จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 268
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 268: คู่ต่อสู้ของมาสเรน
ลูหลี่รู้สึกตกใจ นี้อาจจะเป็นทักษะล่องหนของนักเวทย์ในตำนาน? เขาเคยเห็นมันเพียงหยิบมือในชีวิตที่ผ่านมาของเขา แต่มันก็ไม่ได้มีเวลาการร่ายถึงสามวินาทีนี้?
บางทีมันอาจจะเป็นทักษะที่มีพลังมากมายบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้หรือเปล่านะ?
ระบบ: ขอแสดงความยินดี! คุณและทีมของคุณได้ก้าวเข้าสู่รอบต่อไป รอบต่อไปจะเริ่มขึ้นในอีก 15 นาที
เมื่อระบบแจ้งเตือนแบบนั้น เขาก็ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่สามารถหยุดหัวเราะ
ทั้งหมดที่เขาเห็นนั้นไม่ใช่ทักษะที่มีพลังมากมายอะไรเลย มันเพียงแค่ว่านักเวทย์นั้นเห็นว่าสถานการณ์นี้มันสิ้นหวังและจึงได้ยอมแพ้ไป ดังนั้นแล้วที่เขาหายตัวไป เพราะระบบส่งตัวเขาออกไป
นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในการแข่งขันมากที่สุด เมื่อผู้เล่นคิดว่าตัวเองนั้นสู้ไม่ไหว พวกเขาจะหลบซ่อนตัวและหนีออกไปจากการแข่งขันเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายจากฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นเช่นเดียวกับที่ลูหลี่ได้จัดการกับสมาชิกในทีมของเขาทั้งหมด
"เป็นยังไงบ้าง?" ลูหลี่ถามมาสเรน
มาสเรนกระพริบตาอย่างรวดเร็วและตอบกลับมาว่า "ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย นั้นเพราะฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เราชนะได้อย่างไรกันเนี้ย? "
"อั๊ก ถ้าฉันรู้อย่างนี้ ฉันคงจะต่อสู้กับพวกเขาตามปกติ"
ลูหลี่อยากจะแสดงให้เธอเห็นว่าการแข่งขันนั้นเป็นแบบไหน แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่านั้นจะทำให้เธอขาดความมั่นใจ การที่ทำให้เธอนั้นไม่ได้แสดงฝีมือนั้นอาจจะส่งผลเสียที่แย่ต่อเธอลึกลงไปข้างใน อีกทั้งถ้ามาสเรนนั้นไม่ได้รับประสบการณ์ใดๆที่เหมาะสมจากการแข่งขันนี้ มันคงจะดีกว่าหากพาเธอไปฝึกฝนที่หุบเขาวอซอง
ในรอบที่สองพวกเขาก็ได้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่เหมาะสม
ในทีมฝั่งตรงข้ามนั้นมีพาลาดินที่ใช้ดาบมือเดียวเป็นอาวุธ นักบวชที่คอยรักษาและพ่อมดที่เป็นหัวหอกในการสร้างความเสียหาย นี้ถือว่าเป็นการจัดตั้งทีมแบบมาตรฐานมาก
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีเทคนิคที่แท้จริงในการต่อสู้แบบทีมที่ชนะได้เลย ดังนั้นลูหลี่และมูนไลท์จึงไม่ต้องกังวลหากต้องเจอเทคนิคการจัดตั้งทีมแบบต่างๆ
"มาสเรนเพียงแค่ทำตามสิ่งที่ฉันกำลังบอกเธอก็พอแล้ว พยายามยืนอยู่ในระยะไกลและปกป้องเราด้วย ซึ่งเธอต้องทำให้เรามีชีวิตอยู่ให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ มูนไลท์และฉันจะพยายามฆ่านักบวชของพวกเขาก่อน ถ้าเราสามารถฆ่านักบวชของพวกเขาได้ แน่นอนว่าพวกเราจะชนะ "ลูหลี่กล่าวออกไปอย่างรวดเร็วเพื่ออธิบายกลยุทธของพวกเขาออกมา
เมื่อเห็นว่ามาสเรนกังวลนิดหน่อย มูนไลท์ก็กล่าวออกมาเพื่อปลอบโยนเธอ "อย่ากังวลไปเลย เธอมีระดับตั้ง 26 แล้ว ดังนั้นเธอมีเลเวลเหนือพวกเขาอย่างน้อยก็สองระดับ ตราบเท่าที่เธอรักษาตัวเธอเอง พวกเขาจะไม่มีทางที่สามารถทำร้ายเธอได้ "เขาพูดอย่างอ่อนโยน
"ทำให้แน่ใจอยู่เสมอว่าเธอนั้นพร้อมใช้ทักษะรีเฟรชอยู่ตลอดเวลา และก็เธอไม่ต้องเริ่มรักษาเราทันทีที่เราบาดเจ็บหรอกนะ "ลูหลี่กล่าวเสริม
เมื่อมาสเรนได้ยินดั่งนั้น เธอก็กำค้อนในมือแน่นและพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น
ขณะที่การแข่งขันเรื่มขึ้น พาลาดินและพ่อมดก็ได้มุ่งเป้าหมายไปที่มาสเรน ในทางกลับบกัน พ่อมดที่พึ่งเริ่มเคลื่อนที่จะไปโจมตีมาสเรนนั้น ก็ได้รีบร่ายความกลัวใส่โจรที่ไม่อยู่ในสถานะล่องหนในทันที
จากมุมมองของเขา โจรคนนี้ดูโง่มากเลยที่ไม่อยู่ในสถานะล่องหน ดังนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้ร่ายความกลัวใส่เขา ซึ่งนี้จะเป็นการช่วยลดความกดดันฝั่งเขาได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ เขาคงจะไม่ได้ร่ายความกลัวใส่โจรที่ไม่ได้อยู่ในสถานะล่องหน
ในตอนนี้ โจรที่ไม่ได้ล่องหนกำลังเดินผ่านพวกเขาไป บางทีเขาอาจจะเป็นคนโง่หรือไม่ก็กำลังวางแผนอะไรสักอย่าง
ซึ่งเห็นได้ชัดว่าลูหลี่นั้นกำลังเก็บสกิลของเขาไว้ใช้อยู่
ซ่อนเงา!
ในช่วงเวลาที่ทักษะสตันทุกอย่างจะไม่มีผลต่อเขา ลูหลี่ก็ได้รีบวิ่งไปที่นักบวชฝ่ายตรงข้ามแทบจะในทันที
นักบวชของพวกเขานั้นเป็นหญิง แต่เธอก็ไม่สวยเท่ามาสเรน เธอดูมีใบหน้าที่เศร้า บางทีเธอคงจะหวังว่าผู้เล่นฝ่ายศัตรูจะสงสารเธอ
แต่น่าเสียดายที่มูนไลท์เป็นคนที่บ้า PVP เขาจะฆ่าผู้เล่นที่อยู่ข้างหน้าเขาโดยไม่คำนึงถึงเพศของพวกเขาด้วยซ้ำ
สาวน้อยผู้น่าสงสารได้เพียงแค่เฝ้ามองผู้เล่นชายสองคนวิ่งเข้าหาเธอพร้อมๆกัน หลังจากได้รับความเสียหายไม่กี่ครั้ง เธอก็ได้ออกจากการแข่งขันไป
ในอีกด้านหนึ่งของสนามรบ พาราดินกำลังไล่ล่ามาสเรนที่กำลังวิ่งไปรอบๆและรักษาตัวเองไปพร้อมๆกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องเผชิญหน้ากับการเรียนรู้อาชีพนี้ด้วยตัวเธอเอง แม้ว่าเธอจะรู้สึกกังวล แต่นี้ก็ไม่ต่างอะไรกับประสบการณ์ที่เธอได้รับเมื่ออยู่ในหุบเขาวอซอง เธอรู้ว่าเมื่อไหร่จะต้องก้าวไปข้างหน้าและเมื่อไหร่ที่จะต้องถอย เพื่อที่เธอจะได้มีโอกาสในการรักษาคนอื่นๆ
นอกจากนี้เธอยังมีอุปกรณ์ที่ครบครันและทักษะของเธอก็ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่บ้าง
ความเสียหายของพาลาดินนั้นก็น้อยกว่าที่ลูหลี่คาดไว้ ในความเสียหายจากการโจมตีไม่กี่ครั้งของเขานั้นสามารถหายไปได้อย่างง่ายดายด้วยทักษะฟื้นฟูของมาสเรน
มาสเรนจดจำคำพูดของลูหลี่ไว้ เพื่อที่จะทำให้ตัวเองนั้นมั่นใจอยู่เสมอว่าบัพฟื้นฟูนั้นจะถูกใช้กับเธอตลอดเวลา
+20 +22 + 18 ...
ตัวเลขที่ต่ำๆนี้ไม่ควรถูกมองข้าม เนื่องจากมันเป็นการฟื้นฟูที่ค่อนข้างรวดเร็ว
ก่อนที่พ่อมดจะเข้าโจมตีมาสเรน เขาก็ได้หันหลับกลับไปมองและพบว่าพี่สาวของเขานั้นถูกฆ่าตายไปแล้ว
จริงๆแล้วพวกนั้นเป็นพวกหัวรุนแรงใช่ไหม??
ในสถานการณ์ปกติอาชีพที่สร้างความเสียหายคนเดียวนั้นจะไม่สามารถฆ่าฮีลเลอร์ได้ในระยะเวลาอันสั้น เห็นได้ชัดว่าความสามารถที่เหนือมากๆของลูหลี่นั้นเป็นข้อยกเว้นของกฎข้อนี้
ขณะที่ไม่มีทางเลือกอื่นอีก พ่อมดก็ได้พุ่งเข้าไปโจมตีมาสเรน
โอกาสเดียวของพวกเขาคือการฆ่านักบวชคนคนนี้เพื่อที่จะทำให้สนามรบนี้กลับมาเท่าเทียมกันอีกครั้ง
เมื่อพวกเขาจัดการนักบวชคนนี้แล้ว พวกเขาจะมีพาลาดินที่สามารถรักษาและพ่อมดที่สามารถจัดการกับนักรบและนักบวชได้ ในสถานการณ์นี้ยังคงมีความหวังเหลืออยู่บ้าง
มูนไลท์ที่เพิ่งจะจัดการนักบวชอีกฝั่งพร้อมลูหลี่เสร็จก็ต้องการที่จะไปช่วยมาสเรน ก่อนที่จะถูกหยุดไว้โดยลูหลี่
เขาส่ายหัวและพูดว่า "เราลองมาทดสอบมาสเรนดูกันสิว่า เธอสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน"
มูนไลท์รู้ทันทีว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูว่ามาสเรนจะสามารถทนต่อแรงกดดันของผู้เล่นสองคนที่ไล่ตามเธอได้แคไหน
แต่ถ้ามาสเรนตายล่ะ? มันจะไม่ส่งผลต่อการแข่งขันอย่างงั้นเหรอ?
แน่นอนว่าไม่! หากรวมลูหลี่กับมูนไลท์เข้าด้วยกัน พวกเขานั้นก็สามารถจัดการปาร์ตี้ห้าคนในหุบเขาวอซองอย่างง่ายดาย แม้แต่ผู้เล่นนับสิบคนพวกเขาก็ยังกล้าที่จะต่อสู้ด้วย
เทคนิคของผู้เล่นสองคนนี้ที่กำลังโจมตีมาสเรนอยู่ก็มีฝีมือดีพอทีเดียว แต่ก็ไม่ได้ดีมากนัก
หลังจากที่ลูหลี่โจมตีไป เขาก็ได้ตระหนักว่าพาลาดินต้องมีระดับอยู่ที่ 23 หรือต่ำกว่า เนื่องจากเขานั้นไม่สามารถสร้างความเสียหายขั้นต่ำของทักษะของเขาได้ นั่นหมายความว่าเขากำลังถูกลงโทษโดยระบบ [ด้วยเลเวลที่ห่างกันเกินไปจะสร้างความเสียหายได้น้อยลง]
โดยทั่วไปแล้ว ความแข็งแกร่งของลูหลี่นั้นมีผลต่อความสมดุลของเกม
ในชีวิตก่อนหน้านี้ มีเพียงผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันคนเดียวเท่านั้นที่มีระดับอยู่ที่ 25 นั้นก็คือ ฉันไม่เข้าใจ นอกเหนือจากเขาแล้วคนอื่นๆก็มีระดับต่ำกว่า 25 กันทั้งนั้น
อุปกรณ์กว่าครึ่งบนร่างกายของ ฉันไม่เข้าใจ นั้นสวมใส่อุปกรณ์ระดับเงินและเขายังมีระดับอยู่ที่ 25 ซึ่งนั้นได้ทำให้เขาได้เอารางวัลอันดับหนึ่งไปให้แก่ สมาคมเมืองหลวงแห่งความรุ่งโรจน์
แต่ตอนนี้ ฉันไม่เข้าใจ ไม่ได้มีระดับเท่ากับลูหลี่ เขายังคงต้องล่าบอสอีกตัวหนึ่งเพื่อให้มีค่า EXP มากพอที่จะเลื่อนระดับเป็น 25
ในทางกลับกันลูหลี่และคนอื่นๆก็ได้มาถึงระดับที่ 26 แล้ว
ผลกระทบของปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกนั้นเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา มันยากนักที่จะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมันเปลี่ยนแปลงไป
มาสเรนนั้นมีมีอุปกรณ์ระดับเงินถึง 4 ชิ้น อีกทั้งยังมีเลเวล 25 อีกด้วย!
"นายพยายามมากกว่านี้หน่อยได้ไหม? ทำไมการลด HP เพียง 30% ถึงใช้เวลานานขนาดนี้กัน? " พ่อมดตะโกนใส่พาลาดินหนุ่มด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจ
"นายลองโจมตีใส่เธอดูสิ เดี่ยวนายก็จะรู้เอง"
หลังจากที่เขาได้ยินดังนั้น เขาก็ได้โจมตีไปที่เธอและรู้สึกตกใจ เพราะตามปกติแล้วทักษะสายฟ้าความมืดของเขานั้นสร้างความเสียหายได้ถึง 150 หน่วย แต่มันกลับสร้างความเสียหายได้ต่ำกว่า 100 แก่มาสเรน
นี่คือผลของความต่างของระดับและความห่างชั้นระหว่างอุปกรณ์
จากนั้นพ่อมดก็ได้ตระหนักถึงปัญหาที่กำลังเในทันที
โอ้พระเจ้าระบบ นี้มันไม่ยุติธรรมเลย เพราะเหตุใดคุณถึงจับคู่เร
"ฆ่านักบวชนี้"
พ่อมดกัดฟันของเขาและพยายามโจมตีอย่างสุดความสามารถพร้อมกับพาลาดิน
"ไม่ต้องกลัวไปหรอก เธอเพียงแค่เผาผลาญมานาของพาลาดินก็พอแล้ว " ลูหลี่กล่าวในห้องแชทขณะที่มูนไลท์ยืนพิงขวานอันใหญ่ของเขาและมองดูเหตุการณ์นี้อย่างสนุกสนาน
"ใช้ความกลัวสิว่ะ!" ในที่สุดพาลาดินก็ลด HP ของมาสเรนลงเหลือ 50% และรีบตะโกนบอกให้พ่อมดใช้ทักษะสตันของเขา
เมื่อพ่อมดพบว่าทักษะความกลัวของเขาคูลดาวน์เสร็จแล้ว เขาก็รีบพยายามใช้มันใส่มาสเรนในทันที