล้ว เขาคงจะไม่แค่กระโดดและใช้ก้าววายุหนีไปอย่างนั้นหรอก
เขาไม่คิดว่าลูหลี่จะเปลี่ยนใจและหนีไปอย่างทันที
ดังนั้นตอนนี้เขาควรจะโจมตีใครดี? มูนไลท์หรือมาสเรน?
ทั้งสามคนต่างก็วิ่งตรงไปที่มาสเรน ในการสู้รบเป็นทีมของเกมรุ่งอรุณ การตัดสินใจฆ่าฮีลเลอร์ก่อนไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดี
และมาสเรนก็ยังไม่ฟื้นตัวจากสถานะกลัวของเธอและยังคงวิ่งไปรอบๆแบบสุ่มอยู่
ทักษะบอลสายฟ้าของนักเวทย์ก็ได้ประทะกับมาสเรน ซึ่งนั้นได้ทำให้เธอหลุดจากสถานะ แต่การโจมตีครั้งต่อไปก็ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากชารจ์ของเกรช
ทำลายเกราะ บีบคอ ลมกรด
หนึ่งในลักษณะเด่นของเกรชคือเขามุ่งทุกอย่างไปที่เป้าหมายเป็นอย่างมาก เขาใช้ทักษะทั้งหมดที่เขามีเหลือ ตราบเท่าที่เขาบรรลุเป้าหมายของเขา เขาก็ไม่สนใจว่าเขาอาจใช้ลมกรดไปเร็วเกินไปหรือไม่
นั้นจึงทำให้ลูหลี่มีปัญหามาก
ในที่สุดเขาก็เข้าใจได้เลยว่าหมุนตาขวาในตอนนั้นมีความรู้สึกอย่างไร เขาต้องเลือกระหว่างว่าเขาควรจะช่วยเธอดีหรือไม่
ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเขาต้องช่วยเธอ!
ลูหลี่ได้เปิดเผยตัวออกมาและมุ่งตรงไปที่นักเวทย์หรือก็คือกลืบดอกไม้อันมืดมัว
ก่อนอื่นเขาก็ใช้โจมตีล่วงหน้าและตามด้วยเชปช็อต!
โจมตีล่วงหน้าไม่ใช่ทักษะในการต่อสู้และมันทำได้แค่ให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถมองเห็นได้ แต่มันก็มอบคะแนนคอมโบให้ถึงสองแต้ม โจรที่มีทักษะนี้จะใช้ทักษะนี้ก่อนที่จะใช้เชปช็อตเสมอ
ขณะที่นักเวทย์ถูกสตันโดยเชปช็อต ลูหลี่ก็ได้ใช้ทักษะซุ่มโจมตีในทันที
การต่อสู้ระหว่างผู้เล่นนั้นแตกต่างจากการต่อสู้กับมอนสเตอร์ การได้ความสำเร็จทักษะนั้นทำได้ยากมาก เนื่องจากผู้เล่นมักจะหลบหรือป้องกันเสมอ แม้แต่การบิดไปมาเพียงเล็กน้อยจากผู้เล่นอาจจะมีผลกระทบที่เกิดขึ้นจนทำให้ความสำเร็จทักษะต่ำลง
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์เช่นนี้ เรื่องพวกนั้นไม่จำเป็นต้องสนใจแล้ว
เนื่องจากเป้าหมายตกอยู่ภายใต้การสตันอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายในตอนนี้จึงไม่แตกต่างจากหุ่นที่เป็นไม้เลย
กลีบดอกไม้อันมืดมัวทำได้เพียงแค่มองดู HP ของตัวเขาเองที่ลดลงไปอย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกได้ถึงความรู้สึกเย็นๆบนคอของเขาก่อนที่ HP ของเขาจะลดลง ซึ่งนั้นมันมาพร้อมกับเอฟเฟคเลือดออก
บ้าเอ้ย ความสำเร็จทักษะเขานั้นสูงเกินไปแล้ว
ขณะที่เขายังคงติดสตัน เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยสักนิด เขาเพียงแต่หวังว่าเวนเดอรินจะสามารถยืดเวลาชีวิตเขาได้ต่อ
ซึ่งเขาก็ยังคงมั่นใจว่าไม่มีทางที่เขาจะตายจากเซ็ตทักษะนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักบวชที่มีอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แต่ตอนนี้ความมั่นใจของเขาก็ได้เริ่มสั่นไหวแล้ว
เขาเหลือเลือดเพียงแค่ 200-300 และยังถูกสตันต่ออีก 2 วินาที นี่เป็นทักษะชาโดว์สไตรค์ที่ไร้ประโยชน์ของโจรจริงๆงั้นเหรอ?
โจรหลายคนต่างก็ดูถูกชาโดว์สไตรค์ เพราะรู้สึกว่ามันจะสร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามลูหลี่นั้นชอบทักษะนี้และการสร้างความเสียหายก็มากขึ้นเมื่อได้มาอยู่ในมือเขา เพียงแค่ใช้มัน เขาก็สร้างความเสียหายเทียบเท่าได้กับการโจมตีสามครั้ง รวมทั้งมันยังมีเอฟเฟคพิเศษอีกด้วย
มันไม่ได้แย่กว่าทักษะอัลติเมทเลยสักนิด
เวนเดอรินรีบหยิบคทาเวทย์มนต์ของเธอเพื่อร่ายทักษะอย่างเร่งรีบ ด้วยแสงสีขาวที่เกิดขึ้นมา HP 30% ของกลีบดอกไม้อันมืดมัวก็ได้เพิ่มขึ้นไปอีก 20%
ปัง!
นักเวทย์หลุดออกมาจากสถานะสตันและพยายามใช้โล่น้ำแข็งให้ตัวเองก่อนที่เขาจะติดสตันอีกครั้ง
มูนไลท์ใช้ชารจ์ใส่เขา!
ในที่สุดเขาก็ได้ฟื้นตัวจากการถูกแช่แข็งและปลดปล่อยความโกรธออกมา
ซึ่งเขาก็ยังคงใช้ทักษะของเขาบ่อยๆได้ดีและไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว
ยังคงมีโอกาสชนะอยู่ กลีบดอกไม้อันมืดมัวได้ทำให้ตัวเองสงบลง เขายังคงมี HP และทักษะชารจ์มีผลอยู่เพียงแค่ 2 วินาทีเท่านั้น เพียงแค่สองวินาที ...
ช่างโชคร้าย! ลูหลี่ที่ดูเหมือนจะทำให้เขาผิดหวัง โดยการแทงกริชไปที่หน้าผากของกลีบดอกไม้อันมืดมัว
กูว!
ลูหลี่คนเดียวอาจไม่สามารถสตันนักเวทย์กับนักบวชได้ แต่อย่างใดก็ตาม ทั้งสองคนสามารถทำมันช่วยกันได้
แม้ว่าลูหลี่จะได้สร้างความเสียหายแก่ด้านนี้มาก แต่ความกดดันของมาสเรนก็ไม่ได้ลดลงเลย เธอกำลังตกอยู่ในอันตรายอันใกล้ขณะที่เธอกำลังเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่มีประสบการณ์การเล่นเกมกว่าสิบปีซึ่งยังเป็นหนึ่งในผู้เล่น PVP อันยอดนิยมของเกมรุ่งอรุณอีกด้วย
เธอรีบใช้ทักษะโล่ในทันทีแล้วค่อยใช้ทักษะลดความเสียหายของเธอตามและจึงรักษาตัวเองแทบจะในทันทีที่เวลาคูลดาวน์มันหมดไป
เมื่อลูหลี่และมูนไลท์เข้าร่วมกันระเบิดพลังใส่กลีบดอกอันมืดมัว HP ของมาสเรนขีดสุดท้ายก็ได้หมดลงแล้ว